ตอนที่9.ยักษ์ผู้ฆ่าแจ็ค

1755 Words
รุ่งสางในวันต่อมา เพียงแค่ได้ยินเสียงไก่ขันเปลือกตาที่ปิดสนิทของนิรุจน์ก็กะพริบตาลืมขึ้น เขานอนนิ่งมองหญิงสาวที่หลับอยู่ในอ้อมแขน อดไม่ได้ที่จะหอมลงบนเส้นผมที่อยู่แค่ปลายจมูก "คุณ ตื่นได้แล้วเช้าแล้ว" "อืม ขอนอนอีกหน่อยนะ" "ถ้าไม่ลุกผมปล้ำ" ได้ยินคำว่าปล้ำแก้วตาปรือตาด้วยความง่วงงุนแต่ต้องตกใจเพราะว่าเธอนอนอยู่บนตัวเขานี่แหละบนแขนใหญ่ๆของยักษ์ "อุ๊ย นายมาแต๊ะอั๋งฉันทำไม" แก้วตาโทษเขาทั้งที่เธอเป็นฝ่ายผิดรีบดันตัวเองจากที่นอนลุกนั่งเตรียมหย่อนขาลงจากเตียง เขาทำคุณบูชาโทษแท้ๆเมื่อคืนหญิงสาวนอนหนาวจนตัวงอเหมือนกุ้ง ก็รู้อยู่ว่ากลางคืนอากาศที่นี่เย็นถึงขนาดแค่เปิดพัดลมยังหนาวแตนี่เธอเปิดแอร์เสียเย็นฉ่ำ เมื่อเธอหนาวก็เบียดตัวมาหาเขา แล้วนี่อะไร... "คุณมากอดผมเองนะ แขนผมชาหมดแล้วเนี่ย" นิรุจน์ไม่ยอมให้เธอหนีไปได้นึกอยากจะแกล้งคนที่ชอบทำตัวข่มเขาตลอดเวลา ตวัดแขนดึงร่างบางที่ทำท่าจะลุกจากเตียงเข้ามากอด จนเธอล้มบนตัวเขาแล้วกอดไว้ไม่ปล่อยมิหนำซ้ำยังซุกไซ้ปลายจมูกกับแก้มหอมๆทั้งซ้ายขวา ตอหนวดที่เริ่มยาวทำเอาเธอดิ้นพราด "ปะ ปล่อยนะ ไอ้ยักษ์บ้า" เขาเป็นอะไรไม่รู้ยิ่งเธอด่าเขายิ่งชอบจากที่อยากแกล้งเขายิ่งรุกหนักขึ้นกดตอหนวดที่สองแก้มอยู่หลายครั้งสลับกับจูบดูดดื่มเสียจนเธออ่อนปวกเปียก เมื่อเขาถอนริมฝีปากออกมองใบหน้าหญิงสาวที่แดงอย่างกับลูกตำลึง "ว่าไง จะด่าผัวอีกไหม" แก้วตารวบรวมแรงที่มีอยู่ดิ้นออกจากอ้อมกอดของคนบ้าได้ก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที เพียงแค่เธอปิดประตูห้องน้ำมุมปากของนิรุจน์ก็เหยียดยิ้มออกมาดวงตาคู่คมฉายแววขบขัน จากนั้นก็ลุกออกจากเตียงยืนไปหยุดที่หน้าประตูห้องน้ำเคาะเบาๆ "นี่คุณ...แต่งตัวเข้าไร่ไม่เอากระโปรงแบบเมื่อวานนะ" พูดจบเขาเดินไปที่ห้องนอนเล็กอีกห้องที่เคยนอนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินไปดูคุณแม่ดวงแก้วว่าตื่นหรือยัง ป้าจ้อยทำกับข้าวเสร็จหรือยัง ไม่นานแก้วตาก็ออกมาพร้อมกับกางเกงยีนส์เสื้อเชิ๊ตแขนยาวถึงแม้จะเข้ารูปเห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง แต่ก็ยังดีกว่าชุดเดรสอวดผิวสวยที่มันไม่เข้ากับไร่เอาซะเลย นิรุจน์ยืนรอแก้วตาแต่งตัวพิงอยู่กับประตูรอจนกว่าเธอจะแล้วเสร็จจึงออกไปพร้อมกัน "ทาครีมกันแดดหรือยัง กลางวันแดดร้อนมากนะ" "ทาแล้ว" "หมวกล่ะมีหรือเปล่า" "ไม่มี ฉันเป็นเจ้าของไร่คงไม่ต้องออกไปตากแดดหรอกมั้ง" "งั้นใส่หมวกผมก็ได้" เขาเตือนด้วยความหวังดีแดดที่นี่ร้อนจะตายแล้วจะหาว่าไม่เตือน พูดจบเขายัดหมวกปีกกว้างที่ถือติดมือมายัดใส่มือเธอ "ให้ยืม" เมื่อเดินออกจากห้องไปที่โต๊ะอาหารคุณป้าดวงแก้วนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาจึงทำทีเป็นคู่รักหวานแหววขยับโต๊ะให้เมียนั่งบริการอย่างดีพูดจาไพเราะเสนาะหู "นั่งก่อนที่รัก กินข้าวก่อนเข้าไร่จะได้มีแรง" พี่ใจกับคุณแม่ดวงแก้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พี่ใจตักข้าวต้มให้ผู้อาวุโสก่อน จากนั้นจะตักให้แก้วตาแต่เขาห้ามไว้ "พี่ใจไม่ต้องครับของคุณแก้วเดี๋ยวผมบริการเอง" "กี่ทัพพีดีจ๊ะเมียจ๋า" แก้วตาแยกเขี้ยวใส่ "สอง..." "สองเองเหรอ เมื่อคืนเราเสียพลังงานไปเยอะน่าจะซักสามทัพพีดีกว่านะ" ไอ้ยักษ์บ้า... คุณป้าดวงแก้วเห็นทั้งสองรักใคร่กันดีก็มีความสุข "กินเยอะๆลูกหนูแก้ว" เธอเห็นแววตาของคุณป้ากับพี่ใจระยิบระยับอดไม่ได้ที่จะหยิกเขาที่เอวแล้วบิดแรงๆซักที นิรุจน์ร้องลั่น "โอ๊ว..." "เป็นอะไรตารุจน์" "มดน่ะครับคุณแม่ตัวเล็กนิดเดียวแต่ฤทธิ์เยอะชะมัด" "ก่อนใส่เสื้อก็สลัดดีๆนะคะคุณรุจน์ เดี๋ยวพี่ใจไปดูที่ตู้เสื้อผ้าให้นะคะ" "ครับ" แก้วตาไม่อยากพูดมาก เห็นคุณป้ายิ้มดูมีความสุขเธอก็สบายใจ "ทานเยอะๆนะคะคุณป้า อิ่มแล้วออกไปรับวิตามินดีตรงนอกชานบ้างนะคะจะได้แข็งแรง" "ได้ค่ะ พี่ใจจะพาไปนะคะคุณแก้ว" เมื่ออาหารมื้อเช้าจบลงทั้งสองเดินลงชั้นล่างเตรียมตัวเข้าไร่ ป้าจ้อยยื่นกระเป๋าเก็บความร้อนในนั้นมีอาหารกลางวันของทั้งสอง "ข้าวกลางวันค่ะคุณแก้ว และก็ของหวานกับผลไม้นะคะ" นิรุจน์รับเอามาแล้วตรงดิ่งไปที่รถโฟร์วีลของเขา "วันนี้เอาคันนี้ไปแอร์เย็นกว่าคันเมื่อวาน" นิรุจน์รู้ว่าแก้วตาขี้ร้อนจึงเอาคันนี้ไป ขณะที่นิรุจน์ขับรถออกจากเรือนใหญ่มุ่งหน้าไปที่สำนักงาน จอดรถไว้ใต้ต้นไม้ต้นเดิมข้างสำนักงานด้านหลังเป็นรถลุงหวัดขับตามกันมาติดๆ เมื่อไปถึงทั้งสองยังไม่ลงจากรถแก้วตาก็ถามขึ้นเสียก่อน เมื่อเห็นคนงานหลายสิบคนอยู่ที่นี่ "พวกเขามารอเราใช่ไหม" "ก็ใช่น่ะสิ ผมสั่งให้มาเองคุณจำไม่ได้หรือไง" "จริงด้วย" "ปะ ลงรถเถอะ เขาน่าจะรอกันนานแล้วเราจะได้ทำความรู้จักกันเสียทีคุณพร้อมนะ" "ฉันพร้อม" เมื่อลงจากรถแล้วลุงหวัดก็นำทั้งสองคือแก้วตากับนิรุจน์ไปยืนอยู่ที่หน้าคนงานที่ตั้งแถวรอรับ คนงานรู้หน้าที่รีบยกมือไหว้เจ้าของไร่ แก้วตายิ้มตอบพร้อมกับรับไหว้แบบเป็นกันเอง นิรุจน์ยืนอยู่ข้างๆแก้วตาเป็นร่มเงาให้เธอทำให้แก้วตารู้สึกอุ่นใจที่มีเขาอยู่ข้างๆถัดไปเป็นลุงหวัดที่ตามประกบนิรุจน์ไม่ยอมห่าง ลุงหวัดกระซิบที่ด้านหลังของนิรุจน์ "วันนี้นายสนพาลูกคนสนิทมาด้วย ขวามือของนายสนชื่อไอ้ทิวสมุนมือขวาของนายสน ถัดไปเป็นไอ้เจี๊ยบ ไอ้ลมทั้งหมดเป็นคนของนายสน" "อ้อ สามคนเองเหรอ" "สามคนครับที่แสบสุด คุณรุจน์ดูเอาเองแล้วกันครับ" นิรุจน์เป็นฝ่ายพูดก่อน เขาจับมือนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆให้เตรียมพร้อม "ผมนิรุจน์ทุกคนคงรู้จักกันดีแล้วตามประกาศของคุณแม่ดวงแก้วผมจะมาเป็นผู้จัดการไร่ของที่นี่ ส่วนคุณแก้วตาที่ยืนข้างผมเป็นเจ้าของไร่คนใหม่ของไร่ทรัพย์สักทองแทนคุณแม่ดวงแก้วเพราะท่านชรามากแล้ว" "ต่อไปนี้ใครมีอะไรก็ให้มาคุยกับฉันหรือคุณแก้วตาก็ได้" "ได้ทุกเรื่องเลยเหรอคุณรุจน์" "ได้...ทุกเรื่อง" เสียงคนงานชายคนเดิมที่มีท่าทีไม่เกรงกลัวใดๆ สบตากับนิรุจน์ก่อนแล้วมองมาที่เจ้าของไร่พูดว่า "งั้นพวกเราขอขึ้นค่าแรงกับมีประกันสังคมได้ไหม" นิรุจน์อยากให้แก้วตาพูดบ้างสะกิดที่แขนเธอ เป็นเจ้าของไร่ไม่ใช่เอาแต่นิ่งยืนสวยๆอย่างเดียวจะให้เขาที่เป็นแค่ผู้จัดการไร่ออกนอกหน้าทุกเรื่องไม่ได้ แก้วตารู้แล้วเธอก็เรียนการบริหารมาเหมือนกัน "เรื่องประกันสังคมฉันจะทำให้แต่เรื่องค่าแรงฉันขอดูตามผลประกอบการก่อน ฉันสัญญาว่าต่อไปจะให้ความเป็นอยู่ที่ดีกับทุกคนแน่นอน" "เฮ..." คนงานฟังเจ้าของไร่พูดแบบนี้ก็ชอบใจใหญ่ปรบมือกันเกรียวกราวรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง แก้วตาอยากฝากอีกเรื่อง "ขอแค่ทุกคนรักไร่ของเราช่วยกันทำงาน ทุกอย่างที่ขอฉันสัญญาว่าได้แน่นอน" นิรุจน์เลิกคิ้วไม่คิดว่าลูกคุณหนูจะรู้จักปลุกใจคนงานเป็น นึกว่าจะแค่แต่งตัวสวยๆบนเครื่องบินแล้วยิ้มหวานเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหารให้กับคนรวยแค่นั้น นี่เธอก็ไม่ได้ไก่กานี่... แก้วตาเพิ่งตระหนักตอนนี้เองว่าค่าแรงขั้นต่ำของคนใช้แรงงานมันช่างต่ำเตี้ยเรี่ยดินเสียยิ่งกระไร ทางด้านคนงานเมื่อได้รับคำสัญญามั่นเหมาะจากเจ้าของไร่ ทุกคนจึงเงียบไม่มีใครพูดอะไรอีกจนกระทั่งนิรุจน์ปล่อยให้ทุกคนไปทำงาน นายสนเดินออกจากกลุ่มคนงานมาหานิรุจน์ "คุณรุจน์กับคุณแก้วตาจะเข้าไร่ไหมครับ" "ไปสิ ผมต้องไปอยู่แล้วแต่ขอช่วยคุณแก้วตาดูเอกสารทั้งหมดก่อน พี่สนเอาเอกสารมาครบแล้วใช่ไหม" "ครบครับ" "พี่สนให้เสมียนมาหาผมด้วยผมจะสั่งงาน ส่วนพี่สนจะไปทำอะไรก็ทำไม่ต้องมาที่นี่ถ้าผมไม่เรียก" "อีกอย่างนะ อาทิตย์หน้าผมจะย้ายเสมียนมาอยู่ใกล้ๆสำนักงานจะได้สั่งงานได้สะดวกส่วนพี่สนอยู่ที่เดิมนั่นแหละ" "อ้อ...อีกอย่างนะ ช่วยให้คนงานตัดริกิ่งไม้ให้ดีนะ ผมจะให้ช่างมาติดตั้งกล้องวงจรปิด ทุกจุด" ไม่รู้หรอกว่าเขาจะไปเหยียบตาปลาใครเข้าแต่เขาจะทำ ล้างบางให้หมด หัวหน้าสนเดินออกจากหน้าสำนักงานหัวเสีย "ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กูต้องสั่งสอนซะหน่อยแล้ว" เมื่อหัวหน้าสนไปแล้วนิรุจน์ทิ้งภาระเรื่องเอกสารทั้งหมดไว้ให้แก้วตา รอจนกว่าเสมียนจะมาอยู่เป็นเพื่อนแก้วตาแล้วเขาก็ออกไปดูไร่กับลุงหวัด "เมียจ๋า คุณก็มีการศึกษาลองดูๆเรียงๆให้มันเข้าท่าเข้าทางเดี๋ยวผมมา" "นายจะไปไหน" "ยักษ์จะไปฆ่าแจ็ค" ออนไรท์ ♥️ ยักษ์จะไปฆ่าแจ็คแล้วค่ะ ตอนหน้าขอบู๊นิดหน่อยนะคะ เอาใจช่วยพี่รุจน์ด้วยนะคะ พี่รุจน์สายโหดบอกเลย แต่หวานก็เป็นนะคะ 👉ตอนต่อไปยักษ์ผู้ฆ่าแจ็คต่อตอนที่2ค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD