1

1179 Words
ปรียาภัทรเสยผมตกปรกตาที่ยุ่งเนื่องจากเพิ่งตื่น เรียกสติกลับมาจากความทรงจำในอดีตทั้งหลาย มีแต่คนแก่เท่านั้นที่รำพึงรำพันถึงความหลัง “วันนี้พี่เข้าร้าน แป๋งติดรถไปด้วยกันไหม” หญิงสาวหันเหเข้าสู่เรื่องราวปัจจุบัน น้องสาวส่ายศีรษะปฏิเสธ พลางยกถาดอาหารเช้าที่มีทั้งขนมปัง ผลไม้ และน้ำส้มคั้นมาให้พี่สาว “ไม่ล่ะ จะเอาโปรเจกต์ที่แก้ไปให้อาจารย์ดู คงช่วงบ่ายนะ ที่จะออกจากห้อง ถึงห้องคงจะค่ำเลย” ร่างบางพยักหน้าเข้าใจ หยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่ม ปัทมนต์หันหลังให้แสร้งทำเป็นยุ่งหยิบโน่นหยิบนี่จากตู้เหนืออ่างล้างจานเพื่อกลบพิรุธ ไม่เปิดโอกาสให้ถามว่าแล้วเวลาช่วงเช้าที่เหลือล่ะ จะทำอะไร   “มาช้า!” คนผมยุ่งเปิดประตูห้องเพนต์เฮาส์ในคอนโดมิเนียมติดสถานีรถไฟฟ้าบ่น ก่อนหัวเราะเมื่อเห็นสภาพเธอ “ชุดอะไรของแก จะไปตัดอ้อยที่ไหน” “ชุดทำความสะอาดห้องแกไงไนท์” ปัทมนต์รีบแทรกตัวเข้าไปในห้องทันที เอาล่ะ! ถึงแม้เสื้อลายตาหมากรุกกับหมวกแก๊ปที่ใส่มาจะเป็นของมือสอง เธอก็ซักจนสะอาดนะ ตัวเขาเองนั่นเล่าแต่งตัวแย่กว่าเสียอีก ใส่เสื้อกล้าม กางเกงยีนยับ ๆ เขามักไร้มารยาทกับเธอจนเป็นเรื่องปกติ “งวดนี้มีอะไร ไม่ให้แม่บ้านมาทำความสะอาดล่ะ ทำไมจ้างฉัน” เพื่อนโทรปลุก ตั้งแต่แสงดาวสุดท้ายยังไม่ลับจากฟ้า เสียงร้อนรนแปลก ๆ เสนอให้เธอมาทำความสะอาดห้องด้วยค่าจ้างแสนแพง คอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นเซฟเฮาส์ลับเวลาดนัยวุธมีงานด่วนให้เธอทำ ชนิดทำวันนี้เอาพรุ่งนี้จวนเจียนเส้นตายเขาจะเรียกเธอมาที่นี่ ทีแรกตะขิดตะขวงใจอยู่หรอก หญิงชายอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องหับมิดชิด แต่เขามักเป็นคนประเภทสั่งงานแล้วก็ปร๋อออกไปเที่ยว ปล่อยให้เธอนั่งทำงานอยู่ในห้องคนเดียว จนชินและกลายเป็นไม่คิดอะไรมากไปในที่สุด “มีเหตุนิดหน่อย” ดนัยวุธเดินนำไปยังชุดรับแขกบุหนัง มีทั้งเก้าอี้เดี่ยวและโซฟาเข้าชุดกันวางอยู่ “โห ปาร์ตี้กันดึกล่ะสิ” ปัทมนต์ตาโตห่อปาก เมื่อเห็นสภาพจริงของห้อง เศษซากอาหาร แก้วสุรา รอยน้ำหกบนพรมเกลื่อนไปทั่วพื้นและเฟอร์นิเจอร์ “อย่างนี้ต้องใช้มืออาชีพ ขืนฉันทำคนเดียวคางเหลืองแน่” ไม่ใช่ครั้งแรกที่ห้องหรูตกอยู่ในสภาพนี้ เขามีเพื่อนเยอะ ปาร์ตี้บ่อย บางทีเธอยังเคยเห็นเพื่อนเขานอนหลับเมาไม่รู้เรื่องอยู่บนพื้นห้องด้วยซ้ำไป “ไม่ได้ ๆ ขืนทำอย่างนั้นฉันติดคุกแน่” ดนัยวุธเท้าสะเอวเสยผมยุ่ง ๆ สองสามที “จำไอ้ป๊อบได้ไหม เพื่อนเก่าฉันที่เรียนอยู่ที่...” ชายหนุ่มพาดพิงถึงเพื่อนสมัยมัธยม เธอจำได้ราง ๆ เพราะเคยเห็นคนนี้มาตอนมีงานมหาวิทยาลัย “เมื่อคืนเจอตอนไปเที่ยว มันเลยมาต่อที่ห้องฉัน” “แล้ว...” ไม่ใช่เรื่องแปลก ดนัยวุธเป็นหนุ่มเนื้อหอม ลูกคนรวย เพื่อนเยอะ ใจกว้างเสมอ “ปัญหาคือมีคนเอา ‘เนื้อ’ มาด้วยน่ะสิ” คราวนี้ปัทมนต์ทำหน้าเหลอหลา ไม่เข้าใจศัพท์ประหลาดที่เขาเอ่ยมา ดนัยวุธมองตากลมแป๋วที่เต็มไปด้วยคำถามแล้วถอนหายใจเหนื่อยหน่าย ใจค่อนแคะคนซื่อบื้ออ่อนต่อโลก “เนื้อคือยาเสพติดน่ะแก” “เฮ้ย!” ปัทมนต์ผงะ ร้องเสียงหลง “ฉันไม่ได้เล่น แต่พวกไอ้ป๊อบเล่น ถึงให้แม่บ้านมาทำไม่ได้ ขืนเจอแล้วเอาไปบอกตำรวจหรือฟ้องพ่อฉันคอขาดแน่” “ไม่เอาล่ะ ฉันกลับดีกว่า” เงินน่ะอยากได้อยู่หรอก แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย “เดี๋ยวสิ งานนี้ฉันจ่ายไม่อั้น แค่ทำความสะอาดเอง” เขากะอยู่แล้วว่าเธอต้องหนี “เสี่ยงคุกนะเว้ย ฉันไม่กล้าเสี่ยงจริง ๆ ว่ะ” ดนัยวุธรู้ทันเธอโดยการเดินมาจับแขนไว้ไม่ให้ขยับไปถึงประตู “ไม่ต้องห่วงหรอก เพื่อนไอ้ป๊อบที่มาน่ะมีลูกตำรวจยศบิ๊ก ๆ เดี๋ยวเขาเคลียร์ให้” เขาหัวเราะ ราวกับเรื่องการใช้เส้นสายกลบความเลวร้ายเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนเดินไปซื้อของร้านสะดวกซื้อ “เลว!” “ใช่ เป็นตำรวจจับผู้ร้ายเสียเปล่า ดันปล่อยให้ลูกเป็นผู้ร้ายเสพยาเสียได้ แล้วยังใช้อำนาจหน้าที่ปิดบังความผิดให้ลูกอีก” “เปล่า ที่ฉันหมายถึงแกต่างหาก” ปัทมนต์สบตาเพื่อนคมกล้า ดวงตาใสแจ๋วราวกับจะลุกเป็นไฟ “เกิดในตระกูลดี มีเงิน มีสังคมที่พร้อม ทำไมไม่ทำตัวให้ดีสมกับสิ่งดี ๆ ที่ได้รับมาล่ะ ทำตัวเป็นคนดี หัดรู้จักเลือกคบคนเสียบ้าง” น้อยคนนักที่สามารถบริภาษชายหนุ่มได้ถึงขนาดนี้ ดนัยวุธนั้นเข้าข่ายลูกเศรษฐีเอาแต่ใจ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ มาเรียนเพื่อให้จบปริญญารอไปเรียนต่อเมืองนอกเท่านั้น “แกด่าจะยังไงก็ได้ แต่เรื่องคราวนี้ฉันยอมรับผิดแค่เรื่องเลือกคบเพื่อนไม่ดี ส่วนเรื่องยาสาบานต่อหน้าแกเลยก็ได้ว่าฉันไม่ได้เล่น” เขาปล่อยมือเปลี่ยนเป็นยกขึ้นเสมออกทั้งสองข้างเป็นทำนองยอมจำนน ดนัยวุธรู้ว่าเพื่อนมีชีวิตครอบครัวลำบาก อยู่กันสองคนพี่น้อง เธอจะซีเรียสเวลาเขาก่อเรื่องให้พ่อแม่ลำบากใจ เพราะเธอไม่มีในสิ่งที่เขามี หญิงสาวจึงพยายามบ่นกึ่งสอนให้รู้จักคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ “ความจริงฉันจะเก็บกวาดพวกนี้เองก็ได้ แต่อยากได้ใครสักคนมาเป็นเพื่อน ช่วยดูอะไรที่มันหลงหูหลงตาไป” “แล้วทำไมแกไม่เรียกนะมา” พอเห็นท่าทีสำนึกผิด ก็นึกตำหนิตนเองว่าเผลอใส่อารมณ์กับเขามากไป “หนุ่มหล่อพ่อรวยสองคนมาอยู่ด้วยกัน คงมีใครยอมทำความสะอาดห้องหรอกนะ” ดนัยวุธเยาะจนเธอนึกภาพตาม แต่นึกภาพหนุ่มผิวขาวจัดท่าทางสะโอดสะองอย่างณวัตรทำความสะอาดห้องไม่ออก “เฮ้อ” เธอถอนหายใจยาวกับงานที่ตัวเองต้องทำ “พวกไอ้ป๊อบเพิ่งออกไปตอนตีห้ากว่า ๆ มีอย่างที่ไหนเมายาแล้วบ้าเอามีดไปขูดประตูห้องนอน” ดนัยวุธบุ้ยปากไปทางประตูไม้ ซึ่งมีรอยกรีดเป็นทางยาวจนเห็นเนื้อไม้สีอ่อนกว่าภายนอก “ฉันก็นอนไม่หลับอีกเลย ไม่ชอบสภาพห้องเละเทะ อาจจะมียาซุกไว้ตรงไหนก็ไม่รู้” เสียงเพื่อนเจือกังวล ปัทมนต์ถลกแขนเสื้อและหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ามาผูกปิดปากในสภาพเตรียมพร้อม “งานความเสี่ยงสูง ค่าตอบแทนต้องสูงตามนะไนท์” ดนัยวุธยกนิ้วโป้งเป็นทำนองชม พลางยิ้มร่าที่เธอตกลงจัดการเรื่องนี้ให้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD