ตอนที่ 8
ดาลันดามองตามร่างสูงโปร่งของรุ่นพี่คนดังด้วยแววตาตระหนกตกใจ หันรี้หันขวางหมุนตัวไปมาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะรีบก้าวขาเล็กๆวิ่งตามไปขึ้นรถทันที ท่ามกลางสายตาของใครหลายคนที่มองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น บ้างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแอบถ่ายเพื่อกระจายข่าวลงตามกลุ่มต่างๆ ว่ารุ่นพี่คนดังสุดฮอตกับรุ่นน้องสาวปีหนึ่งสุดป็อบของบรรดารุ่นพี่ผู้ชายในคณะ นั่งรถไปด้วยกัน
นัยน์ตาคมกริบเหลือบมองหญิงสาวข้างตัวที่กำลังนั่งตัวเกร็ง แทบจะกลั้นหายใจตลอดทางที่เข้ามานั่งในรถตั้งแต่เขาเคลื่อนรถคันหรูออกมาจากหน้าตึกคณะด้วยซ้ำ
“หึหึ ไม่เหนื่อยเหรอ หื้อ... หายใจบ้างก็ได้” หญิงสาวกะพริบตามองเขาเล็กน้อย เห็นใบหน้าหล่อราวกับเทพปั้นมีรอยยิ้มที่มุมปาก
“เห้อ....หนูเกร็งค่ะ...ว่าแต่พี่จะพาหนูไปไหนเหรอคะ” เธอถอนหายใจยาวออกมาทันที ที่ได้ยินเขาพูดกับเธอแบบเป็นกันเอง ความหวั่นกลัวก็เริ่มหายไป แต่ความเกร็งก็ยังคงมีอยู่
“ไปทานข้าว...ไปไหม”
“เอ่อ...จะดีเหรอคะ...เอ่อคือ...เราไม่รู้จักกัน ไปทานข้าวด้วยกันมันแปลกๆ”
“แต่ขึ้นมานั่งในรถพี่แล้วนะ นี่ยังไม่รู้จักอีกเหรอ หึหึ” ใบหน้าของหญิงสาวนิ่งค้าง สตั้นไปหลายวินาทีก่อนจะหัวเราะออกมาแก้เก้อเมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้วก็นึกตลกตัวเอง วิ่งขึ้นรถตามเขามาเฉยเลย รู้จักน่ะพอรู้ เพราะเขาเป็นรุ่นพี่คนดัง แต่ถึงกับเคยได้คุย หรือได้เจอกันในระยะใกล้แบบนี้ก็ไม่เคยเลยสักครั้ง
“เอ่อ...นั่นสิคะ ขึ้นรถตามพี่มาเฉยเลยแหะๆ”
“หึ งั้นไปทานข้าวกัน”
“เอ่อ...งั้นลันขอโทรบอกคุณพ่อก่อนนะคะ” ชายหนุ่มละสายตาจากถนนเบื้องหน้ามามองใบหน้าสวยหวานที่ตนรู้สึกถูกใจ ยิ่งได้มองใกล้ๆก็ยิ่งรู้สึกชอบ โดยเฉพาะรอยยิ้มสดใสนั้นทำให้เขารู้สึกมองเพลินได้ไม่เบื่อ
ดาลันดาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าหลังจากคุยโทรศัพท์กับพ่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว หัวใจจู่ๆก็เต้นแรง ถูกความประหม่าเข้าจู่โจมในความรู้สึก ยิ่งห้องโดยสารเงียบไม่มีเสียงเพลงหรือการพูดคุย เธอยิ่งรู้สึกวางตัวไม่ถูก พยายามใช้สายตาเหลือบมองคนข้างๆที่กำลังใช้สมาธิในการขับรถ มองคิ้วหนาที่เรียงตัวสวยกับดวงตากลมโต ขนตายาวยิ่งกว่าผู้หญิง จมูกโด่งเป็นสัน กับริมฝีปากของเขา มันช่างเหมาะเจาะเข้ากับใบหน้าของเขาแทบไม่มีที่ติ
เคลย์ตันรอจังหวะที่รถติด ซ่อนใบหน้าซบกับแขนของตนเองที่ยืดยื่นจับกับพวงมาลัยหันมาแอบมองใบหน้าของหญิงสาว ที่หันมาสบตาเขาเข้าพอดี พร้อมกับหัวเราะแห้งๆแก้เก้อให้เขา
“รถติดนะคะ” เสียงเล็กพยายามหาเรื่องชวนคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบมากนัก ยิ่งมาเจอสายตาของเขาที่ลอบจ้องมองมา หัวใจก็เต้นแรง ตื่นเต้นจนวางสีหน้าไม่ถูก
“หึ หิวหรือยัง”
“เอ่อ...ไม่ค่ะ”
“ดูหนังไหม”
“แหะๆ ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ไม่ๆๆ ไม่อย่างเดียวเลย หึ” ชายหนุ่มอดแซวไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีเขินอายของอีกฝ่ายก็นึกเอ็นดู
“เกรงใจค่ะ ทานข้าวอย่างเดียวดีกว่า”
“หึ ต้องกลับบ้านกี่โมง”
“ไม่เกินหนึ่งทุ่มค่ะ” เคลย์ตันฟังแล้วยิ้มไม่พูดอะไร พอดีกับที่ไฟจราจรขึ้นสีเขียวพอดี เขาถึงหันไปสนใจขับรถเพื่อที่จะพาเธอไปเดินห้างสรรพสินค้าดิไอคอนที่อยู่ไม่ไกลนัก
เคลย์ตัน ศาตนันท์ เดินนำหญิงสาวเข้ามาในห้างโดยมีสายตาของใครหลายคนแอบชำเลืองมอง บ้างก็ก้มโค้งทำความเคารพ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาหาหรือทักทายเขา แม้กระทั่งเขาพาเธอเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่ค่อนข้างราคาแพง หญิงสาวที่เดินตามมาติดๆกลับหยุดเดิน มีท่าทีลังเลประหม่า ไม่กล้าที่จะเดินตามเขาเข้าไป
“ทานที่นี่เหรอคะ”
“อืม ทำไม ไม่ชอบหรอ” คิ้วเข้มเลิกสูง หันกลับมาถาม คนที่กำลังละล่ำละลักตอบเขา สีหน้าเลิกลั่กเล็กน้อย
“ค่ะ... เอ่อ...ไม่ค่ะ... ทานได้ค่ะ”
“งั้นก็เข้าไปในร้านกัน” พูดแค่นั้นเขาก็เดินนำหญิงสาวเข้ามาในร้านญี่ปุ่นชื่อดัง ที่มีพนักงานออกมารอรับพร้อมก้มโค้งคำนับอย่างนอบน้อมสุภาพ พาเดินนำไปยังห้องที่มีบาร์ขนาดใหญ่ มีเชฟคอยยืนต้อนรับอยู่สองคน พร้อมกับพนักงานที่ยืนคอยอยู่ผายมือ เดินพาไปนั่งยังเก้าอี้ที่ติดกับบาร์สำหรับเสิร์ฟอาหาร
ดาลันดามีอาการเกร็งเล็กน้อยเมื่อได้เข้ามานั่ง พยายามใช้สายตากวาดมองรอบๆห้อง ก่อนจะหยิบเมนูที่เขายื่นมาให้จากมือถือของเขาซึ่งใช้วิธีโหลดเมนูและสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่น
“อยากทานอะไร”
“เอ่อ....” พยายามกวาดสายตามองหาเมนูอาหารที่ตัวเองพอจะทานได้
“ที่นี่เขาเสิร์ฟเป็นคอร์ส” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยกระซิบบอก พร้อมกับขยิบตาให้เธอหนึ่งครั้ง ทำคนมองใจสั่นระรัวแทบจะหยุดหายใจ
พี่เขาหล่อมากจริงๆ ยิ่งได้มองใกล้ๆ เธอยิ่งอยากกลั้นใจตายให้ได้จริงๆ!
ไม่นานอาหารที่อยู่ในคอร์สที่เขาเลือกไว้แต่แรกก็เริ่มทยอยออกมาเสิร์ฟ โดยเริ่มที่เวลคั่มดริ้ง และตามมาด้วยยูซุผสมน้ำผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น ก่อนจะตามมาด้วยอาหารที่ช่วยเปิดต่อมรับรสอย่างสาหร่ายจุนไซจากโอกินาว่าผสมผสานกับเยลลี่ มาในรูปแบบสวยงามจนเธอถึงกับอึ้งมองตาค้างไปหลายวินาที
“ไม่ทานล่ะ”
“อ่อค่ะ” เธอตักคำนั้นใส่ปากด้วยท่าทีลังเลใจ ไม่คุ้นลิ้นเพราะไม่เคยทานอาหารแบบนี้มาก่อน จนชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างลอบมองสีหน้าคนที่กำลังเคี้ยวด้วยความขบขัน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่อร่อยเหรอ”
“หึหึ อร่อยค่ะ แต่รสชาติแปลกๆ” ไม่นานอาหารอย่างที่สองก็นำมาเสิร์ฟโดยเชฟยอดฝีมือที่ทำให้เราดูแบบซึ่งหน้า ให้เห็นถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบและขั้นตอนอันน่าทึ่งที่ทำให้หญิงสาวตาลุกวาว ด้วยความตื่นตาตื่นใจ เป็นปูทาราบะเสิร์ฟมาพร้อมกับส้มและโคร็อกเกะราดด้วยซอสคัตสึสูตรพิเศษของทางร้าน ทำให้ดาลันดาถึงกับนั่งอึ้งกับรสชาติไม่คุ้นลิ้นแต่กลับอร่อยเกินกว่าที่จินตนาการไว้มาก
ทุกเมนูต่างๆค่อยทยอยทำแล้วยกมาเสิร์ฟ จนเมนูสุดท้ายที่เป็นเมนูของหวาน ชาร้อนจากชิสึโอกะเสิร์ฟพร้อมกับชูครีมและไอศกรีมสดที่มีด้านล่างเป็นบิสกิตให้ความกรุบกรอบ ยิ่งทำให้รู้สึกทานเท่าไหร่ก็ทานไม่อิ่ม จนเขาหันมาหัวเราะเบาๆกับท่าทีตื่นเต้นดีใจมีความสุขของหญิงสาวที่ดูจะชื่นชอบเมนูขนมหวานมากเป็นพิเศษ
“ชอบเหรอ ทานหมดเลย”
“ค่ะ อร่อยมากเลยค่ะ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“อืม งั้นทานของพี่ด้วยสิ พี่ไม่ค่อยชอบของหวานเท่าไหร่”
“ได้เหรอคะ ขอบคุณนะคะพี่...เอ่อ”
“หื้อ??” คิ้วหนาเลิกสูงขึ้น เมื่อเห็นคำพูดของเธอหยุดชะงักไป
“นั่งทานข้าวด้วยตั้งนาน ยังไม่รู้ชื่อพี่เลยค่ะ” เธอหัวเราะแห้งเอ่ยบอกความจริงที่ทำให้เคลย์ตัน ถึงกับอึ้งไปหลายนาทีเมื่อได้ยินว่าเธอไม่รู้จักว่าเขาชื่ออะไร นึกอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่ที่ทำได้เพียงแค่ยิ้มและหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆเท่านั้น
“หึหึ แล้วกัน พี่ก็นึกว่าหนูรู้จักชื่อพี่อยู่แล้ว” หญิงสาวถึงกับหน้าซีดเล็กน้อยเพราะกลัวว่าเขาจะโกรธ รีบเอ่ยขอโทษ
“หนูขอโทษค่ะ หนูไม่รู้ชื่อพี่จริงๆ แต่หนูรู้ว่าพี่ดังมากเลยนะคะ เพื่อนหนูชอบพี่หลายคนเลย”
“หึ แต่เราไม่รู้จักพี่”
“เอ่อ...ไม่รู้แค่ชื่อค่ะ แต่เคยเห็นหน้า”
“เคลย์ตัน เรียกพี่ว่าเคลย์ตัน”
“ค่ะ พี่เคลย์ตัน หนูจะจำชื่อพี่ไว้ ไม่ลืมแน่ๆค่ะ” รอยยิ้มพิมพ์ใจฉีกยิ้มสดใสให้กับคนตรงหน้า ที่ทำให้เขาถึงกับนิ่งงันไปชั่วขณะ ก่อนจะแสร้งกระแอมกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง หันไปหยิบถ้วยน้ำชาใกล้มือยกขึ้นจิบแทน