เดิมทีหลานเยว่ตั้งใจเพียงมาสำรวจแผนผังของจวนอย่างเงียบเชียบ นางคิดจะจดจำเส้นทาง ความหนาแน่นของเวรยาม และตำแหน่งเรือนหลักก่อนจะกลับออกไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยแต่ทันทีที่กำลังก้าวเท้าหันหลัง เสียงกรีดร้องโทนแหบพร่าที่เปี่ยมด้วยความเกรี้ยวกราดก็ดังขึ้นจากเรือนชั้นใน “ไอ้ขี้ข้าสารเลว! แค่ไปฉุดผู้หญิงคนเดียว มันยากเย็นนักหรือไง!? ทำไมถึงหายหัวไปนานขนาดนี้!” เสียงตะคอกนั้นแทรกผ่านความเงียบสงัดของค่ำคืน ดังกังวานออกมาจากเรือนกลางที่แสงตะเกียงยังส่องสว่างไม่หยุดเป็นเสียงของฟู่เหวินโหลว ปราชญ์หลวงผู้ยิ่งใหญ่ ผู้อยู่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทขององค์จักรพรรดิ แม้ร่างกายจะบาดเจ็บ แต่เปลวเพลิงแห่งราคะกลับโหมกระพือในอก เขาเดินกระวนกระวายวนเวียนอยู่ในเรือน ร่างชราสะท้อนแสงไฟบนผนังราวเงาอสูรริมฝีปากของเขายังคงพร่ำบ่นด้วยโทสะ “หากพวกมันกลับมาเมื่อใด ข้าจะสั่งลดขั้นมันให้หมดทุกคน!” ความขัดเคืองและความปรารถนาในตั

