ไปพาตัวเธอกลับมา " คอนเนอร์สั่งเจค็อบเสียงเรียบนิ่ง แต่คนที่รับใช้เขามานานนมอย่างเจค็อบมีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้านายอยู่ในอารมณ์แบบไหน
" ครับนาย " เจค็อบรีบทำตามคำสั่ง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผู้เป็นนายเรียกเขาไว้
"เดี๋ยว...ฉันไปเอง " คอนเนอร์เด้งตัวจากเก้าอี้ทำงานก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถ สามวันแล้วที่เธอไม่มาให้เขาเห็นหน้า นี่เธอเป็นบอดี้การ์ดประสาอะไรถึงไม่รู้ว่าต้องอยู่คอยรับใช้เขาตลอดเวลา ถึงเขาจะบอกว่าชอบความเป็นส่วนตัว แต่เมื่อเขาเรียกหาเธอต้องมายืนต่อหน้าเขาทันที
" โทรถามคุณสุริยันว่าตอนนี้เธออยู่ไหน "
" ครับนาย " เจค็อบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาสุริยัน เมื่อรู้ว่ามิเชลอยู่ไหนเขาก็รายงานเจ้านายทันที
" เธออยู่ที่สวนส้มครับ "
" ดี..งั้นก็ขับไป " เจค็อบนิ่งเงียบขับรถไปตามทางที่ลูกศรชี้บอก แต่ในใจกลับกำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง เจ้านายเขาไม่ใช่คนที่จะตามง้อหรือขอร้องใคร แต่ทำไมวันนี้ ถึงได้ลดตัวลงมาตามหามิเชลได้? เขายอมรับว่ามิเชลเป็นบอดี้การ์ดที่หาตัวจับได้ยาก ขนาดเขาที่เป็นบอดี้การ์ดฝีมือดีผ่านสนามรบมาแล้วก็หลายปี แต่ก็ยังถูกเธอล้มได้ เธอไม่ธรรมดาจริงๆ
แต่พอมาถึงสวนส้ม คอนเนอร์ก็สบถคำหยาบอย่างหัวเสีย สวนส้มใหญ่โตแบบนี้แล้วเขาจะไปหาเธอได้ที่ไหนกัน! และถึงจะหาเจอก็คงต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงทีเดียว
" เจค็อบ นายไปถามผู้หญิงคนนั้นดูซิ เผื่อเธอจะรู้ว่ามิเชลอยู่ไหน "คอนเนอร์ชี้ไปที่ผู้หญิงที่สวมผ้าโพกหน้ายืนเก็บส้มอยู่ เจค็อบรีบเดินเข้าไปถามผู้หญิงคนนั้นก่อนจะเดินกลับมารายงานเขา
" เธอไม่ตอบอะไรครับ แต่เธอชี้ไปทางโน้นครับ สงสัยจะเป็นใบ้ " คอนเนอร์ถอนหายใจ ก่อนจะหันไปมองทางที่เจค็อบชี้ สวนส้มที่กว้างใหญ่แห่งนี้ เดินหาทั้งวันก็คงไม่เจอ
" กลับ! " เขาสั่งเสียงติดหงุดหงิด ก่อนจะหมุนตัวกลับขึ้นรถแต่แล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับข้อมือขาวเนียนของผู้หญิงคนเมื่อกี้ คอนเนอร์หรี่ตามองผู้หญิงคนนั้นอย่างสำรวจพร้อมกับย่องเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ แต่ก็เหมือนเธอจะรู้ตัวแล้วแกล้งทำเป็นเดินเข้าลึกไปในสวน นี่คงกำลังจะหลบหนีเขาสินะ!
" มิเชลหยุดเดี๋ยวนี้นะ " เธอไม่หยุดแถมเดินเร็วกว่าเดิม จนเขาต้องวิ่งไล่เธอ ส่วนเธอก็วิ่งหนีเขา
" หยุดเดี๋ยวนี้! " ให้ตายสิ! ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบนี้ทำไมถึงได้วิ่งเร็วจังนะ แต่คนอย่างคอนเนอร์เสียอย่าง จะจับเธอไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป!
คอนเนอร์วิ่งอ้อมไปดักเธอ เมื่อเห็นเธอหยุดวิ่งหันไปซะเง้อ มองเขา เขาก็ได้โอกาสเข้ารวบตัวเธอทันที
" ปล่อยฉันนะ นี่คุณจะทำอะไรฉัน " เขาจับมือเธอไขว้หลัง
พร้อมกับกอดเธอไว้แน่น แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเสียงที่
เปล่งออกมาไม่ใช่เสียงของมิเชล แถมตอนนี้มิเชลตัวจริงก็ยังยืนมองเขาอยู่ข้างสุริยันอีก
" คุณคอนเนอร์ ดิฉันขอให้คุณปล่อยน้องสาวดิฉัน " มิเชลยืนมองเขานิ่งด้วยดวงตาดุดันที่พร้อมจะสังหารเขาได้ทุกเมื่อ คอนเนอร์รีบปล่อยมือจากน้องสาวของเธอทันที
" ก็ใครจะไปรู้ว่าเป็นน้องสาวของคุณ ผมนึกว่าเป็นคุณเสียอีกที่วิ่งหนีผม "
" ดิฉันไม่เคยวิ่งหนีใครหากคนนั้นไม่ใช่ศัตรูที่หมายจะเด็ดหัวดิฉัน " คอนเนอร์ยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ เธอเหมาะสมที่จะเป็นบอดี้การ์ดให้กับเขาจริงๆ
" ผมขอโทษด้วยนะครับ " เขาหันไปขอโทษน้องสาวเธอ ที่มีดวงตาแน่นิ่งเหมือนพี่สาว แต่ก็ยังพอที่จะอ่านความคิดได้ง่ายกว่าพี่สาวของเธอนัก
" ไม่เป็นไรค่ะ " เธอพูดพร้อมกับดึงผ้าโพกหน้าออก คอนเนอร์ ยืนมองใบหน้าสวยจิ้มลิ้มไม่ต่างกันกับพี่สาวของเธออย่างสำรวจ ผมยาวแค่ประบ่านั้นทำให้เธอดูเด็กมาก จนเขาคิดว่าเธอคงจะแค่เพิ่งสิบแปดหรือสิบเก้าเอง
" ธะ..เธอ " สุริยันชี้นิ้วไปที่อันนาอย่างตกใจ ส่วนอันนาเองก็ยืนมองเขานิ่งก่อนจะสะบัดหน้าสวยๆ นั้นใส่เขาแล้วเดินหนี
" ฮี! เป็นไงล่ะ ยัยใบ้น้องสาวฉันสวยจนพูดไม่ออกเลยรึ "
สุริยันได้แต่ยืนขบปากตัวเองแน่นมองมิเชลจะให้เขาบอกเธอได้ยังไง ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยจีบและเคยเปิดซิงน้องเธอ แถมตอนนั้นเธอเพิ่งจะสิบเก้าเอง แต่วันหนึ่งเธอก็หายไป จนเขาอดที่จะเสียใจไม่ได้ เพราะบอกตามตรงว่าถึงเขาจะมีผู้หญิงมากมายแต่ไม่เคยมีสักคนที่ทำให้เขาติดใจและสุขสมได้เท่ากับเธอ...ซวยแล้วไหมล่ะ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอันนาเป็นน้องสาวของมิเชล หากมิเชลรู้เขาต้องโดนเธอหั่นคอขาดแน่เลย
คุณต้องกลับไปทำงานของคุณได้แล้ว " คอนเนอร์พูดขึ้นหลังจากที่ยืนเงียบอยู่สักพัก
" คุณยังไม่ไล่ดิฉันออกหรือคะ " ใบหน้าที่เชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างหยิ่งยโสนั่นทำให้เขาอยากจะปราบพยศเธอนัก
" เสียใจด้วยนะทูนหัว ผมคงไล่คุณออกไม่ได้ เพราะผมไม่คิดว่าจะมีใครเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่นี้เท่ากับคุณ "มิเชลสบถคำหยาบไปหลายคำเมื่อได้ยินคำตอบของเขา
" และหากคุณไม่ทำตามสัญญาว่าจ้าง ก็อย่าหาว่าผมใจร้ายแล้วกัน เพราะผมโหดร้ายได้มากกว่าที่คุณคิด " เขายกยิ้มมุมปากมองเธออย่างนึกขำกับท่าทางที่หลุดของเธอ ถึงหน้าตาจะยังนิ่งเฉยแต่ดวงตาที่กลมโตที่จ้องเขากับมือที่กำแน่นบ่งบอกได้ดีว่าเธอกำลังโกรธอยู่
" ไม่กลัวว่าฉันจะสังหารคุณหรือคะ "
" ผมรู้ว่าคุณทำได้ แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะทำ เพราะผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนที่จะฆ่าใครพร่ำเพรื่ออย่างไม่มีเหตุผล " เขาสืบประวัติของเธอด้วยตัวของเขาเองมาหมดแล้ว ถึงมันจะไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ประวัติเธอมา แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถของเขาที่เป็นพันธมิตรกับกองกำลังทหารทั่วโลก
" ฮึ!!ดูเหมือนว่าคุณจะรู้จักดิฉันดีจังเลยนะคะ " เขาทำอีท่า
ไหนถึงได้ข้อมูลส่วนตัวของเธอมา ขนาดสุริยันเธอยังไม่ยอมเผยตัวตนที่แท้จริงกับเขาเลย เธอบอกแค่ว่าเธอเป็นหมอทหาร ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่ไม่ได้บอกลึกถึงว่าเธออยู่สังกัดไหนแต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอคงต้องยอมเขาไปก่อนไม่งั้นไอ้เพื่อนบ้าที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่นี่ได้กดดันตัวเองจนตายแน่
"ก็ได้ค่ะ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าดิฉันไม่ใส่ชุดบ้าๆ ที่คุณหามาให้ และดิฉันจะทำแค่หน้าที่บอดี้การ์ดเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นดิฉันไม่ทำ และหากคุณรับไม่ได้ในข้อเสนอของดิฉันก็กรุณาไล่ออกได้เลยค่ะ " คอนเนอร์ มองใบหน้าหยิ่งยโสนั่นก็ได้แต่ถอนใจ เขาจะยอมไปก่อนแล้วกัน ถึงทีเขาเมื่อไหร่จะทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออกเลยเชียว
" ได้สิ...ผมตามใจคุณอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณเป็นบอดี้การ์ด
คุณก็ต้องดูแลผมอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาเช่นกัน"
"ได้สิ...ผมตามใจคุณอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณเป็นบอดี้การ์ดคุณก็ต้องดูแลผมอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาเช่นกัน"
" ไหนคุณบอกว่าแค่ตอนคุณเรียกหาไง " เธอแหวใส่เขาอย่างไม่ชอบใจกับคนกลับกลอกอย่างเขา
" ผมเปลี่ยนใจ และคุณต้องเริ่มงานตอนนี้.. ผมขอตัวเธอเลยนะครับคุณสุริยัน " มิเชลแทบอยากจะกระโดดถีบเขา เกลียดจริงๆ ผู้ชายแบบนี้