2

1551 Words
“ผมยินดีรับหนูดีเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายตอนนี้เลย ถ้าคุณต้องการแบบนั้น” ประโยคของพจน์ทำให้จินตนายิ้มกริ่ม อย่างน้อยก็คงจะได้ค่าสินสอดอีกก้อนหนึ่ง สำหรับพจน์เงินทองคือของนอกกาย เขาจัดการทุกอย่างตามที่พูด จดทะเบียนสมรสกับดรุณีถูกต้องตามกฏหมายและให้เงินจินตนาไปอีกก้อน พร้อมด้วยสัญญาอีกฉบับที่ไม่ให้อีกฝ่ายมายุ่งวุ่นวายกับดรุณีอีก ดรุณีเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าใบน้อยเดินไปขึ้นรถของพจน์ด้วยความรู้สึกใจหาย บ้านหลังน้อยของบิดาที่เธอต้องจากไป มันทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจไม่น้อย “ไปได้แล้ว” พจน์ดึงกระเป๋าเสื้อผ้าของเด็กสาวไปวางบนรถ ก่อนจะเปิดประตูรถให้ ดรุณีขึ้นไปนั่งบนรถที่ค่อยๆ เคลื่อนออกไปอย่างเชื่องช้า เธอหันกลับไปมองบ้านหลังน้อยที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็ก จินตนาไม่ได้เดินมาส่ง ท่านคงดีอกดีใจกับเงินอีกก้อนที่ได้จากพจน์ “หิวหรือยัง” เสียงขรึมๆ ที่เอ่ยถามทำให้ดรุณีสะดุ้ง หันไปมองซีกหน้าคมเข้มของเขา “ไม่คิดเลยนะว่าจินตนาจะทำกับหนูดีแบบนี้” เขาพูดเสียงขรึมดังเดิม พจน์เป็นคนพูดน้อยแต่จิตใจดี เธอรู้เพราะว่าเขาไปมาหาสู่กับบิดาโดยตลอด ก่อนที่บิดาจะเสียชีวิต “น้าจินไม่ให้หนูดีเรียนต่อด้วยค่ะ” ดรุณีก้มหน้ามองมือตัวเองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “อยากเรียนต่อเหรอ” พจน์เอ่ยถามความประสงค์ของเด็กสาว “คงไม่ได้เรียนแล้วค่ะ หนูดียังเป็นหนี้อาพจน์อยู่อีกตั้งหลายล้าน” ดรุณีพูดอย่างเศร้าใจ “หักล้างกันได้ ผัวเมียกัน” ประโยคของพจน์ทำให้ดรุณีหน้าแดงลามไปถึงใบหู “เอ่อ... จริงๆ อาพจน์ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคะ” เธอพูดอย่างเกรงใจ “แบบไหน” พจน์เอ่ยถาม เพราะเขาทำไปตั้งหลายอย่างเลยไม่แน่ใจว่าเธอหมายถึงเรื่องไหน “หมายถึงการแต่งงานน่ะค่ะ” “ถ้าไม่ทำแบบนั้นแม่เลี้ยงของหนูดีจะยอมปล่อยหนูดีมาเหรอ ดีไม่ดีพาไปขายให้เสี่ยคนอื่นอีก คนไหนผีพนันเข้าสิงยากที่จะกลับเนื้อกลับตัว” พจน์คิดว่าหนทางนี้คือการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด “หนูดีขอบคุณอาพจน์มากนะคะที่ทำเพื่อหนูดีขนาดนี้” เธอยกมือไหว้เขา ขอบคุณเขาจากใจ “อย่าคิดมากเลย พ่อของหนูดีเคยมีบุญคุณกับอามากนะ อาช่วยเหลือหนูดีแค่นี้ถือว่าตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ” พจน์บอกให้เด็กสาวคลายใจ อย่าได้คิดมากเรื่องนี้อีก “อาพจน์เสียเงินตั้งหลายล้าน” ดรุณีพูดอย่างใจหาย เขาเสียเงินจำนวนมากเพราะต้องการช่วยเหลือเธอ “เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้” เขาเลี้ยวรถเข้าไปยังร้านอาหารริมทาง “หิวหรือยัง” พจน์เอ่ยถาม “หิวนิดหน่อยค่ะ” ตั้งแต่เช้าเธอยังไม่ได้กินอะไร ไม่สิต้องบอกว่าตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้กินอะไร เธอกินอะไรไม่ลงเพราะกำลังจะโดนเอาไปขาย มันเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องหาทางเอาตัวรอดทุกวิถีทาง หลังจากคำตอบนั้นเธอก็ต้องอับอายกับเสียงท้องน้อยๆ ที่ร้องประท้วงว่ากำลังหิว “ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาเอ่ยถามขณะจอดรถหน้าร้านอาหาร “ตั้งแต่เมื่อวานค่ะ” “แล้วไม่หิวหรือไง” “ตอนนั้นไม่ค่อยหิวค่ะ เพราะว่าเครียด” “ตอนนี้หายเครียดหรือยัง” “เครียดกว่าเดิมค่ะ” “หือ...” พจน์ครางอย่างไม่เข้าใจ เขาเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ชอบอ้อมค้อมอะไรให้มากความ จึงอยากให้เธอพูดออกมาว่ายังมีเรื่องอะไรต้องเครียดอีก “คือหนูดีไม่รู้จะทำตัวยังไงดีค่ะ” “ทำตัวยังไงดีคือยังไง” เขางงกับประโยคของเธอ “หนูดีเป็นเมียอาพจน์แล้ว เลยไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงน่ะค่ะ” ประโยคของเธอทำให้เขาเข้าใจ “ทำตัวปกติ เคยทำยังไงก็ทำอย่างนั้น” เขาเดินนำเข้าไปในร้านอาหาร “ขนมจีนซาวน้ำร้านนี้อร่อย” “อาพจน์จำได้ด้วยเหรอคะว่าหนูดีชอบกิน” “แต่ควรจะกินข้าวก่อน ยังไม่ได้กินข้าวเดี๋ยวจะแสบท้อง” เขาสั่งอาหารจานเดียวให้เธอ เป็นข้าวผัดกะเพราะไก่ไข่ดาว ของโปรดของเธอ “ขอบคุณค่ะ” ดรุณียิ้มให้พจน์ เขาจำได้ว่าเธอชอบกินอะไร “คืนนี้คงต้องพักค้างคืนแล้วถึงออกเดินทางต่อ” “ค่ะ” คนตอบเสียงแอบสั่นแบบหักห้ามใจไม่อยู่ เอาไงเอากันมาถึงขั้นนี้แล้ว “อาพจน์คะ” เงียบไปพักใหญ่เธอก็เอ่ยเรียกเขาอย่างเกรงใจ “ว่าไง” “ก่อนจะเดินทางไปยังบ้านของอาพจน์ หนูดีขอไปเจอใครคนหนึ่งก่อนนะคะ” “ใคร” “มณีค่ะ ถ้าไม่มีมณีหนูดีคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้” “ได้” พจน์เป็นคนพูดน้อย และไม่ชอบอ้อมค้อม คำตอบสั้นๆ ของเขาคือการตอบรับ หลังรับประทานอาหารเสร็จ พจน์ก็ขับรถพาดรุณีไปหามณีเพื่อนรักของเธอ พอมณีเห็นดรุณีก็โผเข้ามากอดอย่างดีใจ เห็นเพื่อนหนีรอดออกมาจากแม่เลี้ยงใจยักษ์แบบนี้ได้ก็โล่งอก “ขอบใจมณีมากนะ” ดรุณีร้องไห้เบาๆ เพื่อนแท้หายาก แต่มณีคือเพื่อนแท้เพียงหนึ่งเดียวที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอด “ไม่เป็นไรเลย เราเป็นเพื่อนกัน” มณีอยู่กับยายที่ชรามากแล้ว แต่มีน้ำใจให้ดรุณีเสมอ “เอาไว้หนูดีจะติดต่อมาหานะ โชคดีนะ บุญคุณในครั้งนี้หนูดีจะตอบแทนมณีอย่างแน่นอน” “บุญคุณอะไรกัน อย่าคิดมากสิ หนูดีเองก็มีน้ำใจกับเรา เราขอให้หนูดีโชคดีมีชัยนะ ฝากอาพจน์ดูแลหนูดีด้วยนะคะ” มณีหันไปหาชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ที่รถ “ครับ” ประโยคสั้นๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงใจทำให้มณียิ้มกว้าง ดรุณีขึ้นรถแล้วโบกไม้โบกมือให้เพื่อนด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณอาพจน์มากๆ เลยนะคะ” “ได้เจอเพื่อนก็สบายใจแล้วสิ” “ค่ะ” เธอรับคำสั้นๆ หันมายิ้มให้เขา “ถ้าง่วงก็นอนหลับก่อนได้นะ” “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูดีนั่งคุยเป็นเพื่อนอาพจน์ดีกว่าค่ะ” คนตอบว่าจะนั่งคุยเป็นเพื่อน ผ่านไปไม่กี่นาทีก็หลับลงอย่างง่ายดาย พจน์หันไปมองด้วยสายตาเอ็นดู ก่อนจะขับรถต่อไปอย่างระมัดระวัง เขาจอดรถหน้าโรงแรมที่จะเข้าพัก เหลือบมองสาวน้อยที่ยังนอนหลับสบายอยู่ข้างกายด้วยสายตาอ่อนโยน ใบหน้าอ่อนเยาว์ของคนที่กำลังหลับสนิททำให้เขาไม่อยากปลุกหรือรบกวนเธอ มือหนาค่อยๆ เลื่อนไปสัมผัสแก้มใสๆ ของเธออย่างบางเบา นั่นทำให้เธอค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาจากการนิทรารมย์อันแสนสุข “ถึงไหนแล้วคะอาพจน์” เธอเอ่ยถามพลางหันไปมองรอบกาย “ถึงที่พักแล้วครับ ไปเถอะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะลงไปเปิดประตูรถให้ เขาเปิดห้องเดียว ทำให้ดรุณีต้องเตรียมตัวเตรียมใจ แต่เพราะมัวแต่คิดว่าจะทำตัวยังไงดี เลยเดินสะดุดขาตัวเองเข้าให้ “วะ! ว้าย! ขอบคุณค่ะอาพจน์” เธอรีบเอ่ยขอบคุณเมื่อเขาช่วยประคองร่างน้อยเอาไว้ “ระวังหน่อยสิ เป็นอะไรถึงได้ใจลอย” ประโยคคำถามดุๆ นั้นทำให้ดรุณีกัดปากตัวเองพลางหน้าแดง “เปล่าค่ะ” ตอบแล้วไม่กล้ามองหน้าเขาเพราะอาย ดรุณีอยากเขกหัวตัวเองแรงๆ นักที่อดจะคิดเรื่องลามกเสียไม่ได้ “อาบน้ำก่อนเลย จะได้สบายตัว แล้วเดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน” “ค่ะ” เธอรับคำตาปริบๆ นึกว่าเขาจะขออาบน้ำกับเธอเสียอีก โป๊ก!!! “โอ๊ย!!!” ดรุณีหมุนกายหันหลังเดินเข้าห้องน้ำ ก็ชนเข้ากับประตู พจน์รีบเดินเข้ามาดู ก่อนจะรีบเป่าให้เบาๆ “เจ็บมากไหม ทำไมเดินไม่ดู” “ไม่เจ็บค่ะ หายแล้ว”  คนตอบก้มหน้างุดไม่กล้ามองสบตา “เป็นอะไร” “คะ เอ่อ... ไม่ได้เป็นอะไรคะ” “หลบหน้าหลบตาทำไม มีอะไรจะพูดกับอาหรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ งั้นหนูดีอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอรีบบอกเขาก่อนจะเผ่นเข้าห้องน้ำโดยพลัน เข้าไปในห้องน้ำได้ ก็ต้องผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ อาพจน์ไม่ใช่คนที่จะฉวยโอกาสกับเธอหรอก ถ้าเขาจะทำเขาคงบอกเอง เธอก็ควรเลิกคิดลามกได้แล้ว หลังมื้ออาหารในวันนั้น พจน์ก็พาดรุณีกลับมานอนที่ห้องพักโดยไม่พูดอะไร เขานอนเตียงเดียวกับเธอ แต่ไม่ยอมทำอะไร แถมยังหลับไปด้วยท่าทีสบาย ๆ ในขณะที่เธอนอนเกร็งอยู่แบบนั้นหลายนาทีถึงได้รู้ว่าเขานอนหลับไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD