รถยนต์คันหรูวิ่งไปตามทางที่มิเชลบอกจนมาถึงบ้านไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ บริเวณรอบบ้านลูกล้อมไปด้วย
ดอกไม้ต้นไม้นานาชนิด คอนเนอร์มองสำรวจไปรอบๆ บ้านก่อนจะหลับตาหายใจซึมซับเอาบรรยากาศที่แสนสดชื่นนี้เข้าปอดไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะมีเวลาได้ชื่นชมสิ่งรอบตัวแบบนี้
" นายมานั่งทำอะไรตรงนี้ "มิเชลเดินเข้าไปหาสุริยันที่นั่งกุมปากอยู่ตรงทางเดินเข้าบ้าน
" อยากรู้ก็ไปดูน้องสาวเธอโน่น " สุริยันชี้เข้าไปในบ้าน มิเชลขมวดคิ้วมองเขาก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
" ผมว่าคุณคงไม่อยากจะเข้าไป " สุริยันเงยหน้าขึ้นพูดกับคอนเนอร์
" ทำไม? " คอนเนอร์ขมวดคิ้วมองเขาอีกคน
" อันนากำลังทำสิ่งที่น่าขยะแขยงที่สุด! " ยิ่งสุริยันพูดแบบนี้เขาก็ยิ่งอยากรู้รีบเดินตามหลังมิเชลเข้าไป
" ผมเตือนคุณแล้วนะ! " สุริยันตะโกนตามหลังคอนเนอร์ ก่อนจะหันมามองบอดี้การ์ดตัวใหญ่ยักษ์สองคน
" อย่าพากันวิ่งออกมาเหมือนผมแล้วกัน! " เจค็อบกับนิกกี้ส่ายหัวให้สุริยันก่อนจะเดินตามเจ้านายเข้าไป ฆ่าคนก็ฆ่ามาแล้วยังจะมีอะไรที่ทำให้พวกเขากลัวอีกรึ?
" อัน..ยายอยู่ไหน " มิเชลถามอันนาที่ตอนนี้ยืนถือมีด
ผ่าตัดที่เต็มไปด้วยเลือดอยู่ อันนาหันมามองพวกเธอก่อนจะก้มหน้าก้มตาผ่าท้องหมูต่อ
"ไปเก็บของเก่ากับยายแถวบ้าน " คำตอบของอันนาทำให้มิเชลถึงกับถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับคนหัวรั้นอย่างยายเธอ ตกเย็นคงไม่พ้นอันนาต้องได้นั่งบีบนวดให้อีกตามเคย
" แล้วนี่กำลังทำอะไร " มิเชลมองอันนาที่เปิดท้องหมูอยู่
" หมูที่ยายเลี้ยงไว้มันตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ อันก็เลย
อยากรู้ว่าเพราะอะไรมันถึงตาย " มิเชลพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินไปหยิบถุงมือมาสวม จากนั้นสองคนพี่น้องก็พากันชันสูตรศพหมูโดยมีคอนเนอร์ เจค็อบกับนิกกี้ยืนดู แรกๆ มันก็ไม่มีอะไรหรอกนะ แต่พอเธอเริ่มควักนั่นควักนี่ออกมาพวกเขาก็อดที่จะคอแข็งไม่ได้ มิเชลควักหัวใจหมูออกมาก่อนจะค่อยกดมีดลงไปจนคอนเนอร์ถึงกับเสียวที่หน้าอกวาบ ต้องยกมือขึ้นมากุมหน้าอกตัวเองไว้...
.. วันไหนเธอโกรธเขามากๆ คงไม่ควักหัวใจเขาออกมาเฉือนแบบนี้หรอกนะ!
" โอ้โฮ ยาวเฟื้อยเชียว " อันนาดึงเส้นยาวๆ สีขาวออกมาจากลำไส้หมูชูให้มิเชลดู
" นอกจากพยาธิแล้วมีอะไรอีกไหม" พอรู้ว่าไอ้เส้นสีขาวที่
อันนาถืออยู่นั้นคือพยาธิ คอนเนอร์ก็พะอืดพะอมคอแข็งขึ้นมาทันที
" นายครับ ผมขอตัว " เจค็อบพูดกับเขาก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปาก สีหน้าพะอืดพะอมไม่ต่างจากเขา
" ผมด้วยครับ " นิกกี้ก็ดูเหมือนจะไม่ไหวเหมือนกัน
" อ้วก! ฉันไปด้วย " คอนเนอร์เอามือกุมปากก่อนจะวิ่งตามลูกน้องออกไป.. ให้ตายสิ! พี่น้องสองคนนี้ไม่ใช่คน!
" ฮึ!!ผมเตือนพวกคุณแล้วว่าอย่าเข้าไป " สุริยันยืนกอดอกมองพวกเขาที่นั่งอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่
" อ้วกๆ ...ให้ตายเถอะ วันนี้ผมคงกินข้าวไม่ลงแน่ๆ " คอนเนอร์พูดอย่างนึกขยะแขยง อาหารเช้าที่กินเข้าไปตอนนี้ไม่มีแม้แต่จะเหลือให้อาเจียนออกมา
" พวกคุณเป็นอะไร " คอนเนอร์เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงที่ไม่คุ้นหญิงชราหน้าตาใจดีที่หาบกระสอบใบใหญ่จนหลังค่อมยืนมองพวกเขาอยู่
" สวัสดีครับยายเที่ยง ผมช่วยครับ " สุริยันยกมือไหว้ท่าน
ก่อนจะรีบไปยกหาบจากท่านมาใส่บ่า คอนเนอร์กับลูกน้องทั้งสองคนรีบยกมือเช็ดปากแล้วยืนขึ้นคำนับพร้อมกล่าวทักทายท่าน เพราะดูแล้วท่านคงเป็นยายของมิเชลแน่ๆ
" พ่อหนุ่มเป็นใครกันรึ แล้วนี่เป็นอะไรถึงได้พากันมานั่งอ้วกแบบนี้ " แววตาห่วงใยของท่านทำให้คอนเนอร์อดคิดถึงย่าของเขาที่จากไปเมื่อสามปีก่อนไม่ได้ พ่อกับแม่ของเขาที่เอาแต่ทำงานทิ้งให้เขาอยู่กับปูและย่าตั้งแต่เด็ก นานๆ ทีจะกลับมาเยี่ยมเขาที จนบางทีเขาก็เกือบลืมไปแล้วว่ามีพ่อแม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ เขาเรียนรู้วิธีการต่อสู้และการเอาตัวรอดจากปู่และลูกน้องของท่าน ตอนเด็กๆ เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องฝึกหนักขนาดนี้ แต่พอโตขึ้นจึงได้รู้ว่าชีวิตของเขานั้นมีภัยรอบด้าน การเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลโจวนั้นจะป่วยไม่ได้ จะตายก็ไม่ได้เช่นกัน
" จะอะไรล่ะครับยาย ก็หลานสาวยายน่ะสิที่ทำให้พวกผมเป็นแบบนี้ " สุริยันตอบท่าน ยายเที่ยงขมวดคิ้วมองพวกเขาอย่างสงสัย
" หลานยายเขาทำอะไรกันรึ? "
" เขากำลังผ่าชันสูตรหมูครับ " คอนเนอร์ตอบท่าน ยายเที่ยงพอได้ยินคำตอบก็ถึงกับหัวเราะลั่น
" เออ... สองคนนี้นะ..
.. ชอบทำอะไรแปลกๆ อยู่เรื่อย.. นี่รู้ไหมตอนเป็นเด็กยายพาไปเดินป่า เจองูเหลือมตัวเท่าขา มิเชลเขวี้ยงมีดใส่ทีเดียวมันตายคาที่เลยนะ ส่วนอันนาเอามันพาดคอกลับมาบ้านด้วยแล้วผ่าเปิดท้องมันดู หลังจากนั้นยายขยาดไม่พาพวกเธอเข้าป่าอีกเลย " พูดวีรกรรมของหลานสาวทั้งสองไปท่านก็หัวเราะไป แต่พวกเขาที่ยืนฟังอยู่ถึงกับขนลุกขนพอง พ่อของเธอเลี้ยงพวกเธอได้โหดจริงๆ
" ไปๆ ไปดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อนจะได้สดชื่น " ท่านชวนพวกเขาแล้วเดินนำเข้าบ้าน.....