ค่ำคืนที่แสนยาวนานในห้องของน้องไทม์ผ่านไปอย่างเชื่องช้า ฉันหลับไปอย่างอ่อนเพลียพร้อมกับกอดลูกชายไว้แน่น ความหวาดกลัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้กัดกินใจจนฉันแทบจะหลับไม่สนิท ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวตุบ ๆ เมื่อแสงแดดยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง น้องไทม์ยังคงหลับอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาดูอ่อนโยนและไร้เดียงสา ฉันจูบลงบนหน้าผากของเขาเบา ๆ “แม่จะปกป้องหนูเองนะลูก” ฉันกระซิบ ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฉันเดินไปเปิดประตู พบแม่บ้านยืนอยู่ข้างนอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย “คุณภูผาให้ดิฉันมาแจ้งว่า ผลการตรวจ DNA มาถึงแล้วค่ะ ท่านรอคุณอยู่ที่ห้องทำงาน” คำพูดของแม่บ้านทำให้หัวใจของฉันหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม ฉันรู้ดีว่าวินาทีแห่งความจริงได้มาถึงแล้ว ฉันหันไปมองน้องไทม์ที่ยังหลับอยู่ ฉันไม่รู้ว่าหลังจากนี้ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง “ดิฉันขอเวลาสักครู่ค่ะ” ฉันบอกแม่บ้าน ก

