19.00 น.
"ฟังนิทานค่ะคุณแม่"
เฌอริตานั่งพิงหัวเตียงนุ่มโดยมีเฌอริมาลูกสาววัยเกือบสามขวบตากลมโตขนตางอนหวานแก้มยุ้ยตัวเป็นปล้องผิวอมชมพูของเธอนอนอยู่ที่ตัก
เด็กหญิงส่งเสียงใสออดอ้อนคนเป็นแม่ให้อ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง
"วันนี้อ่านเรื่องอะไรดีน้าาา.."
เฌอริตาหยิบหนังสือนิทานบนหัวนอนมาทำท่าเลือกต่อหน้าลูกสาวของเธอ
"ซินเดอเรล่าค่ะ"
เด็กหญิงชี้มือป้อมไปที่นิทานเรื่องโปรด
"เรื่องโปรดของลูกสาวแม่สินะคะ"
"ค่ะ..."
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.... "
เฌอริตาเริ่มอ่านนิทานเป็นภาษาอังกฤษและทำเสียงและท่าทางให้น่าตื่นเต้นตามแบบฉบับของการอ่านนิทานให้เด็กฟัง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
จุ้บบ
"ฝันดีนะคะลูกสาวแม่"
เฌอริตาอ่านนิทานยังไม่ทันจบดีเจ้าก้อนกลมน้อยของเธอก็ผลอยหลับปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว
ครู่ต่อมา
"แล้วหนูจะต้องหาหลักฐานมาให้ได้ค่ะว่าคุณพ่อโดนกระทำอะไรบ้าง"
เมื่อลูกสาวของเธอหลับสนิทดีแล้วหญิงสาวอยากดูก็มายืนอยู่ที่หน้ารูปภาพของพ่อเธอและพูดกับรูปภาพเบาๆด้วยแววตาที่แสนเศร้า
ตั้งแต่เด็กๆพ่อกับแม่ของเธอแยกกันอยู่ต่างคนต่างก็มีธุรกิจของตัวเองพ่อของเธอเปิดบริษัทส่งออกอาหารแปรรูปและผลิตข้าวสารส่งออกเรียกได้ว่าแทบจะเป็นอันดับหนึ่งของประเทศก็ว่าได้ส่วนแม่ของเธอก็มีอสังหามากมายให้คนเช่าอยู่เช่าทำกินจนไม่ต้องทำงานก็มีเงินมีทองใช้ไม่ขัดสนบวกกับสมบัติจากตระกูลแม่เธอที่ตกทอดลงมาทำให้มีใช้เหลือเฟือเพิ่มขึ้นไปอีก
เธอเป็นเด็กสองบ้านมาตั้งแต่จำความได้แต่ความรักที่พ่อกับแม่ให้เธอก็ไม่เคยขาดและเธอเองก็ไม่รู้สึกขาดด้วยรู้สึกเข้าใจด้วยซ้ำเมื่อได้มามีลูกเธอไม่ค่อยออกสังคมเท่าไรนักจึงไม่มีใครรู้จักเธอในฐานะไฮโซยกเว้นเพื่อนสนิทกับเธอเท่านั้น
เมื่อเธอเรียนจบแม่ของเธอก็ดันมาเสียด้วยโรคประจำตัวเธอจึงอยู่ที่บ้านหลังใหญ่กับแม่นมของเธอเพียงสองคนส่วนพ่อของเธอก็มาหาเธอบ้างเมื่อมีเวลา
แต่เมื่อเธอท้องและรู้ว่าพ่อของลูกเธอหายเข้ากลีบเมฆไปเธอจึงย้ายไปใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียและกลับมาเมื่อไม่นานมานี้เมื่อรู้ว่าพ่อของเธอตรอมใจตายเพราะธุรกิจพังหุ้นส่วนทั้งส่วนกลับหนีหายและเท่าที่เธอสืบมาคนเหล่านั้นไปร่วมลงทุนกับบริษัทของชนะพลบริษัทส่งออกข้าวสารที่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในตอนนี้เธอคิดว่าหากเธอเข้าไปทำงานในบริษัทนั้นได้เธอจะต้องหาทางเปิดโปงคนที่เล่นสกปรกกับพ่อเธอให้ได้
วันต่อมา
บริษัทxxx
"เตรียมต้อนรับอะไรกันหรอคะพี่นุชจัดห้องประชุมวุ่นกันเลย"
เฌอริตามาทำงานที่นี่วันแรกด้วยตำแหน่งผู้ช่วยเลขาซึ่งช่วยจิตรานุชอีกทีที่เธอมาสมัครตำแหน่งนี้ก็เพื่อที่จะได้เข้าใกล้เอกสารทั้งหมดของบริษัทนี้ได้
ในระหว่างที่เธออยู่ที่นี่เพื่อไม่ให้ใครสงสัยเธอจึงเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุลในเอกสารการสมัครจากนางสาวเฌอริตา สิริปัจโกศลเป็นนางสาวพีรยา ธาดาและใช้ชื่อเล่นว่าเพลิน
"ก็เตรียมตัวต้อนรับท่านประธานใหญ่คนใหม่น่ะสิ"
จิตรานุชยืนดูความเรียบร้อยอย่างใจจดใจจ่อเพราะกลัวว่าจะจัดการต้อนรับประธานคนใหม่เจ้านายของเธอไม่ดีพอ
"อ้าวแล้วเราไม่ได้ทำงานกับคุณชนะพลแล้วหรอคะ"
เฌอริตามีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
"ท่านวางมือแล้วล่ะให้ลูกชายดูแลแทน"
"ลูกชาย.."
"แต่ไม่ใช่คุณชนะภพนะชื่อคุณชาวีเห็นว่าเป็นลูกบุญธรรมน่ะ"
จิตรานุชหันมากระซิบกระซาบกับเฌอริตากลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน
"อ๋อ..ค่ะ"
เฌอริตาพยักหน้าเบาๆทั้งครุ่นคิดว่าเหตุใดชนะพลจึงไม่ให้ลูกชายของตัวเองมาบริหารบริษัทใหญ่นี้เองแต่ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้จึงไม่ได้ใส่ใจและคิดว่าหากเป็นคนอื่นมาทำงานแทนชนะพลเธออาจจะทำอะไรๆได้ง่ายกว่าที่คิดก็เป็นได้
สิบห้านาทีต่อมา
ตอนนี้พนักงานที่อยู่ในตำแหน่งใหญ่ๆของแต่ละแผนกในบริษัทต่างก็เข้ามารวมตัวกันที่ห้องประชุมเรียบร้อยแล้วรอแค่ประธานใหญ่คนใหม่มาก็เท่านั้น
"ท่านประธานมาแล้วค่ะ"
เมื่อได้ยินจิตรานุชที่ยืนอยู่หน้าประตูบอกแบบนั้นทุกคนต่างก็ลุกยืนขึ้นเพื่อต้อนรับประธานหนุ่มด้วยความสงบ
"สวัสดีทุกคนครับผมชาวียินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคนนะครับเชิญทุกคนนั่งลงก่อน"
ชายหนุ่มร่างสูงเดินนำหน้าหมอแดนเทพเข้ามาในห้องประชุมด้วยบุคลิกสง่าผ่าเผยทักทายทุกคนด้วยสีหน้าเรียบเฉยก้มหัวเล็กน้อยในขณะที่แนะนำตัวแสดงถึงความถ่อมตนเพราะในที่นี้ยังมีคนทำงานที่อายุเยอะกว่าเขาอยู่หลายคนและเชิญทุกคนให้นั่งลงได้
"สวัสดีค่ะ/ครับท่านประธาน"
"เอ่อ..พี่ภัส"
เฌอริตาชะงักงันตัวชาวาบครู่ใหญ่ในขณะที่เธอยืนอยู่ข้างๆกับจิตรานุช... หญิงสาวสบถบางคำออกมาเบาๆทั้งยังจ้องหน้าประธานหนุ่มที่กำลังนั่งลงตาเขม็งเหมือนวินาทีนั้นโลกมันหยุดหมุนไปคนที่จากเธอไปนานบัดนี้เขาได้มาอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว...แต่ทำไมอีกฝ่ายทำเหมือนไม่รู้จักเธอเสียอย่างนั้นสายตาที่เขามองมายังเธอมันว่างป่าวแถมชื่อของเขาก็เปลี่ยนไปด้วยจะเป็นไปได้อย่างไรว่าถ้าหากว่าเขาไม่ใช่ภัสกรแล้วคนสองคนจะเหมือนกันได้ยันเงาขนาดนี้เชียวหรือ
"เป็นอะไรรึป่าวเพลิน"
จิตรานุชเห็นว่าเฌอริตานิ่งไปจึงสะกิดแขนเธอเบาๆให้มีสติ
"อ๋อ..ป..ป่าวค่ะ.."
เฌอริตาหลุดจากภวังค์ความคิดจากเสียงเรียกของจิตรานุช
"เดี๋ยวพี่ขอน้ำให้ท่านประธานกับหมอแดนหน่อยนะ"
"ค่ะ"
เฌอริตาเดินออกจากห้องประชุมเพื่อไปเตรียมน้ำในห้องครัวของออฟฟิศมาให้ประธานหนุ่มและหมอแดนเทพตามที่จิตรานุชสั่งด้วยใจเหม่อลอยเล็กน้อยยังคงแปลกใจว่าเขาจะจำเธอไม่ได้จริงๆหรือ... หรืออีกอย่างคือภัสกรกับชาวีนั้นเป็นคนละคนกันแน่
................................................
ยังไงกันแน่