ตอนที่15 เริ่มแก้เกม
“มีอะไรเกี่ยวกับฉันไหมคะ” เสียงของเธอดังขึ้นเรียบ ๆ แต่แฝงด้วยน้ำเสียงจับสังเกต อคิณเหลือบตาไปมองเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบเบือนกลับไปมองถนนอีกครั้ง
“ไม่มี” เขาตอบสั้น แต่อาการลังเลของเขากลับฟ้องทุกอย่าง
“คุณแน่ใจเหรอคะ ว่าไม่มี” เธอถามย้ำ ใบหน้าจริงจัง
“แค่เรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย ไม่สำคัญอะไรหรอก” น้ำเสียงของเขาฟังดูพยายามปกติ แต่ปลายเสียงกลับแข็งผิดจากอคิณคนเดิม
ญารินหันกลับมามองนอกหน้าต่าง เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอไม่ควรจะมีปัญหากับอคิณตอนนี้ เพราะเธอยังต้องทำงานอยู่ที่นี่ต่อเพื่อเป้าหมายใหญ่ของเธอ เพราะฉะนั้นการมีปัญหากับอคิณไม่ใช่เรื่องที่เธอควรทำสักเท่าไหร่ ทั้งที่เธอมั่นใจว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอ
รถเคลื่อนตัวเข้าสู่ลานจอดของตึกสำนักงานใหญ่ เสียงเบรกดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่เขาจะดับเครื่อง อคิณหันมาจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ญารินเปิดประตูลงก่อนโดยไม่หันกลับไปมอง
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเพียงสั้น ๆ แล้วเดินจากไป อคิณมองตามแผ่นหลังเล็กนั้นไปจนลับตา
บนห้องทำงาน
ร่างบางทรุดตัวลงบนเก้าอี้ ก่อนเปิดหน้าจอแล็ปท็อปขึ้นมาเพื่อสรุปรายงานจากการประชุมเมื่อช่วงเช้า เตรียมส่งต่อให้คณิณตรวจสอบ นิ้วเรียวเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วเหนือแป้นพิมพ์ ตัวอักษรภาษาอังกฤษไหลเรียงต่อกันไม่ขาดตอน ทว่าหลังสีหน้าที่เรียบนิ่งนั้น กลับซ่อนความคิดวุ่นวายที่ตีวนอยู่ในหัว
เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในเกมบางอย่าง เกมของอคิณ ที่ไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองจะยังควบคุมได้หรือไม่ ความคิดหนึ่งแล่นขึ้นในใจทันที ถ้าจะสู้เกมนี้...เธอต้องมี “ทีม” ที่แข็งแกร่งพอจะรับมือกับเขาได้ และคนคนนั้น...คงหนีไม่พ้น "คณิณ"
หลังจากพิมพ์สรุปรายงานเสร็จ ญารินตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาอีกครั้งอย่างรอบคอบ ก่อนจะกดส่งอีเมลถึงคณิณ โดยไม่ลืมแนบสำเนา (CC) ถึงภาสกรด้วย เพราะทั้งสามคนต้องทำงานประสานกันอยู่เสมอ หน้างานหลักเป็นหน้าที่ของภาสกรที่ต้องออกไปพบลูกค้าร่วมกับคณิณ ส่วนงานเอกสารและการประสานงานภายในออฟฟิศนั้น เป็นความรับผิดชอบของเธอ รวมถึงงานที่ต้องทำร่วมกับอคิณด้วย
ไม่นานหลังจากนั้น อีเมลฉบับใหม่ก็แจ้งเตือนเข้ามาในกล่องข้อความชื่อผู้ส่งคือ “Akin N.” ญารินขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนคลิกเปิดอ่าน รายงานทั้งหมดเป็นฉบับที่จะใช้ในการนำเสนอลูกค้าในวันพรุ่งนี้ และในเนื้อหาก็มีการเพิ่มเติมส่วนที่เธอเสนอไว้ในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาเธอไม่ใช่รายงานฉบับนั้น หากเป็นไฟล์แนบอีกหนึ่งไฟล์ที่ชื่อว่า “Confidential Competitor Data ข้อมูลคู่แข่งที่เป็นความลับ”
หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเมื่อกดเปิดดู ภายในคือเอกสารลับของคู่แข่งที่มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ละเอียดกว่าที่เธอคาดคิดไว้มาก ข้อมูลบางส่วนไม่ควรหลุดออกมาจากบริษัทต้นทางด้วยซ้ำ ญารินรีบดาวน์โหลดไฟล์นั้นเก็บไว้ในแฟลชไดรฟ์ส่วนตัวอย่างระมัดระวัง ก่อนจะกวาดสายตาอ่านเนื้อหาทีละบรรทัดด้วยสีหน้าจริงจัง
"ทำไมข้อมูลพวกนี้ถึงหลุดออกมาเยอะขนาดนี้ อคิณสามารถเอาข้อมูลพวกนี้มากได้ยังไง" เธอไม่แปลกใจที่บริษัท ONE Group ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ในเวลาไม่กี่สิบปี ขนาดข้อมูลของคู่แข่งกับโครงการขนาดหลายร้อยล้านยังหลุดมาถึงมือเขา ญารินรู้สึกคิดหนัก ที่ผ่านมาเธออาจจะประมาทกับอคิณและคณิณมากเกินไป พวกเขาสองคนไม่มีทางยอมให้เธอยืมบริษัทที่พวกเขาสร้างมากับมือแปดเปื้อนไปกับการล้างแค้นของเธอโดยเด็ดขาด
เช้าวันรุ่งขึ้น
แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดผ่านกระจกใสเข้ามาในออฟฟิศเงียบสงบ ญารินวางกล่องอาหารขนาดกลางลงบนโต๊ะทำงานของคณิณ ก่อนจะจัดวางช้อนส้อมและแก้วน้ำเรียบ ๆ อย่างเป็นระเบียบ
ภายในกล่องคือ สลัดอกไก่ โรยหน้าด้วยธัญพืชและไข่ต้มครึ่งฟอง น้ำสลัดสีเขียวอ่อนที่เธอทำเองจากอะโวคาโดบดและกรีกโยเกิร์ตให้รสละมุนและไม่เลี่ยน เมนูง่าย ๆ แต่ผ่านการคิดมาอย่างดี เพราะเธอรู้ว่าคณิณเป็นคนใส่ใจสุขภาพ และมักเริ่มต้นเช้าด้วยมื้อเบา ๆ ที่ให้พลังงานพอดี
“อ้าว คุณริน วันนี้มาทำงานแต่เช้าอีกแล้วนะครับ” เสียงของคณิณดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน เขาเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าแล็ปท็อปในมือก่อนจะชะงักเมื่อเห็นกล่องอาหารตรงหน้า
“เมื่อเช้าฉันตื่นมาทำมื้อเช้า เลยทำมาเผื่อคุณด้วยค่ะ” ญารินพูดเรียบ ๆ แต่แววตากลับอ่อนลงอย่างมีมารยาท คณิณมองกล่องสลัดตรงหน้า ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ อย่างจริงใจ
“น่ากินมากเลยครับ กลิ่นน้ำสลัดหอมด้วย คุณทำอาหารทานเองตลอดเลยเหรอครับ”
“ค่ะ ฉันเองก็ทำทานตอนเช้าตลอด วันนี้เลยตั้งใจทำมาเผื่อคุณด้วยค่ะ”
“เก่งจังเลยนะครับ ทำงานก็เก่ง ทำอาหารก็เก่ง” เขาพูดพลางยกส้อมขึ้นชิมคำแรก สีหน้าผ่อนคลายลงทันที
“อร่อยมากเลยครับ”
“ดีใจที่คุณชอบค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ พลางหยิบแก้วน้ำผลไม้ที่เตรียมไว้อีกแก้วยื่นให้
“ดื่มนี่ด้วยสิคะ น้ำส้มคั้นสดค่ะ จะได้สดชื่นก่อนประชุมเช้า” คณิณรับแก้วไปอย่างเต็มใจ รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้บรรยากาศเช้าวันนั้นดูผ่อนคลายขึ้นกว่าทุกวัน แต่ในใจของญารินกลับนิ่งสนิท ทุกอย่างในวันนี้ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ เธอกำลังเริ่ม “สร้างความไว้วางใจ” กับคณิณอย่างเป็นขั้นตอน เพราะในเกมที่เธอต้องเผชิญกับอคิณ...เธอจำเป็นต้องมีพันธมิตรที่สามารถช่วยเหลือเธอได้ และถ้าเธอทำสำเร็จเธอจะมีแต้มต่อจากอคิณหนึ่งแต้ม
บรรยากาศในห้องอบอุ่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มมีความสุขทั้งเจ้านายและเลขาสาว คณิณไม่ได้พูดต่อ เพียงแต่นั่งกินไปช้า ๆ พร้อมเผยรอยยิ้มขึ้นบางช่วง
จนกระทั่งเสียงรองเท้าหนังดังขึ้นจากหน้าประตู
อคิณปรากฏตัวในชุดสูทสีเทาเข้ม มือถือแฟ้มงานไว้หลวม ๆ แต่สายตาคมหันมาหยุดที่โต๊ะของทั้งคู่ทันที
“ดูอบอุ่นดีนะครับ ผมไม่ยักรู้ว่าวันนี้พี่ตื่นสายจนต้องมาทานมื้อเช้าที่ออฟฟิศกับเลขา"
"เปล่าหรอก แต่วันนี้คุณรินทำมื้อเช้ามาฝากฉันด้วย แกจะลองชิมไหม รสชาติเหมือนที่แกชอบกินเลยนะ"
"ไม่ครับ พี่กินเถอะ เธอตั้งใจทำมาให้พี่เดี๋ยวเธอจะเสียใจ"
“คุณอคิณจะรับด้วยไหมคะ ฉันยังมีอีกกล่อง” ญารินเอ่ยถามขึ้นทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่ายังไงเขาจะต้องปฏิเสธแน่นอน
“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ค่อยชอบกินของที่คนอื่นเตรียมให้ โดยที่ไม่รู้ว่าเขามีเจตนาแอบแฝงอะไรหรือเปล่า” เขายกคิ้ว ตอบกลับเสียงเรียบ ภายในห้องเงียบกริบ แม้แต่เสียงลมหายใจก็เหมือนหายไปชั่วขณะ ญารินเงยหน้ามองเขาเต็มตา สายตาที่นิ่งพอจะกรีดคนตรงหน้าได้โดยไม่ต้องพูดสักคำ
“แค่สลัดธรรมดากล่องเดียวคงใช้หาผลประโยชน์ไม่ได้หรอกมั้งคะ” เธอพูดเสียงเรียบ ไม่แสดงท่าทีโกรธหรือโมโหออกมาทางสีหน้า
"เข้ามาหาฉัน มีอะไร" เสียงทุ้มเรียบแต่แฝงความเข้มของคณิณดังขึ้น ขณะยกแก้วน้ำขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อน
“ร่างเอกสารสัญญาโครงการ พี่ช่วยอ่านดูอีกทีนะ ถ้ามีตรงไหนต้องแก้ก็บอกฉันได้เลย” อคิณเอ่ยพลางยื่นแฟ้มเอกสารไปให้คณิณ สายตาคมเหลือบไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจนัก
"ทำไมไม่ให้ธีรภัทรเอาเข้ามา" คณิณเงยหน้าขึ้นถามเรียบ ๆ
"คุณธีรภัทรงานยุ่ง" อคิณตอบสั้นเสียงนิ่ง
"เลขาแกงานยุ่งกว่าแกที่เป็นเจ้านายหรือไง เสร็จธุระแล้วจะยืนอยู่อีกทำไม ว่างนักหรือไงช่วงนี้ถึงเดินเข้าออกห้องฉันได้ทั้งวัน" น้ำเสียงคณิณฟังดูเรียบ แต่แฝงแววตำหนิชัด
"หึ..สลัดที่กินเข้าไปมีพิษหรือไง ถึงได้หาเรื่องว่าฉันแต่เช้า ถ้าอยากได้ยาถอนพิษให้มาเอาที่ฉันนะ เดี๋ยวฉันเตรียมไว้ให้" อคิณหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนโต้กลับด้วยน้ำเสียงกวนเล็กน้อย พูดจบชายหนุ่มก็เดินหลังเดินออกจากห้องไป แต่ไม่วายใช้หางตามองหญิงสาวที่ทำหน้าเรียบนิ่งมองชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน
"อย่าถือสาคำพูดของอคิณเลยครับ คุณรินเตรียมตัวเข้าประชุมเถอะครับ" คณิณหันมาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกรงใจและให้เกียรติแม้เธอจะอายุน้อยกว่าเขาหลายปี
"ฉันโอเคค่ะ ฉันไม่ได้คิดมากอะไร" ญารินตอบเรียบง่าย แววตาสงบนิ่งแต่ยังคงมีความมั่นใจในตัวเอง
"ถึงคุณอายุยังน้อย แต่ผมขอชื่นชมในความเป็นมืออาชีพของคุณมากนะครับ คุณเก่งรอบด้านจริง ๆ" ชายหนุ่มยิ้มบาง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจ ถ้าญารินสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าแววตาของคณิณที่มองเธอนั้นเริ่มเปลี่ยนไป