1 30แล้วไง?
30 แล้วไง?
สวัสดีค่ะทุกคนฉันชื่อเคท โล่เสรีรัตนชัย ตอนนี้อายุ29ปีกับอีกสี่เดือน
สถานภาพ: โสด...แบบว่าโสดสนิทโสดมากกกก...โสดสุดๆ แบบนี้มานานมากน่าจะ29.4ปีได้
ใช่...
พวกคุณอ่านไม่ผิดหรอกฉันยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนที่ผ่านมาก็แบบว่ามีแค่คนคุยๆกันแต่พอถึงขั้นจะจริงจังโดนขอเป็นแฟนทีไรฉันก็โบกมือลาพวกเขาทุกที ไม่ใช่ว่าฉันไม่สนใจผู้ชายนะฉันสนใจพวกเขามากแต่ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกว่าทุกคนที่เข้ามาพวกเขาไม่ได้ชอบที่ตัวฉันการเป็นผู้หญิงสวย รวย เซ็กซี่
37-24-35
ทำให้ฉันหาความรักดีๆยากค่ะพูดแล้วก็เซ็ง...
บ้านฉันเป็นครอบครัวคนจีนรุ่นหลังที่อากงโล้สำเภาหอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีนตั้งใจทำมาหากินจนตอนนี้พ่อฉันเป็นทายาทรุ่นที่สองของกิจการร้านวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอารมณ์ไทวัสดุหรือบุญถาวรอ่ะนะมีหลายสาขาในภาคใต้
ป๊าหวังให้ฉันซึ่งเป็นลูกคนโตเรียนบริหารเพื่อจะได้มาช่วยงานที่บ้านแต่ฉันก็หนีไปเรียนแฟชั่นที่อังกฤษและกลับมาเปิดร้านเสื้อแบรนด์Kateที่ยอดขายติดลบมาตั้งแต่เปิดกิจการเรียกว่าทำเองใส่เองวนไป
ตอนนี้ป๊าเข้มงวดกับฉันมากเพราะอยากให้ฉันแต่งงานในปีนี้ให้ได้เลยขยันนัดดูตัวฉันกับบรรดาลูกของเพื่อนๆ ตัวเองซึ่งเป็นอะไรที่น่าอึดอัดที่สุด
ผู้หญิงโสดอายุ30มันผิดตรงไหนกันฟร๊ะ!
รถหรูเลี้ยวเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่แถบชานเมือง สาวสวยสุดเซ็กซี่ในชุดเดรสรัดรูปสีขาวสั้นเสมอน้องสาวก้าวลงมาจากรถเดินตรงเข้ามาในบ้าน ในมือเธอถือกระเป๋าและถุงเสื้อที่เลอะอ้วกของเพื่อนสนิทที่หายตัวไปอย่างลึกลับ
เธอยอมรับว่าตอนนี้เป็นห่วงเพื่อนมากๆ และภาวนาให้มันติดต่อกลับมาให้เร็วที่สุด
"เคท! " เสียงเจ้าสัวองอาจเรียกลูกสาวคนโตที่เดินเข้ามาในบ้านอย่างมีอำนาจ
ใช่แล้ว...นี่ล่ะป๊าจอมโวยวายของฉันเองผู้ชายที่ไม่เคยปล่อยวางเรื่องของฉันเลยสักครั้ง
"ป๊า" หญิงสาวทำหน้าเหนื่อยหน่ายก่อนจะเดินเข้ามาหาอย่างไม่มีทางเลือก
"ป๊าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่างแต่งตัวแบบนี้สั้นจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว" เจ้าสัวองอาจดุลูกสาวเข้าใจดีว่าทำชุดแบบนี้ขายไงถึงไม่มีใครกล้าซื้อ
"โถ่ป๊า...มันเป็นแฟชั่น"
"แฟชั่นบ้าบออะไรป๊าไม่เห็นใครเขาจะใส่กันนอกจากแก" เจ้าสัวมองการแต่งตัวของลูกสาวที่ไม่ต่างจากผู้หญิงนั่งตู้อย่างหน่ายใจ
"ป๊าบ่นแค่นี้ใช่มั้ยเคทไปนอนก่อนนะ" หญิงสาวหนีท่าทางวันนี้ป๊าจะอารมณ์ไม่ดี
"เดี๋ยวก่อน! " ชายสูงวัยรีบเรียก "เรื่องกินข้าวกับอาตี๋ลูกชายเสี่ยส่งแกจะว่ายังไง"
"ป๊า...นี่มันสมัยไหนแล้วเลิกจับคู่ให้เคทซักทีผัวคนเดียวเคทหาเองได้"
"แล้วมันเมื่อไหร่เล่าปีหน้าแกก็30แล้วนะแก่แล้วผู้ชายคนไหนเขาจะมอง"
"ป๊า! ...30แล้วมันยังไงเคทยังไม่แก่ซักหน่อยผู้หญิงอายุเท่าเคทที่ยังหาผัวไม่ได้มีอีกตั้งเยอะแยะไม่ใช่ลูกสาวป๊าคนเดียวซักหน่อย"
"ไม่รู้ล่ะพรุ่งนี้ไปกินข้าวกับลูกเสี่ยส่ง"
"ไม่ไป! "
"ถ้าไม่ไปป๊าจะปิดร้านเสื้อแกซะ! "
"ป๊า!!! " ฉันมองป๊าที่ทำหน้าขึงขัง
นี่เล่นงัดไม้ตายมาต่อรองกันเลยงั้นเหรอรู้ๆ อยู่ว่าฉันรักร้านนี้มากแค่ไหน
"เรื่องนี้ก็อีก...เรียนมาทำไมแฟชงแฟชั่นเปิดร้านก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊งชักหน้าไม่ถึงหลังบอกให้เรียนบริหารเพื่อจะได้มาช่วยงานที่บ้านก็ไม่เอา แกมันเอาแต่ใจทำอะไรไม่คิดถึงหน้าป๊าเลยสักนิดถ้าครั้งนี้แกไม่ฟังป๊าเราได้เห็นดีกันแน่" เจ้าสัวองอาจรัวชุดใหญ่ใส่ลูกสาวคนโต
"ป๊าเคทโตแล้วนะ! "
"แล้วยังไง!...ป๊าจะทำเพราะป๊าตามใจแกมามากแล้ว!"
"งั้นป๊าอยากจะปิดร้านป๊าก็ปิดไปเลยเคทไม่สนยังไงเคทก็ไม่ไปกินข้าวกับลูกชายเสี่ยอะไรนั่นแน่ๆ "
"แกต้องไปปีนี้แกต้องแต่งงาน เจ้าเคนจะได้แต่งงานซะที" เรื่องธรรมเนียมพี่ต้องแต่งก่อนน้องนี่อีกอยากรู้นักว่าใครมันเป็นคนคิดฟร๊ะ!
"ป๊าก็ให้เคนแต่งไปเลยเคทไม่ถือธรรมเนียมอะไรนั่นเลยสักนิด"
"แต่ป๊าถือ! พรุ่งนี้11โมงนะ "
"ไม่ไป!!! " เคทเดินหนี
"ถ้าไม่ไปป๊าจะยึดบัตรเครดิต! "
หยุดกึก...แบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
"โหป๊า...นี่กะจะตัดแขนตัดขาปล่อยให้ลูกสาวคนนี้ตายอย่างทรมานเลยใช่มะ" ฉันหันมองป๊าอย่างเจ็บใจ
ใช่ค่ะทุกคน...ปัจจุบันฉันดำรงชีวิตอยู่ได้เพราะบัตรเครดิตของป๊าก็อย่างที่บอกว่ายอดขายที่ร้านฉันมันติดลบจะเอาเงินจากไหนกินเอาจากไหนจ่ายค่าแรงลูกน้องถ้าไม่ใช่ตังป๊า
"ดื้อด้านแบบแกก็ต้องเจอแบบนี้แหล่ะ"
"ก็ได้...เพื่อบัตรเครดิตหรอกนะ! ...กี่โมงคะที่ไหนคะป๊าเคทจะไปให้ตรงเวลาเลย" เพื่อความอยู่รอดฉันรีบเข้าไปประจบเอาใจป๊าในทันที
เมื่อประจบป๊าเสร็จฉันเดินขึ้นข้างบนตรงไปยังห้องนอนตัวเองในหัวยังหงุดหงิดที่ต้องไปนั่งปั้นหน้ากินข้าวกับคนแปลกหน้าในวันพรุ่งนี้
"อ้าวเจ้...กลับดึกนะวันนี้" เสียงใสๆ ของเคลน้องสาวสุดรักสุดหวงของฉันเอ่ยทัก
"เข้าไปทำอะไรในห้องเจ้อ่ะเรา" ฉันมองเคลงงๆ
"อ๋อพอดีสุรเดชมันหนีมาวิ่งเล่นในห้องเจ้น่ะเคลเลยมาตาม"
"สุรเดช? "
สุรเดชไหนวะเคล? ... ฉันงงกับน้องสาวคนนี้จริงๆ
"อื่ม! ...นี่ไง" เคลยื่นกล่องพลาสติกใสๆ ไปตรงหน้าพี่สาว
"อี๋!....แมงสาบ" ฉันปัดกล่องจากมือเคลด้วยความตกใจ
สุรเดชบ้านพ่อง!...นี่มันแมลงสาบโว๊ยยย!!!...ไอ้เคลนี่แกเพี้ยนถึงขั้นเลี้ยงแมลงสาบแล้วเหรอเนี่ย
"เจ้! ...ทำไรเนี่ยสุรเดชหนีไปเลยเห็นมั้ยกว่าเคลจะจับได้อ่ะ! " เคลหันมาดุฉันท่าทางโมโห
"บ้า!!!...ใครเขาสอนให้เลี้ยงแมงสาบกันห๊ะ! " ฉันท้าวเอวมองเคลอย่างเอาเรื่องเช่นกัน "แกจะรักสัตว์ทุกตัวบนโลกนี้มันย่อมได้แต่แกจะเลี้ยงพวกมันทุกตัวไม่ได้เข้าใจรึเปล่า"
"โว๊ยยย!! แมงสาบๆ " เสียงเคนร้องโวยวายอยู่ในห้อง
"สุรเดช..." เคลหน้าตื่นรีบวิ่งเข้าห้องพี่ชายลืมคำที่พี่สาวพึ่งสอนไปเมื่อครู่เสียสนิท "เฮีย! ...อย่าทำไรสุรเดชนะ! อย่าตี! อยู่นิ่งๆ เลย!!! " เสียงเคลตวาดเคนลั่น
ฉันได้แต่ส่ายหัวกับความเพี้ยนของน้องสาวตัวเองเข้าใจนะว่านางเป็นคนรักสัตว์แต่ถึงขั้นเลี้ยงแมลงสาบนี่ไม่ไหวจริงๆ