ตอนที่ 1 ลูกสาวเสียหาย

1386 Words
“พริกแกง... ยัยพริก พริกแกง!” เสียงคุณรวงข้าว ชัยเดชาร้องเรียกลูกสาวเสียงดัง ปลายเสียงติดไม่พอใจเมื่อตนเองเรียกหลายครั้งแล้วลูกสาวตัวดียังไม่โผล่มาเสียที พริกแกงที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเนื่องจากทำงานบ้านวิ่งหน้าตั้งมาหาผู้เป็นแม่ถามด้วยน้ำเสียงกระหืดกระหอบ “แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ?” พริกแกงเอ่ยปากถาม “ฉันหิว ทำอาหารให้ฉันหน่อย” "ค่ะแม่" พริกแกงละมือจากการทำงานบ้าน เริ่มปรุงอาหารสำหรับคุณรวงข้าง หลังจากที่บ้านถูกยึดไปเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว คุณรวงข้างย้ายสำมะโนครัวเข้ามาอยู่ที่คอนโด แต่น่าแปลกใจที่เธอกลับไม่ให้ลูกสาวคนเดียวนั้นย้ายเข้ามาอยู่ด้วย โดยให้เหตุผลว่าห้องที่มีมันคับแคบ อยู่ด้วยกันแล้วอึดอัด ตั้งแต่ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตคุณรวงข้าวก็เปลี่ยนไป พริกแกงคือลูกสาวคนเดียว แต่กลับได้รับการปฏิบัติราวกับว่าไม่ใช่ลูก พริกแกงจำใจต้องหาที่อยู่ใหม่ ในตอนที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร มืดแปดด้านไปหมดแต่กลับมีเพื่อนสนิทอย่างเรเชลยื่นมือเข้ามาช่วยให้ที่หลับนอนแก่เธอ พริกแกงมักจะเข้ามาหาผู้เป็นแม่ในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยความเป็นห่วง “แม่คะ...หนูย้ายมาอยู่กับแม่ได้ไหม?” เธอลองเอ่ยขออีกครั้ง แม้ทุกครั้งที่ขอจะโดนปฏิเสธก็ตาม “แกอยู่ที่คฤหาสน์อภิวัฒนากูลก็สุขสบายดีอยู่แล้ว จะอยากมาอุดอู้อยู่กับฉันทำไม อยู่สบายดี ๆ ไม่ชอบหรือไง?” “แต่ตอนนี้เรเชลย้ายไปอยู่ที่บ้านคุณเพลิงแล้วนะคะแม่” ตอนนี้เรเชลก็ได้แต่งงานและย้ายไปอยู่ที่บ้านของเพลิงอัคคีผู้เป็นสามี นั่นทำให้เธอรู้สึกลำบากใจในการอยู่ที่คฤหาสน์อภิวัฒนากูลต่อไป “แล้วยังไง? แกก็อยู่มาได้ตั้งนาน แล้วคนที่บ้านนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรแกสักหน่อย” จริงอย่างที่คุณรวงข้าวว่า แม้ไม่มีใครพูด แต่พริกแกงเองก็รับรู้ได้ว่ามีคนไม่อยากให้เธออยู่ อีกประเด็นคือเธอรู้สึกเกรงใจพวกเขา “แม่คะ...เขาไม่ใช่ญาติเราสักหน่อย อีกอย่างหนูเป็นผู้หญิงนะคะ ไปอยู่ที่บ้านเขาแบบนั้นมันก็ดูไม่ดี” เธอพยายามหว่านล้อม “จริงสิ แกพาฉันไปที่นั่นหน่อย” คุณรวงข้าวคิดเรื่องดี ๆ ขึ้นมาได้ เธอคิดหาช่องทางการเงิน “ไปทำไมคะ?” “ฉันบอกให้พาไปก็พาไปสิ จะถามมากความทำไม! ฉันไปแต่งตัวก่อน” คุณรวงข้าวเดินจากไปทิ้งให้พริกแกงนั่งงง สองเท้าของพริกแกงหยุดอยู่ที่หน้าคฤหาสน์อภิวัฒนากูลพร้อมกับผู้เป็นมารดา “ยัยพริก...แกจะยืนบื้ออยู่ทำไม เข้าไปสิ” คุณรวงข้าวผลักลูกสาวให้เดินนำไป เมื่อเข้ามาถึงในบ้าน ก็ได้ยินเจ้าของบ้านทักขึ้น “นึกว่าใคร คุณรวงข้าวนี่เอง” ตั้งแต่พริกแกงย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ เขาไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของคนเป็นแม่ที่คิดจะมาเยี่ยมลูกสาว ผู้หญิงคนนี้ต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอนจึงมาที่นี่ เจ้าสัวบุรินทร์คิด “ฉันขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ” ไม่รอให้เจ้าของบ้านเชื้อเชิญ คุณรวงข้าวก็นั่งลงตรงข้ามเจ้าสัวบุรินทร์โดยอัตโนมัติ “เจ้าสัวเองก็มีลูกสาวใช่ไหมคะ” เธอเริ่มเกริ่น เจ้าสัวบุรินทร์รู้ดีถึงการมาของรวงข้าว และเขาก็สนใจสิ่งที่เธอกำลังจะกล่าว “การที่พริกแกงเข้ามาอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าลูกฉันเป็นผู้หญิง คนอื่นย่อมพูดกันไปต่างๆ นานา ฉันรู้นะคะว่าเราไม่สามารถห้ามไม่ให้ทุกคนพูดได้ ยังไงลูกสาวฉันก็เสียหาย” คุณรวงข้าวร่ายยาว ไม่สนใจแม้พริกแกงจะปราม เธอมักจะได้ยินในคนในแวดวงไฮโซพูดถึงบุตรชายของเจ้าสัวบุรินทร์อยู่บ่อยครั้ง ว่าชายหนุ่มเป็นคนบ้างาน ไม่มีเวลาให้กับผู้หญิง ไม่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนสักที จึงเป็นการดีที่เธอจะเสนอพริกแกงให้แก่เจ้าสัวบุรินทร์ “แล้วยังไงครับ?” เจ้าสัวบุรินทร์นั่งฟังด้วยท่าทีที่สบาย “ลูกสาวคุณเป็นคนชวนให้พริกแกงเข้ามาอยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้ลูกสาวฉันก็เสียหาย” เมื่อมาถึงประโยคนี้เจ้าสัวบุรินทร์เองก็มีคำตอบอยู่ในใจ “คุณรวงข้าวจะบอกว่า...” “ใช่ค่ะ ต้องมีคนรับผิดชอบพริกแกง!” เจ้าสัวบุรินทร์นึกทึ่งกับคำพูดของคนเป็นแม่ที่คิดจะขายลูกสาวกินอย่างหน้าด้าน ๆ “แม่คะ...” พริกแกงเองก็เช่นกันไม่คิดว่าแม่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา “แกอยู่เฉย ๆ ฉันกำลังปกป้องแกอยู่นะ แกไม่อยากสบายหรือไง?”คุณรวงข้าวกระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน ก่อนกล่าวต่อ... “ฉันต้องการให้ทางคุณรับผิดชอบลูกสาวฉัน” เจ้าสัวบุรินทร์ยิ้มกว้าง เขาเองก็ต้องการหาลูกสะใภ้มาแต่งกับลูกชายคนโตที่อายุก็ปาไปเลขสามแล้ว แต่ไม่มีวี่แววว่าจะแต่งงานสักที ซึ่งพริกแกงเองก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเขา อีกอย่างท่านเองก็อยากจะช่วยพริกแกง เพราะไม่รู้ว่าหากตนปฏิเสธไป ไม่แน่ว่าคุณรวงข้าวอาจไปเสนอพริกแกงให้ใครอีก เจ้าสัวบุรินทร์เองก็มั่นใจว่าลูกชายของตนดีพอที่จะเป็นสามีที่ดีให้แก่พริกแกงได้ “ได้สิ ผมกำลังมองหาเจ้าสาวให้ลูกชายคนโตอยู่พอดี” “อย่านะคะคุณลุง” พริกแกงรีบส่ายหัวปฏิเสธอย่างเร็ว “ทำไมล่ะหนูพริก หรือหนูรังเกียจลูกชายลุง?” เจ้าสัวบุรินทร์ถามอย่างสงสัย “ปะ...เปล่าค่ะ พริกเพียงแค่คิดว่าพริกไม่คู่ควรกับคุณเชนทร์ อีกอย่างพริกก็ติดหนี้บุญคุณที่คุณลุงช่วยเหลือพริกมาตลอด” พริกแกงเอ่ยอย่างเกรงใจ อีกอย่างเธอรู้ว่าราเชนทร์คงไม่พอใจเป็นแน่ หากทราบเรื่องนี้เข้า “เรื่องนี้ลุงคงต้องแล้วแต่หนูพริกแล้วกัน” ท่านเองก็ไม่อยากบังคับพริกแกง “ยัยพริก...แกช่วยพูดน้อยๆ ให้เป็นปกติหน่อยได้ไหม” คุณรวงข้าวตำหนิลูกสาวที่ดูจะพูดมากเป็นพิเศษ หล่อนเกรงว่าเจ้าสัวบุรินทร์จะเปลี่ยนใจ “แม่คะ...เรากลับกับเถอะ อย่ารบกวนคุณลุงเลย” พริกแกงรบเร้ามารดา “คุณลุงลืมเรื่องที่แม่พูดเถอะนะคะ พริกขอตัวก่อน” พริกแกงยกมือไหว้เจ้าสัวใหญ่ก่อนจะลากผู้เป็นแม่กลับออกมา เจ้าสัวบุรินทร์มองเด็กสาวที่กลับออกไป นึกสงสารที่พริกแกงไม่เคยได้ใช้ชีวิตเป็นของตนเองเลย “นี่ยัยพริก...แกจะเล่นตัวอะไรนักหนา ห๊ะ!” คุณรวงข้าวเอ็ดลูกสาวเสียงดังเมื่อถูกขัดใจ “แล้วแม่ทำแบบนี้ไปทำไมคะ?” พริกแกงถามอย่างไม่เข้าใจ “แกก็รู้ว่าตั้งแต่พ่อแกเสียไปบ้านก็ถูกยึด เงินก็แทบจะไม่มีใช้ แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง!” คุณรวงข้าวตะคอกกลับ เพราะตนเองเคยอยู่สบายบ้านช่องใหญ่โตพอมาอยู่ห้องนอนคับแคบใช้ชีวิตลำบากก็รับไม่ได้ “หนูก็ให้แม่ใช้ทุกเดือนไงคะ” เงินแทบทุกบาททุกสตางค์พริกแกงแทบจะไม่ได้ใช้เอง เธอยกให้แม่ทั้งหมด “เงินแค่นั้นมันจะไปพออะไร พริก...แกทำเพื่อแม่สักครั้งได้ไหม แกแต่งงานกับคุณเชนทร์มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร นะพริก” คุณรวงข้าวเริ่มอ้อนวอน “แกเชื่อแม่นะ แม่รู้ดีว่าอะไรเหมาะสมกับแก” สาวใหญ่พยายามหว่านล้อมใช้ไม้อ่อนแทน พริกแกงคิดไม่ตกกับสิ่งที่มารดาพูด ราเชนทร์ดูเป็นผู้ชายที่ยากจะเอื้อมถึง และต่อให้เธอรักเขา แต่ยังไงเขาก็ไม่มีวันที่จะชอบคนอย่างเธอ พริกแกงคงไม่กล้าคิดเกินกับเขา ขอแอบรักข้างเดียวแบบนี้ก็พอแล้ว ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD