ตอนที่20 ล่องเรือ

1800 Words
ตอนที่20 ล่องเรือ ญารินนิ่งไป ใบหน้าฉายแววลังเล ในหัวเธอมีสองเสียงเถียงกันอย่างดุดัน เสียงหนึ่งบอกว่าไม่ควรเข้าใกล้ศัตรูโดยไม่เตรียมตัว แต่อีกเสียงหนึ่งเตือนว่า…นี่อาจเป็นโอกาสดีในการเข้าถึงเขาโดยตรง หากแผนที่ใช้บริษัทของอคิณไม่สำเร็จ เธอจะต้องมีแผนสำรอง ‘การทำให้ศัตรูไว้ใจ มักจะง่ายต่อการจัดการมากที่สุด’ เธอคิดในใจ หัวใจเธอเต้นถี่ขึ้น เธอกำลังจะเอ่ยปากตอบบางอย่าง แต่ยังไม่ทันได้พูด เสียงเรียบของอคิณก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน “คงไม่รบกวนคุณเนวินหรอกครับ” เขาพูดนิ่ง น้ำเสียงนั้นไม่แข็งแต่ชัดพอให้ทั้งห้องได้ยิน “เพราะผมเองก็มีแพลนจะไปล่องเรืออยู่แล้วเหมือนกัน” คำพูดนั้นเหมือนกระสุนยิงแสกหน้าเนวินโดยไม่ทันตั้งตัว ญารินหันขวับไปมองชายหนุ่ม ดวงตากลมเบิกขึ้นนิดอย่างตกใจ ส่วนเนวินหัวเราะเบา ๆ เสียงแหบต่ำกลบเกลื่อนอาการเสียหน้า “อ้อ...อย่างนั้นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นไว้โอกาสหน้าก็ได้ ผมจะรอ…” “ขอบคุณครับ แต่คนของผมคงไม่จำเป็นให้คนอื่นมาดูแล ขอตัวก่อนนะครับ” ก่อนญารินจะทันตั้งหลัก ฝ่ามือหนาจับข้อมือเธอแน่น จูงมือเธอออกจากห้องประชุมโดยไม่แม้แต่หันกลับไปมอง เสียงประตูปิดลงเบา ๆ ทิ้งไว้เพียงสายตาของเนวินที่มองตามหลังทั้งคู่ไปจนสุดสายตา รอยยิ้มบางของชายวัยกลางคนผุดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มีความหมายที่ยากจะอ่านออก “มีอะไรบ้างบนโลกใบนี้ที่เงินซื้อไม่ได้” เสียงกล่าวทิ้งท้ายตามหลัง มีเพียงเลขาคนสนิทของเขาเท่านั้นที่ได้ยิน “กัมพล นายเตรียมสาว ๆ ให้ฉันพร้อมแล้วใช่ไหม” “พร้อมแล้วครับ ตอนนี้พวกเธอรออยู่บนเรือแล้วครับ” “ดี ถ้างั้นก็ไปกันเลย” ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น “นายครับ คุณหญิงจิตราโทรมาครับ” เลขาหนุ่มยื่นโทรศัพท์ให้คนเป็นนาย “โทรมาทำไม นี่ขนาดฉันมาทำงานยังโทรจิกฉันขนาดนี้ ผู้หญิงแก่นี่มันจู้จี้จุกจิกจริง ๆ” เสียงบ่นออกมาไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยื่นมือมารับโทรศัพท์จากมือเลขา 'ว่าไงครับที่รัก' น้ำเสียงต่างจากก่อนหน้า 'ฉันได้ข่าวว่าคุณจะไปล่องเรือเหรอคะ ทำไมคุณถึงไม่ชวนฉันด้วยคะ' 'ตอนแรกผมไม่ได้วางแผนว่าจะไป เลยไม่ได้ชวนคุณมาด้วย แต่วันนี้จะพาลูกค้าไปล่องเรือ เอาไว้คราวหลังนะที่รักผมว่างผมจะพาคุณมาแน่นอน แค่นี้ก่อนนะผมต้องรีบไปแล้ว ลูกค้ารออยู่' พูดจบก็กดตัดสายทันที "ถ้ายัยแก่นี่โทรมาอีกก็ไม่ต้องรับสายนะ เสียอารมณ์จริง ๆ" "ครับนาย" ทางด้านอคิณ "คุณอคิณคะ เรากำลังจะไปไหนคะ" ญารินเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาลากเธอมาขึ้นรถและขับออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรเลย "ผมก็บอกคุณแล้วว่าผมจะไปล่องเรือ ชมพระอาทิตย์ตกดิน" "ฉันไม่ไปด้วยหรอกนะคะ" "ทำไม ไปกับผมมันไม่สนุกหรือไง หรืออยากไปกับไอ้แก่หัวงูเนวินนั่น" เป็นครั้งแรกที่ได้ยินอคิณโมโหจนเผลอพูดคำหยาบ "เปล่าค่ะ แต่คุณไม่จำเป็นต้องพาฉันไปล่องเรือจริง ๆ หรอกนะคะ" "ผมบอกคุณตอนไหนว่าผมตั้งใจจะพาคุณไปล่องเรือ" "ก็คุณบอกเมื่อกี้ไงคะ" "ผมอยากไปล่องเรือ และคุณต้องไปกับผมทุกที่ที่ผมไป เพราะคุณอยู่ในเวลางาน" เอี๊ยด!!! เสียงยางรถครูดกับพื้นถนนคอนกรีตเมื่อรถเบรกในระยะกระชั้นชิด อคิณหักพวงมาลัยเข้าไปจอดข้างทาง ตรงร้านขายเสื้อผ้า ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถในชุดสูทเต็มยศ ส่วนญารินนั้นก็ยังคงสวมเสื้อสูทอยู่เหมือนกัน "ลงมาสิ หรือว่าจะให้ผมเลือกให้" "ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวฉันเลือกเอง" ร่างบางก้าวลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าหลากสีแขวนอยู่เต็มร้าน ญารินเดินไปหยิบชุดเดรสสีขาวผ้าลูกไม้มาทาบเข้ากับตัว ส่วนอคิณนั้นเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว และกางเกงขาสั้นสีขาว "เลือกชุดว่ายน้ำไปด้วย" "คะ" "เลือกชุดว่ายน้ำไปด้วย เผื่อคุณอยากเล่นน้ำหรือขับเจสกี" "บนเรือคุณมีเจสกีด้วยเหรอคะ" "จะขับกี่คัน" บนเรือ ญารินกำลังนอนรับลมชมท้องฟ้าสีคราม วันนี้บรรยากาศดีไม่มีฝนและไม่มีแดด ลมพัดโชยกลิ่นอายทะเล เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก นานเท่าไหร่ที่ไม่ได้มาเที่ยวทะเลสวย ๆ แบบนี้ พลานให้คิดถึงคนเป็นพ่อที่เมื่อตอนเด็กเขาพาเธอมาเที่ยวบ่อย ๆ ช่วงปิดเทอม ครืด ครืด 'ว่าไงคุณหนูลียา' 'อยู่ไหนคะแม่เลขาสาว' 'อยู่ภูเก็ต มาพรีเซนต์งานให้ลูกค้า' 'พรีเซนต์งานทำไมเสียงลมดังจัง' เสียงลมพัดแทรกเข้าไปในสาย 'ตอนนี้ฉันอยู่บนเรือ' 'อย่าบอกนะว่าไปพรีเซนต์ถึงบนเรือ' 'เปล่า ทำงานเสร็จแล้ว คุณอคิณพามาล่องเรือ' 'ฮะ! ทำงานเสร็จถึงกับพาเลขาไปล่องเรือเลยเหรอ เจ้านายสุดหล่อของแกใจดีจริง ๆ แกอย่าเผลอไปหลงเสน่ห์เขาเข้าล่ะ' 'ไม่มีทางหรอก ผู้ชายอย่างเขาไม่รู้ว่าชาตินี้จะหาเมียได้หรือเปล่า ปากจัดขนาดนั้น ถึงจะหุ่นน่ากินก็เถอะ' 'ให้มันจริง ฉันไม่อยากจินตนาการเลยเวลาเขาถอดเสื้อหุ่นเขาจะน่ากินแค่ไหน ไหนจะซิกแพคนั่นอีก แค่คิดก็น้ำลายไหล' ขณะที่ญารินกำลังฟังอยู่นั้นอคิณก็เดินเข้ามาพอดี ตอนนี้เขาสวมเพียงกางเกงขาสั้น ส่วนด้านบนนั้นเปลือยเปล่า ซิกแพคเป็นลูก ๆ จนญารินเผลอมอง "คุณจะกินผมเหรอ" อคิณถามขึ้น ญารินแทบมุดหน้าลงกับเตียงผ้าใบ "ปะ…เปล่าค่ะ" ใบหน้าสวยเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด "ถ้าคุณหิวสามารถสั่งอาหารพนักงานได้นะ คุณจะได้ไม่ต้องคิดจะกินผมแทนข้าว" อคิณพูดจบก็เดินไปข้างเรือ ยืนดูพนักงานกำลังเอาเจสกีเตรียมออกมาขับ สุดสัปดาห์ต่อมา เสียงเพลงจากลำโพงดังคลอเคล้าไปกับแสงไฟสลัวภายในห้องวีไอพีชั้นสองของผับ กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำหอมราคาแพงลอยปะทะปลายจมูก ค่ำคืนนี้เป็นคืนพิเศษ เป็นการเลี้ยงต้อนรับเพื่อนสนิทที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาหลังไปดูแลกิจการของครอบครัวที่นั่น กำลังถูกเพื่อนฝูงรุมต้อนรับอย่างอบอุ่น “เฮ้! ไอ้อคิณ!” เสียงทุ้มของเคิร์ตดังขึ้นพร้อมตบไหล่แน่น ใบหน้าเคิร์ตยังคงหล่อจัดจ้านแบบลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย ดวงตาสีเทาแฝงประกายดุเข้มเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “ไม่ได้เจอกันนาน ยังทำหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม” เขาหัวเราะพลางยักคิ้วให้ “ส่วนมึงปากก็ยังเหมือนเดิม” อคิณตอบกลับเสียงต่ำเรียบแต่มีแววขันในน้ำเสียง ก่อนจะยกแก้วขึ้นชนกัน เสียงกระทบของแก้วคริสตัลใสดัง กริ๊ง! “แล้วจู่ ๆ ทำไมถึงเสนอหน้ากลับมาเมืองไทยได้ล่ะ ปกติมึงงานยุ่ง” อคิณถามพลางเอนตัวพิงพนักโซฟา “นั่นสิ ทำไมกลับมาไม่บอกพวกกูล่วงหน้า” กรถามขึ้นขณะเทเหล้าเพิ่มให้ตัวเอง แสงจากหลอดไฟสะท้อนกับน้ำแข็งในแก้วจนระยิบระยับ "พ่อกูจะมีเมียใหม่" เสียงของเคิร์ตพูดขึ้นเรียบ ๆ แต่ชัดเจนพอจะทำให้โต๊ะทั้งโต๊ะเงียบไปชั่วขณะ “ฮะ!!” ทุกคนหันมองหน้าเคิร์ตพร้อมกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง "พ่อกูจะแต่งงานใหม่ ก็เลยต้องกลับมาร่วมแสดงความยินดี ตามประสาลูกที่ดี" ริมฝีปากเขาแย้มยิ้มบาง ๆ แต่ในแววตากลับไม่มีความยินดีหรือไม่พอใจ มีเพียงแววตาเย็นชา เหมือนคนไร้หัวใจอย่างที่เคยเป็น “หึ อย่างมึงเนี่ยนะ ลูกที่ดี” วินหัวเราะออกมา “ลูกที่พ่อมึงเลือกไม่ได้ต่างหาก ถ้าเลือกได้ คงเปลี่ยนอสุจิตัวใหม่มาเกิดแทนมึงแล้ว” "แล้วพวกมึงต่างจากกูตรงไหน" เคิร์ตสวนกลับเสียงเรียบ ใบหน้าคมฉบับหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน ดวงตาสีเทา ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกทีเดียวหมดแก้ว ราวกับว่าเป็นน้ำเปล่า "แล้วแม่ใหม่มึงเป็นใครวะ พวกกูไม่เคยเห็นว่าพ่อมึงจะเดินกับใคร" วินถามต่อ "ผู้หญิงธรรมดานี่แหละ ไม่ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐินีมาจากไหน สามีเก่าเขาเกิดอุบัติเหตุตายเมื่อหลายปีก่อน" น้ำเสียงเคิร์ตเต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจ เหมือนพูดถึงคนแปลกหน้าที่ไม่มีความหมายกับชีวิตเขา “แล้วมีลูกไหม กูหมายถึงลูกติดเมียใหม่พ่อมึง” กรถามต่อ เสียงแผ่วแต่แฝงความอยากรู้ “เห็นว่ามีลูกสาวคนหนึ่ง...อายุน้อยกว่ากู แต่กูยังไม่เคยเจอหรอก” “ถ้าสวย บอกกูด้วยนะ” วินยิ้มกรุ้มกริ่ม “กูอยากเป็นน้องเขยมึง” วินพูดต่อสีหน้ากวน ๆ "กูไม่มีน้องสาว แม่กูมีลูกคนเดียว แต่ถ้าจะมีก็ต้องไปถามพ่อกูว่ามีชู้หรือเปล่า" เคิร์ตตอบกับเสียงเข้ม บทสนทนาจบลงแค่นั้น ต่างคนต่างนั่งดื่มกันเงียบ ๆ มีเสียงพูดคุยดังขึ้นเป็นระยะ "กูลืมหยิบของในรถ เดี๋ยวกูมา" เสียงเคิร์ตเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ร่างสูง 190 เซนติเมตรลุกพรวดพราดขึ้น สาวเท้าเดินออกจากห้องไป ด้านล่าง "ยัยริน ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันจะเป็นเมนส์ ฉันไปหยิบผ้าอนามัยในรถก่อนนะ" "อืม รีบไปรีบมา ระวังตัวด้วย" ลานจอดรถ ลานจอดรถวีไอพี สำหรับซูเปอร์คาร์ ลียาคว้ารีโมตขึ้นมาปลดล็อก ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงรีโมตดังขึ้นแทบพร้อมกัน หญิงสาวยืนอยู่ตรงประตูด้านข้างคนขับ เธอเปิดประตูรถจากนั้นเอื้อมมือไปเปิดช่องเก็บของคอนโซลหน้ารถเพื่อหยิบผ้าอนามัยที่เธอใส่ไว้ตรงนั้นประจำ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเจอเงินสดเป็นปึก ๆ วางเรียงกันอยู่หลายสิบปึก เสียง แกร๊ก! ของประตูดังชัดเจนในความเงียบ พร้อมกับประตูฝั่งคนขับเปิดออก "อ้ะ! คุณเป็นใคร ทำไมเปิดประตูรถฉันเข้ามาแบบนี้"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD