รุ่งสางในวันต่อมา เพียงแค่ได้ยินเสียงไก่ขันเปลือกตาที่ปิดสนิทของนิรุจน์ก็กะพริบตาลืมขึ้น เขานอนนิ่งมองหญิงสาวที่หลับอยู่ในอ้อมแขน อดไม่ได้ที่จะหอมลงบนเส้นผมที่อยู่แค่ปลายจมูก
"คุณ ตื่นได้แล้วเช้าแล้ว"
"อืม ขอนอนอีกหน่อยนะ"
"ถ้าไม่ลุกผมปล้ำ"
ได้ยินคำว่าปล้ำแก้วตาปรือตาด้วยความง่วงงุนแต่ต้องตกใจเพราะว่าเธอนอนอยู่บนตัวเขานี่แหละบนแขนใหญ่ๆของยักษ์
"อุ๊ย นายมาแต๊ะอั๋งฉันทำไม"
แก้วตาโทษเขาทั้งที่เธอเป็นฝ่ายผิดรีบดันตัวเองจากที่นอนลุกนั่งเตรียมหย่อนขาลงจากเตียง
เขาทำคุณบูชาโทษแท้ๆเมื่อคืนหญิงสาวนอนหนาวจนตัวงอเหมือนกุ้ง ก็รู้อยู่ว่ากลางคืนอากาศที่นี่เย็นถึงขนาดแค่เปิดพัดลมยังหนาวแตนี่เธอเปิดแอร์เสียเย็นฉ่ำ เมื่อเธอหนาวก็เบียดตัวมาหาเขา
แล้วนี่อะไร...
"คุณมากอดผมเองนะ แขนผมชาหมดแล้วเนี่ย"
นิรุจน์ไม่ยอมให้เธอหนีไปได้นึกอยากจะแกล้งคนที่ชอบทำตัวข่มเขาตลอดเวลา ตวัดแขนดึงร่างบางที่ทำท่าจะลุกจากเตียงเข้ามากอด จนเธอล้มบนตัวเขาแล้วกอดไว้ไม่ปล่อยมิหนำซ้ำยังซุกไซ้ปลายจมูกกับแก้มหอมๆทั้งซ้ายขวา ตอหนวดที่เริ่มยาวทำเอาเธอดิ้นพราด
"ปะ ปล่อยนะ ไอ้ยักษ์บ้า"
เขาเป็นอะไรไม่รู้ยิ่งเธอด่าเขายิ่งชอบจากที่อยากแกล้งเขายิ่งรุกหนักขึ้นกดตอหนวดที่สองแก้มอยู่หลายครั้งสลับกับจูบดูดดื่มเสียจนเธออ่อนปวกเปียก เมื่อเขาถอนริมฝีปากออกมองใบหน้าหญิงสาวที่แดงอย่างกับลูกตำลึง
"ว่าไง จะด่าผัวอีกไหม"
แก้วตารวบรวมแรงที่มีอยู่ดิ้นออกจากอ้อมกอดของคนบ้าได้ก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที เพียงแค่เธอปิดประตูห้องน้ำมุมปากของนิรุจน์ก็เหยียดยิ้มออกมาดวงตาคู่คมฉายแววขบขัน จากนั้นก็ลุกออกจากเตียงยืนไปหยุดที่หน้าประตูห้องน้ำเคาะเบาๆ
"นี่คุณ...แต่งตัวเข้าไร่ไม่เอากระโปรงแบบเมื่อวานนะ"
พูดจบเขาเดินไปที่ห้องนอนเล็กอีกห้องที่เคยนอนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินไปดูคุณแม่ดวงแก้วว่าตื่นหรือยัง ป้าจ้อยทำกับข้าวเสร็จหรือยัง ไม่นานแก้วตาก็ออกมาพร้อมกับกางเกงยีนส์เสื้อเชิ๊ตแขนยาวถึงแม้จะเข้ารูปเห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง แต่ก็ยังดีกว่าชุดเดรสอวดผิวสวยที่มันไม่เข้ากับไร่เอาซะเลย
นิรุจน์ยืนรอแก้วตาแต่งตัวพิงอยู่กับประตูรอจนกว่าเธอจะแล้วเสร็จจึงออกไปพร้อมกัน
"ทาครีมกันแดดหรือยัง กลางวันแดดร้อนมากนะ"
"ทาแล้ว"
"หมวกล่ะมีหรือเปล่า"
"ไม่มี ฉันเป็นเจ้าของไร่คงไม่ต้องออกไปตากแดดหรอกมั้ง"
"งั้นใส่หมวกผมก็ได้"
เขาเตือนด้วยความหวังดีแดดที่นี่ร้อนจะตายแล้วจะหาว่าไม่เตือน พูดจบเขายัดหมวกปีกกว้างที่ถือติดมือมายัดใส่มือเธอ
"ให้ยืม"
เมื่อเดินออกจากห้องไปที่โต๊ะอาหารคุณป้าดวงแก้วนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาจึงทำทีเป็นคู่รักหวานแหววขยับโต๊ะให้เมียนั่งบริการอย่างดีพูดจาไพเราะเสนาะหู
"นั่งก่อนที่รัก กินข้าวก่อนเข้าไร่จะได้มีแรง"
พี่ใจกับคุณแม่ดวงแก้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พี่ใจตักข้าวต้มให้ผู้อาวุโสก่อน จากนั้นจะตักให้แก้วตาแต่เขาห้ามไว้
"พี่ใจไม่ต้องครับของคุณแก้วเดี๋ยวผมบริการเอง"
"กี่ทัพพีดีจ๊ะเมียจ๋า"
แก้วตาแยกเขี้ยวใส่ "สอง..."
"สองเองเหรอ เมื่อคืนเราเสียพลังงานไปเยอะน่าจะซักสามทัพพีดีกว่านะ"
ไอ้ยักษ์บ้า...
คุณป้าดวงแก้วเห็นทั้งสองรักใคร่กันดีก็มีความสุข
"กินเยอะๆลูกหนูแก้ว"
เธอเห็นแววตาของคุณป้ากับพี่ใจระยิบระยับอดไม่ได้ที่จะหยิกเขาที่เอวแล้วบิดแรงๆซักที
นิรุจน์ร้องลั่น "โอ๊ว..."
"เป็นอะไรตารุจน์"
"มดน่ะครับคุณแม่ตัวเล็กนิดเดียวแต่ฤทธิ์เยอะชะมัด"
"ก่อนใส่เสื้อก็สลัดดีๆนะคะคุณรุจน์ เดี๋ยวพี่ใจไปดูที่ตู้เสื้อผ้าให้นะคะ"
"ครับ"
แก้วตาไม่อยากพูดมาก เห็นคุณป้ายิ้มดูมีความสุขเธอก็สบายใจ "ทานเยอะๆนะคะคุณป้า อิ่มแล้วออกไปรับวิตามินดีตรงนอกชานบ้างนะคะจะได้แข็งแรง"
"ได้ค่ะ พี่ใจจะพาไปนะคะคุณแก้ว"
เมื่ออาหารมื้อเช้าจบลงทั้งสองเดินลงชั้นล่างเตรียมตัวเข้าไร่ ป้าจ้อยยื่นกระเป๋าเก็บความร้อนในนั้นมีอาหารกลางวันของทั้งสอง
"ข้าวกลางวันค่ะคุณแก้ว และก็ของหวานกับผลไม้นะคะ"
นิรุจน์รับเอามาแล้วตรงดิ่งไปที่รถโฟร์วีลของเขา
"วันนี้เอาคันนี้ไปแอร์เย็นกว่าคันเมื่อวาน"
นิรุจน์รู้ว่าแก้วตาขี้ร้อนจึงเอาคันนี้ไป
ขณะที่นิรุจน์ขับรถออกจากเรือนใหญ่มุ่งหน้าไปที่สำนักงาน จอดรถไว้ใต้ต้นไม้ต้นเดิมข้างสำนักงานด้านหลังเป็นรถลุงหวัดขับตามกันมาติดๆ
เมื่อไปถึงทั้งสองยังไม่ลงจากรถแก้วตาก็ถามขึ้นเสียก่อน เมื่อเห็นคนงานหลายสิบคนอยู่ที่นี่
"พวกเขามารอเราใช่ไหม"
"ก็ใช่น่ะสิ ผมสั่งให้มาเองคุณจำไม่ได้หรือไง"
"จริงด้วย"
"ปะ ลงรถเถอะ เขาน่าจะรอกันนานแล้วเราจะได้ทำความรู้จักกันเสียทีคุณพร้อมนะ"
"ฉันพร้อม"
เมื่อลงจากรถแล้วลุงหวัดก็นำทั้งสองคือแก้วตากับนิรุจน์ไปยืนอยู่ที่หน้าคนงานที่ตั้งแถวรอรับ
คนงานรู้หน้าที่รีบยกมือไหว้เจ้าของไร่ แก้วตายิ้มตอบพร้อมกับรับไหว้แบบเป็นกันเอง นิรุจน์ยืนอยู่ข้างๆแก้วตาเป็นร่มเงาให้เธอทำให้แก้วตารู้สึกอุ่นใจที่มีเขาอยู่ข้างๆถัดไปเป็นลุงหวัดที่ตามประกบนิรุจน์ไม่ยอมห่าง
ลุงหวัดกระซิบที่ด้านหลังของนิรุจน์
"วันนี้นายสนพาลูกคนสนิทมาด้วย ขวามือของนายสนชื่อไอ้ทิวสมุนมือขวาของนายสน ถัดไปเป็นไอ้เจี๊ยบ ไอ้ลมทั้งหมดเป็นคนของนายสน"
"อ้อ สามคนเองเหรอ"
"สามคนครับที่แสบสุด คุณรุจน์ดูเอาเองแล้วกันครับ"
นิรุจน์เป็นฝ่ายพูดก่อน เขาจับมือนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆให้เตรียมพร้อม
"ผมนิรุจน์ทุกคนคงรู้จักกันดีแล้วตามประกาศของคุณแม่ดวงแก้วผมจะมาเป็นผู้จัดการไร่ของที่นี่ ส่วนคุณแก้วตาที่ยืนข้างผมเป็นเจ้าของไร่คนใหม่ของไร่ทรัพย์สักทองแทนคุณแม่ดวงแก้วเพราะท่านชรามากแล้ว"
"ต่อไปนี้ใครมีอะไรก็ให้มาคุยกับฉันหรือคุณแก้วตาก็ได้"
"ได้ทุกเรื่องเลยเหรอคุณรุจน์"
"ได้...ทุกเรื่อง"
เสียงคนงานชายคนเดิมที่มีท่าทีไม่เกรงกลัวใดๆ สบตากับนิรุจน์ก่อนแล้วมองมาที่เจ้าของไร่พูดว่า
"งั้นพวกเราขอขึ้นค่าแรงกับมีประกันสังคมได้ไหม"
นิรุจน์อยากให้แก้วตาพูดบ้างสะกิดที่แขนเธอ เป็นเจ้าของไร่ไม่ใช่เอาแต่นิ่งยืนสวยๆอย่างเดียวจะให้เขาที่เป็นแค่ผู้จัดการไร่ออกนอกหน้าทุกเรื่องไม่ได้ แก้วตารู้แล้วเธอก็เรียนการบริหารมาเหมือนกัน
"เรื่องประกันสังคมฉันจะทำให้แต่เรื่องค่าแรงฉันขอดูตามผลประกอบการก่อน ฉันสัญญาว่าต่อไปจะให้ความเป็นอยู่ที่ดีกับทุกคนแน่นอน"
"เฮ..."
คนงานฟังเจ้าของไร่พูดแบบนี้ก็ชอบใจใหญ่ปรบมือกันเกรียวกราวรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง
แก้วตาอยากฝากอีกเรื่อง "ขอแค่ทุกคนรักไร่ของเราช่วยกันทำงาน ทุกอย่างที่ขอฉันสัญญาว่าได้แน่นอน"
นิรุจน์เลิกคิ้วไม่คิดว่าลูกคุณหนูจะรู้จักปลุกใจคนงานเป็น นึกว่าจะแค่แต่งตัวสวยๆบนเครื่องบินแล้วยิ้มหวานเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหารให้กับคนรวยแค่นั้น
นี่เธอก็ไม่ได้ไก่กานี่...
แก้วตาเพิ่งตระหนักตอนนี้เองว่าค่าแรงขั้นต่ำของคนใช้แรงงานมันช่างต่ำเตี้ยเรี่ยดินเสียยิ่งกระไร
ทางด้านคนงานเมื่อได้รับคำสัญญามั่นเหมาะจากเจ้าของไร่ ทุกคนจึงเงียบไม่มีใครพูดอะไรอีกจนกระทั่งนิรุจน์ปล่อยให้ทุกคนไปทำงาน
นายสนเดินออกจากกลุ่มคนงานมาหานิรุจน์
"คุณรุจน์กับคุณแก้วตาจะเข้าไร่ไหมครับ"
"ไปสิ ผมต้องไปอยู่แล้วแต่ขอช่วยคุณแก้วตาดูเอกสารทั้งหมดก่อน พี่สนเอาเอกสารมาครบแล้วใช่ไหม"
"ครบครับ"
"พี่สนให้เสมียนมาหาผมด้วยผมจะสั่งงาน ส่วนพี่สนจะไปทำอะไรก็ทำไม่ต้องมาที่นี่ถ้าผมไม่เรียก"
"อีกอย่างนะ อาทิตย์หน้าผมจะย้ายเสมียนมาอยู่ใกล้ๆสำนักงานจะได้สั่งงานได้สะดวกส่วนพี่สนอยู่ที่เดิมนั่นแหละ"
"อ้อ...อีกอย่างนะ ช่วยให้คนงานตัดริกิ่งไม้ให้ดีนะ ผมจะให้ช่างมาติดตั้งกล้องวงจรปิด ทุกจุด"
ไม่รู้หรอกว่าเขาจะไปเหยียบตาปลาใครเข้าแต่เขาจะทำ ล้างบางให้หมด
หัวหน้าสนเดินออกจากหน้าสำนักงานหัวเสีย
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กูต้องสั่งสอนซะหน่อยแล้ว"
เมื่อหัวหน้าสนไปแล้วนิรุจน์ทิ้งภาระเรื่องเอกสารทั้งหมดไว้ให้แก้วตา รอจนกว่าเสมียนจะมาอยู่เป็นเพื่อนแก้วตาแล้วเขาก็ออกไปดูไร่กับลุงหวัด
"เมียจ๋า คุณก็มีการศึกษาลองดูๆเรียงๆให้มันเข้าท่าเข้าทางเดี๋ยวผมมา"
"นายจะไปไหน"
"ยักษ์จะไปฆ่าแจ็ค"
ออนไรท์
♥️ ยักษ์จะไปฆ่าแจ็คแล้วค่ะ ตอนหน้าขอบู๊นิดหน่อยนะคะ เอาใจช่วยพี่รุจน์ด้วยนะคะ
พี่รุจน์สายโหดบอกเลย แต่หวานก็เป็นนะคะ
👉ตอนต่อไปยักษ์ผู้ฆ่าแจ็คต่อตอนที่2ค่ะ