2

1494 Words
แต่สำหรับแม่นิ่มน้อยของพี่แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรผิดพลาดลงไป พี่ให้อภัยได้เสมอค่ะ” ประโยคนั้นของเขาทำให้เธอสะเทิ้นอายอยู่ไม่น้อย เพราะดวงตาของเขาเจือแววหวานละมุนสื่อความหมายชัดเจนถึงความรักใคร่ที่มีต่อเธอ “งั้นนิ่มขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” เธอเอ่ยขอตัวก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว “เดี๋ยวเรากลับกับแม่นิ่มนะ ป้าจะล่วงหน้ากลับไปก่อน” โมกข์ยืนรอสาวน้อยอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เป็นป้าก็เดินมาหา มาลัยไม่ได้พักบ้านหลังเดียวกับหลานชาย ท่านพักอยู่หลังหนึ่งซึ่งไกลออกไปมาก เป็นบ้านหลังเก่าแก่ของบิดามารดา นั่นก็คือตาและยายของโมกข์นั่นเอง ที่เรือนจึงมีแค่เขากับนิ่มเท่านั้นในตอนนี้ “ครับคุณป้า” “ฝากแม่นิ่มด้วยนะ” “ครับ” โมกข์รับคำเสียงสุภาพ ทอดสายตามองสาวน้อยที่กำลังเดินมาหาเขากับมาลัยด้วยสายตารักใคร่ระคนห่วงหาอยู่มิน้อย “ป้าจะกลับแล้วนะแม่นิ่ม เราก็กลับกับพี่เขานะ” “ค่ะคุณป้า เดินทางปลอดภัยนะคะ” นิ่มยกมือไหว้มาลัยอย่างอ่อนน้อม “จ้ะ” มาลัยยิ้มให้เด็กทั้งสองก่อนจะเดินไปขึ้นรถ “ทางนี้ให้คนงานจัดการเถอะค่ะ” หลังจากผู้เป็นป้านั่งรถออกไปจากวัดแล้ว โมกข์ก็หันมาคุยกับสาวน้อยข้างกายเพื่อชวนกลับ เขาทอดสายตามองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน “เดี๋ยวนิ่มกลับกับคนงานก็ได้ค่ะ” เธอยังอยากอยู่ดูแลความเรียบร้อย โมกข์เข้าใจเธอดีเพราะอยากให้งานทุกอย่างออกมาดีที่สุด นั่นยิ่งทำให้เขาเอ็นดูเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก “กว่าคนงานจะเลิกคงดึกกว่านี้อีก พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไม่ใช่หรือคะ เดี๋ยวร่างกายจะไม่ไหวเอานะ” โมกข์บอกเด็กสาวด้วยความห่วงใย มือหนาเลื่อนไปปัดปอยผมนุ่มให้เธอเบาๆ นิ่มเบี่ยงหลบด้วยความเขินอาย ทำให้เขาต้องละมือออกห่าง “ค่ะพี่โมกข์” เธอติดปากเรียกเขาว่าพี่โมกข์ตั้งแต่เด็ก พอได้เจอกันอีกครั้งจึงเรียกเขาเหมือนเมื่อวัยเยาว์ ร่างน้อยเดินตามเขาไปขึ้นรถยนต์ที่ลุงสมัยจอดคอยท่าอยู่ก่อนแล้ว ที่บ้านมีรถยนต์หลายคันเพราะคุณพร้อมชอบสะสมรถรุ่นต่างๆ เอาไว้ ตั้งแต่ราคาหลักแสนต้นๆ จนกระทั้งหลายแสนบาท บ้านไหนมีรถราคาหลายแสนบาทถือว่าเป็นคนมีฐานะในสมัยนี้ ลุงสมัยเปิดประตูรถให้เจ้านายทั้งสองอย่างอ่อนน้อม ลุงสมัยดูแลเอาใจใส่รถของเจ้านายเป็นอย่างดี วันๆ หนึ่งนอกจากขับรถแล้วยังหมั่นล้างรถ คอยขัดถูรถทุกๆ คันจนขึ้นเงา ทั้งยังคอยเช็คเครื่องยนต์เอาไว้ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เนื่องจากเมื่อก่อนลุงสมัยได้เรียนวิชาช่างซ่อมรถยนต์และเก่งพอตัว ก่อนที่จะมาทำงานกับคุณพร้อม นิ่มขึ้นไปนั่งบนรถอย่างเรียบร้อยเมื่อคนขับรถเปิดประตูให้ โมกข์เหลือบมองสาวน้อยข้างกายแล้วเผลอยิ้ม กิริยามารยาทของเธอเรียบร้อยอ่อนหวาน จะลุกจะนั่งจะเดินก็น่ามองไปเสียทุกอิริยาบถ “พรุ่งนี้ปลุกพี่ด้วยนะคะ” เขาสนทนากับคนข้างกาย “ค่ะพี่โมกข์” เธอตอบรับเสียงนุ่มตามนิสัย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเนื้อกายสาวทำให้โมกข์เผลอสูดเข้าปอดแรงๆ เขาอยากดึงเธอมากอดเหลือเกินแต่มันไม่สมควร พอถึงบ้าน ลุงสมัยก็ขับรถเข้าไปจอดเทียบกับรถอีกหลายคันที่จอดเรียงรายกันอยู่ในโรงรถซึ่งมีหลายยี่ห้อด้วยกัน นิ่มเอ่ยขอตัวเข้าห้องของตนเพื่อไปทำธุระส่วนตัว เมื่ออาบน้ำและใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้วเธอก็ไหว้พระสวดมนต์เตรียมตัวเข้านอน แต่เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเสียก่อน ก๊อก ก๊อก ก๊อก... “ใครคะ” เธอเอ่ยถามเพราะดึกมากแล้ว “พี่เองค่ะ” “พี่โมกข์มีอะไรจะเรียกใช้นิ่มหรือต้องการอะไรหรือคะ” เธอเปิดประตูให้เขา ก่อนจะเอ่ยถามอย่างใส่ใจ “จะนอนแล้วหรือคะ” “ค่ะ นิ่มจะเข้านอนแล้ว” เธอตอบกลับไปเสียงนุ่ม “พี่แค่มาบอกราตรีสวัสดิ์ แค่นั้นเองค่ะ” “เอ่อ... ค่ะ” นิ่มก้มหน้าอมยิ้มอย่างเขินอาย มองแผ่นหลังบึกบึนของโมกข์แล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนและลงกลอนอีกครั้ง เธอขึ้นไปนอนบนเตียงในขณะที่ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงประโยคของโมกข์ รู้ดีว่าเขาเอ็นดูเธอมาก ในขณะที่ใจของเธอก็รักและเคารพเขามากเช่นเดียวกัน ในค่ำคืนนั้นนิ่มนอนหลับฝันหวานและเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนย่ำรุ่งเพราะปกติเป็นคนตื่นนอนเร็วอยู่แล้ว เธอลุกมาอาบน้ำอาบท่าก่อนจะเดินไปเคาะห้องของโมกข์ตอนตีห้าครึ่ง  ก๊อก ก๊อก ก๊อก... “พี่โมกข์คะ พี่โมกข์” เธอเรียกแค่สองครั้งร่างสูงสง่าของโมกข์ก็เดินมาเปิดประตูให้ เธอเงยหน้ามองใบหน้าหวานไม่แพ้สตรีอย่างเอียงอาย ก่อนจะตระเตรียมน้ำล้างหน้าและเสื้อผ้าให้เขา โมกข์เป็นหนุ่มร่างสูงสง่า ใบหน้าหวานไม่ผิดกับสตรีเพศ ผิวขาวจัด เธอมองปากกว้างหยักหนาสีแดงจัดอย่างคนสุขภาพดีแล้วเผลอยิ้ม คิ้วของเขาคมเข้ม ดวงตาเอื้ออาทรและเอ็นดูเธออยู่เสมอเมื่อได้สบตากัน ใบหน้าของเขาเรียวยาวได้รูป ปีกจมูกกว้างและโด่งเป็นสัน ร่างกายของเขาแข็งแรงสมส่วนดูอบอุ่นและน่ายำเกรงในเวลาเดียวกัน โมกข์มองร่างน้อยที่ทำทุกอย่างด้วยกิริยานุ่มนวลอ่อนหวาน เธอหยิบผ้าขนหนูให้เขาซับใบหน้าก่อนจะขยับถอยห่างออกไปแล้วเอ่ยถามเสียงหวาน “พี่โมกข์ต้องการอะไรอีกไหมคะ” “วันนี้ทำอะไรรับประทานหรือคะ” ตอนเด็กๆ เขาชอบเรียกเธอว่าแม่นิ่มน้อย โตขึ้นมาก็ติดจะเรียกเช่นนี้แต่ก็ยั้งปากเอาไว้เพราะเธอโตเป็นสาวแล้วไม่ใช่เด็กน้อยที่ชอบวิ่งเล่นตามเขาเหมือนสมัยก่อน บิดามารดาของเขาฝึกให้เธอเรียนวิชาการบ้านการเรียน พวกวิชาคหกรรมเธอจึงมีความสามารถในการทำอาหารและดูแลบ้านเรือนได้เป็นอย่างดี เขานึกขอบคุณพวกท่านที่เลี้ยงเธอได้ดีเช่นนี้ “ข้าวต้มทรงเครื่องค่ะพี่โมกข์” เขาพยักหน้าพึงพอใจกับสิ่งที่เธอบอกกล่าว “น้องนิ่มทำเองหรือคะ” โมกข์เอ่ยถามหล่อนเสียงหวาน คิดว่าเธอคงจะตื่นก่อนเขานับชั่วโมงเพราะทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว “ค่ะ ถ้าพี่โมกข์ไม่ต้องการอะไรแล้ว นิ่มขอตัวก่อนนะคะ” “เดี๋ยวสิ” เขารั้งแขนของเธอเอาไว้ นิ่มรีบดึงมือหนีอย่างขัดเขินแต่โมกข์ไม่ยอมปล่อย “ช่วยพี่สวมเสื้อผ้าให้พี่หน่อยจะได้ไหม” “มันจะดูไม่ดีนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะเอาไปนินทาได้ค่ะ” เธอตาโต ก่อนจะหน้าแดง ไม่กล้ามองสบสายตาที่เต็มไปด้วยแววหวานของเขา ไม่คิดว่าจะถูกเชื้อเชิญให้ช่วยสวมใส่เสื้อผ้าให้แบบนี้ “แล้วที่น้องนิ่มเข้ามาในห้องพี่เช่นนี้ไม่กลัวคนจะนินทาหรือคะ” “ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้นิ่มจะไม่เข้ามาแล้วนะคะ อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขาดึงร่างน้อยเข้าหา ใบหน้าของหล่อนแดงระเรื่อเมื่อแนบชิดกับอกแกร่ง มือน้อยดันอกกว้างของเขาเอาไว้อย่างตื่นตกใจ “กลัวใครจะนินทากันเล่า น้องนิ่มเป็นคู่หมั้นคู่หมายของพี่นะคะ ลืมไปแล้วหรือ” โมกข์ทวงสิทธิ์เอากับสาวน้อย เขาเห็นผู้ชายมากหน้าหลายตามองเธอด้วยแววตาหยาดเยิ้มก็นึกหึงหวงขึ้นมาจับจิตจับใจ หล่อนเป็นของเขา โมกข์บอกตัวเองเช่นนั้น “แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เราไม่ควรทำอะไรไม่งามนะคะ” เธอบอกเขาเสียงนุ่มตามนิสัย ผู้ใหญ่สอนให้รักนวลสงวนตัวอย่าชิงสุกก่อนห่าม “น้องนิ่มโตเป็นสาวแล้ว พี่หวงมากเลยรู้ไหม” โมกข์ประทับจุมพิตบนกลีบปากบอบบางของหล่อน นิ่มตกใจไม่คิดว่าจะโดนจูบ สติของเธอจึงดับวูบไปในทันที “น้องนิ่ม น้องนิ่ม” โมกข์เองก็ตกใจอยู่มากที่สาวน้อยในอ้อมแขนเป็นลมไปเสียแล้ว เขารีบอุ้มเธอไปที่เตียงนอนกว้าง หาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาและปฐมพยาบาลให้อย่างเบามือ ก่อนนำยาดมมาจ่อที่จมูกเล็กๆ โมกข์มองร่างน้อยอรชรอ้อนแอ้นแล้วอมยิ้ม เขาไล้แก้มเนียนของเธอเบาๆ แก้มสาวเนียนใสไร้ไฝฝ้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD