บทที่ 1.1 - เรื่องวุ่นวายที่อยากลืม (คืนนี้ค่อยว่ากัน)

1111 Words
เพียะ! ใบหน้าคมคายสะบัดหันไปตามแรง รอยแดงเถือกปรากฏให้เห็นทันควัน นัยน์ตาเหล็กกล้าทอแสงหม่นวูบยามมองใบหน้าหวานของเมียรัก ไร้ซึ่งความโกรธแม้จะถูกลงโทษอย่างงุนงง “คุณตบผมทำไมริน?” แอรอนหน้าเหวอ “ก็ในเมื่อฉันตบเพื่อนคุณไม่ได้ก็ต้องตบคุณแทนนั่นแหละ!” น้ำรินตวาดกร้าว แววตาของหล่อนแข็งกร้าวระคนเดือดดาล แอรอนไม่เคยเห็นเธอบันดาลโทสะขนาดนี้มาก่อน สันหลังวูบวาบเริ่มกลัวเมียรักขึ้นมาจับใจ “อย่าบอกนะว่าคุณ…” แอรอนจ้องหน้าเธอ “ใช่!” คำตอบของร่างบางชัดเจน น้ำรินถลาเข้าไปทุบอกสามีพัลวัน “เพื่อนคุณทำกับฟ้าได้ยังไง ไอ้บ้านั่นทำแบบนั้นได้ยังไง ฮืออ ทำแบบนั้นทำไม!!!” น้ำรินน้ำตาไหลเป็นสายเลือด วินาทีที่รู้ความจริงจากปากของเพียงฟ้าหัวใจเธอร้อนรุ่มดุจไฟสุม “รินใจเย็นๆ ก่อนนะ” แอรอนสวมกอดเมียรัก ลูบศีรษะทุยเพื่อปลอบประโลมเธอ “คุณมันก็เลวเหมือนเพื่อนของคุณนั่นแหละ ฮืออ ทำไมไม่ห้ามเขา ทำไมไม่บอกฉัน ทำไม?” ที่เธอเสียใจมากขนาดนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเธอเป็นต้นเหตุ ตอนนั้นเพียงฟ้าต้องการช่วยให้เธอเป็นอิสระจากแอรอน เพื่อนรักยอมทำทุกอย่างจนกระทั่งถูกทำร้ายอย่างเลือดเย็น “ไม่เอาน่าริน อย่าว่าผัวแบบนี้ที่รัก ไม่เอาๆ คนดี” แอรอนส่ายหน้ากล่าว เขาไม่ชอบที่หญิงสาวด่าเขา ทั้งสองใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันจวนจะครบหนึ่งปีแล้วยังไม่เคยบาดหมางกันเลยสักครั้ง ประสบการณ์ก่อนหน้าทำให้น้ำรินและแอรอนเข้าใจกันมากขึ้น แต่ทุกอย่างกำลังจะพังเพราะการกระทำของโทมัส “คอยดูนะ ฉันจะฆ่าเพื่อนคุณ!” น้ำรินพูดเหมือนเด็กๆ แอรอนลอบอมยิ้ม จะว่าไปเวลาเธอโกรธก็น่าเอ็นดูไม่หยอกนะ “โทมัสเองก็สำนึกผิดแล้ว ทุกวันนี้มันก็แทบจะคลั่งตายให้ได้ เพื่อนคุณเล่นบินหนีไปพร้อมกับความรู้สึกแย่ๆ ที่ติดอยู่ในใจมันแบบนั้น” “นี่คุณจะโทษว่าฟ้าเป็นคนผิดหรือคะ” สาวเจ้าตีความไปไกล “ไปกันใหญ่แล้วที่รัก ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ที่พูดเนี่ยแค่อยากให้คุณรู้ว่าเพื่อนของผมมันรักคุณฟ้าจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกผิดไปทำไม ผู้ชายอย่างไอ้โทมัสก็เหมือนผมนั่นแหละ มีสัมพันธ์กับสาวๆ ไปเรื่อยตามใจชอบ แต่สุดท้ายก็มาหยุดอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองรัก” แอรอนอธิบายแต่ดูเหมือนคำพูดของเขาจะยิ่งทำให้น้ำรินรู้สึกโกรธไปกันใหญ่ “แหม… ดูภูมิใจกับวีรกรรมเก่าเหลือเกินนะคะ ว่างๆ ก็ช่วยพาสาวๆ ของคุณมาให้ฉันดูตัวหน่อยสิคะ ฉันจะได้ช่วยตัดสินว่าใครเด็ดหรือไม่เด็ด” หน้าคมคายถอดสีทันควัน แอรอนกระแอมไอแก้เก้อ “ไม่เอาสิที่รัก ผมก็แค่เปรียบเปรยให้คุณเห็นภาพเฉยๆ” ชายหนุ่มสวมกอดร่างบางแนบแน่น กลิ่นกายของเธอยังคงหอมสำหรับเขาเสมอ “แล้วคุณฟ้าเป็นยังไงบ้าง คิดมากหรือเปล่า?” แอรอนถามไถ่ถึงอีกฝ่าย “ผู้หญิงคนไหนเสียตัวแล้วไม่คิดมากบ้างคะ โดยเฉพาะเสียให้กับผู้ชายที่ไม่ได้รัก!” น้ำรินประชด ดูเหมือนอารมณ์ของเธอไม่เย็นลงง่ายๆ แอรอนเข้าใจเพราะโทมัสเองก็เป็นเพื่อนสนิทของเขาเช่นกัน ทุกวันนี้เขายังอดสงสารมันไม่ได้ที่ต้องวิ่งตามหาเพียงฟ้าจนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน ไหนจะโหมทำงานที่บริษัทฯ อีก แอรอนบอกให้พักแต่โทมัสก็ยืนยันว่าไหว นั่นเพราะไม่ต้องการให้เรื่องส่วนตัวมากระทบต่อเรื่องงาน “คุณรู้ใช่ไหมว่าคุณเพียงฟ้าอยู่รัฐไหนของอังกฤษ” แอรอนได้ทีจึงเนียนถาม ทว่าเมียสาวรู้ทัน “ไม่ต้องมาหลอกถามให้ยากเลยค่ะ ต่อให้ฉันรู้ฉันก็ไม่บอกคุณเด็ดขาด” น้ำรินเสียงแข็ง เรื่องอะไรจะบอกเพื่อส่งนรกไปหาเพื่อน ไม่มีวันเสียหรอก “โธ่ริน… เห็นใจไอ้โทมัสมันหน่อยเถอะ คุณรู้ไหมว่ามันอยากเจอคุณเพียงฟ้ามากแค่ไหน ผมรู้ว่าเพื่อนผมผิดแต่ช่วยให้โอกาสมันได้เจอเธอหน่อยนะ” แอรอนอ้อนวอน “ไม่ค่ะ! ฉันไม่ไว้ใจเพื่อนของคุณ นิสัยผู้ชายชอบเอาชนะเดี๋ยวก็ตามไปทำร้ายยัยฟ้าอีก” เพียงฟ้าเองก็แรงพอตัว จะมีใครกล้ารับประกันว่าสองคนนั้นจะไม่ระเบิดอารมณ์ใส่กันจนตายกันไปข้าง “แต่ผม…” เสียงเด็กร้องไห้ดังแทรกขึ้นก่อนที่แอรอนจะเอ่ยจบ น้ำรินรีบวิ่งไปที่ห้องของลูกน้อย ดวงตากลมแป๋วของบุตรสาวจ้องมองพ่อกับแม่พลางยิ้มหวาน อารมณ์เดือดดาลพลันสลายลง น้ำรินอุ้มร่างอ้วนป้อมขึ้นแนบอก ปลายจมูกโด่งหอมแก้มตุ้ยนุ้ยของลูกรัก “ตื่นแล้วหรือคะลูกสาวแม่” น้ำเสียงไพเราะทักทาย แอรอนชอบเวลาที่หล่อนพูดคุยกับลูก เสมือนว่าเธอเป็นนางฟ้าลงมาจากสวรรค์ก็ไม่ปาน “ทำหน้าแบบนี้หิวใช่ไหม โอ๋ๆ แม่รู้ค่า เดี๋ยวกินนมกันนะ” น้ำรินพูดยิ้มไป หล่อนทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงกว้าง กำลังจะปลดกระดุมเสื้อเพื่อป้อนนมลูก “ออกไปก่อนสิคะ” “ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมก็อยากอยู่ดูลูกเหมือนกัน” แอรอนอ้าง ความจริงเขาอยากนั่งมองปทุมถันคู่งามมากกว่า น้ำรินเล่นไม่ยอมให้เขารักมาหลายวันแล้ว มันก็ต้องมีหื่นกระหายกันบ้างสิ “ลูกดูเวลาอื่นก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องดูตอนที่ให้นมหรอก” น้ำรินตาขวาง รู้เท่าทันความคิดสามี “รินก็…” แอรอนหน้าเหวอ “คุณใจร้ายกับผมเกินไปแล้วนะ” เขาตัดพ้ออย่างน้อยใจ ทุกวันนี้เขาเครียดเรื่องงานจนแทบบ้า ยิ่งบริษัทฯ เติบโตมากเท่าไหร่ ปัญหาที่เจอในแต่ละวันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น กลับมาบ้านแม้จะอิ่มใจกับการปรนนิบัติของน้ำริน แต่ยังไงซะผู้ชายก็คือผู้ชายอยู่วันยังค่ำ ต่อให้เมียทำกับข้าวรสเลิศให้กินเป็นร้อยๆ มื้อ ก็ไม่เท่ากับชิมเนื้อหวานของเจ้าหล่อนได้หรอก “ออกไปก่อนค่ะ เดี๋ยวคืนนี้ค่อยว่ากันอีกที”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD