เหมือนได้ขนาดนี้เชียวหรือ

1158 Words
19.00 น. "ฟังนิทานค่ะคุณแม่" เฌอริตานั่งพิงหัวเตียงนุ่มโดยมีเฌอริมาลูกสาววัยเกือบสามขวบตากลมโตขนตางอนหวานแก้มยุ้ยตัวเป็นปล้องผิวอมชมพูของเธอนอนอยู่ที่ตัก เด็กหญิงส่งเสียงใสออดอ้อนคนเป็นแม่ให้อ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง "วันนี้อ่านเรื่องอะไรดีน้าาา.." เฌอริตาหยิบหนังสือนิทานบนหัวนอนมาทำท่าเลือกต่อหน้าลูกสาวของเธอ "ซินเดอเรล่าค่ะ" เด็กหญิงชี้มือป้อมไปที่นิทานเรื่องโปรด "เรื่องโปรดของลูกสาวแม่สินะคะ" "ค่ะ..." "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.... " เฌอริตาเริ่มอ่านนิทานเป็นภาษาอังกฤษและทำเสียงและท่าทางให้น่าตื่นเต้นตามแบบฉบับของการอ่านนิทานให้เด็กฟัง ครึ่งชั่วโมงต่อมา จุ้บบ "ฝันดีนะคะลูกสาวแม่" เฌอริตาอ่านนิทานยังไม่ทันจบดีเจ้าก้อนกลมน้อยของเธอก็ผลอยหลับปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว ครู่ต่อมา "แล้วหนูจะต้องหาหลักฐานมาให้ได้ค่ะว่าคุณพ่อโดนกระทำอะไรบ้าง" เมื่อลูกสาวของเธอหลับสนิทดีแล้วหญิงสาวอยากดูก็มายืนอยู่ที่หน้ารูปภาพของพ่อเธอและพูดกับรูปภาพเบาๆด้วยแววตาที่แสนเศร้า ตั้งแต่เด็กๆพ่อกับแม่ของเธอแยกกันอยู่ต่างคนต่างก็มีธุรกิจของตัวเองพ่อของเธอเปิดบริษัทส่งออกอาหารแปรรูปและผลิตข้าวสารส่งออกเรียกได้ว่าแทบจะเป็นอันดับหนึ่งของประเทศก็ว่าได้ส่วนแม่ของเธอก็มีอสังหามากมายให้คนเช่าอยู่เช่าทำกินจนไม่ต้องทำงานก็มีเงินมีทองใช้ไม่ขัดสนบวกกับสมบัติจากตระกูลแม่เธอที่ตกทอดลงมาทำให้มีใช้เหลือเฟือเพิ่มขึ้นไปอีก เธอเป็นเด็กสองบ้านมาตั้งแต่จำความได้แต่ความรักที่พ่อกับแม่ให้เธอก็ไม่เคยขาดและเธอเองก็ไม่รู้สึกขาดด้วยรู้สึกเข้าใจด้วยซ้ำเมื่อได้มามีลูกเธอไม่ค่อยออกสังคมเท่าไรนักจึงไม่มีใครรู้จักเธอในฐานะไฮโซยกเว้นเพื่อนสนิทกับเธอเท่านั้น เมื่อเธอเรียนจบแม่ของเธอก็ดันมาเสียด้วยโรคประจำตัวเธอจึงอยู่ที่บ้านหลังใหญ่กับแม่นมของเธอเพียงสองคนส่วนพ่อของเธอก็มาหาเธอบ้างเมื่อมีเวลา แต่เมื่อเธอท้องและรู้ว่าพ่อของลูกเธอหายเข้ากลีบเมฆไปเธอจึงย้ายไปใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียและกลับมาเมื่อไม่นานมานี้เมื่อรู้ว่าพ่อของเธอตรอมใจตายเพราะธุรกิจพังหุ้นส่วนทั้งส่วนกลับหนีหายและเท่าที่เธอสืบมาคนเหล่านั้นไปร่วมลงทุนกับบริษัทของชนะพลบริษัทส่งออกข้าวสารที่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในตอนนี้เธอคิดว่าหากเธอเข้าไปทำงานในบริษัทนั้นได้เธอจะต้องหาทางเปิดโปงคนที่เล่นสกปรกกับพ่อเธอให้ได้ วันต่อมา บริษัทxxx "เตรียมต้อนรับอะไรกันหรอคะพี่นุชจัดห้องประชุมวุ่นกันเลย" เฌอริตามาทำงานที่นี่วันแรกด้วยตำแหน่งผู้ช่วยเลขาซึ่งช่วยจิตรานุชอีกทีที่เธอมาสมัครตำแหน่งนี้ก็เพื่อที่จะได้เข้าใกล้เอกสารทั้งหมดของบริษัทนี้ได้ ในระหว่างที่เธออยู่ที่นี่เพื่อไม่ให้ใครสงสัยเธอจึงเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุลในเอกสารการสมัครจากนางสาวเฌอริตา สิริปัจโกศลเป็นนางสาวพีรยา ธาดาและใช้ชื่อเล่นว่าเพลิน "ก็เตรียมตัวต้อนรับท่านประธานใหญ่คนใหม่น่ะสิ" จิตรานุชยืนดูความเรียบร้อยอย่างใจจดใจจ่อเพราะกลัวว่าจะจัดการต้อนรับประธานคนใหม่เจ้านายของเธอไม่ดีพอ "อ้าวแล้วเราไม่ได้ทำงานกับคุณชนะพลแล้วหรอคะ" เฌอริตามีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย "ท่านวางมือแล้วล่ะให้ลูกชายดูแลแทน" "ลูกชาย.." "แต่ไม่ใช่คุณชนะภพนะชื่อคุณชาวีเห็นว่าเป็นลูกบุญธรรมน่ะ" จิตรานุชหันมากระซิบกระซาบกับเฌอริตากลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน "อ๋อ..ค่ะ" เฌอริตาพยักหน้าเบาๆทั้งครุ่นคิดว่าเหตุใดชนะพลจึงไม่ให้ลูกชายของตัวเองมาบริหารบริษัทใหญ่นี้เองแต่ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้จึงไม่ได้ใส่ใจและคิดว่าหากเป็นคนอื่นมาทำงานแทนชนะพลเธออาจจะทำอะไรๆได้ง่ายกว่าที่คิดก็เป็นได้ สิบห้านาทีต่อมา ตอนนี้พนักงานที่อยู่ในตำแหน่งใหญ่ๆของแต่ละแผนกในบริษัทต่างก็เข้ามารวมตัวกันที่ห้องประชุมเรียบร้อยแล้วรอแค่ประธานใหญ่คนใหม่มาก็เท่านั้น "ท่านประธานมาแล้วค่ะ" เมื่อได้ยินจิตรานุชที่ยืนอยู่หน้าประตูบอกแบบนั้นทุกคนต่างก็ลุกยืนขึ้นเพื่อต้อนรับประธานหนุ่มด้วยความสงบ "สวัสดีทุกคนครับผมชาวียินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคนนะครับเชิญทุกคนนั่งลงก่อน" ชายหนุ่มร่างสูงเดินนำหน้าหมอแดนเทพเข้ามาในห้องประชุมด้วยบุคลิกสง่าผ่าเผยทักทายทุกคนด้วยสีหน้าเรียบเฉยก้มหัวเล็กน้อยในขณะที่แนะนำตัวแสดงถึงความถ่อมตนเพราะในที่นี้ยังมีคนทำงานที่อายุเยอะกว่าเขาอยู่หลายคนและเชิญทุกคนให้นั่งลงได้ "สวัสดีค่ะ/ครับท่านประธาน" "เอ่อ..พี่ภัส" เฌอริตาชะงักงันตัวชาวาบครู่ใหญ่ในขณะที่เธอยืนอยู่ข้างๆกับจิตรานุช... หญิงสาวสบถบางคำออกมาเบาๆทั้งยังจ้องหน้าประธานหนุ่มที่กำลังนั่งลงตาเขม็งเหมือนวินาทีนั้นโลกมันหยุดหมุนไปคนที่จากเธอไปนานบัดนี้เขาได้มาอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว...แต่ทำไมอีกฝ่ายทำเหมือนไม่รู้จักเธอเสียอย่างนั้นสายตาที่เขามองมายังเธอมันว่างป่าวแถมชื่อของเขาก็เปลี่ยนไปด้วยจะเป็นไปได้อย่างไรว่าถ้าหากว่าเขาไม่ใช่ภัสกรแล้วคนสองคนจะเหมือนกันได้ยันเงาขนาดนี้เชียวหรือ "เป็นอะไรรึป่าวเพลิน" จิตรานุชเห็นว่าเฌอริตานิ่งไปจึงสะกิดแขนเธอเบาๆให้มีสติ "อ๋อ..ป..ป่าวค่ะ.." เฌอริตาหลุดจากภวังค์ความคิดจากเสียงเรียกของจิตรานุช "เดี๋ยวพี่ขอน้ำให้ท่านประธานกับหมอแดนหน่อยนะ" "ค่ะ" เฌอริตาเดินออกจากห้องประชุมเพื่อไปเตรียมน้ำในห้องครัวของออฟฟิศมาให้ประธานหนุ่มและหมอแดนเทพตามที่จิตรานุชสั่งด้วยใจเหม่อลอยเล็กน้อยยังคงแปลกใจว่าเขาจะจำเธอไม่ได้จริงๆหรือ... หรืออีกอย่างคือภัสกรกับชาวีนั้นเป็นคนละคนกันแน่ ................................................ ยังไงกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD