หนีเสือปะจระเข้

1257 Words
จังหวัดเชียงราย สวบๆๆๆ... สวบๆๆๆ... เสียงย่ำใบไม้กับเสียงพูดคุยกันระหว่างชายฉกรรจ์สองคน ทำให้ร่างบางที่กำลังหลบซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้ถึงกับตัวสั่นเทา “มึงหามันเจอไหมวะ..” “ไม่เจอลูกพี่...ไม่รู้ว่าหนีไปทางไหนแล้ว ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่ไวฉิบหายเลย” “เสียดายว่ะ เกิดมากูก็เพิ่งเคยเห็นผู้หญิงห่า!...สวยยังกับนางฟ้า” ท่ามกลางความมืดที่กำลังคืบคลานเข้ามาปกคลุมไปทั่วสองข้างทาง ที่มีเพียงต้นไม้น้อยใหญ่ยืนต้นเรียงรายและมากพอที่ให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเฌอร์ลีนหลบและซ่อนตัวอยู่ได้พอดี ได้แค่ไหน? ในเมื่อที่ ๆ น่าจะปลอดภัยที่สุด ยังกลายเป็นที่ ๆ อันตรายที่สุดสำหรับเธอมากพอ ๆ กัน อันตราย! หนีเสือแต่ปะจระเข้แท้ ๆ เชียว…เหลือแต่ตัวเปล่ากับชุดที่ใส่ นอกนั้นตกหายไปไหนแล้วไม่รู้? จ๊อกกกก!!! หิวจัง! “ลูกพี่..เราวิ่งตามหามันมาตั้งแต่หกโมงกว่า ๆ นี่ก็จวนจะสองทุ่ม มันคงจะหนีเตลิดเข้าป่าไปแล้วละมั้ง” เสียงแหบเล็กของชายคนหนึ่งพูดกับอีกคน ในขณะที่สายตาสอดส่ายไปทั่วบริเวณป่าที่อยู่รอบ ๆ ตัว พร้อมกับไฟฉายเก่า ๆ ที่มีแสงสว่างแต่เพียงน้อยนิด “ปล่อยให้งูเหลือมในป่ามันคาบไปแดกห่าซะเลยเถอะ เสียเวลาฉิบหาย...ปะกลับ!” หญิงสาวพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก รอให้เสียงย่ำฝีเท้าของทั้งคู่ค่อย ๆ ห่างออกไป ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืน แต่ทว่า..ขาของเธอกลับไม่มีแรงรับน้ำหนักของตัวเอง เธอพยายามตั้งสติกับกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว ให้ตายเถอะ! มืดสนิทจนคิดว่าตัวเองตาบอดหรือไงกันนะ...ทำไม่จึงมองไม่เห็นอะไรเลยละ? ยืนพิงต้นไม้ใหญ่อย่างไร้กำลัง และหาทางเอาตัวรอด แต่ในความมืด...ก็ยังพอมีแสงสว่างลาง ๆ จากแสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่อยู่ในระยะไกล มันทำให้เธอใจชื้นและมีกำลังใจขึ้นมาเป็นกอง ร่างบางพยายามปรับสายตาให้ชินกับความมืด ก่อนจะพุ่งตัวตรงไปยังดวงไฟดวงนั้น อย่างที่ละสายตาไม่ได้เลย เมื่อรู้สึกว่าขาพอจะมีแรงขึ้นมาบ้าง เรียวขาเล็กก้าวเดินแกมวิ่ง และใช้วิธีเดาเอาว่าจุดหมายที่อยู่ด้านหน้าอาจเป็นถนน...แสงไฟสองดวงนั้นคงจะเป็นแสงของรถยนต์ ดีนะที่เธอใส่รองเท้าผ้าใบมา ถึงวิ่งหนีได้เร็วกว่า หากใส่ส้นสูงมีหวังเท้าเธอคงพังไปกว่านี้แน่ เผลอ ๆ อาจจะถูกคนพวกนั้นจับได้แล้วถูกทำมิดีมิร้าย หรืออาจถูกฆ่าตายไปแล้วก็ได้ ในที่สุดเท้าของหญิงสาวก็พาเธอออกมาจากป่าได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันกับที่รถยนต์คันนั้นได้วิ่งมาด้วยความเร็วสูง กระโดดเอาตัวเองออกไปขวางเลยดีไหม? ถ้าพลาดก็แค่ตาย... อยู่ตรงนี้เธอมีโอกาสรอดด้วยหรือไงเฌอร์ลีน? ไม่ได้มีโอกาสอะไรให้เธอได้เลือกมากมายนักหรอกนะ...ชีวิตเป็นของเธอนี่นา...ใช่มั๊ย!? เอี๊ยดดดดด! ชนธัญเหยียบเบรกจนตัวโก่ง พร้อมกับสาดไฟสูงเข้าใส่รางบางที่กระโดดออกมาจากป่าข้างทาง ก่อนจะมายืนจังก้าขวางหน้ารถเขาเอาไว้ อย่างไม่กลัวตายเลยสักนิด ฉิบหายเหอะ!.. ตายรึเปล่าวะ!?... ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวทรุดตัวลงไปกองกับพื้น...แต่เขารู้สึกนะว่าตัวเองเบรกได้ทัน... โธ่เอ๊ย!...ยิ่งรีบยิ่งช้า...แต่ชีวิตคนย่อมสำคัญกว่า... ชนธัญ หยิบปืนในเกะออกมาเหน็บข้างเอว ก่อนจะเปิดประตูกระโดดลงจากรถกะบะโฟล์วิลสี่ประตู แล้วเดินไปหยุดดูร่างบางที่นอนตะแคงข้างกองอยู่บนพื้นถนน แตะปืนที่เอวก่อนจะหันมองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าเธอไม่ใช่นกต่อ แล้วจึงนั่งย่อลงกับพื้น ก้มมองใบหน้าของหญิงสาวที่ถูกผมยาวสลวยของเธอปิดบังเอาไว้ ผมสวยว่ะ! เขามองเห็นเส้นผมของเธอเลื่อมมัน จากแสงไฟของหน้ารถ และอดไม่ได้ที่จะยื่นมือหนาของตัวเองไปสัมผัสมันเบา ๆ นุ่มอีกต่างหาก... เขี่ยผมเธอออกไปให้พ้นจากใบหน้า ปรากฏว่า... สวย! แต่ยังไม่ชัดเจนเท่าใหร่..ที่รู้ ๆ หุ่นดีเป็นบ้า! ก็นะ...แล้วมึงบอกว่าตัวเองรีบ จะมัวมานั่งชมโฉมเธออยู่ทำไมวะ? ไอ้ม่อน..มึงนี่โรคจิตรึเปล่าเหอะ! ร่างใหญ่อุ้มหญิงสาวเข้ามาไว้ในรถ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องออกมาดูหน้าจอ เขากดรับ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรอีกฝ่ายก็ถามกลับมาอย่างร้อนรน “พี่ม่อนถึงไหนแล้ว เจอเพื่อนหนูรึเปล่า ป่านนี้แล้วมันไปอยู่ที่ไหน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้... ฮึก..ฮึก...พี่ม่อน ฮึก หาเพื่อนหนูให้เจอนะ...ฮื่อๆๆๆ...” สุดท้ายชลธารก็ปล่อยโฮออกมา โดยที่ยังไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทของเธอนอนสลบเหมือด อยู่บนรถของพี่ชายตัวเองแล้ว “ใจเย็น ๆ น่า..พี่ก็กำลังจะไปรับนะแต่ว่า....พี่ดันขับรถชนคนซะก่อน...ไม่รู้ด้วยว่าจะตายไหม?” พูดให้ดูน่ากลัวไว้ก่อน เพราะชลธารน้องสาว โทรหาเขาตั้งแต่ช่วงบ่าย ฝากฝังเอาไว้ว่าให้ไปรับเพื่อนสนิทของเธอที่สนามบิน แต่เขากำลังยุ่งกับการทดลองผสมเกสรของดอกไม้ จึงลืมไปเสียสนิท เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาปรากฏว่าเวลามันก็เลยมาเยอะแล้ว จึงรีบเหยียบรถราวกับเหาะได้ เพื่อจะรีบไปรับเพื่อนของน้องสาวของเขาให้ทัน แต่มันก็ไม่ทันจนได้ แล้วดันมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เวร! “เดี๋ยวพี่จะโทรบอกไอ้วี ตอนนี้มันกำลังจะออกเวร ให้มันขี่รถไปดูเพื่อนของเราให้ก็แล้วกันนะ ตอนนี้พี่คงต้องพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลก่อน ” หลังจากวางสายจากน้องสาว ชนธัญก็กดโทรหาหัสวีร์เพื่อนสนิทของเขาอีกคน ที่มีอาชีพรับราชการเป็นตำรวจประจำโรงพักในตัวเมืองเชียงราย ให้ช่วยตามหาเพื่อนของน้องสาว ที่คิดว่าตอนนี้เธอน่าจะยังรอเขาอยู่ที่สนามบิน ชนธัญหันไปมองร่างบางที่นั่งอยู่ข้างกัน ก่อนจะโน้มตัวไปปรับเบาะให้เอนลงนิดหน่อย เพื่อให้เธอเหยียดตัวได้มากขึ้น กลิ่นตัวอย่างหอม! เครื่องหน้ายังกับถูกจับวาด...สวยเหมือนนางในวรรณคดี...แต่ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่? ยิ้มออกมาฟันอาจจะหลอก็ได้มั๊ย!? ส่ายหน้าก่อนจะยิ้มขำกับตัวเอง...พร้อมกับหมุนพวงมาลัยเลี้ยวหัวรถพาหญิงสาวกลับมาที่เดิม… ที่บ้านของเขา..แล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที… ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ ชายหนุ่มได้บอกกับน้องสาวของตัวเองไปว่า จะรีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาลอยู่แท้ ๆ เชียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD