ตอนที่ 5 แม่ลูกมหาภัย [2]

1519 Words
ความริษยาผสมปนเปกับความเจ็บใจ กลายเป็นเชื้อเพลิงร้อนแรงที่เผาผลาญอยู่ในอกและกลายเป็นความอยากได้ และอะไรที่เธออยากได้ เธอต้องได้!!! เธอปล่อยให้มันเสวยสุขมาพอแล้ว ตอนนี้เป็นทีของเธอบ้าง เมื่อเวลาผ่านมาจนวิศรุตเข้าสู่วัยทำงาน เขากลายเป็นคนที่น่าจับตามองเข้าไปใหญ่เขาเป็นหนุ่มไฟแรงอนาคตไกล ยิ่งทำให้ศศิจันทร์รักใคร่หลงใหลและในครั้งนี้เธอต้องการวิศรุตเป็นสามีโดยชอบธรรม และไม่สนใจความชอกช้ำของพี่สาวต่างแม่เลยสักนิด เธอต้องชนะแพรพรรณให้ได้สักครั้ง แน่นอนว่าคนเป็นแม่ย่อมสนับสนุน โดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิด “อีกสองวัน บริษัทของเจ้าสัวไพบูลย์จะจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ และวันนั้นเราจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าลูกกับวิศรุตจะหมั้นกัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสตรีสูงวัยทันทีที่พูดจบ สำหรับเธอแล้ว ไม่ว่าอะไรที่ลูกสาวต้องการ เธอก็พร้อมที่จะทำ! “ดีจังเลยค่ะคุณแม่ ศศิแทบรอไม่ไหวแล้ว!” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข ดวงตาเปล่งประกายเมื่อคิดถึงสิ่งที่จะเป็นจริง “พี่รุตจะต้องเป็นของศศิคนเดียว!” ก่อนจะเอ่ยคำสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบเจือความอาฆาตอย่างน่าขนลุก “นังแพร! แกอย่าได้หวังเลยว่าจะได้พี่รุตไปจากฉัน!” “ใช่แล้วลูก คนอย่างนังแพรไม่สมควรที่จะได้ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างวิศรุตไปครอง ต้องเป็นลูกของแม่เท่านั้น ทั้งสวยกว่า น่ารักกว่า และเก่งกว่าเป็นไหน ๆ หากยอมรับนังแพรเป็นเมียแล้วละก็คงโง่เง่าเต็มที ทรัพย์สมบัติมันก็ไม่มีติดตัวเป็นแค่นังเด็กที่มีแม่มาจากบ้านนอก แค่นี้มันก็ยังไม่รู้จักเจียมตัว!” เสียงหัวเราะคิกคักของสองแม่ลูกดังขึ้นในห้องอย่างอารมณ์ดี เมื่อศศิจันทร์ต้องการสิ่งใด มีหรือรังรองจะไม่หามาให้ เพียงแค่เอ่ยปากเท่านั้น เพราะศศิจะต้องไม่อยู่ใต้เงาของใคร ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน ไม่เหมือนครั้งที่เธอและสามีในวันวาน ตอนนี้แค่เอ่ยปาก ทุกอย่างก็พร้อมจะกลายเป็นของลูกสาวเธอทันที เพราะสำหรับรังรองแล้ว ศศิจะต้องไม่อยู่ในเงาของใคร เธอจะไม่ยอมให้ลูกสาวซ้ำรอยเธอเด็ดขาด ความแค้นและความเจ็บปวดที่ฝังลึกในใจของรังรอง นั้นเจ็บลึกเกินจะเยียวยา เมื่อมีหนทางให้แก้แค้นและเหยียบย่ำมีหรือเธอจะไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ วันเสาร์ที่สามของเดือน บรรยากาศภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่จากต่างประเทศของบริษัทวิศรุตเต็มไปด้วยความคึกคัก ผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดเกิดจากความร่วมมือระหว่างวิศวกรของบริษัทตัวเอง และต่างประเทศ ภายในงานอัดแน่นไปด้วยแขกผู้มีเกียรติ ทั้งเซเลบริตี้ชื่อดัง นักธุรกิจระดับแนวหน้า รวมถึงบริษัทคู่แข่งคนสำคัญอย่างคุณวิชัยที่ก็มาร่วมงานเช่นกัน แพรพรรณก็ได้เข้ามาร่วมงานนี้ด้วยในฐานะลูกสาวคนโต แม้รังรองกับศศิจันทร์จะไม่ชอบใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะวิชัยเองก็เป็นคนมีหน้ามีตา หากงานนี้ไม่มีลูกสาวมาครบทั้งสองคนย่อมกลายเป็นเรื่องให้ผู้คนหยิบยกไปวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปาก ยิ่งตั้งแต่วันที่คุณวิชัยพา รังรอง และ ศศิจันทร์ ออกมาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามว่าเหตุใดลูกสาวถึงโตเป็นสาวขนาดนี้ ในขณะที่ภรรยาเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน ข่าวลือเรื่องคุณวิชัยมีบ้านเล็กบ้านน้อย แอบเลี้ยงผู้หญิงอีกคนไว้ กลายเป็นประเด็นร้อนในวงสังคมทันที แน่นอนว่าเรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อซุบซิบนินทาที่ผู้คนหยิบยกมาพูดถึงอยู่พักใหญ่ แต่เรื่องราวก็ถูกจมหายไปเพราะในวงสังคมมักจะมีเรื่องฉาวอื่นเข้ามาทดแทนเสมอ ทำให้ผู้คนในตอนนี้ไม่ค่อยมีพูดเรื่องนี้มากนัก แต่ก็ยังมีซุบซิบกันอยู่บ้าง ตามประสาสังคมที่ชอบเมาส์ คืนนี้ ศศิจันทร์และรังรองต่างแต่งองค์ทรงเครื่องราวกับเป็นเจ้าภาพงานเสียเอง สร้อยเพชรระยิบระยับถูกเลือกมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้สวมใส่เข้ากับชุดราตรีหรูหรา ทั้งสองคนเดินยิ้มหน้าบาน ตั้งใจจะประชันความงามกับเหล่าดาราและแขกเหรื่อผู้มีเกียรติในงาน แต่ใครจะโดดเด่นเกินกว่าแพรพรรณ ผู้กุมหัวใจของวิศรุตคงไม่มีอีกแล้ว หญิงสาวมาปรากฏตัวในชุดเดรสยาวสีครีมปาดไหล่ มีเพียงสร้อยเส้นที่มีจี้รูปหัวใจเป็นเครื่องประดับเท่านั้น และสร้อยเส้นนั้นเขาจำได้ดีเพราะว่าเขาเป็นคนซื้อให้เธอเองกับมือ เพียงเท่านี้กลับดูงดงามตรึงตาไม่แพ้ใคร หรือบางทีอาจเป็นเพราะในสายตาของเขา มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น ทันทีที่เห็นคนรักเดินเข้ามาในงาน เขาอยากเข้าไปแสดงความรักกับเธอเหลือเกิน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคู่แข่งเรื่องการทำงานทั้งหมด แต่เมื่อต่างคนต่างมาร่วมงาน เขาทำได้เพียงยิ้มให้เธอ และทักทายกันเล็กน้อยเท่านั้น “ไม่นึกว่าคุณจะมาด้วยแพร แต่คุณดูหน้าซีด ๆ นะ ไม่สบายหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เสียงของเขานุ่มลงโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้สบตากับเธอ แต่แพรพรรณกลับเพียงส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงจากไปโดยไม่แม้แต่จะเอ่ยคำทักทาย ท่าทางเมินเฉยของเธอทำให้หัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบ สีหน้าเจื่อนลงก่อนจะเดินกลับมารวมกลุ่มกับครอบครัวเหมือนเดิม แต่ไม่ทันไรคนที่เขาไม่อยากให้มาที่สุด กลับเดินแทรกเข้ามาท่ามกลางวงสนทนาของครอบครัวเขาอย่างไม่สนใจมารยาท ก่อนจะประกาศเรื่องสำคัญที่ไม่มีใครคาดคิด เสียงเธอดังฟังชัด ราวกับตั้งใจให้ทุกคนในงานได้รับรู้ “อย่างที่ฉันพูดออกไปนั่นแหละ คุณต้องรับผิดชอบศศิจันทร์ลูกสาวฉัน ก็ในเมื่อทุกอย่างในคืนนั้นมีหลักฐานที่แน่ชัด คุณไม่มีสิทธิ์โต้แย้งนะคุณวิศรุต! เรื่องงานแต่งฉันจะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง” รังรองยืนเชิดหน้าพูดอย่างไม่อายปากคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า “นี่มันหมายความว่ายังไง เจ้ารุต! แกทำเรื่องแบบนี้ไม่คิดจะปรึกษาครอบครัวเลยหรือไง?!! ชื่อเสียงของอั๊วเสียหายป่นปี้หมดแล้ว!!” เจ้าสัวไพบูลย์กัดฟันถามออกมา เมื่อเห็นท่าทีของภรรยาคู่แข่งทางการค้าเดินเข้ามาประกาศงานหมั้นโต้ง ๆ ทั้งที่ตนเองกับภรรยาไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด "เรื่องนี้ผมจัดการเองครับป๊า" วิศรุตเองก็เดือดดาลเช่นกัน เขาประเมินความบ้าของผู้หญิงคนนี้ต่ำไป เธอถึงเข้ามาประกาศอย่างหน้าด้าน ๆ แบบนี้ได้ "จัดการปิดข่าวเสียด้วย ถ้าแกไม่คิดจะหมั้นจริง ๆ " พูดจบคนเป็นบิดาก็เดินเลี่ยงออกไปทางอื่น เหลือเพียงคุณหญิงอาภาผู้เป็นมารดาที่มองมาอย่างเห็นใจ "คุณแม่ตามป๊าไปเถอะ เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ผมจัดการได้" หญิงสูงวัยพยักหน้าอย่างลังเล แต่เพราะลูกชายของเธอโตแล้ว ไว้เธอค่อยถามเอาทีหลังก็แล้วกัน ทางด้านแพรพรรณนั้นทันทีที่รังรองประกาศเรื่องงานหมั้นเธอก็ตกใจไม่น้อย ความอ่อนไหวและความเสียใจถาโถมเข้ามาหาเธอจนยืนไม่อยู่ ดวงตาสั่นระริกอย่างสับสน หัวใจเต้นผิดจังหวะ ลมหายใจเริ่มขาดห้วง และในที่สุด...ร่างบางก็ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง “กรี๊ดดด!! ตรงนี้มีคนเป็นลมอยู่!! ใครก็ได้!! เรียกรถพยาบาลที!!” คนในงานกรีดร้องขึ้นมาเมื่อเห็นหญิงสาวล้มลงต่อหน้า ก่อนจะรีบเข้ามาประคองร่างไร้สติของแพรพรรณด้วยความตื่นตกใจ ซึ่งวิศรุตเองก็ตกใจไม่ใช่น้อย ยังไม่ทันได้เคลียร์กับตัวการของเรื่อง พอเห็นว่าร่างของคนรักล้มลง เขาก็รีบวิ่งออกมาทันทีก่อนจะรวบร่างบางที่นอนแน่นิ่งขึ้นสู่อ้อมแขนอย่างรวดเร็ว และเดินพาเธอมุ่งหน้าไปยังรถโดยไม่แม้แต่จะสนใจสายตาใครทั้งสิ้น “แพร คุณอย่าเป็นอะไรไปนะ ผมรักคุณนะแพร…” ทันทีที่วิศรุตอุ้มแพรพรรณออกจากงานไป ศศิก็แทบจะดิ้นเร่าอยากจะวิ่งตามทั้งสองคนไป มีเพียงรังรองเท่านั้นที่พูดเตือนสติ รั้งเธอเอาไว้ เพราะหากลูกสาวเธอตามทั้งสองคนไปตอนนี้ เรื่องราวมันจะวุ่นวายมากกว่าเดิม ยังไงเสียเธอก็ประกาศงานหมั้นไปแล้ว แค่รออย่างใจเย็นเท่านั้นเอง ยังดีที่สามีเธอไม่อยู่ตรงนี้ เธอขี้เกียจอธิบายเต็มที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD