"โฮ เล่นชวนกันแบบนี้เลยเหรอคะ"
"ใช่ พี่เป็นห่วง"
"ขอบคุณนะคะ แต่ว่าแนทอยู่ได้ มันไม่มีปัญหาอะไรเลยถึงจะตัวคนเดียวก็ตาม"
"แต่เราจะไปรู้ได้ไงว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันดีคืนดีมีคนไม่หวังดีกับเธอจะทำไง"
"มันยังไม่มีวันนั้นเลยนะตั้งแต่อยู่มา พี่คิงสบายใจเถอะค่ะ อีกอย่างถ้าสมมุติว่าแนทไปอยู่บ้านพี่จริงๆ จะอยู่ในฐานะอะไรแล้วแฟนพี่จะโอเคเหรอ?" สิ้นเสียงเธอก็คลานไปหาเจ้าก้อนกลมที่นอนแทะของเล่นแมวอยู่อีกฝั่ง
"บอกไปแล้วว่าโสด ส่วนจะอยู่ในฐานะอะไรนั้นก็แล้วแต่เธอเลย"
'ฐานะอะไรก็ได้ หรือเมียก็ดี และขอแค่อยู่กับพี่ก็พอ' นี่คือคำที่อยากจะพูดออกไปแต่กลัวยัยเด็กจะรู้สึกไม่โอเคแล้วปิดกั้นผม เพราะฉะนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่บังคับใจท่องไว้
"เป็นหนุ่มเลือดกรุ๊ปบีสินะถึงโสด" แนทพูดขึ้นก่อนจะยิ้ม
บ้าเอ๊ย!
ใช้รอยยิ้มเปลืองเกินไปแล้วยัยเด็กของพี่ ~
"ใช่ แนทเองก็เลือดกรุ๊ปบีเหมือนกันอะดิถึงโสด" ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรแต่ผมก็เออๆ ออๆ ตามน้ำเธอไป
ยอมได้ยอมหมดจุดนี้
"น่าจะใช่นะคะ"
"ถามอะไรหน่อยได้เปล่า" คลานไปนั่งข้างๆ เธอแล้วลูบขนก้อนกลมด้วยอีกคน
"ว่ามาเลยค่ะ"
"จำพี่ได้ตอนไหน ปกติเห็นเมินตลอด"
"จำได้ตลอดค่ะ แต่ที่เมินเพราะว่ากลัวทักไปแล้วจะหน้าแตกเอาถ้าพี่บอกว่าไม่รู้จัก อีกอย่างพอเริ่มโตมันก็เริ่มมีความรู้สึกเขินอายมาแทรกนั่นก็เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลไม่กล้าที่จะทักพี่ แต่ใช่ว่าหนูจะลืมบุญคุณนะ ปีนี้ก็จะเรียนจบแล้ว ส่วนเรื่องเงินจะรีบหามาคืนให้นะพี่"
"ไม่เอาคืน พี่เคยบอกไปแล้ว"
"หนูไม่มีพ่อแล้วจะเอาเงินไปให้ใครใช้เล่า?"
"ก็ให้ตัวเองไง เก็บไว้แล้วใช้ชีวิตตัวเองให้ดี"
"..."
"หรือไม่ก็มาใช้ชีวิตกับพี่ก็ได้นะพี่ไม่ขัด" มองหน้าแนทพลางอมยิ้ม
หยอดเด็กไปเรื่อยๆ ก่อนไอ้คิง
"พี่เอ็นดูเข้าใจได้ แต่พี่คิดไปไกลแนทไม่เข้าจริงๆ เราสองคนไม่ได้ใกล้ชิดกันทุกวัน เจอหน้ากันก็ไม่บ่อย ยิ่งพักหลังมานี้ไม่เห็นพี่เลยด้วยซ้ำ"
"ขอตอบอย่างหลังก่อนแล้วกัน สองปีที่ผ่านมาพี่ไปอยู่เจแปนไปช่วยพ่อทำงาน"
"ญี่ปุ่นเหรอคะ?"
"ใช่"
"โฮ น่าอิจฉาอะ ว่าแต่มันสวยมากไหม มีหิมะตกหรือเปล่า และมีดอกซากุระสวยๆ ด้วยปะ" ยัยเด็กยิงคำถามรัวๆ ด้วยหน้าตาที่ดูตื่นเต้นปนอยากรู้
"เก็บเสื้อผ้าสิเดี๋ยวพี่พาไปดูกับตา"
"บ้าเหรอ แนทยังเรียนไม่จบ อีกอย่างจะไปได้ไงค่าใช้จ่ายคงจะแพงหูฉีก"
"พี่ออกเอง ออกให้ทุกอย่างถ้าเธอต้องการ"
"ผันตัวมาเป็นป๋าใจป้ำแล้วเหรอ" ยัยเด็กพูดแซว
"พี่ใจป้ำแค่เฉพาะกับแนทคนเดียวเท่านั้นแหละ" ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอย่าหวังเลย
"ขอบคุณนะพี่ที่หวังดี แต่แนทขออยู่แบบนี้ดีกว่า ตัวคนเดียวไม่ต้องวุ่นวายกับอะไร"
แอบมีใจหายนิดๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น แต่อย่างว่าแหละ เรายังไม่ได้สนิทกันมากพอ ไม่ได้คุยแบบเปิดใจมันเลยดูไม่ง่ายที่จะให้เธอยอมตกลงอะไร
"แล้วคิดจะมีแฟนเมื่อไร?"
"เวลาที่เหมาะสม...แต่ไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ"
"..."
"พี่จะกลับเลยไหม พอดีแนทมีงานต้องไปทำ"
"ทำงาน?"
"อื้อ"
"ทำงานอะไร?"
ถามมากยิ่งกว่าพ่อเธออีกนะผมเนี่ย
"งานที่ได้เงิน งานสุจริตค่ะ"
"อย่าบอกนะว่าเรียนด้วยทำงานด้วย"
"ใช่สิ ไม่อย่างนั้นจะเอาเงินที่ไหนมากินมาใช้จ่ายล่ะพี่" เธอมองผมอย่างแปลกใจ "แนทไม่เหลือใครแล้วนะอย่าลืม จะให้ไปกู้หนี้ยืมสินอีกคงไม่เอา"
"ลำบากมากเลยสินะ" อีกครั้งที่ผมถามอย่างห่วงใย
ตัวก็มีแค่เนี้ยทำไมฟ้าช่างใจร้ายกับยัยเด็กจังวะ!
"นิดหน่อยค่ะ" แนทไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะวางก้อนกลมกับพื้นแล้วยืนขึ้น "ไม่ได้จะไล่นะคะ แต่ว่าแนทต้องไปทำงาน"
มันก็ไล่นั่นแหละโว้ย!
"โอเคๆ เดี๋ยวพี่กลับก่อนก็ได้"
"ค่ะ"
"พรุ่งนี้พี่มาอีกได้ไหม"
"ถ้าเหตุผลที่จะมามันมากพอก็โอเคค่ะ"
"ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ"
"อ้าว แล้วพี่จะมาบ้านหนูทำไมถ้าไม่มีอะไร เป็นแฟนกันจะไม่ว่าเลย"
"ถ้าอย่างนั้นก็เป็นสิ" พูดโพล่งออกไปแบบไม่คิด ถึงคิดผมก็พูดแบบนั้นอยู่ดี คนมันใช่อะ รักตั้งแต่แรกเจอ
"ขยันล้อเล่นจังเลยนะคะเนี่ย"
"พูดจริง"
"..."
"ไม่รู้รึไงว่าคนชอบมาตั้งนาน อุตส่าห์เก็บใจไว้ให้น้องแนทคนเดียวเลยนะ"
"พี่คิง..."
"อย่าเพิ่งปฏิเสธดิ รู้ว่าอายุมันห่างกัน เธอวัยรุ่นส่วนพี่วัยเริ่มทำงาน แต่ถึงอย่างนั้นเราสองคนต้องเข้ากันได้แน่นอน เข้ากันได้เน้นๆ"
"ทำไมต้องย้ำคำหลังด้วยเนี่ย"
"มะ...หมายถึงการใช้ชีวิตน่ะนะ" รีบแก้ต่างอย่างร้อนรน ลึกๆ ก็หมายถึงอย่างอื่นด้วยนั่นแหละที่ว่าเข้ากันได้เน้นๆ
"หนูยังเด็กแถมยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะคะ"
"แล้วไง สมัยนี้เด็กอายุสิบสองสิบสามก็แห่กันมีแฟนหมดแล้ว ว่างๆ ลองเข้าไปดูในเฟซบุ๊กนะ ผมสั้นติ่งกับหัวเกรียนขึ้นสถานะกันเป็นว่าเล่น" ถึงไม่เล่นโซเชียลแต่ผมก็มีแอบเข้าไปส่องดูบ้าง
"อันนั้นแนทรู้ ไม่ได้ล้าหลังขนาดนั้น แต่ที่พูดนี่คือในมุมของแนทเองต่างหาก อย่างน้อยก็ขอสักอายุยี่สิบขึ้นไปค่อยมีความรักก็ไม่สายหรอกใช่มะ" ดวงตาแป๋วจ้องมองมาเหมือนจะสื่อถึงผมว่าเข้าใจเสียนะในสิ่งที่เธอพูด
"สรุปคือจะไม่ให้พี่จีบใช่ปะ"
"พี่เข้าใจแบบนั้นเหรอ"
"ถ้าจะให้รอตอนเธออายุครบยี่สิบก็รอได้นะเพราะพี่ก็รอมาตั้งแต่เธออายุสิบสองแล้วหนิ รออีกสองปีจะเป็นไร" คนแบบผมไม่ยอมถอดใจอะไรง่ายๆ หรอก ยิ่งเห็นยัยเด็กโตมาสวยและดีมีคุณภาพแบบนี้ยิ่งปล่อยให้หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด!
"เป็นเอามากนะคะเนี่ย" ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินหายไปหลังบ้านแล้วเดินออกมาพร้อมกับของบางอย่าง แนทยื่นมันให้ผม "เอาคุกกี้ไปกินสงบจิตสงบใจนะคะ ดูทรงแล้วอาการคลั่งรักของพี่มันเข้าขั้นสูงสุด" พูดแซวกันเฉย
อาการผมออกขนาดนั้นเลยเหรอวะ?
"พูดเกินไป" รับคุกกี้มาแล้วพิจารณามองดูอย่างตื่นตาเนื่องจากมันดูน่ากินมาก "ทำเองใช่ปะ"
"รู้ได้ไงคะ"
"เดาเอาน่ะ"
"เฮ้อ...แนทจะต้องไปเตรียมตัวไปทำงานแล้วนะ พี่คิงจะกลับยังคะ"
"ไล่อีกแล้ว เซ็ง" ลุกขึ้นยืนแบบอิดออด "พรุ่งนี้พี่มาที่บ้านนี้อีกนะ"
"ไม่รู้สิคะ บอกไปแล้วว่าต้องมีเหตุผลที่จะมาด้วย"
"โอเค เดี๋ยวพี่จะหาเหตุผลมาแล้วกัน ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ มีอะไรโทร.หาพี่ได้ตลอดเลย เช้าสายบ่ายเย็นดึกแค่ไหนก็โทร.มาไม่ต้องเกรงใจ" ผมพูดพร้อมกับหยิบนามบัตรยื่นให้แนท "พี่อยู่ข้างเธอเสมอจำไว้แค่นั้นพอ"
"..." ยัยเด็กเพียงพยักหน้ารับคำแล้วเก็บนามบัตรไว้
"พี่ไปก่อนนะ"
"กลับดีๆ นะคะ"
ผมเดินออกมาแบบเนือยๆ ถึงไม่อยากจะกลับก็ต้องกลับเพราะขืนอยู่ตอแยมากกว่านี้แนทคงจะอึดอัดและรู้สึกไม่ดี เอาเป็นว่าค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆ เอ็นจอยไม่บังคับ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วยัยเด็กจะต้องคลั่งรักผมกลับเหมือนที่ผมคลั่งรักเธออย่างในตอนนี้แน่นอน