“หัดไว้ไม่เสียหายนี่เจ้าคะ” ยืนยันหนักแน่น ‘หากไป่เยว่ชิงโดนยาเข้าไปพี่หย่งเจี้ยนที่อยู่ใกล้นางคงมิวายจะต้องสัมผัสหรืออุ้มนางใช่หรือไม่น้าาา’ หึหึ
ระหว่างทางเดินกลับศาลาริมน้ำเสี่ยวถงยืนทำหน้ากระวนกระวาย ในมือถือไหสุราเหลียวมองซ้ายขวาไม่เห็นผู้ใดจึงเทผงสีขาวผสมลงไปในไหสุราหนึ่งห่อ จากนั้นก็เดินต่อไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น บนต้นไม้ใหญ่ กงลี่ที่ออกจากห้องขับถ่ายเห็นเสี่ยวถงทำท่าทางลับๆล่อๆจึงตามมาดู จึงได้เห็นว่าเสี่ยวถงใส่บางอย่างลงในสุรา ‘ผงอะไร"
- ๑--------------------------------๑
ก่อนหน้าวันปักปิ่นหนึ่งวัน
“เสี่ยวถง….ถ้าเจ้าพึงใจชายหนุ่มคนใดแล้วอยากให้เขาร่วมหอสุขสมหวังกับเจ้าในเร็ววัน แต่ตอนนี้เขายังไม่สนใจใยดีเจ้าเจ้าจะทำเช่นใด??” เสี่ยวถงที่กำลังนั่งปักผ้าเช็ดหน้าก็ตอบออกมาแบบติดตลก โดยไม่คิดอะไรเพราะนึกว่าคุณหนูล้อเล่น
“วางยาเลยสิเจ้าคะ พอตื่นมาเจอหน้ากันถึงอย่างไรเขาก็ต้องรับผิดชอบ จัดงานมงคลแน่นอนเจ้าค่ะ”
“จริงสิ!!!!!” ตะโกนเสียงดังจนเสี่ยวถงตกใจ
“ไปเรียกอาไช่มาหาข้า เร็วๆด้วย” ไม่ถึงหนึ่งเค่อ เสี่ยวถงก็พาอาไช่เข้ามาเหม่ยเซียนเปิดปากถามทันที
“อาไช่ เจ้าเป็นชายไปหาซื้อยาที่จะทำให้เจ้ารู้สึกอยากหลับนอนกับหญิงสาวมาให้ข้าสักสองห่อสิ” อาไช่ทำหน้างง ‘ยาที่ทำให้อยากนอนกับหญิงสาว’ 55555 อาไช่หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ยากำหนัดรึขอรับคุณหนู” 555555
5555555เหม่ยเซียนหัวเราะตาม ‘นี่ชื่อมันเรอะ’ 5555
“ใช่ๆ คงจะเป็นชื่อนั้น เอาสองห่อนะ” อาไช่รับเงินจากคุณหนูแล้วเดินออกไป
“คุณหนูจะเอาไปให้ผู้ใดกินหรือเจ้าคะ??” เสี่ยวถงถามอย่างงงงวย
“ข้าจะให้องค์ชายกินน่ะสิ เผื่อวันงานข้าจะได้ผลักดันให้ไป่เยว่ชิงและตู้ฟางซินสมหวังไงล่ะ” แอบซุบซิบบอกเสี่ยวถง
“มิได้นะเจ้าคะ!!!” เสี่ยวถงตกใจอย่างแรง'เหตุใดคุณหนูถึงมิรู้ความเช่นนี้เนี่ย' กล่าวแล้วซุบซิบกลับ “หากถูกจับได้ขึ้นมา ข้อหาวางยาเชื้อพระวงค์มีโทษประหารเจ็ดชั่วโคตรนะเจ้าคะ ตายหมดจวนนะเจ้าคะคุณหนู…” ทำสีหน้าแย่มากกลัวผู้ใดจะมาได้ยิน
“ร้ายแรงเช่นนั้นเลยรึ!! ตายแล้ววววว ไปตามอาไช่กลับมาเร้วววว” เสี่ยวถงวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
เกือบจะทำสกุลเขาพังพินาศแล้วนะเนี่ย เช่นนั้นต้องคิดใหม่ ‘อืมมมม..ถ้าวางยาองค์ชายไม่ได้ ก็วางคุณหนูพวกนั้นคงจะเข้าท่ากว่า แต่ถ้าเป็นยาปลุกกำหนัด ผู้หญิงมันจะมีท่าทางยังไงนะ เอ..รึว่าจะเอาอย่างอื่นดี แค่พยายามให้องค์ชายแตะต้องเนื้อตัวพวกนางก็คงได้แล้วมั้งเนอะ อย่างน้อยฝ่ายสตรีก็เสียหายแล้วนิหน่า อืมมมม..น่าจะดีกว่า’
“ตามอาไช่ไม่ทันเจ้าค่ะ” เสี่ยวถงตอบด้วยเสียงเหนื่อยหอบ
“ไม่เป็นไรแค่เปลี่ยนคนกินแล้วก็ไม่ต้องใส่เยอะ เข้าใจมั้ยเสี่ยวถง” เสี่ยวถงโอดครวญ ‘ทำไมต้องเป็นบ่าวด้วยเจ้าคะ’
๑--------------------------------๑
ก่อนเสี่ยวถงจะมาถึงศาลา กงลี่ที่กระโดดมาจากมุมใดไม่ทราบได้รีบเดินเข้ามากระซิบองค์ชายทั้งสองพระองค์เบาๆ ใบหน้าทั้งสองขมวดลงในทันทีแต่เพียงแวบเดียวก็ปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ
“สุราดอกท้อมาแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวถงพูดเสียงดัง
“อ่ะ..ข้ารินให้เจ้าคุณหนูไป่” ยกถ้วยชามารินจนเต็มแล้วยื่นให้ไป่เยว่ชิง
“เหตุใดเจ้ารินให้แค่ข้า เจ้ามิดื่มรึ” ไป่เยว่ชิงกล่าวอย่างไม่ไว้ใจ 'นี่นางคิดจะแกล้งข้าใช่หรือไม่'
“สุรามีแค่ไหเดียวข้าจะแย่งเจ้าได้อย่างไร เจ้าเป็นแขกข้าต้องเลี้ยงเจ้าอย่างดีสิ อีกอย่างเมื่อวานข้าก็ชิมไปแล้วหนึ่งไหแน่ะอร่อยมากจริงๆนะ” คะยั้นคะยอให้นางดื่มเร็วๆ
“สุราดอกท้อช่างมีกลิ่นหอมนักเป็นสุราสำหรับสตรีเชิญคุณหนูไป่ดื่มเถอะ และเจ้า..เหม่ยเซียนเจ้าเป็นเจ้าบ้านจะมิยอมดื่มร่วมกับคุณหนูไป่สักถ้วยหรืออย่างไร?” เจ้าหย่งเจี้ยนกล่าวพลางลอบสังเกตุใบหน้าเหม่ยเซียนเห็นนางขมวดคิ้วเป็นปมแต่ก็ตอบรับ
“ก็ได้เจ้าค่ะ” ‘จิบนิดเดียวไม่เป็นไรมั้ง’ แต่เสี่ยวถงกลับยกมือปิดปาก ‘ตายแล้วคุณหนู เสียวถงเผลอใส่ยาปลุกกำหนัดลงไปทั้งห่อนะเจ้าคะ..ฮืออ’
จูเหม่ยเซียนรินสุราใส่ถ้วยของตัวเองเพียงครึ่งและยกขึ้นชนกับทุกๆคน “ดื่ม/ดื่ม/ดื่ม/ดื่ม” นางยังทำหน้าที่รินสุราต่อเนื่องให้ทุกคนอีกสามสี่ถ้วยโดยที่ไม่ลืมที่จะเปลี่ยนสุราของตนเองเป็นสุราปรกติ ส่วนของคุณหนูไป่ก็เป็นสุราดอกท้อสูตรพิเศษเช่นเดิม สองเค่อผ่านไปใบหน้าของเหม่ยเซียนเริ่มแดง เนื้อตัวเริ่มร้อนขึ้นแปลกๆ เหงื่อออกเต็มแผ่นหลัง ‘ยานั่นคงออกฤทธิ์ใช่หรือไม่แต่เป็นไรเราจิบไปแค่นิดเดียวเอง เราทนได้ๆ' ปลอบตัวเองเสร็จก็เหลือบมองคุณหนูไป่เห็นนางนั่งขดตัว ตัวสั่นระริก สายตาหวานเยิ้มยั่วยวน ริมฝีปากเผยอนิดๆและเปล่งเสียงพูดยั่วยวนออกมาว่า
“องค์ชายรองเพคะ…ช่วยหม่อมฉันด้วยยเพคะ..อาาาา" มือขวาลูบไล้ตัวเอง มือซ้ายกำลังยื่นไปหาเจ้าหย่งเจี้ยน เพี้ยะ!! เจ้าหย่งเจี้ยนใช้หลังมือสะบัดตบอย่างแรง “อ้ะ..อาา" ไป่เยว่ชิงร้องและครางออกมาตัวสั่น
สาวใช้ของนางรีบขึ้นมาดูร้องเรียกเสียงหลง “คุณหนูเป็นอันใดเจ้าคะคุณหนู” ซือโถวร้องไห้ไปเขย่านางไป
สององค์ชายรับรู้ได้ทันที ว่าเป็นยาอะไรผสมในสุราดอกท้อจึงพร้อมใจกันหันมองเหม่ยเอ๋อร์เพราะนางก็ดื่มไปเช่นกันถึงแม้จะเพียงแค่ถ้วยเดียวก็ตามและภาพที่เห็นก็ทำให้สายตาพร่ามัวไปชั่วขณะ หน้าตาสวยมีเสน่ห์พวงแก้มแดงก่ำ ขบเม้มริมฝีปากเพื่อข่มกลั้นอารมณ์บางอย่างของนาง ดูช่างยั่วยวนเสียยิ่งกว่าหญิงใด ‘ข้าจะทนได้เช่นไรกัน?’
“จบเรื่องนี้เราต้องคุยกันยาวแน่เหม่ยเอ๋อร์….ฝูจิน!!!” หย่งเจี้ยนเรียกองครักษ์มาสั่งการ “จัดการเรื่องในศาลาให้เรียบร้อยหากผู้ใดปากยาวก็จัดการให้หมด”
“พะยะค่ะ” ฝูจินรับคำ ส่วนเจ้าหย่งเซิงคว้าตัวเหม่ยเอ๋อร์ขึ้นมาอุ้ม(ในท่าเจ้าสาว) เรียกสาวใช้เสียงดัง
“เสี่ยวถง…นำทางข้าไปที่เรือนเหม่ยเอ๋อร์ ส่วนเจ้ากงลี่ รีบไปตามท่านอาจารย์มาด่วนน!”
“เพคะ/พะยะค่ะ”
สององค์ชายสั่งการเสร็จแล้วก็รีบก้าวเท้าตามเสี่ยวถงกลับเรือนหลานฮวาทันทีโดยไม่สนใจ ไป่เยว่ชิง ที่นอนตัวสั่นพร่ำเพ้ออยู่บนศาลากับสาวใช้ของนาง…
ระหว่างทางที่เดินไปยังเรือนหลานฮวา เจ้าหย่งเจี้ยนได้แต่ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ท่านอาจารย์ได้เรียกทั้งตนเองและน้องสามเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของบุตรสาวที่ได้รับปิ่นแทนใจทั้งสองอันด้วยความเครียดท่านอาจารย์กล่าวว่า ‘หากทั้งสองพระองค์พึงใจต่อบุตรีของกระหม่อม กระหม่อมก็ขอให้นางเป็นผู้เลือกเองจะไม่มีการบังคับใดๆและคงจะไม่เป็นเรื่องที่ดีนักหากบุตรสาวของกระหม่อมจะมีพระสวามีถึงสองคน’ แต่จะให้ทำเช่นไรในเมื่อทั้งเค้าและน้องสามต่างก็ปักใจรักเพียงนางตั้งแต่สิบชันษาแล้ว ‘เรื่องเก่ายังไม่ได้สะสางเหม่ยเอ๋อร์ก็มาดื่มสุราผสมยาปลุกกำหนัดซะได้..จริงสิ!!!’ ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา
“น้องสาม พี่มีเรื่องจะบอกเจ้า” เดินเข้าไปซุบซิบอะไรบางอย่างกับน้องชายที่ยังอุ้มเหม่ยเซียนแนบอก
“ได้” หย่งเซิงยิ้มและรับคำ
“เสี่ยวถง เจ้าไปเตรียมน้ำอุ่นมาเช็ดเนื้อตัวให้เหม่ยเอ๋อร์ พวกเราจะพานางไปด้านในเอง” หย่งเจี้ยนกล่าว
“เพคะ” รับคำและผละออกไปอย่างเร่งรีบ
วันนี้เป็นวันปักปิ่นของนางจะให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียกับนางคงไม่ดีนัก แต่ท่านอาจารย์จะให้นางเลือกเพียงหนึ่งพวกเขาก็ยอมไม่ได้เช่นกันสถานการณ์ตอนนี้ก็เป็นแผนของนางที่เป็นผู้คิดใส่ยาลงในสุราเอง ก็แค่..สร้างสถานการณ์เพิ่มให้นางไม่สามารถเลือกได้เพียงหนึ่ง..ก็แค่นั้นและท่านอาจารย์จะมาเป็นผู้ยืนยันที่ดี ‘ขออภัยท่านอาจารย์ล่วงหน้าขอรับ ศิษย์ก็แค่ตาม..น้ำไป’ หย่งเจี้ยนสรุปความคิดในใจ
เดินมาถึงเรือนหลานฮวาหย่งเซิงอุ้มเหม่ยเซียนไปที่เตียงนอนวางนางลงบนที่นอนหนานุ่มยกแขนสองข้างวางขนาบศรีษะก้มลงมองสบตากับนางที่หอบหายใจถี่ๆแววตาฉ่ำหวาน ‘พี่ขอชิมเจ้าหน่อยเถอะเหม่ยเอ๋อร์’ ก้มหน้าลงบดริมฝีปากกับกลีบปากบางสวยเบาๆสลับแรงขบเม้มริมฝีปากจนเหม่ยเซียนสะดุ้ง “อื้ออ.อ” เผยอปากจะทักท้วง แต่หย่งเซิงอาศัยจังหวะสอดลิ้นเข้าไปเก็บเกี่ยวชิมรสสุราที่ยังคงติดอยู่ในปากนางอย่างไม่รู้จักพอ ลิ้นร้อนเกี่ยวพันลิ้นเล็กจนเหม่ยเซียนทนไม่ไหวยกมือทุบไปด้านหลังของหย่งเซิง ปั่กๆปั่กๆๆ!! หย่งเซิงรู้สึกตัวจึงถอนจูบออกอย่างเสียดาย เหม่ยเซียนหอบหายใจรุนแรง หน้าแดงราวลูกตำลึงสุก ยกมือขึ้นปิดริมฝีปาก หย่งเซิงยกยิ้มเอื้อมมือเกลี่ยปอยผมนางเบาๆและถอยออกมาเมื่อได้ยินหย่งเจี้ยนพูด