7

1012 Words
“ทำไมจะไม่ดี พี่ว่าดีมากเลยแหละ หนูเองก็เป็นเพื่อนกับน้องปลายมาก่อน ใคร ๆ เขาก็รู้ความสัมพันธ์ของเรากันทั้งบริษัท เมื่อก่อนแฟนก็เรียกพี่ว่าพี่เป้ตลอดจำได้ไหม” “จำได้ค่ะ” “ถ้าจำได้ก็ลองเรียกหน่อยสิ” “..พี่เป้” “ก็แค่นี้แหละ ฟังสบายหูกว่าคุณกว่าท่านตั้งเยอะ” “แฟนก็แค่อยากให้ฟังดูเป็นทางการน่ะค่ะ..กลัวเพื่อนร่วมงานจะหาว่าแฟนโอ้อวด แสดงความสนิทชิดเชื้อกับพี่เป้มากเกินไป” “เขาคิดก็ช่างเขาเราไม่ได้ยิน แต่ถ้าเขาพูดให้ได้ยินก็พูดไปเลยว่าหนูกับพี่รู้จักกันมาก่อน แต่ถ้าเขาไม่จบก็ข่มไปเลยว่าจะไปฟ้องพี่” “พี่เป้ก็” เธอทำหน้าเหวอกับคำพูดของเขา แต่พอเห็นเขายิ้มก็ค่อยหัวเราะออกมาอย่างเขิน ๆ “พี่ไม่ชอบให้คนที่พี่รู้จักมาวางตัวเป็นทางการกับพี่หรอกนะ สำหรับพี่แล้วหนูแฟนก็คือคนในครอบครัวคนหนึ่ง ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย” เขาจะคิดว่าเธอเป็นคนอื่นได้ยังไง เพราะเขาคิดแต่อยากจะให้เธอมาเป็นคนใกล้ตัวของเขา อยากเป็นเจ้าของหัวใจเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน “ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูแฟน” เธอยิ้มให้เขา พลอยรู้สึกดีกับความทรงจำเก่า ๆ ที่กลับคืนมา ชายหนุ่มยิ้มตอบ ตั้งใจจะถามทุกข์สุขของเธอ แต่เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขัดจังหวะขึ้นมา ธิมาดารีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพาย “แฟนขอรับโทรศัพท์ได้ไหมคะ” “ตามสบายเลย” “ขอบคุณค่ะ” แล้วกดรับสาย “จ้ะหิรัญ” เธอยิ้มกับโทรศัพท์ด้วยความเขิน เมื่อได้ยินคำพูดของปลายสาย เพราะเขาก็คือคนรักที่คบหาดูใจกันมาได้เกือบปีแล้ว ถึงจะไม่รู้เรื่องราวของเขาสักเท่าไหร่ เพราะเขาไม่เคยพาไปทำความรู้จักกับครอบครัว แต่ก็รู้ว่าเขาทำงานเป็นข้าราชการระดับแปด เป็นหัวหน้าฝ่ายการศึกษาอยู่ที่ทำการเขตใกล้กับที่ทำงาน เธอรู้จักกับเขาเพราะเคยเป็นตัวแทนของบริษัท เอาของบริจาคนำไปมอบให้กับเขา เพื่อนำไปกระจายให้กับเด็กที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ จึงได้แลกนามบัตรกันไว้ ตั้งแต่นั้นเขาก็ติดต่อเธอมาตลอดอย่างสม่ำเสมอ จนตกลงคบหาดูใจกัน ยุทิตย์ทำเหมือนไม่สนใจการคุยโทรศัพท์ของหญิงสาว แต่ความจริงแล้วเขาได้ยินทุกคำพูดที่เธอตอบโต้กับปลายสาย ถึงแม้เธอจะไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากฟังอย่างเดียว แต่สีหน้าและรอยยิ้มที่เธอแสดงออกมานั้น มันดูมีความสุขมากเหลือเกิน จนเขารู้สึกอิจฉาปลายสาย ที่ได้รับความรู้สึกแบบนั้นจากเธอ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงไม่เป็นเขา ธิมาดาบอกวางสายหลังจากคุยได้ไม่นาน เนื้อหาในการสนทนาไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันตามประสาคนคบหากัน แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำ ว่าระหว่างเธอกับเขาคนนั้นมันคือความรักจริงหรือ หรือแค่ความลุ่มหลงแค่ชั่วขณะ เพราะส่วนลึกของความรู้สึกในใจ มันบอกเธอว่าเขามีบางสิ่งที่ปิดบังเธออยู่ แต่เธอก็ไม่ได้ดิ้นรนขวนขวายตามสืบด้วยความอยากรู้ ไม่เคยคิดจะถามเรื่องครอบครัวเขาด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่าตัวเองอาจจะไม่ได้ชอบเขาจริง ๆ เพียงแต่หัวใจเธอยังว่าง เมื่อเขามาสารภาพว่าชอบเธอจึงให้โอกาสเขาก็เท่านั้น ไม่ได้ปฏิเสธหรือตัดรอน และเธอก็ยังไม่เจอข้อเสียของเขาพอที่จะตัดรอนกันได้ ……………….. ก๊อก ๆ ๆ ยุทิตย์ละสายตาจากเอกสาร มองหญิงสาวที่หอบแฟ้มงานเดินเข้ามา “พี่เป้คะ แฟ้มนี้เป็นงานทั้งหมดที่พี่ต้นกับปลายเขาดูแล ส่วนแฟ้มนี้เป็นวาระการประชุมของทุกแผนกที่แฟนแยกไว้ให้เรียบร้อยแล้ว พี่เป้ลองตรวจดูนะคะ ถ้าติดตรงไหนเรียกแฟนได้เลยค่ะ” “ขอบใจจ้ะ” “งั้นแฟนไปทำงานก่อนนะคะ” “จ้ะ” เขามองตามร่างเล็กจนเธอเปิดประตูออกไป แล้วนั่งยิ้มอย่างครึ้มอกครึ้มใจ เวลาที่เธอเรียกเขาว่าพี่เป้แล้วแทนตัวเองว่าแฟน มันฟังดูน่ารักเหลือเกิน เขาหยิบแฟ้มที่เธอเอาเข้ามา ตรวจทานไปเรื่อย ๆ จนถึงหน้าสุดท้าย แล้วสะดุดกับชื่อหนึ่ง “หิรัญ มิ่งมณี หัวหน้าฝ่ายปกครอง” เขานึกถึงชื่อที่ได้ยินเธอเรียกในโทรศัพท์เมื่อเช้านี้ “ใช่คนเดียวกันหรือเปล่านะ” พึมพำด้วยความสงสัย แล้วโทรศัพท์หาเธอทันที “แฟนเข้ามาหาพี่หน่อย” ไม่นานธิมาดาก็เปิดประตูเข้ามา นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา เมื่อเห็นเขาผายมือบอกใบ้ “พี่เป้ไม่เข้าใจตรงไหนคะ” “ขอรายละเอียดโครงการนี้หน่อยได้มั้ย” ธิมาดายื่นมือไปรับกระดาษที่เขายื่นให้มาอ่านคร่าว ๆ “มันเป็นโครงการที่ห้างเราทำมาได้เกือบปีแล้วค่ะ ของทุกชิ้นที่ได้รับบริจาคจากทางลูกค้า เราจะส่งต่อให้ทางหัวหน้าฝ่ายการศึกษาของเขตนี้ เพื่อให้เขากระจายต่อไปยังโรงเรียนหรือชุมชนต่าง ๆ คือเราให้สิทธิ์ในการตัดสินใจแก่ทางเขตไปเลยน่ะค่ะพี่เป้” “แล้วเรารู้ได้ไงว่าส่งต่อถึงฝ่ายทุกครั้ง” “ก็ครั้งแรกที่ไป จริง ๆ แล้วต้องเป็นพี่เป้ แต่พี่เป้ไม่อยู่ แล้วพี่ต้นกับปลายเขาก็ติดงาน แฟนก็เลยไปแทน หลังจากนั้นหน้าที่นี้ก็เลยตกมาเป็นของแฟนตลอดเลยค่ะ แต่ทุกครั้งเราจะมีการถ่ายรูปตอนส่งมอบของเอาไว้นะคะ เดี๋ยวปลายจะไปเอารูปถ่ายมาให้ดู เราติดไว้ที่บอร์ดข่าวสารด้วยนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD