“ไอ้สิบ! อยู่ข้างในเปล่าวะ?!”
เสียงเดย์ตะโกนเข้ามาพร้อมแรงทุบประตูสะเทือนแผ่นหลัง ฉันขยับตัวออกห่างทำให้ช่องว่างระหว่างตัวฉันกับสิบทิศใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม ไออุ่นจากร่างสูงทำฉันเงยหน้ามองอย่างอดไม่ได้
นี่เขาไม่คิดจะขยับออกไปหน่อยเหรอ จะยืนกักฉันอีกนานไหม?
“เลิกทำเป็นเล่นสักที นายถอยออกไปก่อน ฉันจะเปิดประตูเอง” ฉันกระซิบเสียงเบา สีหน้าเริ่มกังวล สิบทิศกำลังทำให้เรื่องมันแย่ลง ถ้ายังเปิดประตูช้าไปกว่านี้ คงไม่ดีแน่ ๆ
“ทำไม เธอกลัวมันสงสัยหรือไง” แทนที่เขาจะถอยไปตามที่ฉันบอก แต่กลับขยับเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม
ผู้ชายคนนี้จะหน้ามึนไปถึงไหนกันนะ!
“ไม่ตลกนะสิบ ฉันเป็นแฟนเดย์แล้วนะ นายอยากผิดใจกับเพื่อนหรือไง” ฉันพูดอย่างอ่อนใจ สิบทิศนิสัยยังไงทำไมฉันจะไม่รู้ เขามันดื้อรั้นเกินใคร ถ้าเขาไม่อยากทำ ใครก็บังคับเขาไม่ได้
“ก็น่าสน”
“สิบทิศ อย่าทำแบบนี้” ฉันช้อนตามองเขาอย่างจริงจัง ไม่รู้หรอกว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น แต่ฉันไม่สนุกด้วยเลยสักนิด ฉันไม่อยากให้เดย์รู้เรื่องอดีตของเราตอนนี้ ใช่… มันยังไม่ใช่ตอนนี้
“…” สิบทิศสบตากับฉันเงียบ ๆ โดยที่บานประตูยังคงถูกทุบไม่หยุด เราจ้องตากันสักพักก่อนร่างสูงจะเป็นฝ่ายถอยตัวออกไป
ฉันลอบถอนหายใจเบา ๆ เหลือบมองสิบทิศที่เดินหายเข้าไปในห้องเก็บของแล้ว หันมาตั้งสติปรับสีหน้าให้เป็นปกติ มือจับที่จับประตูเพื่อเตรียมจะเปิดออก
“ไอ้สิบมันทำอะไร… อ่ะ อ้าว?”
ทันทีที่ประตูเปิดออก เสียงของเฟรมชะงักลงพร้อมกับมองหน้าฉันตาค้าง เดย์ก็เช่นกัน เขาขมวดคิ้วนิด ๆ สายตามองมาอย่างแปลกใจ
“ควีน?”
“อื้อ ฉันเอง”
“เธอ… อยู่ในห้องด้วยเหรอ?” เดย์มองผ่านฉันเข้าไปในห้อง แวบหนึ่งฉันเห็นแววตาเขาทอประกายคุกรุ่นบางอย่าง ฉันรีบเปิดประตูให้กว้างขึ้นพลางขยับยิ้มเจื่อน แสร้งปิดปากหาวเล็กน้อย
“โทษทีนะ ฉันมารอนายแต่เผลอหลับไปอ่ะ”
“เผลอหลับ?” เดย์เดินเข้ามาในห้องพร้อมเฟรมกับผู้ชายอีกคนที่ฉันไม่รู้จัก เขาเป็นผู้ชายตัวสูง สวมแว่นสายตาคล้ายพวกเนิร์ดแต่ก็ดูหล่อเกินจะใช้คำว่าเด็กเนิร์ดกับเขาได้ ฉันเลิกสนใจเขา หันมาสนใจเดย์แทน ซึ่งตอนนี้เขากำลังมองไปรอบห้อง “ไม่มีใครอยู่เหรอ?”
“ไม่รู้สิ ตอนเข้ามาไม่เห็นใครนะ” ฉันโกหกหน้าตาย เดย์เลิกคิ้วหน่อย ๆ จังหวะเดียวกับเฟรมเดินไปทางห้องเก็บของ เขาเลื่อนประตูเปิดแล้วทำหน้าตกใจ
“เชี่ย! กูตกใจหมด!”
ร่างสูงในชุดกาวน์สีขาวเดินทำหน้ายุ่ง ๆ ออกมาจากห้องเก็บของ สองมือเขาถือเครื่องมือเต็มไม้เต็มมือไปหมด สิบทิศมองทุกคนในห้องด้วยสีหน้าหงุดหงิดหน่อย ๆ
“พวกมึงเป็นไรกัน มาช้าแล้วยังจะโวยวายเสียงดังอีก”
“มึงอยู่ในห้องด้วยเหรอไอ้สิบ” เดย์ขมวดคิ้วถามสิบทิศ คนถูกถามเดินถือเครื่องมือผ่านหน้าเขามาวางบนโต๊ะ ท่าทางไม่แยแสโลก ไม่สนใจใคร ไม่ชายตามองใครเลยด้วย
“ถามเหี้ยไรแปลก ๆ ไม่เห็นเหรอว่ากูถืออะไรอยู่”
“…” เดย์เงียบไป เขามองมาทางฉันก่อนหันกลับไปมองสิบทิศ “มึงไม่เห็นควีนเข้ามาในห้องเหรอ?”
ฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ปกติเดย์ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ถ้าประตูไม่ได้ล็อกตั้งแต่แรก เดย์คงไม่ถามอะไรแบบนี้หรอก เพราะสิบทิศนั่นแหละที่ทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปมากกว่าเดิม
คนเจ้าปัญหาเหลือบตามามองฉัน แววตาไม่น่าไว้ใจนั่นทำหัวใจฉันเต้นช้าลง เดาใจไม่ถูกเลยว่าสิบทิศจะพูดอะไร
“อ้าว แฟนมึงก็อยู่ด้วยเหรอ กูไม่ทันสังเกต” คำตอบของสิบทิศติดยียวนหน่อย ๆ เขาละสายตาไปจากฉันหันไปสนใจเครื่องมือตรงหน้าแทน ท่าทางไม่สนใจใครของเขาทำให้เดย์คลายสีหน้าเคร่งขรึมในคราแรกลง เฟรมและผู้ชายอีกคนจึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองบ้าง
เดย์เดินเข้ามาหาฉัน สีหน้าเขาอ่อนลงขณะเอื้อมจับมือฉัน
“ทำไมมาถึงห้องแล้วไม่โทรหาฉันล่ะ”
“โทษที ฉันคิดว่านายน่าจะใกล้มาแล้วก็เลยนั่งรอน่ะ ไม่คิดว่าจะเผลอหลับไป” เมื่อโกหกแล้ว ก็ต้องโกหกต่อไป แม้จะรู้สึกผิดกับเดย์ แต่นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
“เพลียมากเลยเหรอ ถึงขนาดเผลอหลับ กลับบ้านไปพักก่อนไหม เดี๋ยวฉันไปส่ง” เดย์ดึงฉันมานั่งลงที่โซฟามุมห้อง ปล่อยให้พวกเพื่อน ๆ ของเขาทำหน้าที่ต่อไป ฉันมองไปทางเพื่อนของเขาและบังเอิญสบตากับสิบทิศพอดี เขากำลังมองมาทางนี้ สายตาคมจ้องมือฉันกับเดย์นิ่ง เป็นจังหวะที่เดย์หันมองตามสายตาฉันพอดี
“ฉันไม่เป็นไร ว่าแต่คนนั้นใครเหรอ” เพราะไม่อยากให้เดย์ผิดสังเกต ฉันจึงแสร้งถามถึงผู้ชายใส่แว่นอีกคนที่ฉันไม่รู้จัก
“นั่นไอ้ภาคี เพื่อนในทีมฉันอีกคน” เดย์เคยเล่าให้ฟังว่าเขามีเพื่อนร่วมทีมวิจัยสี่คน แสดงว่าทุกคนที่อยู่ในห้องตอนนี้คือเพื่อนร่วมทีมเขาทั้งหมดงั้นสินะ
“อ้อ แล้วพวกเดย์กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ โครงงานวิจัยที่เคยพูดถึงใช่ป่ะ” ฉันชวนเดย์คุยเพื่อกลบเกลื่อนอาการประหม่าของตัวเอง ทำไมสิบทิศต้องจ้องขนาดนั้นด้วย เขาอยากให้เดย์สังเกตเห็นหรือยังไง
“ใช่ พวกเรากำลังสร้างหุ่นยนต์อยู่น่ะ ถึงจะพูดว่าเป็นหุ่นยนต์ แต่ก็เป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็ก มันเป็นธีสิสด้วย ต้องใช้เวลาวิจัยเป็นปี ๆ เลยต้องเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้”
เดย์จูงมือฉันให้เดินมาหยุดยืนตรงที่เพื่อน ๆ เขากำลังทำงานกันอยู่ ภาคีกับเฟรมไม่ได้สนใจฉัน พวกเขายังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป มีเพียงร่างสูงฝั่งตรงข้ามที่เงยหน้าขึ้นมามองฉันกับเดย์ด้วยสีหน้านิ่ง ๆ แววตาติดหงุดหงิดหน่อย ๆ
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ทัศนศึกษา อย่าปล่อยให้แฟนมึงวุ่นวายล่ะ ไอ้เดย์”