1| เอะอะก็จับลาก
"ไปทางไหนแล้ว "
"ไม่รู้ว่ะ เมื่อกี้ยังเห็นหลังไวไวอยู่เลย "
"งั้นแยกกัน "
"เออ "
มือของฉันกระชับสายกระเป๋าเอาไว้แน่นจนเลือดแทบไม่เดิน สองเท้าเกร็งจิกจนฉี่จะราด พยายามทำตัวลีบเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องควบคุมเสียงลมหายใจเอาไว้ให้เบาที่สุด แทบจะกลั้นหายใจเลยก็ว่าได้ คนพวกนี้ชอบวิ่งไล่จับฉันไปให้เจ้านายของพวกมัน ใช่ ฟังไม่ผิด พี่เบิ้มสองสาม สี่ ห้า หก ไม่รู้อะ มีกี่คนก็ไม่รู้ ชอบจับฉันไปให้เจ้านายบ้ากาม ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร! รู้แค่ว่ามันบ้ากาม แล้วก็นิสัยห่ามสุดๆ
แล้วมันก็เป็นคนที่ฉันรู้จักอีกด้วย!
เสียงฝีเท้าไกลออกไปเรื่อยๆ ฉันเริ่มปล่อยลมหายใจออกมาเสียงดัง ออกซิเจนจะไปเลี้ยงสมองไม่ทันอยู่แล้ว ซอกหลืบอันคับแคบทั้งเหม็นแล้วก็สกปรก ฉันกำลังแย่งที่อยู่ของแมลงสาบแล้วก็หนูตัวอ้วนที่เห็นแล้วโคตรยี้
คงไปกันหมดแล้ว มั้ง?
ฉันค่อยๆ ชะโงกหน้าออกมา สอดส่ายสายตาไปโดยรอบเพื่อเช็กความปลอดภัย ไม่เหลือใครแล้ว สัญญาณเริ่มกลับมาเขียวอีกครั้ง ฉะนั้นฉันควรออกจากตรงนี้แล้วรีบกลับบ้าน
ฉันก้าวเท้าฉับๆ ออกจากซอกตึก สายตาไม่อยู่นิ่ง มองไปข้างหน้าสลับกับด้านข้างและด้านหลัง ฉันเหมือนผู้ร้ายหนีตำรวจ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ฉันกำลังหนีลูกน้องของไอ้บ้าโรคจิตที่วิ่งไล่ตามฉันเหมือนกำลังไล่จับลูกแมว พวกนี้เหมือนหมา ดมกลิ่นเก่ง วิ่งเร็ว แต่ สมองยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร เพราะสารอาหารคงไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหมด
...ค่ำมืดป่านนี้แล้ว ฉันยังไม่ได้ซื้อข้าวให้แม่เลย ฉันเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม ป่านนี้แม่คงหิวข้าวแย่แล้ว
"ดึกแล้ว ให้ฉันไปส่งดีกว่า "
กึก!
น้ำเสียงแบบนี้ ใช่เลย! ตัวพ่อมันมาเองเลยเหรอ? ฉันไม่อยากโดนมันลาก ฉันอยากกลับบ้าน
"อย่ามายุ่งกับฉัน " ฉันรีบหันหลังกลับแล้วเตรียมวิ่งหนี แต่ .
พลั่ก!
ตุบ!
"โอ๊ย! " พี่เบิ้มสามตัว เฮ้ย สามคนมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็มายืนขวาง เป็นเหตุทำให้ฉันวิ่งชนแล้วล้มลงไปกองกับพื้น ให้ตายสิ จังหวะนรก!! คนก็นรก!! นรกทั้งหมดนั่นแหละ!!
"หนีเก่งมากเลยนะน้อง " พี่เบิ้มคนแรกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ แสดงว่าเพิ่งวิ่งกลับมา ส่วนไอ้บ้ากามโผล่มาอย่างหล่อไม่ได้ออกแรงเลยสักนิด เออดี หนีแทบตายสุดท้ายก็ไม่รอด
"นี่ มันบ้าอะไรกันเนี่ย "
"เจ้านายพี่อยากได้อะไรก็ต้องได้ น้องอย่าขัดขืนดีกว่า " มันเป็นใคร! อยากได้อะไรก็ต้องได้
"แล้วมันเป็นอะไรทำไมจะต้องสั่งคนมาวิ่งไล่จับผู้หญิงแบบนี้ มันหิวมากเหรอ หิวมากก็ไปซื้อกินดิวะ!! " โมโห โมโหมาก ทั้งเจ็บตัวแล้วก็เจ็บใจ โลกแม่งเหวี่ยงอะไรก็ไม่รู้มาให้ฉัน ดูแต่ละอย่างสิ ชีวิตฉันมันยังไม่แย่่พออีกหรือไง การที่ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยมันยังไม่เลวร้ายมากพอสำหรับฉันอีกเหรอ ไหนจะเรื่องแย่ๆ ภายในบ้านอีก TT
"ลากขึ้นรถ เร็วๆ " มันไม่เคยรู้สึกสะทกสะท้านกับคำพูดของฉันเลยสักนิด มันสั่งลูกน้องหน้านิ่งแล้วเดินขึ้นรถ
ลากขึ้นรถ นี่กูคนนะเว้ย ไม่ใช่แมว!
_____
"ต้องการอะไร?? อยากได้เงินคืนเหรอ ฉันจะได้ไปกดมาคืน หรือว่าจะให้โอนตอนนี้ เอาเลขบัญชีมา พร้อมเพย์ อะไรก็ได้เอามาให้หมด "
"เงียบได้มั้ยไม่มีสมาธิขับรถ "
"ไอ้บ้า ไอ้บ้า ฉันไม่ได้ว่างมานั่งรถเล่นกับนาย ฉันมีงานต้องทำ บอกให้เอาเลขบัญชีมา " ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจ ผมไม่ได้อยากได้เงินคืน สิ่งที่ผมอยากได้คือตัวเธอต่างหาก
เฮ้อ ค่อยยังชั่ว รู้สึกดีชะมัด ผมหันไปมองหน้าเธอแวบนึงแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ
"จำไม่ได้ "
"งั้นก็จอดรถ ตู้เอทีเอ็มอยู่ข้างหน้า ฉันจะกดเงินสดให้ "
"ฉันไม่ถือเงินสด เงินหลายแสนขนาดนั้น มันยัดใส่กระเป๋าฉันไม่หมดหรอกนะ แล้วก็เลิกพูดสักทีฉันปวดหัว "
"งั้นก็ปล่อยฉันไปสิ ลากฉันมาทำไม " ผมมีเหตุผลที่ต้องลากยัยนี่มา มันเป็นเหตุผลที่โคตรไม่น่าจะเป็นเหตุผล ยัยเด็กนี่ชื่อจินนี่ อายุ 19 ปี เป็นพนักงานอยู่บริษัท KM แบรนด์เสื้อผ้าเด็กและคนโตของเมียไอ้ฝุ่น
เธอไม่ได้เรียนต่อเพราะฐานะทางบ้านยากจน ใช้คำว่ายากจน ทำเรื่องกู้เงินเรียนก็ไม่เพียงพอสำหรับค่าเทอม ค่าอยู่ แล้วก็ค่ากิน ประวัติของยัยนี่ผมให้คนไปตามสืบมาหมดแล้ว ผมรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเธอ หรือเปล่าไม่รู้ เธอมีแม่ตาบอด ส่วนพ่อมีครอบครัวใหม่
หลายสัปดาห์ก่อน ผมเมาแล้วก็เผลอไปลวนลามยัยนี่เข้าเพราะเข้าใจผิดว่าเธอคือเด็กขายที่พวกไอ้เดลหามา เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเพราะเมียไอ้ฝุ่นไม่พอใจกับการกระทำของผมมาก ผมก็เลยรับผิดชอบด้วยการส่งเช็กไม่ระบุจำนวนเงินมาให้เธอที่บริษัท จำนวนเงินที่เธอกรอกลงไปมันก็ไม่ใช่น้อยๆ แสนปลายๆ ผมไม่ได้ติดใจอะไรเพราะมันเป็นส่วนที่ผมเต็มใจรับผิดชอบ แต่สิ่งที่ผมติดใจคือ
ทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ ใจของผมมันจะสั่นแรงมาก สั่นจนต้องยกมือขึ้นมากุมหน้าอกเอาไว้ ครั้งนี้ก็อีกเช่นเคย เด็กคนนี้ทำให้ใจผมสั่น ผมก็เลยใช้วิธีห่ามๆ บ้าๆ ตามสไตล์ของตัวเอง สั่งลูกน้องให้ไปตามจับเธอมาให้ แล้วมันก็สำเร็จ
"ฉันมีข้อเสนอให้เธอ "
"ข้อเสนออะไร? "
"มาอยู่กับฉัน ฉันจะให้เงินเดือนมากกว่าที่ทำงานเก่าของเธอสามเท่า แค่มาอยู่กับฉัน "
"ลากฉันมาเพื่อข้อเสนอปัญญาอ่อนเนี่ยนะ นายบ้าหรือเปล่า " ปัญญาอ่อนงั้นเหรอ? เออคงงั้น ผมก็คิดว่ามันปัญญาอ่อนเหมือนกัน ผมพยายามหาทางรักษาแล้วเว้ย แล้วตอนนี้ก็กำลังหาทางอยู่เรื่อยๆ แต่ยิ่งเจอหน้ายัยนี่เท่าไหร่ใจผมแม่งก็สั่นจนทำให้ขาอ่อน หลายครั้งที่ผมต้องถูกลูกน้องหิ้วกลับคอนโดเพราะไอ้อาการบ้าๆ นี่
" ถ้าไม่ตกลง ฉันก็จะตามลากเธออยู่แบบนี้ เอางั้นก็ได้นะ ลูกน้องฉันเยอะ "
"จะบ้าเหรอ จอดรถเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ตกลง จอด ฉันบอกให้จอด "
"แน่ใจว่าจะลง? นี่มันนอกเมืองนะ "
"แม่ฉันยังไม่ได้กินข้าว อย่าเอาแต่ใจตัวเองได้มั้ยวะ! "
"ไม่เอาแต่ใจแล้วจะได้เธอเหรอ ฉันให้เวลากลับไปคิด เจอกันครั้งหน้าหวังว่าฉันจะได้คำตอบ อย่าคิดหนี เพราะหนียังไงก็หนีไม่พ้น "
"ฉันจะแจ้งความ "
" เงินเดือนสามเท่า มีที่อยู่ ที่กิน มีสวัสดิการให้อีกเพียบ แค่เธอมาอยู่ใกล้ฉัน " ผมเลี้ยวรถแล้วขับกลับทางเดิม ตลอดทางผมเงียบ ส่วนเธอก็เงียบ ข้อเสนอของผมมีแต่ได้กับได้
ผมไม่เคยเอาเปรียบใครอยู่แล้ว ร่างกายของผมมันต้องใช้งาน เพื่อทำงานหลายอย่าง ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้กับเธอเพื่อรักษาสมดุลร่างกายตัวเองเอาไว้จนกว่าผมจะหาทางรักษาไอ้โรคบ้าๆ นี้ได้ ถ้าผมหายเมื่อไหร่ ผมยินดีจะปล่อยเธอไป
"ระ รู้จักบ้านฉันได้ยังไง "
"ฉันอยากได้อะไร ก็ต้องได้ ถึงแล้ว เชิญ " ผมยักไหล่ไม่สนใจ บ้านไม้หลังเก่าที่ไม่น่าหลงเหลืออยู่ในเมืองกรุง ยังมีให้ผมได้เห็น บริเวณนี้ไม่ใช่ชุมชนแออัด โดยรอบกว้างพอสมควร ทางเข้าเปลี่ยวนิดหน่อย พื้นที่ถือว่าทำเลทองทำมาหากินได้คล่องเลยล่ะ
"ทำไมจะต้องให้ฉันไปอยู่กับนายด้วย แล้วทำไมจะต้องจ่ายเงินเยอะขนาดนั้นเพื่อฉัน "
"ไม่ใช่เพื่อเธอ เพื่อตัวฉันเองต่างหาก พรุ่งนี้ฉันจะส่งคนไปรับหน้าบริษัท จะบอกอีกเรื่อง มันไม่เกี่ยวกับเช็ก "
ลูกน้องของผมเดินมาเปิดประตูรถเมื่อผมให้สัญญาณ ร่างบางหยิบกระเป๋าบนตักขึ้นมาสะพายจากนั้นก็เดินเข้าบ้านไม้หลังเก่านั่นไป ส่วนผม ก็ยกยิ้มอย่างพอใจ ถึงเวลาที่ผมต้องหาทางรักษาแล้วจบเรื่องอาการบ้าๆ ของตัวเองสักที