ไม่บังคับ

1425 Words
"โฮ​ เล่นชวนกันแบบนี้เลยเหรอคะ" "ใช่​ พี่เป็นห่วง" "ขอบคุณนะคะ​ แต่ว่าแนทอยู่ได้​ มันไม่มีปัญหาอะไรเลย​ถึงจะตัวคนเดียวก็ตาม" "แต่เราจะไปรู้ได้ไงว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น​ วันดีคืนดีมีคนไม่หวังดีกับเธอจะทำไง" "มันยังไม่มีวันนั้นเลยนะตั้งแต่อยู่มา​ พี่คิงสบายใจเถอะค่ะ​ อีกอย่างถ้าสมมุติ​ว่าแนทไปอยู่บ้านพี่จริงๆ​ จะอยู่ในฐานะอะไรแล้วแฟนพี่จะโอเคเหรอ?" สิ้นเสียงเธอก็คลานไปหาเจ้าก้อนกลมที่นอนแทะของเล่นแมวอยู่อีกฝั่ง​ "บอกไปแล้วว่าโสด​ ส่วนจะอยู่ในฐานะอะไรนั้นก็แล้วแต่เธอเลย" 'ฐานะอะไร​ก็ได้​ หรือเมียก็ดี​ และขอแค่อยู่กับพี่ก็พอ'​ นี่คือคำที่อยากจะพูดออกไปแต่กลัวยัยเด็กจะรู้สึกไม่โอเคแล้วปิดกั้นผม​ เพราะฉะนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่บังคับใจท่องไว้ "เป็นหนุ่มเลือดกรุ๊ปบีสินะถึงโสด" แนทพูดขึ้นก่อนจะยิ้ม บ้าเอ๊ย! ใช้รอยยิ้มเปลืองเกินไปแล้วยัยเด็กของพี่​ ~ "ใช่​ แนทเองก็เลือดกรุ๊ป​บี​เหมือนกันอะดิถึงโสด" ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรแต่ผมก็เออๆ​ ออๆ​ ตามน้ำเธอไป ยอมได้ยอมหมดจุดนี้ "น่าจะใช่นะคะ" "ถามอะไรหน่อยได้เปล่า" คลานไปนั่งข้างๆ​ เธอแล้วลูบขนก้อนกลมด้วยอีกคน "ว่ามาเลยค่ะ" "จำพี่ได้ตอนไหน​ ปกติเห็นเมินตลอด" "จำได้ตลอดค่ะ​ แต่ที่เมินเพราะว่ากลัวทักไปแล้วจะหน้าแตกเอาถ้าพี่บอกว่าไม่รู้จัก​ อีกอย่างพอเริ่มโตมันก็เริ่มมีความรู้สึกเขินอายมาแทรก​นั่นก็เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุผลไม่กล้าที่จะทักพี่ แต่ใช่ว่าหนูจะลืมบุญคุณนะ​ ปีนี้ก็จะเรียนจบแล้ว​ ส่วนเรื่องเงินจะรีบหามาคืนให้นะพี่" "ไม่เอาคืน​ ​พี่เคยบอกไปแล้ว​" "หนูไม่มีพ่อแล้วจะเอาเงินไปให้ใครใช้เล่า?" "ก็ให้ตัวเองไง​ เก็บไว้แล้วใช้ชีวิตตัวเองให้ดี" "..." "หรือไม่ก็มาใช้ชีวิตกับพี่ก็ได้นะพี่ไม่ขัด" มองหน้าแนทพลางอมยิ้ม หยอดเด็กไปเรื่อยๆ​ ก่อนไอ้คิง "พี่เอ็นดูเข้าใจ​ได้ แต่พี่คิดไปไกลแนทไม่เข้าจริงๆ​ เราสองคนไม่ได้ใกล้ชิดกันทุกวัน​ เจอหน้ากันก็ไม่บ่อย​ ยิ่งพักหลังมานี้ไม่เห็นพี่เลยด้วยซ้ำ" "ขอตอบอย่างหลังก่อนแล้วกัน​ สองปีที่ผ่านมาพี่ไปอยู่เจแปนไปช่วยพ่อทำงาน" "ญี่ปุ่นเหรอคะ?" "ใช่" "โฮ​ น่าอิจฉาอะ​ ว่าแต่มันสวยมากไหม​ มีหิมะตกหรือเปล่า​ และมีดอกซากุระสวยๆ​ ด้วยปะ" ยัยเด็กยิงคำถามรัวๆ​ ด้วยหน้าตาที่ดูตื่นเต้นปนอยากรู้​ "เก็บเสื้อผ้าสิเดี๋ยวพี่พาไปดูกับตา" "บ้าเหรอ​ แนทยังเรียนไม่จบ​ อีกอย่างจะไปได้ไงค่าใช้จ่ายคงจะแพงหูฉีก" "พี่ออกเอง​ ออกให้ทุกอย่างถ้าเธอต้องการ" "ผันตัวมาเป็นป๋าใจป้ำแล้วเหรอ" ยัยเด็กพูดแซว "พี่ใจป้ำแค่เฉพาะกับแนทคนเดียวเท่านั้นแหละ" ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอย่าหวังเลย "ขอบคุณนะพี่ที่หวังดี​ แต่แนทขออยู่แบบนี้ดีกว่า​ ตัวคนเดียวไม่ต้องวุ่นวายกับอะไร​​" แอบมีใจหายนิดๆ​ เมื่อได้ยินแบบนั้น​ แต่อย่างว่า​แหละ​ เรายังไม่ได้สนิทกันมากพอ​ ไม่ได้คุยแบบเปิดใจ​มันเลยดูไม่ง่ายที่จะให้เธอยอมตกลงอะไร "แล้วคิดจะมีแฟนเมื่อไร?" "เวลาที่เหมาะสม...แต่ไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ" "..." "พี่จะกลับเลยไหม​ พอดีแนทมีงานต้องไปทำ" "ทำงาน?" "อื้อ"​ "ทำงานอะไร?" ถามมากยิ่งกว่าพ่อเธออีกนะผมเนี่ย "งานที่ได้เงิน​ งานสุจริต​ค่ะ" "อย่าบอกนะว่าเรียนด้วยทำงานด้วย" "ใช่สิ​ ไม่อย่างนั้นจะเอาเงินที่ไหนมากินมาใช้จ่ายล่ะพี่" เธอมองผมอย่างแปลกใจ​ "แนทไม่เหลือใครแล้วนะอย่าลืม​ จะให้ไปกู้หนี้ยืมสินอีกคงไม่เอา" "ลำบากมากเลยสินะ" อีกครั้งที่ผมถามอย่างห่วงใย​ ตัวก็มีแค่เนี้ยทำไมฟ้าช่างใจร้ายกับยัยเด็กจังวะ! "นิดหน่อยค่ะ" แนทไหวไหล่เบาๆ​ ก่อนจะวางก้อนกลมกับพื้นแล้วยืนขึ้น​ "ไม่ได้จะไล่นะคะ​ แต่ว่าแนทต้องไปทำงาน" มันก็ไล่นั่นแหละโว้ย! "โอเคๆ​ เดี๋ยวพี่กลับก่อนก็ได้​" "ค่ะ" "พรุ่งนี้พี่มาอีกได้ไหม" "ถ้าเหตุผลที่จะมามันมากพอก็โอเคค่ะ" "ต้องมีเหตุผล​ด้วยเหรอ" "อ้าว​ แล้วพี่จะมาบ้านหนูทำไมถ้าไม่มีอะไร​ เป็นแฟนกันจะไม่ว่าเลย" "ถ้าอย่างนั้นก็เป็นสิ" พูดโพล่งออกไปแบบไม่คิด​ ถึงคิดผมก็พูดแบบนั้นอยู่ดี​ คนมันใช่อะ​ รักตั้งแต่แรกเจอ "ขยันล้อเล่นจังเลยนะคะเนี่ย" "พูดจริง" "..." "ไม่รู้รึไงว่าคนชอบมาตั้งนาน​ อุตส่าห์​เก็บใจไว้ให้น้องแนทคนเดียวเลยนะ" "พี่คิง..." "อย่าเพิ่งปฏิเสธดิ​ รู้ว่าอายุมันห่างกัน​ เธอวัยรุ่นส่วนพี่วัยเริ่มทำงาน​ แต่ถึงอย่างนั้นเราสองคนต้องเข้ากันได้แน่นอน​ เข้ากันได้เน้นๆ" "ทำไมต้องย้ำคำหลังด้วยเนี่ย" "มะ...หมายถึงการใช้ชีวิตน่ะนะ" รีบแก้ต่างอย่างร้อนรน​ ลึกๆ​ ก็หมายถึงอย่างอื่นด้วยนั่นแหละที่ว่าเข้ากันได้เน้นๆ "หนูยังเด็ก​แถมยังไม่บรรลุนิติภาวะ​เลยนะคะ" "แล้วไง​ สมัยนี้เด็กอายุสิบสองสิบสามก็แห่กันมีแฟนหมดแล้ว​ ว่างๆ​ ลองเข้าไปดูในเฟซบุ๊กนะ​ ผมสั้นติ่งกับหัวเกรียนขึ้นสถานะกันเป็นว่าเล่น" ถึงไม่เล่นโซเชียล​แต่ผมก็มีแอบเข้าไปส่องดูบ้าง "อันนั้นแนทรู้​ ไม่ได้ล้าหลังขนาดนั้น​ แต่ที่พูดนี่คือในมุมของแนทเองต่างหาก​ อย่างน้อยก็ขอสักอายุยี่สิบขึ้นไปค่อยมีความรักก็ไม่สายหรอกใช่มะ" ดวงตาแป๋วจ้องมองมาเหมือนจะสื่อถึงผมว่าเข้าใจเสียนะในสิ่งที่เธอพูด "สรุปคือจะไม่ให้พี่จีบใช่ปะ" "พี่เข้าใจแบบนั้นเหรอ" "ถ้าจะให้รอตอนเธออายุครบยี่สิบก็รอได้นะเพราะพี่ก็รอมาตั้งแต่เธออายุสิบสองแล้วหนิ​ รออีกสองปีจะเป็นไร" คนแบบผมไม่ยอมถอดใจอะไรง่ายๆ​ หรอก​ ยิ่งเห็นยัยเด็กโตมาสวยและดีมีคุณภาพแบบนี้ยิ่งปล่อยให้หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด! "เป็นเอามากนะคะเนี่ย" ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินหายไปหลังบ้านแล้วเดินออกมาพร้อมกับของบางอย่าง​ แนทยื่นมันให้ผม​ "เอาคุกกี้ไปกินสงบจิตสงบใจนะคะ​ ดูทรงแล้วอาการคลั่งรักของพี่มันเข้าขั้นสูงสุด" พูดแซวกันเฉย อาการผมออกขนาดนั้นเลยเหรอวะ? "พูดเกินไป" รับคุกกี้มาแล้วพิจารณา​มองดูอย่างตื่นตาเนื่องจากมันดูน่ากินมาก​ "ทำเองใช่ปะ" "รู้ได้ไงคะ" "เดาเอาน่ะ" "เฮ้อ...แนทจะต้องไปเตรียมตัวไปทำงานแล้วนะ​ พี่คิงจะกลับยังคะ" "ไล่อีกแล้ว​ เซ็ง" ลุกขึ้นยืนแบบอิดออด​ "พรุ่งนี้พี่มาที่บ้านนี้อีกนะ" "ไม่รู้สิคะ​ บอกไปแล้วว่าต้องมีเหตุผล​ที่จะมาด้วย" "โอเค​ เดี๋ยวพี่จะหาเหตุผลมาแล้วกัน​ ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆ​ นะ​ มีอะไรโทร.หาพี่ได้ตลอดเลย​ เช้าสายบ่ายเย็นดึกแค่ไหนก็โทร.มาไม่ต้องเกรงใจ" ผมพูดพร้อมกับหยิบนามบัตรยื่นให้แนท​ "พี่อยู่ข้างเธอเสมอจำไว้แค่นั้นพอ" "..." ยัยเด็กเพียงพยักหน้ารับคำแล้วเก็บนามบัตรไว้ "พี่ไปก่อนนะ" "กลับดีๆ​ นะคะ" ผมเดินออกมาแบบเนือยๆ​ ถึงไม่อยากจะกลับก็ต้องกลับ​เพราะขืนอยู่ตอแยมากกว่านี้แนทคงจะอึดอัดและรู้สึกไม่ดี​ เอาเป็นว่าค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆ​ เอ็นจอยไม่บังคับ​ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วยัยเด็กจะต้องคลั่งรักผมกลับเหมือนที่ผมคลั่งรักเธออย่างในตอนนี้แน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD