ตอนที่ 9
พอถึงเวลาหมดคาบเรียนในช่วงเที่ยงสองสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็รีบหันกลับมาหาคนที่กำลังเริ่มทยอยเก็บของใส่กระเป๋า เตรียมตัวไปทานข้าวเที่ยง
“ยังไง แกจะไปทานข้าวกับพี่เขาเหรอ”
“ไม่รู้”
“อะไรมาไม่รู้ยะ ก็ได้ยินว่าเขาชวนเธอไปกินข้าว”
“ก็เขาบอกว่าไปเจอหน้าคณะ ก็ตามนั้นละมั๊ง” ตอบด้วยสีหน้าไม่มั่นใจนัก เพราะไม่อยากคิดหวังอะไรไปเอง ทั้งๆที่ใจนั้นก็อดรู้สึกใจเต้นและดีใจไม่น้อย
“ลำไยชะนี” พิชชาเหลือบค้อนใส่เพื่อนสาว ก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองเดินฉุดแขนพายออกไปรอเพื่อนทั้งสองที่ยังเก็บของไม่เสร็จที่หน้าประตู แต่ก็ต้องชะงักตาค้างไปเล็กน้อย พลางหันมาส่งสายตาให้กับเพื่อนอีกสองคนที่กำลังเดินมา
“มีอะไร” กรีนถามด้วยสีหน้าสงสัย ก่อนชะโงกหน้าออกมานอกห้องเพื่อดูในสิ่งที่ทำให้เพื่อนสาวเธอ มีสีหน้าท่าทางแบบนั้น แต่เมื่อได้พิสูจน์ด้วยตาตัวเอง ก็ต้องรีบหันกลับมาหาเพื่อนอีกคนด้วยสีหน้าแตกตื่นไม่แพ้กับเพื่อนสองคนก่อนหน้า
“ลัน แกมาดูนี่สิ” จับมือคนที่ยังยืนงงให้เดินตามออกมานอกห้อง
ดาลันดายืนตัวแข็งไปทันทีเมื่อสายตาสบประสานกับชายหนุ่มตรงหน้า ที่กำลังยืนพิงกำแพงอยู่บริเวณหน้าห้องเรียน ในมือกำลังกดเล่นโทรศัพท์รอฆ่าเวลาระหว่างเธอเดินออกมา ท่ามกลางเสียงฮือฮาของทุกคนที่ไม่คิดว่ารุ่นพี่คนดังสุดฮอตประจำมหาวิทยาลัยจะมาอยู่หน้าห้องที่เป็นชั้นเรียนสำหรับน้องปีหนึ่ง
“พี่เคลย์ตัน มาทำอะไรเหรอคะ”
“มารอเราไง ไปทานข้าวกันไหม”
“เอ่อ..ที่ไหนเหรอคะ”
“อยากทานไหนล่ะ ไปทานห้างข้างนอกไหม”
“อืม แต่ลันมีเรียนตอนบ่ายโมงกลัวกลับมาเรียนไม่ทันค่ะ” ได้ยินคำตอบแบบนั้นเขาก็นิ่งไปเล็กน้อย
“งั้นอยากทานที่ไหน”
“โรงอาหารได้ไหมคะ ใกล้ๆด้วย” ชายหนุ่มคนดังนิ่งไปทันที เพราะตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งถึงปีสี่ ยังไม่เคยได้ทานอาหารที่มหาวิทยาลัยเลยสักครั้ง
“อืม ได้สิ” คำตอบรับของเขา ทำให้ใบหน้าสวยปรากฏรอยยิ้มหวานด้วยความดีใจ
“ชวนเพื่อนลันไปทานด้วยได้ไหมคะ” เขาเหลือบสายตามองเพื่อนของหญิงสาวอีกสามคนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบรับน้ำเสียงในลำคอเสียงดังไม่มากนัก เพราะเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวายเท่าไหร่ ยิ่งกับคนไม่รู้จักเขายิ่งไม่อยากสุงสิงด้วย
“อืม ได้สิ”
สายตาคนทุกคนในโรงอาหารคณะต่างมองมาที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่เดินนำหน้าหญิงสาวเข้ามาในโรงอาหารกันแทบจะเป็นตาเดียว
“นั่งตรงนั้นดีไหมคะ คนไม่เยอะด้วย” เธอชี้ไปที่อีกด้านของโรงอาหาร คนยังไม่ค่อยพลุกพล่านมากนัก ร่างสูงมองตามทิศทางเธอชี้ชวนให้ดูก่อนจะพยักหน้าตกลงเดินตามเธอไปนั่งโดยไม่พูดอะไร พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ
“พี่เคลย์ตันอยากทานอะไรคะ เดี๋ยวลันจะไปซื้อมาให้ค่ะ” หญิงสาวขันอาสาที่จะไปซื้อข้าวด้วยตัวเอง เพราะแอบรู้สึกเกรงใจที่ชวนเขามานั่งทานอาหารที่โรงอาหารแทนการไปรับประทานที่ห้างสรรพสินค้าอย่างที่เข้าใจตั้งใจไว้
“พี่ทานแบบลันก็ได้ แต่ไม่ให้พี่ไปด้วยเหรอ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ตรงนั้นคนเยอะ เบียดคนด้วย เดี๋ยวพี่ไม่ชอบ” เขามองหน้าหวานแล้วได้แต่นิ่งไปหลายวินาที
“พี่ไปด้วยดีกว่า อยากรู้ว่าจะสั่งอะไรให้พี่ทาน” เธอมองรอยยิ้มมุมปากของเขาด้วยหัวใจเต้นแรง ใบหน้าขึ้นเลือดฝาด แก้มแดงหูแดงจนเขานึกขำ รอจนเธอเรียกสติตัวเองได้ถึงได้เดินตามเธอไปเลือกซื้อข้าว ซึ่งเริ่มมีคนเบียดเสียดกันมากพอสมควร เพราะเป็นช่วงพักเที่ยงบรรดานักศึกษาจึงเริ่มทยอยกันมาหาอะไรทาน
“ทานอะไรดีคะพี่เคลย์ตัน ก๋วยเตี๋ยวไหมคะ หรือข้าวแกงดี” เธอชี้นิ้วไปที่สองร้านซึ่งอยู่ติดกัน มองสีหน้าลังเลของเขาแล้วนึกขำอยู่ในใจ
ไฮโซอย่างเขา จะทานข้าวแกงได้ไหมเนี่ย
“อืม หนูทานอะไรล่ะ”
“ข้าวแกงค่ะ ลันจะทานผัดหน่อไม้ไก่กับไข่ดาวแล้วก็พะโล้”
“งั้นเอาแบบลัน”
“งั้นสั่งเป็นกับข้าวแยกนะคะ ดีไหม”
“อืม อะไรก็ได้” เขาตอบตัดรำคาญ เพราะตัวเองไม่เคยได้ลองทานอะไรแบบนี้มาก่อน ให้สั่งเองก็ไม่เคยสั่ง จึงยืนมองเธอหันไปชี้ไม้ชี้มือ บอกกับแม่ค้าเสียงเจื้อยแจ้ว
ข้าวเปล่าสองจานมีไข่ดาวกรอบๆไข่แดงไม่สุก โปะบนข้าวสวยร้อนๆโดยหญิงสาวเป็นคนถือมาวางบนโต๊ะ ในขณะร่างสูงใหญ่ถือถาดที่มีผัดหน่อไม้ กับพะโล้หมูสามชั้น เดินตามมาวางลงบนโต๊ะที่มีอีกสามสาวนั่งรออยู่ก่อนแล้ว แม้จะอึดอัดแต่เขาก็เลือกจะวางสีหน้านิ่งเฉย ไม่หันไปยิ้มหรือพูดคุยอะไร เพียงแค่มองใบหน้าสวยหวานที่นั่งยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้ามเขาเท่านั้น
“ทานเลยไหมคะ”
“อืม” เขาตอบรับ นั่งมองเธอตักผัดหน่อไม้ใส่จานข้าวตัวเอง แถมยังมีน้ำใจตักใส่จานให้เขาด้วย
“ร้านนี้อร่อยมากเลยนะคะ ลันซื้อทานบ่อย ว่าแต่ปกติพี่เคลย์ตันชอบทานอะไรเหรอคะ”
“มัวแต่พูด...ทานข้าวเลอะแล้วเห็นไหม” เขาไม่ตอบในสิ่งที่เธอถาม แต่กลับยื่นมือมาที่ใบหน้าของเธอใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดเม็ดข้าวที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากเธอเบาๆ ท่ามกลางเสียงหวีดร้องจากคนรอบข้างที่เฝ้ามองดูอยู่ ร่างเล็กถึงก้มหน้าหลบสายตาเขา หัวใจเต้นแรง สะท้านเขินอายกับสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เขาทำให้ เสหลบสายคู่คมที่จ้องมองอยู่แล้ว ก้มหน้าก้มตาตักอาหารเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ยแก้เขิน