พี่ชายของขิง.....

1478 Words
แพทตี้อยู่ว่างๆที่บ้านของขิง เธอไม่รู้จะทำอะไร เพราะป้าแมวชอบห้ามเธอ ห้ามไปหมด จนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป... " ป้าแมวค่ะ หนูเบื่อแล้วค่ะ อยู่เฉยๆมาตั้งหลายวันแล้ว วันนี้หนูขอทำกับข้าวนะคะ หนูเหง๊าเหงา... เบื่อมากๆเลยค่ะ นะคะป้าแมวคนสวย... ให้หนูช่วยก็ได้คะ หนูสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่สนไม่แอบกินด้วย..." แพทตี้ถึงกับต้องทำตัวให้น่ารักตัวเล็กตัวน้อย...เพื่อที่จะทำให้ป้าแมวใจอ่อน... " ก็ได้ค่ะๆ เห็นว่าเหงาหรอกนะคะ ไม่งั้นป้าแมวไม่ให้ช่วยทำหรอก... มาค่ะ งั้นวันนี้เราทำแกงเผ็ดเป็ดย่างกัน หนูแพททำเป็นไหมคะ?" ป้าแมวผู้ที่มีความรูด้านอาหารระดับหนึ่งเธอเอ่ยถามสาวน้อยน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มคนนี้อย่างใคร่รู้... "เคยได้ยินค่ะ ไม่เคยชิมไม่เคยทำด้วย แพททำแต่กับข้าวง่ายๆ อย่างเช่นมัสมั่น พะโล้ แกงเทโพ ผัดผักรวมมิตร ฉู่ฉี่ด้วยค่ะ แพทชอบกิน คุณพ่อก็ชอบ..." น้ำเสียงช่วงสุดท้ายที่เปร่งออกไปกลับเบาราวกับเสียงลมที่พัดผ่านไป... " งั้นมาช่วยป้าแมวดีกว่า มาคะ จะได้เอาไปทำให้คุณพ่อหนูแพททานไงคะ ดีไหม? " หญิงสูงวัยถึงกับหาทางเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะดูๆแล้วสาวน้อยคนนี้น่าจะรักครอบครัวมาก ยิ่งคนเป็นพ่อแล้วด้วยเพีงแค่เอ่ยถึงพ่อก็ทำให้สาวน้อยคนนี้ถึงกับหงอยได้ในชั่วพริบตา... ส่วนประกอบของการทำแกงเผ็ดมีดังนี้..เป็ดย่าง ,กะทิ มะเขือเทศราชินี , ใบโหระพา, สับปะรด , พริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูด ,มะเขือพวง, น้ำตาลปี๊บ, พริกแกงเผ็ด ,น้ำปลา น้ำมันพืช วัตถุดิบทุกอย่างป้าแมวเป็นคนหามาตั้งแต่เช้า เป็นย่างป้าแมวสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ช่วงเช้าตอนนี้ป้าแมวไปจ่ายตลาดท่านก็เลยถือกลับบ้านมาพร้อม วิธีการทำในแต่ละขั้นตอนมันก็... ยุ่งยากมากเหมือนกัน แต่มีรึคนอย่างแพทตี้จะท้อ.... " ป้าฝากดูก่อนนะคะแป๊บนึง เดี๋ยวป้ามา ไปดูมะละกอข้างหลังบ้านสักครู่ว่ามันสุกรึยัง " ป้าแมวฝากแกงเผ็ดเป็นย่างไว้กับแม่ครัวตัวน้อยเพราะทุกอย่างมันต้องใช้เวลาในการทำ และต้องคอยเฝ้าระวังอยู่เรื่อยๆ 5 นาทีผ่านไป... หมับ!!! ฟอดดด ขวับ!!! ว๊ายยยยย แพทตี้หันกลับไปถึงกับตกใจทันที เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนที่มากอดและมาขโมยหอมแก้มเธอเป็นใคร.... เห้ยยยยย " คุณเป็นใครคะ? ช่วยด้วย!!! " แพทตี้ถึงกับร้องตะโกนให้คนมาช่วยเธอ เธอวิ่งหนีไม่ถนัดด้วยสิ ดังนั้นต้องร้องค่ะ ร้องแหกปากให้คนช่วยค่ะ... ตึกตักตึกตัก.... ป้าแมววิ่งมาสุดชีวิตที่เธอจะทำได้ เธอได้ยินเสียงกรี๊ดของหนูแพท และต่อมาคือเสียงร้องช่วยด้วยของหนูแพท ดังนั้นเธอจึงต้องรีบวิ่งมายังห้องครัวทันที.... " คุณคราม... มาได้ยังไงคะเนี่ย..." ป้าแมวถึงกับตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตกใจ จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไงกัน เพราะปกติคุณครามไม่ค่อยว่างเลย และไม่ค่อยมาหาคุณน้ำขิงนานแล้ว... นี่ถ้าคุณน้ำขิงรู้นะ มีหวังกรี๊ดบ้านแตกแน่ เพราะพี่ชายคนโตสุดของบ้านแวะมาหาเธอ ส่วนพี่ชายคนกลางก็มาเยี่ยมบ้าง " ใครครับ? แม่บ้านคนใหม่เหรอ?" ครามที่ยังไม่เข้าใจในสถานะการณ์ ว่าตอนนี้คนที่เขากอดและหอมไปนั้นคือใคร แต่ดูๆแล้ว... ไม่น่าจะเป็นแม่บ้านคนใหม่..มั้ง "ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนคุณน้ำขิง เธอมาขออยู่ด้วยช่วงนี้ รายละเอียดก็ถามกันเอาเองนะคะ ว่าแต่ไปไงมาไงคะเนี่ย... เออ แล้วเมื่อกี้หนูแพทเป็นอะไรคะ ร้องให้ช่วย... คุณครามทำอะไรหนูแพทคะ?" นั่นสิเธอลืมถามไปเลย คือว่าผม/ไม่มีอะไรคะ สองคนรีบแย่งกันพูดออกทันที ครามกำลังจะอธิบายในสิ่งที่เขาทำลงไป ส่วนสาวน้อยน่าตาจิ้มลิ้มก็แย้งขึ้นมาว่าไม่มีอะไร.. ตกลงแล้วมีหรือไม่มี ป้าแมวถึงกับต้องหรี่ตา มองทั้งคู่อย่างจับผิด... " ไม่มีอะไรคะป้าแมว พอดีแพทตกใจที่อยู่ๆก็มีผู้ชายเข้ามาในบ้านของขิงโดยไม่ให้สุ่มให้เสียง แพทหันกลับมาเจอเขาก็เลยตกใจเพราะคิดว่าเขาเป็นขโมยน่ะค่ะป้าแมว ไม่มีอะไร.." ใครจะกล้าบอกกันว่าเขากอดและหอมแก้มเธอน่าอายจะตายไป " เอ่อ.. ตามนั้นครับ " ครามถึงกับต้องเออออไปกับคำโกหกของสาวน้อยคนนี้ทันที... ได้สิในเมื่อเธอพูดแบบนั้นเขาก็จะไม่ทำให้เธอขายหน้า "งั้นป้าทำกับข้าวต่อนะคะ อ๋อ คุณครามป้าช่วยพาหนูแพทไปนั่งพักที ยืนนานแล้ว เดี๋ยวจะเจ็บขาเอา.." ได้ครับ/ไม่เป็นไรค่ะ... อีกล่ะ ป้าแมวถึงกับต้องหัวเราะในลำคอให้กับทั้งสองคนทันที ว่าไปเธอล่ะอยากจับคู่ให้ทั้งสองคนจัง.... " มาเถอะผมมีเรื่องจะถามนิดหน่อย..." น้ำเสียงที่ครามใช้ไม่ใช่น้ำเสียงของการร้องขอ แต่เป็นการบังคับเสียมากกว่า... แพทไม่มีทางเลือกเธอเลยต้องจำใจต้องให้เขาช่วยพยุงเธอไปยังห้องนั่งเล่น... เมื่อทั้งสองคนมาถึงห้องนั่งเล่น บรรยากาศแห่งความอึดอัดก็เริ่มเกิดขึ้นมาอีกครั้ง " เรื่องเมื่อครู่ผมขอโทษนะ คิดว่าเป็นยัยน้อง... เอาเป็นว่าผมขอโทษคุณแพทด้วยก็แล้วกัน..." ครามก้มหัวเพื่อแสดงความขอโทษด้วยใจจริง เขาไม่รู้จริงๆ เขาคิดว่าทำไมยัยน้องถึงตัวเล็กจัง แต่เพราะที่บ้านหลังนี้มีเพียงแค่น้ำขิงและป้าแมว เขาเลยไม่คิดอะไรมากและไม่คิดว่าคนที่ยืนอยู่หน้าเขาจะเป็นคนอื่น... " เอ่อ.. ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันได้... ยังไงแพทก็ขอโทษด้วยนะคะ ที่ตีโพยตีพายไปซะเสียงดัง" หญิงสาวถึงกับต้องย่นจมูกของตัวเองขึ้น ก็มันตกใจนิ แล้วก็ยังอายที่เขาจ้องหน้าเธอแบบนี้... "งั้นเรียกว่าพี่ครามเถอะ ว่าแต่... ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? แล้วขาไปเป็นอะไรมา?" ที่สำคัญเขายังเห็นรอยแผลเล็กที่อยู่บนหน้าผากนั่นอีกด้วย... " ตกบรรไดน่ะค่ะ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะพึ่งใคร หนูเลยขอความช่วยเหลือจากขิง...หนูไม่มีเพื่อนสนิทค่ะนอกจากน้ำขิง หนูก็ไม่มีใคร หนูไม่อยากให้พ่อรู้.... หนูก็เลยมาขอพึ่งใบบุญน้ำขิง...." เธอก็ยังคงโกหกพี่ชายของน้ำขิงเช่นเคย เธอจะไม่เอาเรื่องภายในบ้านมาเล่าให้คนอื่นฟังป็นอันขาด... " อืมๆ ไม่ได้ว่าอะไรแค่อยากรู้ว่าไปโดนอะไรมา แล้วนี่เจ็บมากไหม ไปหาหมออีกทีวันไหนเนี่ย ว่าแต่... ยัยน้องไปทำงานหรอ?" " ค่ะ ขิงไปทำงาน หนูทำงานที่เดียวกับน้ำขิง แต่พอดีช่วงนี้ลาป่วย น้ำขิงก็เลยไปทำงานคนเดียวอาทิตย์หน้าหนูก็จะไปทำงานแล้วค่ะ อยู่นานๆมีหวังโดนไล่ออกแน่ค่ะ ลางานนานไม่ได้.." นั่นสิถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่พร้อมแต่เธอก็ต้องไปทำงาน เพราะถ้าไม่ทำเธอโดนไล่ออกแน่... " บ้าสิ ดูสภาพตัวเองก่อน งานที่ทำเขาคงจะไม่ใจร้ายถึงขนาดไล่คนเจ็บคนป่วยออกม๊าง..." ครามล่ะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องไล่ออก ก็ในเมื่อมันคืออุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดสักหน่อย เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก ดังนั้นก็ไม่ควรจะไล่ออกสิ " พอดีหนูไม่ได้เป็นพนักงานประจำน่ะค่ะ แค่ชั่วคราว ดันั้นลางานนานๆหรือบ่อยๆไม่ได้หรอก ไม่เหมือนน้ำขิง เพราะน้ำขิงทำงานก่อนหนูและเป็นพนักงานประจำของที่โรงแรมด้วยถ้าเขาจะไล่ออกมันก็คงยากหน่อย..." แพทตี้รู้ดีว่าเธอสามารถถูกไล่ออกได้ทุกเมื่อ และเธอก็ไม่ได้ใช้เส้นสายหรือป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเธอแต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงแรมด้วย ดังนั้นชีวิตเธอก็แขวนอยู่บนเส้นด้ายอยู่ตลอดเวลา...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD