ฉันกลับมาที่โต๊ะ แย่งแก้วเหล้าจากมือเดย์มาดื่มจนหมด คนถูกแย่งแก้วจ้องฉันตาไม่กะพริบ เดย์รู้ดีว่าฉันจะดื่มเวลามีเรื่องในใจ เขาจึงไม่เอ่ยถามอะไร แถมยังผสมเหล้าแก้วใหม่ให้ฉันด้วย แม้มันจะอ่อนกว่าแก้วของเขาเกินครึ่งเลยก็เถอะ
สิบทิศเดินกลับมาที่โต๊ะหลังจากฉันไม่ถึงสองนาที ฉันเหลือบมองเขาเล็กน้อยก่อนเบนสายตาหนี ไม่ได้สนใจว่าเขาจะทำอะไรต่อ กระทั่งเดย์ขยับมาใกล้ฉัน กระซิบบางอย่างข้างหู
“กลับบ้านไหม?”
ฉันเบี่ยงหน้าสบตากับเดย์ ใบหน้าเราอยู่ใกล้กันเพียงคืบ มุมนี้มันมืด ถ้าไม่มีใครจ้องก็คงจะมองพวกเราไม่เห็น จึงไม่จำเป็นต้องเขินอายสายตาใคร ฉันยิ้มเล็กน้อย เริ่มมึนหัวหน่อย ๆ
“อือ กลับสิ”
“กูพาควีนกลับก่อนนะ” เดย์จับมือฉันแล้วหันบอกเพื่อน ๆ ฉันมองตาม สายตาปะทะเข้ากับดวงตาคมกริบที่กำลังจ้องมองมือฉันกับเดย์นิ่ง ๆ
“รีบกลับจังวะ” เฟรมท้วงเสียงเสียดาย
“ควีนดื่มไปเยอะแล้ว เดี๋ยวเมา” มือหนาประคองไหล่ฉันให้เดินออกมาจากโต๊ะ ฉันละสายตาจากสิบทิศ หันมาสนใจร่างสูงข้างกายแทน
หลังออกมาจากผับ เดย์พาฉันมาส่งถึงหน้าห้อง เขาคิดว่าฉันเมาเพราะเห็นว่าฉันเงียบ ๆ แต่ความเป็นจริงคือฉันมัวแต่คิดเรื่องของสิบทิศไม่หยุดเลยต่างหาก
ผู้ชายคนนั้นเดาใจยาก ไม่รู้ว่าเขาจะทำตามที่ฉันพูดหรือเปล่า
บอกตามตรง ฉันไม่ได้กลัวว่าเดย์จะรู้เรื่องในอดีตหรอก ฉันแค่ไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ และไม่อยากให้เขาลำบากใจ
ลองคิดดู ถ้าแฟนตัวเองเคยเป็นแฟนเก่าเพื่อนมาก่อน มันจะน่าอึดอัดใจมากแค่ไหน
เดย์เชื่อใจฉัน ฉันรู้… เพราะแบบนั้นฉันถึงไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจยังไงล่ะ
“เมาเหรอ?”
ฝ่ามืออบอุ่นแตะข้างแก้มเรียกความคิดฉันกลับมา เดย์ยืนพิงประตูห้องมองหน้าฉัน สีหน้าอ่อนโยนตัดกับหน้าตาร้าย ๆ ของเขา ซึ่งมีเพียงฉันคนเดียวที่ได้เห็น
ยิ่งมองหน้าเดย์แบบนี้ ฉันก็ยิ่งสับสน
หรือว่าฉันควรจะบอกความจริงเขาเลยดีไหมนะ? บอกซะตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่าให้เดย์มารู้ทีหลัง
“เป็นอะไรหรือเปล่า มีเรื่องไม่สบายใจเหรอควีน” เขามองออกอีกแล้ว ฉันเม้มปากคิดหนัก กำลังชั่งน้ำหนักความคิดตัวเองในใจ “คิ้วขมวดเป็นโบว์แล้ว”
“…” ฉันคลายคิ้วลงเมื่อถูกปลายนิ้วโป้งขยี้เบา ๆ เดย์ขยับเข้ามาใกล้ มือข้างหนึ่งโอบเอวฉันไว้หลวม ๆ การกระทำของเขาหยุดความคิดว้าวุ่นในใจฉันแทบจะทันที
“ถ้ายังไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องคิดมาก” เขาทัดปอยผมหลังใบหูให้ฉันเบา ๆ ใบหน้าเราอยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอบอุ่นของเขา “แต่ให้เธอรู้ไว้นะว่ายังไงฉันก็อยู่ตรงนี้ อยู่ข้าง ๆ เสมอ แค่เธอหันมามอง”
ฉันนิ่งงัน หัวใจมันอุ่นวาบกับคำพูดธรรมดา ๆ แต่โคตรมีความหมายของเดย์ เขามักจะทำให้ฉันอบอุ่นหัวใจเสมอ แม้ในเวลาแบบนี้ เวลาที่ฉันมีเรื่องให้คิดไม่ตก
“ไม่มีอะไรหรอก” ฉันตัดสินใจไม่บอกเขา
ยังไม่ใช่ตอนนี้…
“นายก็กลับได้แล้ว ขี่รถดี ๆ ล่ะ” ฉันเปิดประตูเข้าห้อง หันกลับมายิ้มบางให้เดย์ เขาทำท่าตะเบ๊ะเหมือนทหารพลางยักคิ้วเท่ ๆ
“ไม่ต้องห่วง ระดับฉันซะอย่าง”
“เพราะระดับนายไงฉันถึงห่วงน่ะ” ฉันอดค่อนขอดไม่ได้ เดย์ขำเบา ๆ วางมือลงบนศีรษะฉัน
“พรุ่งนี้ไปหาฉันที่แล็บนะ”
ฉันไม่เคยไปหาเดย์ที่แล็บมาก่อน เพราะตึกเรียนเราอยู่ไกลกัน และฉันก็ไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนเขาด้วย เดย์น่ะภูมิใจในผลงานที่เขากำลังสร้างร่วมกันกับทีมของเขามาก เขาอยากอวดฉันมาตลอด พยายามโน้มน้าวให้ฉันไปที่แล็บเขาอยู่หลายต่อหลายครั้ง และฉันก็ปฏิเสธทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน
“อ๊ะ ๆ ห้ามปฏิเสธนะ ครั้งนี้ฉันไม่ยอมจริง ๆ แล้ว” เขาชี้นิ้วขัดอย่างรู้ทัน ฉันที่อ้าปากจะปฏิเสธค่อย ๆ งับปากตัวเองก่อนทำแก้มป่อง “ฉันอยากพาเธอไปที่แล็บนะควีน อยากให้เธอได้เห็นว่าฉันใช้ชีวิตยังไงเวลาที่อยู่ห่างจากเธอ”
เขาพูดมาซะขนาดนี้ แล้วฉันยังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ
“เข้าใจแล้ว เลิกเรียนบ่ายแล้วฉันจะแวะไปนะ”
“อื้ม ให้ฉันไปรับนะ” เดย์ยิ้มกว้าง ท่าทางดีใจ ฉันรีบส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร นายจะย้อนไปย้อนมาทำไม เดี๋ยวฉันไปที่แล็บนายเอง นายก็รีบกลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวนอนดึกอีก”
“โอเค งั้นฉันกลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” เดย์ยิ้มแป้นเดินถอยหลังกลับไปที่ลิฟต์ ฉันยิ้มบางพลางโบกมือลา มองส่งจนร่างสูงเดินเข้าลิฟต์ถึงจะปิดประตูห้อง
เมื่อกลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง รอยยิ้มบางค่อย ๆ จางหายไป คงเหลือไว้เพียงใบหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก
‘ฮึ เธอคงรักมันมากสินะ’ น้ำเสียงหยัน ๆ ลอยเข้ามาในความคิด ภาพแววตาและสีหน้าไม่พอใจของสิบทิศยังคงชัดเจน
เขาไม่พอใจที่ฉันเป็นแฟนกับเดย์งั้นสินะ แน่ล่ะ ถ้าต้องทนเห็นแฟนเก่ากลายมาเป็นแฟนเพื่อน เป็นใครก็คงไม่พอใจทั้งนั้นแหละ ก็พอเข้าใจได้อยู่ ฉันเองก็เกลียดโลกกลม ๆ นี่เหมือนกัน
“รักเหรอ…” ฉันพึมพำ นั่งลงบนโซฟา หยิบกรอบรูปที่ถ่ายคู่กับเดย์ขึ้นมาดู กรอบรูปนี้เดย์เป็นคนให้ฉันมาเมื่อเดือนก่อน มันเป็นรูปที่เราถ่ายด้วยกันครั้งแรก ฉันจ้องมองรอยยิ้มของเดย์สลับกับรอยยิ้มของฉัน
นี่เป็นรอยยิ้มของคนรักกันงั้นเหรอ…
ฉันรู้ว่ามันฟังดูแย่ แต่จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกยังไงกับเดย์ เขาดีกับฉัน เขารักฉัน นั่นคือสิ่งที่ฉันรับรู้ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับเดย์มากเช่นกัน แต่ว่า… ความรู้สึกดีกับความรู้สึกรักมันต่างกัน
เดย์เข้าใจเรื่องนี้ดี และเขาบอกว่ารอฉันได้
ก่อนหน้านี้ฉันเคยมั่นใจว่าฉันจะรักเดย์ได้ เพราะเขาเป็นแฟนที่ดี เป็นผู้ชายที่ดี กระทั่งวันนี้…
วันที่โลกบ้า ๆ เหวี่ยงผู้ชายคนนั้นกลับมาเจอฉันอีกครั้ง
โชคชะตาเป็นเรื่องน่าตลกเสมอ ฉันเกลียดโชคชะตานี้ชะมัด