ตอนที่10 ปิดบัง
ณวัฒน์ยังคงนั่งรออยู่บนโซฟา มือถือแก้วไวน์ไว้ในมือ สายตาเฝ้ามองประตูห้องนอนด้วยแววคาดหวัง
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นพอดีกับที่ประตูเปิดออก
ญารินก้าวออกมาในเสื้อคลุมสีครีม ผมยาวปล่อยสลวยแนบแก้ม แสงไฟในห้องสะท้อนบนผิวขาวราวกับประกายแก้ว ณวัฒน์วางแก้วลง ดวงตาแทบไม่กะพริบ
“คุณสวยเกินไปแล้วนะครับ” เสียงเขาแผ่วต่ำเต็มไปด้วยแรงปรารถนา
เขายิ้ม รอยยิ้มที่ไม่มีความสุภาพหลงเหลืออยู่เลย
“ขอบคุณค่ะ” น้ำเสียงนั้นราบเรียบ แต่กลับทิ้งระยะที่ทำให้ชายตรงหน้าหายใจแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ญารินเดินเข้าใกล้ทีละก้าว ก้าวที่หนักแน่นแต่สงบ เธอหยุดตรงหน้าเขาเพียงหนึ่งช่วงแขน ก่อนจะเอนตัวลงพอให้กลิ่นหอมบางจากเรือนกายลอยแตะปลายจมูกของอีกฝ่าย
"คุณพกถุงยางมาด้วยไหมคะ พอดีว่าฉันไม่ได้ใช้ของพวกนั้นเลยไม่ได้ซื้อมาไว้น่ะค่ะ" น้ำเสียงของเธอนุ่ม แต่แฝงแรงบางอย่างที่เขาไม่ทันจับได้
"หึ หึ หึ มีครับ" ณวัฒน์หัวเราะในลำคอ ล้วงถุงยางอนามัยออกมาจากกระเป๋ากางเกงยื่นไปโชว์ให้เธอดู
"แต่อาจจะเจ็บหน่อยนะครับ แต่ผมรับรองว่าคุณจะชอบมัน"
"เบา ๆ กับฉันหน่อยนะคะ" เธอยิ้มบาง แล้วเอื้อมมือไปแตะต้นแขนเขาเบา ๆ สัมผัสนั้นดูอ่อนโยน ทว่าในจังหวะเดียวกันณวัฒน์คว้าร่างบางเข้าไปซุกไซร์ซอกคอขาว เขาจูบและสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เธอทาไว้เข้าไปเต็มปอด ทั้งสูดดมทั้งใช้ลิ้นสัมผัส และภายในเวลาไม่นาน...สติทุกอย่างก็ดับวูบ ร่างเขาทรุดลงช้า ๆ ดวงตาเลื่อนลอย ก่อนหมดสติไปในพริบตา โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเกมนี้...เธอเป็นคนกำหนดทุกก้าวไว้ล่วงหน้าแล้ว
ญารินยืนมองเขานิ่ง ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ เธอถอนหายใจเบา ๆ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า คลิกเปิดกล้อง
“คืนนี้...ฉันจะเปิดตัวคุณในฐานะพรีเซ็นเตอร์เซ็กทอย” เสียงของเธอเบาราวกระซิบ แต่เยือกเย็น ญารินรีบลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเขาออกจนเนื้อตัวเปลือยเปล่า และใช้ผ้าสีดำมามัดปิดตาเขาไว้เพื่อไม่ให้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังหลับหมดสติ พร้อมจัดท่าทางให้ดูสมจริง
แชะ! แชะ!
เสียงชัตเตอร์เบา ๆ ดังขึ้นไม่กี่ครั้ง แต่เพียงพอที่จะเปลี่ยนชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งไปตลอดกาล ภาพชายหนุ่มพร้อมอุปกรณ์เซ็กทอยจำนวนมากที่สภาพเหมือนพึ่งผ่านการใช้งานมา ในมือหนาถือดีลโด้ที่เคลือบเจลหล่อลื่นมันวาว เป็นภาพที่ดูยั่วยวน ถ้าถูกเผยแพร่ในกลุ่มชายรักชาย เพราะรูปร่าง ของณวัฒน์นั้นก็ค่อนข้างดีมาก ๆ เพราะชายหนุ่มนั้นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ญารินจัดเปลี่ยนท่าชายหนุ่มจนเธอพอใจ
จากนั้นเธอถอยหลังหนึ่งก้าว มองผลงานของตัวเองด้วยสายตาเย็นชา นิ่งเฉียบและแน่วแน่
“นี่แค่เริ่มต้น...ณวัฒน์”
ญารินเก็บโทรศัพท์และเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างใส่กระเป๋าสะพาย หยิบชุดที่เตรียมไว้ สวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง ระหว่างอยู่ในลิฟต์เธอรีบส่งข้อมูลภาพถ่ายทั้งหมดไปเก็บสำรองไว้ในที่ปลอดภัย ญารินทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบ เพราะเธอไม่สามารถพลาดได้..แม้แต่ครั้งเดียว
ด้านล่างคอนโด
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์สั่นขึ้นกลางความเงียบในรถ อคิณเหลือบตามองหน้าจอ ก่อนกดรับสาย
'ได้เรื่องหรือยัง สรุปไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร' อคิณถามกลับเสียงเรียบ
'ได้เรื่องแล้วครับนาย ผู้ชายคนนั้นชื่อณวัฒน์ เป็นลูกชายคนเดียวของคุณณิวัฒน์ เจ้าของบริษัท วัฒนา กรุ๊ปครับ พึ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อเดือนที่แล้วนี้เองครับ' ธามไทรายงานทันที
'ลูกชายเจ้าของวัฒนา กรุ๊ป อย่างนั้นเหรอ" เขาทวนช้า ๆ บริษัทวัฒนา กรุ๊ป เป็นคู่แข่งทางธุรกิจของบริษัทเขามานานหลายสิบปี แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถแซงหน้าบริษัทของเขาได้เลยสักครั้ง
'แล้วคอนโดเป็นของใคร'
'อาจจะเป็นชื่อคนอื่นครับนาย ปกติพวกนี้ชอบใช้ชื่อคนกลาง ถือครองทรัพย์สินแทน เอาไว้พาผู้หญิงขึ้นห้อง ถ้าเกิดเรื่องจะได้ไม่สาวไปถึงตัว' ธามไทพูดตามประสบการณ์ตรง
'แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่คอนโดของไอ้ณวัฒน์ เพราะตอนเดินเข้าไป ญารินเป็นฝ่ายนำหน้า แล้วเธอยังพูดอะไรบางอย่างกับรปภ.' อคิณปะติดปะต่อเรื่อง และเขาก็จำได้ว่าหญิงสาวนั้นหันไปพูดอะไรบางอย่างกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
'งั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าเป็นห้องของคุณญารินเองครับ เธออาจจะเช่าต่อจากคนอื่น เพราะเธอเพิ่งกลับจากต่างประเทศ'
'แค่นี้ก่อน' เขากดตัดสายทันทีเมื่อเห็นเงาของหญิงสาวเดินออกมาจากอาคาร แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเธอเดินออกมาแค่คนเดียว
"ทำไมเธอกลับออกมาแค่คนเดียว หรือว่าคอนโดนี้จะเป็นของไอ้หมอนั่น" เสียงพึมพำลอดริมฝีปาก รอยขมวดระหว่างคิ้วลึกขึ้น
อคิณขยับพวงมาลัย ขับรถตามช้า ๆ ไฟหน้ารถดับลงเหลือเพียงแสงสลัวจากถนนด้านหน้า เขาตามห่างพอจะไม่ให้ถูกจับได้ ขณะที่หญิงสาวเดินตรงไปยังซอยถัดไป มืด เปลี่ยว และไร้ผู้คน เพราะตอนนี้เป็นยามวิกาล
"เธอหายเข้าไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง" ระหว่างนั้นเขามองนาฬิกา พลางเค้นเสียงในลำคอเบา ๆ เวลาแค่นี้น้อยมากสำหรับการทำอะไรแบบนั้น
"เธอคิดจะทำอะไรกันแน่ญาริน" ความสงสัยที่เริ่มรุกคืบในใจโดยไม่รู้ตัว ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ดูนิ่งเงียบ แต่กลับมีพฤติกรรมแปลก ๆ จนอคิณอดที่จะสงสัยไม่ได้
อคิณเพ่งสายตาไปยังร่างบางที่เดินลับเข้าไปในตรอกมืด ก่อนที่จะเห็นเงาของรถคันหนึ่งสะท้อนวาบขึ้นในเงามืด คิ้วเขาผูกเข้าหากันโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นญารินเปิดประตูรถคันนั้นแล้วก้าวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย พยายามสังเกตผ่านเงาสะท้อนของกระจกบานหน้าว่าคนขับเป็นใคร ทว่าความมืดรอบบริเวณกับกระจกที่ถูกปรับเป็นโหมดสะท้อนแสงทำให้มองไม่เห็นอะไรนอกจากเงารางๆ ที่ขยับอยู่ภายในรถ
แสงจากริมถนนลอดผ่านซอกตึกสูงใหญ่เข้ามาเพียงบางส่วน พอให้เห็นแค่รูปทรงของรถไม่เห็นคนที่นั่งอยู่ในรถ ความคลุมเครือยิ่งทำให้อคิณรู้สึกหงุดหงิดขึ้นในอก
เขาขับตามไปโดยรักษาระยะห่างพอสมควร ไฟหน้ารถของเขายังคงปิดอยู่ มีเพียงแสงสลัวจากเสาไฟที่ช่วยให้เห็นเส้นทางข้างหน้า
"เธอกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ญาริน" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นราวกับถามตัวเอง สายตาคมจับจ้องไปยังรถคันข้างหน้าไม่วางตา จนรถวิ่งออกสู่ถนนเส้นหลักจึงเปิดไปส่องสว่างของรถปกติ
รถคันนั้นเปิดสัญญาณไฟเพื่อกลับรถไปตามเส้นทางที่อคิณจำได้ดี คือเส้นทางกลับคอนโดของญาริน เขาเริ่มเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่คิด จนเมื่อไฟเลี้ยวขวาสีส้มกะพริบขึ้นที่มุมรถคันหน้า แล้วรถก็เลี้ยวเข้าไปจอดสนิทที่หน้าอาคารสูงแห่งหนึ่ง อคิณชะลอรถตามอย่างเงียบงัน ก่อนที่หัวคิ้วจะขมวดเข้าหากันแน่น
“คอนโดเธอ” เขาพึมพำเบา ๆ พลางมองร่างบางที่เปิดประตูรถลงอย่างเร่งรีบ ก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
“เธอกำลังปิดบังอะไรอยู่...ญาริน”