EP.16 – บางอย่างขาดหาย

912 Words
ฉันย้ายมาอยู่คอนโดได้สามวันแล้ว ทุกอย่างยังคงปกติดี ไม่มีอะไรน่ากังวล ตื่นเช้ามาเรียนและกลับคอนโดช่วงหัวค่ำหลังซ้อมละครเสร็จ วนเวียนแบบนี้ทุกวัน การอยู่คนเดียวแบบนี้มันก็ดีแหละ แต่มันรู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ เหมือนกับว่าชีวิตฉันมีบางอย่างขาดหายไป คือ… จะอธิบายยังไงดีล่ะ ปกติแล้วชีวิตฉันมักเกี่ยวข้องกับเก้าทัพตลอดเวลา เขาอยู่กับฉันเสมอ แทบจะทุกช่วงเวลาของชีวิตเลยก็ว่าได้ ฉันที่เป็นลูกคนเดียวกับเขาที่เป็นลูกคนเดียว เราต่างไม่มีพี่น้อง เราจึงมีกันและกันมาตั้งแต่เล็ก เขาเคยใจดีกับฉัน… เวลาฉันไม่ขัดใจเขา และก็เคยใจร้ายกับฉัน เวลาที่ฉันไม่ได้ดั่งใจเขา ให้ตายสิ… ฉันไม่ควรจะนึกถึงเขาสินะ “จา! ไปกินข้าวกัน” เฮือก! “โอ๊ย ตกใจหมดเลยมี่” ฉันลูบอกตัวเองเบา ๆ มัวแต่นั่งคิดอะไรเพลินจึงไม่สังเกตว่ามีมี่เดินเข้ามาหาตอนไหน วายุนั่งลงด้านข้างฉัน เขามองด้วยสายตาเป็นห่วง “เป็นอะไรหรือเปล่าจา ดูเหม่อ ๆ นะเราอ่ะ” “ไม่มีอะไรหรอก จริงสิ เมื่อกี้ชวนไปกินข้าวเหรอ ที่ไหนดีล่ะ” ฉันลุกขึ้นยืนสะพายกระเป๋า พยายามทำตัวให้เป็นปกติเช่นเคย “ไปกินสเต๊กกัน ร้านสเต๊กแถวตึกวิทย์นะ” มีมี่ควงแขนฉันยิ้มร่า วันนี้เธอดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “อื้อ โอเค” . . . “สเต๊กมาแล้วค่ะ” สเต๊กหน้าตาน่าทานเสิร์ฟตรงหน้าพวกเราสามคน วายุสั่งสเต๊กหมูเหมือนฉัน ส่วนมีมี่ทานสเต๊กเนื้อ เธอมองจานฉันกับวายุพลางทำหน้าเหม็นเบื่อ “สเต๊กหมูไม่เห็นอร่อยเลย เนื้ออร่อยกว่าเยอะ จาไม่กินเนื้อยังพอเข้าใจ แต่ยุอ่ะ ทำไมสั่งหมูล่ะเนี่ย เห็นปกติก็สั่งเนื้อเหมือนกันนี่นา” ฉันที่ไม่ทานเนื้อวัวหันมองวายุเช่นกัน ปกติฉันไม่ค่อยเข้าร้านสเต๊กกับเพื่อน ๆ ไม่สิ ต้องพูดว่าปกติแล้วฉันไม่ค่อยทานอาหารกับเพื่อนแบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะเก้าทัพตามคุมฉันตลอด ถ้าเขาไม่ลากฉันไปทานสองต่อสอง เขาก็จะมานั่งทานร่วมโต๊ะกับเพื่อน ๆ ฉันด้วย “เอ่อ ก็ยุอยากเปลี่ยนเมนูบ้างไง เอาน่า รีบกินเถอะ กำลังร้อน ๆ เลยนะ” วายุโบกมือให้มีมี่ก่อนจะก้มจัดการหั่นสเต๊กของตัวเอง มีมี่เบะปากใส่แล้วจัดการสเต๊กตัวเองเช่นกัน ขณะที่ฉันนั่งนิ่ง สองมือกำช้อนส้อมกับมีดแน่น ภาพของผู้ชายคนหนึ่งดึงจานสเต๊กฉันไปหั่นให้ด้วยสีหน้าตั้งอกตั้งใจแล่นวาบเข้ามาในความคิด ฉันสะบัดหน้าเบา ๆ เพื่อไล่ความคิดนั้นออกไป บ้าจริง… เพราะเคยชินกับการที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ และคอยทำทุกอย่างให้หรือเปล่านะ ทำไมต้องนึกถึงเก้าทัพอยู่เรื่อยเลยนะ “จา ไม่กินเหรอ?” “หะ…” ฉันเงยหน้าจากจานสเต๊กตรงหน้าขึ้นมองมีมี่กับวายุ ทั้งคู่กำลังจ้องมาทางฉัน ฉันขยับยิ้มบางตอบกลับ เริ่มลงมือหั่นสเต๊กบนจานตัวเองแล้วจิ้มเข้าปาก รสชาติสู้ฝีมือเก้าทัพไม่ได้เลยแฮะ... เอาอีกแล้ว… ฉันนึกถึงเก้าทัพอีกแล้ว . . . “ผับใต้ดิน?” “อื้อ จาไปเป็นเพื่อนมี่หน่อยน้า น๊า…” มีมี่พนมมือถูไปมา ทำหน้าอ้อนวอนตาปริบ ๆ แถมยังเขย่าแขนฉันที่กำลังดูดชาไข่มุกอยู่แทบจะสำลัก “นึกยังไงถึงจะไปอ่ะมี่ ที่นั่นมันน่ากลัวไม่ใช่เหรอ” “น่ากลัวอะไรกันจา ใครบอกจาเนี่ยว่าผับใต้ดินน่ากลัว ก็แค่ผับที่มีวงดนตรีสดใต้ดินมาเล่นดนตรีเฉย ๆ นะ” เก้าทัพเคยบอกน่ะ… ฉันตอบในใจ “คืนนี้วงที่มี่ชอบขึ้นแสดงอ่ะ มี่ปลื้มนักร้องนำมาก แต่มี่ไม่กล้าไปคนเดียวก็เลยมาชวนจาไปด้วยกัน” “มันจะดีเหรอ จาไม่เคยไปที่แบบนั้นเลยนะ อีกอย่างจาไม่ค่อยฟังเพลงเลยด้วย” “ดีสิ! ถ้าไม่เคยฟังก็ไปลองฟังดู รับรองว่าสนุกแน่นอน มันก็คล้าย ๆ ผับที่เราไปเที่ยวกันนั่นแหละเพียงแต่ว่ามีดนตรีสดให้ฟังแถมผู้ชายยังงานดีมาก ฮิ ๆ” หัวเราะแบบนั้นนั่นมันอะไรน่ะ “ไปเถอะนะจานะ น๊า… ไปเป็นเพื่อนมี่หน่อย” “แต่ว่า…” ฉันทำหน้าลำบากใจ ปกติฉันไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนอยู่แล้วด้วย แถมนี่ยังเป็นผับใต้ดินอีก จะไหวไหมนะ… “โธ่ ไม่ต้องลังเลหรอกน่า ถ้าจาไม่ชอบ มี่จะกลับทันทีเลยโอเคไหม นะจานะ ไหน ๆ จาก็ได้ใช้ชีวิตอิสระแล้วนี่ ไม่ต้องมีพี่เก้าตามคุมแล้ว จาก็น่าจะลองใช้ชีวิตให้คุ้มหน่อยเป็นไง” มีมี่พยายามโน้มน้าวฉัน และมันได้ผลเสียด้วย… เอาเถอะ ไหน ๆ ฉันก็ได้ใช้ชีวิตอิสระแล้วนี่นะ ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำดูบ้างก็คงจะดีมั้ง ถ้างั้น… “ก็ได้ ไปก็ไป” “เย้! จาน่ารักที่สุดเลยยย!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD