ตอนที่16 เริ่มต้น
ระหว่างเดินไปห้องประชุม แสงไฟสีขาวนวลสะท้อนเงาของทั้งสองคนบนพื้นกระเบื้องมันวับ ญารินก้าวเดินเคียงข้างผู้บริหารหนุ่ม พลางหันไปถามด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่แฝงด้วยความสงสัย
“วันนี้คุณภาสกรไม่เข้าประชุมด้วยเหรอคะ”
“โปรเจกต์นี้ผมมอบหมายให้คุณรินดูแลครับ ผมเชื่อว่าคุณรินมีความสามารถดูแลโปรเจกต์ให้สำเร็จได้ครับ ในที่ประชุมวันก่อนคุณได้โชว์สักภาพให้ผมเห็นแล้วนี่ครับ” คณิณยกยิ้มบาง พลางหันตอบเธอเสียงทุ้มนุ่มแต่ดูจริงจัง
ใบหน้าเรียวสวยดูตกใจเล็กน้อยกับคำพูดนั้น แต่ก็เพียงเสี้ยววินาที ก่อนเธอจะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแทนคำตอบ
“ขอบคุณที่ให้โอกาสค่ะ ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ” เมื่อทั้งสองผลักประตูบานใหญ่เข้าไปในห้องประชุม สายตาหลายคู่ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วต่างหันมามองเป็นตาเดียว โต๊ะยาวกลางห้องผู้เข้าร่วมประชุมนั่งครบถ้วน ยกเว้นภาสกรเลขาคนสนิทของประธานหนุ่มที่หายไป
คณิณนั่งตรงหัวโต๊ะตำแหน่งประธานในที่ประชุม ญารินเดินไปหย่อนสะโพกลงนั่งตรงเก้าอี้ฝั่งขวาของโต๊ะ ขณะที่อคิณนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของโต๊ะกำลังใช้สายตาคมเข้มมองเธอ แต่เพียงชั่วครู่ก่อนหันกลับไปที่เอกสารตรงหน้าอย่างไม่แสดงอารมณ์ แต่บรรยากาศรอบโต๊ะทุกคนต่างหันไปมองหน้ากัน เสียงกระซิบกระซาบเบา ๆ ดังขึ้นจากปลายโต๊ะของทีมงาน
“วันนี้คุณภาสกรไม่มาเหรอ”
“ดูเหมือนโปรเจกต์นี้คุณคณิณจะให้คุณญารินดูแลนะ”
อคิณเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของชื่อนั้นอีกครั้ง คราวนี้สายตาเรียบแต่แฝงแววบางอย่างที่ยากจะอ่านออก ในขณะที่ญารินนั่งนิ่ง สูดหายใจเข้าลึก เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเริ่มต้น ทั้งการประชุมครั้งนี้...และเกมระหว่างเธอกับอคิณ ที่เธอไม่รู้เลยว่าเขาวางหมากอะไรไว้ในเกมระหว่างเธอกับเขา
เสียงเปิดแฟ้มกระดาษดังแผ่วเบาไปทั่วห้อง ก่อนที่เนื้อหาจะถูกเปิดขึ้นบนจอLEDด้านหน้า อคิณลุกขึ้นยืนเต็มความสูงในชุดสูทเข้ารูปเรียบหรู ท่าทางนิ่งขรึม ทุกสายตาในห้องประชุมหันไปจับจ้องที่ชายหนุ่มอย่างพร้อมเพรียง
“ขอเริ่มการนำเสนอเลยนะครับ” เสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ แต่หนักแน่นพอจะทำให้ทั้งห้องเงียบลงในพริบตา
ปลายนิ้วเรียวยกรีโมตขึ้นกดเปลี่ยนสไลด์ ภาพแผนผังโครงการปรากฏขึ้นบนจอ อคิณอธิบายลำดับขั้นตอนการดำเนินงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างละเอียด น้ำเสียงมั่นคงชัดถ้อยชัดคำ แทรกด้วยศัพท์เทคนิคที่เข้าใจง่ายสำหรับทุกฝ่าย
“ในส่วนของการวิเคราะห์ชั้นดินและโครงสร้างพื้นฐาน เราได้เพิ่มเติมรายละเอียดตามข้อเสนอแนะในที่ประชุมครั้งก่อนหน้า พร้อมแนบผลตรวจวิเคราะห์มาด้วยครับ”
คำพูดของเขาเป็นจังหวะราบเรียบ แต่แฝงความเด็ดขาดและแม่นยำ ทุกคำที่เอ่ยสะท้อนความเป็นมืออาชีพในแบบที่ยากจะหาใครเทียบได้ ญารินมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ดวงตาเรียวสวยจับจ้องอยู่บนใบหน้าคมของชายหนุ่มผู้ยืนอยู่กลางห้อง เธอต้องยอมรับอย่างเสียไม่ได้ว่าเขาเก่งจริง เก่งจนเธอแทบเดาไม่ออกว่าในอีกด้านของผู้ชายคนนี้ เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“และสุดท้าย...” อคิณกดรีโมตเปลี่ยนสไลด์อีกครั้ง ภาพกราฟและข้อมูลทั้งหมด ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนบนจอ
“ข้อมูลนี้ได้จากการประสานงานเพิ่มเติมกับฝ่ายวิเคราะห์ ซึ่งคุณญารินเป็นผู้เสนอแนวทางไว้ ข้อมูลนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าโครงสร้างที่เราออกแบบกับราคาที่เราเสนอไปดูสมเหตุสมผล เพราะจะมีผลในการเปรียบเทียบกับราคาของบริษัทคู่แข่งค่อนข้างมาก ที่อาจจะเสนอราคามาต่ำกว่าบริษัทเรามาก”
เสียงกระซิบชื่นชมเบา ๆ ดังขึ้นรอบโต๊ะ ญารินนิ่งรับ ไม่ได้แสดงสีหน้าภูมิใจหรือดีใจ เพียงแค่สบตากับเขาอย่างเฉยชา แต่ในความเงียบนั้นกลับมีบางอย่างที่เคลื่อนไหว คล้ายแรงดึงดูดที่มองไม่เห็นระหว่างคนสองคน
เมื่อการนำเสนอจบลง เสียงปรบมือเบา ๆ ดังขึ้น อคิณวางรีโมตลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งกลับลงที่เดิม ท่าทางยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม แต่ในหางตา เขาเหลือบมองญารินอีกครั้ง สายตาที่คราวนี้ไม่ได้เย็นชาเหมือนก่อนหน้า แต่กลับมีประกายบางอย่าง...คล้ายกับความท้าทายที่กำลังเริ่มต้นขึ้น
หลังจากอคิณนำเสนอจบ เสียงคลิกเมาส์ปิดสไลด์สุดท้ายดังขึ้นพร้อมกับความเงียบที่ปกคลุมทั่วห้องประชุมชั่วขณะ ก่อนที่ผู้บริหารคนหนึ่งจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“ผมเห็นด้วยกับคุณอคิณครับ ทำงานได้ละเอียดรอบคอบดีมาก”
“เห็นด้วยครับ โครงสร้างและแนวคิดชัดเจน เข้าใจง่าย และตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด” เสียงเห็นด้วยจากอีกหลายคนดังตามมา
"และก็ขอชื่นชมคุณญารินที่มีส่วนร่วมในการนำเสนอโปรเจกต์นี้ด้วยนะครับ เด็กรุ่นใหม่ความสามารถเก่งจริง ๆ ชื่นชมครับ" ญารินยิ้มและพยักหน้ารับเบา ๆ ส่วนคณิณพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนเอ่ยสรุปด้วยน้ำเสียงสุขุม
“ถ้าไม่มีข้อโต้แย้งเพิ่มเติม ผมถือว่าที่ประชุมเห็นชอบตามแผนที่อคิณเสนอ” ทุกคนพยักหน้ารับแทบพร้อมกัน จากนั้นหันมาทางญาริน
“คุณรินช่วยประสานงานต่อด้วยนะครับ วันศุกร์นี้คุณต้องเข้าร่วมเสนอโปรเจกต์นี้กับอคิณ”
“ได้ค่ะ ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนวันเดินทาง” ญารินตอบอย่างมั่นใจ
“ดีครับ งั้นถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติม ปิดประชุมครับ”
เสียงเก้าอี้เลื่อนเบา ๆ ดังขึ้นเมื่อทุกคนเริ่มลุกออกจากที่ประชุม บางคนพูดคุยกันเบา ๆ ถึงรายละเอียดปลีกย่อยของโครงการ ส่วนอคิณเพียงเก็บแล็ปท็อปของตัวเองเงียบ ๆ ก่อนเหลือบตามองไปทางญารินที่กำลังเก็บเอกสารอย่างเร่งรีบ โดยมีคณิณยื่นมือมาช่วยถือ อคิณคิ้วขมวดกับท่าทีของคณิณที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน
“คุณรินไม่ติดปัญหาอะไรใช่ไหมครับที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด” คณิณเอ่ยถามขณะเดินกลับห้องทำงาน โดยมีอคิณเดินตามหลังมาห่าง ๆ แต่ก็ได้ยินบทสนทนาที่ทั้งสองกำลังคุยกัน
“ไม่ค่ะ คุณคณิณไม่ต้องเป็นกังวลค่ะ” เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ในใจรู้สึกขอบคุณชายหนุ่มด้วยซ้ำที่เปิดโอกาสให้เธอตัดแขนตัดขา ตัดช่องทางธุรกิจของบริษัทวัฒนา กรุ๊ปได้เร็วขนาดนี้
หลังจากกลับมาที่โต๊ะทำงาน ญารินก็วางแฟ้มเอกสารประชุมลงบนโต๊ะ ก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นเพื่อจัดการภาระงานที่ได้รับมอบหมาย เธอเริ่มเช็กตารางเดินทาง วัน เวลา และรายชื่อทีมงานที่จะไปภูเก็ตในวันศุกร์ตามที่คณิณบอก
นิ้วเรียวยาวเลื่อนเมาส์อย่างคล่องแคล่ว ขณะค้นหาตารางไฟลต์และเช็กโรงแรมที่พักบริเวณใกล้จุดนัดหมายของลูกค้า จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาอคิณ น้ำเสียงของชายหนุ่มปลายสายฟังดูนิ่งเรียบดังเช่นเคย
'มีอะไรครับ คุณญาริน'
'เอ่อ...ฉันจะจัดการจองตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมสำหรับพรีเซนต์โปรเจกต์งานที่ภูเก็ตวันศุกร์นี้ค่ะ อยากทราบว่าจะมีใครเดินทางไปบ้างคะ'
'เรื่องนั้นเดี๋ยวผมให้ธีรภัทรจัดการ' เสียงของอคิณตอบกลับสั้น ๆ
'คุณมีหน้าที่แค่เตรียมตัวให้พร้อมก็พอ'
'อ้อ...ค่ะ ได้ค่ะ' เธอตอบรับอย่างสุภาพ แม้จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับคำตอบนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร
เธอวางโทรศัพท์ลง พลางถอนหายใจเบา ๆ ธีรภัทรเป็นเลขาคนสนิทของอคิณอยู่แล้ว ปกติเรื่องเดินทางหรือเอกสารสำคัญเขาจะเป็นคนจัดการเสมอ เธอเพิ่งเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาไม่นาน ยังถือว่าเป็นมือใหม่ในหลายเรื่อง
“ไม่เป็นไร…ให้คุณธีรภัทรจัดการก็ดี จะได้ถูกใจเจ้านายเขา” ญารินพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนกลับมานั่งจัดเรียงเอกสารรายงานประชุม เตรียมส่งให้คณิณตรวจทานอีกครั้ง
“เอกสารบันทึกการประชุมค่ะ” เธอวางแฟ้มสีเทาเข้มเรียงต่อจากแฟ้มก่อนหน้าอย่างเป็นระเบียบ
“ขอบคุณครับ” ใบหน้าคมเงยขึ้นหลังจากตวัดปลายปากกาเซนต์เอกสารในมือเสร็จ น้ำเสียงสุภาพเอ่ยขอบคุณ
“ผมขอกาแฟสักแก้วได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
ญารินเดินออกจากห้อง ตรงไปห้องชงกาแฟเล็ก ๆ หยิบถ้วยกาแฟเข้าเครื่องแล้วกดให้เครื่องทำงาน ขณะรอเครื่องทำงาน ความคิดก็วนกลับไปที่งานวันศุกร์นี้ ครั้งแรกที่เธอต้องเผชิญหน้ากับคนต้นเหตุที่ทำให้พ่อเธอล้มละลายและจบชีวิตตัวเอง
สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว คิ้วเรียวผูกเข้าหากัน ดวงตากลมโตเริ่มแดงก่ำ นิ้วเรียวจิกเข้ากับโต๊ะหินอ่อน ขณะที่มืออีกข้างกำแน่น
อคิณเดินผ่านหางตาเหลือบเห็นเธอผ่านช่องกระจกเล็ก ๆ ตรงประตู เขาหยุดฝีเท้าและเปิดประตูเข้ามาโดยที่เธอไม่รู้สึกตัว
“ญาริน” เสียงเรียกชื่อพร้อมน้ำเสียงเปลี่ยนไป ช่วยดึงสติของเธอกลับคืน
“คะ” เธอรีบปรับสีหน้าเป็นปกติ และพยายามกลั้นน้ำตาที่จะเอ่อไหล
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” น้ำเสียงนั้นอ่อนลงจากประโยคแรก
“เปล่าค่ะ คุณอคิณจะรับกาแฟใช่ไหมคะ”
“ใช่ ชงเผื่อผมด้วยหนึ่งแก้ว” อคิณไม่เซ้าซี้อะไรต่อ เลยเลือกที่จะตามน้ำเธอไปทั้งที่เขาพึ่งดื่มกาแฟหมดไปหนึ่งแก้วก่อนออกจากห้องมานี่เอง
“ได้ค่ะ เชิญคุณไปรอที่ห้องทำงานได้เลยค่ะ ชงเสร็จเดี๋ยวฉันเอาไปให้”
“ผมจะรอที่นี่”