คณะนิเทศศาสตร์
“ขอบใจที่มาส่งนะเดย์”
ฉันยื่นหมวกกันน็อกคืนเดย์ ยกมือข้างหนึ่งจัดผมแบบลวก ๆ วันนี้ตื่นสายนิดหน่อย โชคดีที่เดย์เข้ามาปลุก ไม่งั้นฉันอาจจะเข้าเรียนสายกว่านี้ ตลอดทางมามหาวิทยาลัย เดย์ขี่รถเร็วมากจนน่าหวาดเสียว
ก็เข้าใจอยู่หรอก เขาคงไม่อยากให้ฉันเข้าเรียนสายนั่นแหละ
“ไหวป่ะเนี่ย หน้าตายังง่วง ๆ อยู่เลยนะควีน เมื่อคืนนอนไม่หลับอีกแล้วเหรอ” มือหนาเกลี่ยปอยผมทัดหูให้ฉัน เดย์ยังนั่งคร่อมรถอยู่ หน้าตาหล่อ ๆ กับท่าทางเท่ ๆ ของเขาเรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้ดี ซึ่งฉันชินแล้วล่ะ การมีแฟนหน้าตาดีแบบเดย์ก็ต้องสตรองในระดับหนึ่งละนะ
“ก็นิดหน่อยน่ะ”
“ทำไม เพราะเปลี่ยนยาใหม่หรือเปล่า ให้ฉันพาไปหาหมอไหม”
“อื้อ ไม่เป็นไร คงกำลังปรับตัวแหละ ฉันโอเคน่า” ฉันขยับยิ้มตอบ สบตากับดวงตาเรียวรีที่มองมาด้วยความห่วงใย แววตาที่สะท้อนภาพฉันเพียงคนเดียว
เดย์รู้เรื่องอาการป่วยของฉัน เขารู้เรื่องที่ฉันต้องทานยาอย่างสม่ำเสมอ และรู้ว่าฉันเคยผ่านช่วงเวลาแย่ ๆ ในอดีตมา เขาไม่เคยถาม ไม่เคยรื้อฟื้น แต่อยู่เคียงข้างฉัน คอยดูแลฉัน เขาเป็นแฟนที่ดีมาก…
“น่าห่วงชะมัดเลยว่ะ ฉันห่วงเธอมากนะเนี่ย รู้ไว้ด้วย” เขาจับมือฉันพลางยิ้มให้ มันเป็นรอยยิ้มที่ขับให้ใบหน้าหล่อ ๆ ของเดย์ดูดีอย่างมาก ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าฉันถูกรอยยิ้มนี้ตก
ฉันรู้จักเดย์มาสี่เดือน คบกันเป็นแฟนได้สามเดือน เราใช้เวลาในการทำความรู้จักกันได้แค่หนึ่งเดือนก่อนเขาจะขอฉันคบ ตอนนั้นยอมรับว่าลังเลอยู่มาก เพราะเราเพิ่งจะรู้จักกันไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ
เดย์เป็นคนนิสัยโอเค แม้ลุคเขาจะดูแบด ๆ ไปบ้าง แต่นิสัยจริง ๆ ถือว่าน่าคบมาก เขาเอาใจใส่ ดูแลและเทคแคร์ฉันดี เราเจอกันที่ผับแห่งหนึ่งที่ฉันรับงาน หลังจากนั้นเขาก็ตามฉันไปทุกที่ ไม่ว่าฉันจะมีงานที่ไหนก็มักจะเจอเดย์อยู่เสมอ
เดย์สารภาพกับฉันตรง ๆ ว่าเขาชอบฉันมากและอยากจะจีบฉัน หลังจากนั้นไม่นานเราก็คบกัน ใช่ มันอาจฟังดูง่าย แต่ความจริงไม่ง่ายเลยนะขอบอก เพราะถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะคบกันแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ได้เปิดใจให้เดย์เต็มร้อย ซึ่งเขาเองก็รับรู้เรื่องนี้ดี
และเขาบอกว่ารอฉันได้
“คืนนี้เธอมีงานที่ Z-NiL PUB ใช่ไหม?”
“อื้อ มีเปิดบูธตอนห้าทุ่มน่ะ”
“บังเอิญจัง คืนนี้ฉันมีนัดกับเพื่อนที่นั่นเหมือนกัน” เขาพูดยิ้ม ๆ
ฉันหรี่ตามองอย่างรู้ทัน
“บังเอิญหรือจงใจกันนะ”
“แหม ก็นิดหน่อย”
นั่นปะไร เรื่องบังเอิญมันมีอยู่จริงซะที่ไหนล่ะ
“ถ้าไม่ติดอะไร คืนนี้ฉันจะพาเธอมาแนะนำให้รู้จักกับพวกเพื่อน ๆ ฉันนะ เธอโอเคไหม?”
อย่างที่บอกว่าฉันกับเดย์ไม่ค่อยคุยเรื่องส่วนตัวกัน ฉันจึงไม่เคยเจอเพื่อนเขา และเขาก็ไม่ค่อยพูดถึงด้วย แม้ว่าเราจะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันก็เถอะ แต่คณะพวกเราก็อยู่กันคนละฝั่งของมหาวิทยาลัยเลย เรื่องที่จะบังเอิญเจอกันจึงเป็นไปได้โคตรยาก อีกอย่างคือเดย์เรียนอยู่ปีสาม ส่วนฉันดรอปเรียนไปหนึ่งปีทำให้ตอนนี้เรียนอยู่ปีสอง กลายเป็นรุ่นน้องเขาโดยปริยาย เรื่องที่จะโคจรมาเจอกันก็ยิ่งยากกว่าเดิม
“อือ ได้สิ ถ้าหลังจากเสร็จงานนะ”
เดย์ยิ้มกว้างขึ้น เอื้อมมือขึ้นลูบแก้มฉันเบา ๆ
“ทำไมวันนี้เธอน่ารักจัง”
“หยุดเลย ฉันไม่เขินหรอกนะ” ฉันตีมือเขาพลางอมยิ้ม พอโดนหยอดเข้าทุกวัน ใจมันก็สั่นเอาเรื่องอยู่นะ ผู้ชายคนนี้เก่งเรื่องแทรกซึมเข้ามาในหัวใจฉันจริง ๆ
ถ้าคบกันไปนานกว่านี้ฉันอาจจะเปิดใจรับเขาเข้ามาอย่างเต็มหัวใจเลยก็ได้
“ฉันเข้าเรียนก่อนนะ สายแล้วอ่ะ” ฉันตัดบทโบกมือลา เดย์ยกนิ้วขึ้นจรดปลายคิ้ว ทำท่าตะเบ๊ะเหมือนตำรวจให้ฉันพร้อมโปรยยิ้มเจ้าเสน่ห์ใส่ ขยันแจกความสดใสเก่งจริง ๆ แฮะ
“ไว้เลิกเรียนฉันมารับนะ”
“ไม่ต้อง นายเลิกช้ากว่าฉันนี่”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันโดด”
“หยุดเลย” ฉันชี้นิ้วใส่ ทำหน้าดุ “เดือนนี้นายโดดหลายรอบแล้วนะเดย์ นายอยู่ปีสามแล้วนะ ไม่อยากจบหรือไง”
“ฉันจบอยู่แล้วแหละน่า ฉันมีเพื่อนเป็นอัจฉริยะเลยนะ” เขาพูดถึงเพื่อนอัจฉริยะของเขาอีกแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยพูดถึงอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ฉันไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
“เพื่อนก็ส่วนเพื่อนสิ เพื่อนอัจฉริยะแล้วไง เพื่อนนายเรียนจบก็ใช่ว่านายจะจบด้วยสักหน่อย อย่าเกเรได้ไหมเดย์” ฉันกอดอก เดย์ทำหน้าบึ้งหน่อย ๆ นั่นเขาทำแก้มป่องใส่ฉันหรือเปล่า?
“ฉันไม่ได้เกเรสักหน่อย ฉันแค่อยากจะอยู่กับแฟน”
ดูคำแก้ตัวของเขาสิ… จะน่ารักไปถึงไหนเนี่ย
“ฉันไม่อยากเป็นแฟนที่ฉุดอนาคตแฟนลงเหวนะ เรื่องฉันเอาไว้ทีหลัง เรื่องเรียนต้องสำคัญที่สุด เข้าใจไหม?” ฉันสบตากับเดย์เป็นเชิงคาดคั้นคำตอบจนคนถูกจ้องยกสองมือขึ้นอย่างยอมแพ้
“คร้าบ ๆ เข้าใจแล้วคร้าบบบบมายควีน”
ก็นะ… มีแฟนหยอดเก่งก็จะเขินเหนื่อยหน่อย ๆ แบบนี้แหละ