ตอนที่ 11-2

1613 Words
กรีนและพิชชา พาดาลันดา ขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งตัวชุดใหม่ เป็นเดรสสั้นรัดรูปสีกรม คล้องคอเผยแผ่นหลังขาวเนียนด้วยโบว์สีขาวขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกถึงทั้งน่ารักในแบบลูกคุณหนู และเซ็กซี่เบาๆ ในคนเดียวกัน “มานี่ เดี๋ยวฉันทำผมให้” พิชชาที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงลุกจากหน้าโซนโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมกับหวีแปรงหรือเครื่องม้วนผม “ฉันจะทำให้เธอที่สวยอยู่แล้ว สวยสะบัดขึ้นไปอีก” หนุ่มร่างอรชรหยิบจับเรือนผมที่นุ่มสลวยจับขึ้นแบ่งเป็นช่อๆแล้วค่อยม้วน ก่อนจะทำการสางผมให้ลอนที่จับตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อนสยายตัวออกจากกัน ยีผมตรงการศีรษะเล็กน้อยให้ดูทุยขึ้น แล้วค่อยมัดรวบยกสูงเป็นหางม้า ผูกด้วยโบว์สีขาว พลิกตัวเพื่อนไปมาสองสามรอบ ก่อนจะดีดนิ้วเปาะด้วยความพอใจ “นี่แกจะพามันไปคาเฟ่เหรอไง ที่เราจะไปนั่นน่ะร้านเหล้านะ” กรีนหันมาโวยใส่เพื่อน “เอ๊าอีนี่ ก็มึงเสือกโยนชุดนี้มาให้มันใส่ จะให้กูไปแต่งยังไงล่ะ นอกจากทำให้มันสวยเป็นลูกคุณแทนเนี่ย” “ก็ปกติมันใส่โป๊ที่ไหนล่ะฉันก็ให้ใส่ชุดนี้สิ เออๆขี้เกียจเถียงละ รีบไปเถอะ พายมันไปรอที่ร้านแล้วเนี่ย” กรีนรีบตัดบท เพราะไม่อยากกล่าวความยาวมากกว่านี้จะกลายเป็นเถียงกันไม่จบ ทั้งสามจึงได้พากันออกจากห้องไปร้านที่ทุกคนนัดหมายว่าจะไปเจอกัน Tonic Bar ในเวลาสองทุ่ม บริเวณด้านหน้าทางเข้าหนาแน่น คับคั่งไปด้วยรถของแขกที่มาเที่ยวในร้าน กลุ่มรถซุปเปอร์คาร์ แรมโบกีนี่สีแดง ตามด้วยสีเหลือง ขาว และดำ เลี้ยวเข้ามา พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเป็นเอกลักษณ์ จอดเรียงกันบริเวณด้านหน้าร้านท่ามกลางสายตาของผู้คนที่เดินไปมา ด้วยความสนใจ ด้วยราคารถที่ค่อนข้างสูง ผู้คนต่างก็อยากจะเห็นหน้าเจ้าของรถแต่ละคันว่าจะหล่อเท่ขนาดไหน โซเรน บรู๊คลิน อีสตัน ก้าวลงจากรถแทบจะพร้อมกันมาหยุดยืนรอ เคลย์ตันที่ก้าวลงจากรถรั้งท้ายสุดแต่ก็เดินนำทั้งสามคน ผ่านผู้คนและพนักงานในร้านที่ต่างก้มโค้งทำความเคารพ เดินเข้าไปในร้านด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใด ขึ้นมายังชั้นสองคนร้าน เดินเข้ามานั่งโซนประจำที่วันนี้จะคึกครื้นกว่าทุกครั้ง เพราะน้องๆในคณะของเคลย์ตัน ขอจัดเลี้ยงกันที่ร้านของเขา จึงแบ่งโซนให้ทุกคนได้สังสรรค์กัน ไม่ปะปนกับแขกคนอื่น “วันนี้คนเยอะ น้องๆในคณะมันมาสังสรรค์กัน พวกมึงไม่ว่าไรนะ” “หึหึ กูไม่ว่าหรอก ได้เจอเด็กคณะมึงมีแต่แจ่มๆทั้งนั้น” อีสตันทายาทสายการบิน เจ้าของผมสีเทา ลูกเสี้ยวอิตาลี ญี่ปุ่น ไทย จีน เอ่ยตอบอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆก็คิดเห็นไม่ต่างกัน นานๆได้มาเที่ยวหลังจากสอบเสร็จ ก็ควรจะคึกครื้นกันหน่อยให้สมกับที่เคร่งเครียดมาหลายวัน “ว่าแต่มึงเถอะ ปิดจ๊อบแล้วเหรอวะ เด็กคนนั้นน่ะ” “คนไหน” โซเรนเลิกคิ้วสูงหันไปถาม บรู๊คลิน “เด็กปีสองที่มึงควงไปมัลดีฟส์ด้วยคราวก่อน” “อืม เบื่อละ แม่งงี่เง่าเอาแต่ใจด้วย กูรำคาญ หึ... ถามแต่กู ถามไอ้เคลย์ตันดีกว่า แม่งเลิกกับเด็กที่เป็นดาวมหาลัยนั่นแล้วเหรอวะ เล่นใหญ่เล่นโต เป็นข่าวดังทั้งมหาลัย แต่กูเห็นแม่งไปควงเด็กปีสามอยู่วันก่อน” “หึหึ อืม...ปิดจ็อบละ” คนถูกพาดพิงตอบรับอย่างง่ายๆ สีหน้านิ่งขรึมตามนิสัย “โหว อะไรวะ ของพรีเมี่ยมขนาดนั้น มึงปล่อยเร็วไปหรือเปล่า ยังไม่ถึงเดือนเลยนะเว้ย” “เด็กไปหน่อยว่ะ กูไม่อยากได้อารมณ์เดียวกับยายเซียล คนเดียวกูก็ปวดหัวละ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าไม่ยี่หระต่อสิ่งรอบข้าง ก่อนจะกระดกน้ำจากแก้วในมือจนหมด “หึหึ กูว่าไม่ใช่หรอก แม่งอ้าง มันปิดดิลแล้วมากกว่า” โซเรนหัวเราะออกมาอย่างรู้ทัน ในขณะที่ดาลันดา กรีน และพิชชาที่เดินเข้ามาในโซนวีไอพี พอดี ซึ่งยังไม่มีใครขึ้นมานอกจากกลุ่มของเคลย์ตัน คนอื่นๆส่วนใหญ่ไปรวมตัวกันเต้นสนุกอยู่บริเวณด้านล่างหน้าเวที บางคนยังมาไม่ถึง แต่เพราะดาลันดาซึ่งวันนี้ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มีเรื่องกังวลในใจ เพื่อนทั้งสองจึงพาเดินขึ้นมาด้านบนหวังจะได้นั่งพักผ่อน ฟังเพลงสบายๆเงียบๆ แต่เสียงพูดคุยกอปรกับเรื่องที่ได้ยิน ขณะที่กำลังจะเดินผ่านไปกลับทำให้ต้องชะงักหยุดฟัง จนได้ยินทุกอย่างจากปากของเขาเองกับหูโดยไม่ต้องไปนั่งคิดเออเองอย่างที่แล้วมา ดาลันดากัดริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะเดินก้มหน้าผ่านโต๊ะของเคลย์ตัน โดยที่ตอนแรกเขายังไม่ทันสังเกตเห็น แต่พอบรู๊คลินซึ่งหันหน้ามาจึงเห็นเข้าพอดี หันไปสะกิดเตือนเพื่อนที่กำลังยกแก้วขึ้นดื่ม ทำให้ชายหนุ่มเหลือบสายตาไปมองเห็นร่างบางระหงเดินผ่านโต๊ะเขาไปนั่งยังโต๊ะที่อยู่ห่างออกไปจากโต๊ะของกลุ่มพวกเขาพอสมควร “หึหึ เกมส์!” อีสตันพูดสั้นๆ มุมปากยกยิ้มชอบใจ ได้เห็นเพื่อนหัวเสียเล็กๆ มันก็เป็นภาพที่น่าดูพอสมควร “มึงว่าน้องเขาได้ยินเปล่าวะ” “หน้าซีดขนาดนั้น ไม่ได้ยินก็แปลกละ” “แต่ถ้าได้ยิน ก็น่าจะมาตีหัวมันหน่อยนะ นี่ปล่อยผ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยว่ะ” “ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย” ท่าทีไม่ยีหระ สายตาที่มองมาก็เลยผ่าน ไม่ได้หันไปมองอีกด้านหนึ่งเท่าไหร่ พยายามสนใจแต่เรื่องที่คุยในโต๊ะ จนเวลาเริ่มดึก กลุ่มคนที่เต้นอยู่ด้านล่างก็เริ่มทยอยขึ้นมายังชั้นบน รุ่นน้องรุ่นพี่หลากหลายชั้นปีเริ่มมาถึง บรรยากาศจึงเริ่มคึกคักมีแต่เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะคละเคล้ากับเสียงเพลง “นั่งเงียบเลยน้องลัน วันนี้ไม่สนุกเหรอคะ” พี่วี หรือ ทวีวัฒน์ รุ่นพี่ปีสาม เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะที่อีกสามสาวพากันลุกไปเต้น เลยถือโอกาสที่เธอนั่งเงียบๆคนเดียวเข้ามาทักถือโอกาสทำความรู้จัก เพราะปกติแล้วเธอเป็นดาวมหาวิทยาลัยมีทั้งเพื่อนและรุ่นพี่คอยล้อมหน้าล้อมหลัง แต่วันนี้กลับเอาแต่นิ่งๆไม่พูดไม่จา สีหน้าเศร้าซึมเหม่อลอยไม่ร่วมสนุกกับใครทั้งนั้น “สนุกค่ะ แต่ลันแค่ปวดหัว” “งั้นเหรอ อยากออกไปสูดอากาศข้างนอกไหม ในนี้อึดอัด ไปไหมพี่ออกไปเป็นเพื่อน” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่วี ลันนั่งเงียบๆตรงนี้ดีอยู่แล้วค่ะ” “งั้นให้พี่นั่งเป็นเพื่อนนะ” หญิงสาวไม่ตอบหรือปฏิเสธ เพียงแค่หยิบแก้วน้ำแตงโมปั่นที่สั่งไว้ยกขึ้นมาดื่ม “น้องลันไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรอ” “ไม่ค่ะ ลันดื่มไม่เป็น” “งั้นหัดไหม เดี๋ยวพี่สั่งเป็นค็อกเทล เอาแบบเบาๆละกันจะได้ไม่เมา” รุ่นพี่หนุ่มหันไปโบกมือเรียกพนักงานโดยไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ เมนูเซ็กซ์ออนเดอะบีสเป็นเมนูค็อกเทลที่เขาเลือกให้เธอได้ลอง “ลองชิมดูสิ หวานนะ อร่อยด้วย” “อืม....” ท่าทีลังเลเล็กน้อย ไม่อยากดื่มแต่ก็กลัวเสียน้ำใจของรุ่นพี่ เธอยกแก้วก้านที่มีน้ำสีสวย ตกแต่งอย่างดี ยกขึ้นจิบเล็กน้อย สัมผัสรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ กับรสชาติไม่คุ้นลิ้น “อร่อยไหม” “อร่อยค่ะ” “งั้นก็ดื่มเยอะๆ จะได้หายเครียด” ทวีวัฒน์ยกยิ้มดีใจ รู้สึกคิดถูกที่ตัวเองกล้าจะเข้ามาทักรุ่นน้องสาว หลังจาก แอบชอบ แอบปลื้มมานาน จนไม่กล้าเข้าหาเพราะข่าวลือว่าเธอกำลังคบหากับรุ่นพี่ปีสี่คนดังทำให้เขาไม่กล้าพอ ที่จะทักทายทำความรู้จัก แต่พอวันนี้เขาสังเกตเห็นว่ารุ่นน้องสาวคนดัง กับรุ่นพี่คนนั้นไม่แม้แต่จะทักทาย พูดคุยหรือมองหน้ากันเลยสักนิด มันทำให้เขาคิดได้ว่า หรือข่าวลือนั้นอาจจะไม่เป็นความจริงก็ได้ “ที่นั่งมึงอยู่ตรงนี้เหรอ” เสียงเข้มห้วนจัดดัง’ขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อครู่จืดเจื่อนลงทันที สะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวนั่งหลังตรงตัวเกร็ง “กูถาม!” “เปล่าครับ” ทวีวัฒน์เหลือบตาขึ้นสบตาคนที่จ้องมองมานิ่งๆ ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากแต่เขากลับรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก “งั้นพี่กลับไปนั่งที่โต๊ะก่อนนะ” “ค่ะ” เธอตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่ยินดียินร้ายอะไร จนเขาคนนั้นลุกออกจากโต๊ะไปแล้ว เธอก็ไม่ได้หันไปมองชายร่างสูงอีกคนที่ยืนมองเธอนิ่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD