ฤดูหนาว
ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ
“ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆสามสิบล้าน”
“สามสิบล้านเหรอคะ!?!”
พลอยพิชญาอุทานอย่างตกใจเมื่อได้ฟังตัวเลขมหาศาลจากปากพิมพาพรพี่สาวคนโต ถ้านั่นเป็นเงินรางวัลแจ๊กพ็อตล็อตเตอรี่ หรือรายรับอื่นๆก็คงจะดี แต่นี่มันคือหนี้!
บรรยากาศห้องนั่งเล่นภายในบ้านหลังเล็กที่อบอุ่นด้วยฮีตเตอร์ กลับหนาวยะเยือกจับขั้วหัวใจขึ้นมาทันที
“ใช่! หนี้ล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นรวมอยู่” พรรณนรีพี่สาวคนรองยืนยันพร้อมถอนหายใจ
ครอบครัวเธอมีหนี้สามสิบล้านบาท เพราะพ่อและแม่ดันไปเล่นการพนันตามคำยุยงของเพื่อน ตอนแรกก็ได้เงินดีอยู่หรอก แต่เล่นไปเล่นมามีแต่เสียกับเสีย ทว่าพ่อแม่ก็ไม่หยุด ยังคงเล่นต่อจนหนี้พอกพูนสะสม ไหนจะดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินมาเล่น ทำให้รวมๆแล้วตัวเลขสูงปรี๊ดจนลูกๆแทบลมจับ
“ทำไมพ่อกับแม่ถึงขาดสติได้ขนาดนี้นะ” น้องสาวคนสุดท้องของบ้านทำหน้าเครียด
“เฮ้อ ก็ป้านภาพรน่ะสิ มายุให้พ่อกับแม่เข้าบ่อน จริงๆพ่อแม่ก็อยู่บ้านดีๆตามประสาคนแก่เกษียณอายุ ถ้าไม่มีป้านภาพร บ้านเราคงไม่มีเรื่องปวดหัวแบบนี้หรอก” พรรณนรีบ่นอย่างนึกเจ็บใจ
“โทษป้าแกคนเดียวก็ไม่ได้ ส่วนหนึ่งพ่อแม่เราก็ผิดด้วยแหละที่ไม่หนักแน่นพอ” พิมพาพรเอ่ยอย่างสุขุม
“ก็จริงของพี่พิม ถ้าพ่อแม่หนักแน่นพอ ถึงจะมีคนยุแค่ไหนก็คงไม่ใจอ่อน” คิ้วเรียวของพลอยพิชญายังไม่คลายออกจากกัน
ตอนนี้พ่อแม่เองก็เครียดมากเหมือนกัน เพราะเจ้าหนี้ตามทวงหนี้และข่มขู่ว่า หากไม่หาเงินมาคืนภายในหนึ่งเดือน จะยึดบ้าน รถ และทรัพย์สินทั้งหมด รวมถึงไม่รับประกันความปลอดภัยหากจ่ายล่าช้า
คิดในแง่ดี อย่างน้อยก็มีเวลาหาเงินตั้งหนึ่งเดือน แต่ถ้าเทียบกับจำนวนหนี้ สามสิบล้านบาทภายในหนึ่งเดือนนี่ พลอยพิชญาขอเอามือก่ายหน้าผากแป๊บ
“แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พวกเราก็คงต้องหาวิธีแก้ปัญหาให้ดีที่สุด” พี่สาวคนโตมองหน้าน้องสาวทั้งสองคนอย่างปลุกปลอบ เพราะรู้ว่าน้องๆกำลังใจฝ่อกันแค่ไหน
“เงินสามสิบล้านไม่ใช่น้อยๆนะพี่พิม” พรรณนรีอยากจะกรี๊ดให้หายเครียด
“ยังไงเราสองคนก็ต้องหามาให้ได้ เพื่อพ่อแม่นะพรรณ”
“พรรณช่วยอยู่แล้ว แค่บ่นระบายความอึดอัด”
“พลอยจะช่วยด้วยค่ะ” น้องสาวคนเล็กยกมือหรา
“เราเพิ่งเรียนจบ ยังไม่ได้ทำงานเลยนะพลอย จะเอาเงินมาจากไหน” พิมพาพรเอ่ยเสียงอารี เธอเป็นหมอ ส่วนพรรณนรีเป็นทนาย มีการงานมั่นคงและรายได้ดีพอสมควร ดังนั้นจึงมีกำลังจะช่วยพ่อแม่ได้บ้าง
“แต่ถ้าพลอยให้พวกพี่รับผิดชอบหนี้ก้อนนี้สองคนมันก็ไม่ยุติธรรมนะคะ พี่พิมพี่พรรณเองก็มีรายจ่ายส่วนตัว มีภาระหลายอย่าง เพราะงั้นเพื่อความยุติธรรม เราแบ่งหนี้ออกเป็นสามส่วน และหาเงินมาใช้หนี้เท่าๆกันดีกว่าค่ะ” พลอยพิชญาเสนอทางออกที่ดีที่สุด เธอไม่ต้องการเอาเปรียบพี่ๆ เพราะเข้าใจดีว่าทุกคนก็มีรายจ่ายกันอยู่แล้ว หากมีเพิ่มอีก มันคงหนักน่าดู
“ไม่เป็นไรหรอกพลอย พวกพี่จัดการได้” พรรณนรีมองน้องอย่างเอื้อเอ็นดู
“ให้พลอยช่วยเถอะนะคะ ที่ผ่านมาพลอยให้แต่พ่อแม่และพี่ๆคอยดูแล พลอยอยากทำอะไรเพื่อช่วยเหลือครอบครัวบ้าง” พลอยพิชญารู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กน้อยเหลือเกินในสายตาครอบครัว นอกจากอยากช่วยหาเงินใช้หนี้แล้ว เธอก็อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอโตแล้ว
“จะเอาอย่างนั้นจริงเหรอ” พิมพาพรยังเป็นห่วงน้องอยู่มาก
“นั่นสิ อย่าเลยพลอย พวกพี่แค่เล่าให้ฟังเพื่อให้รู้ว่าสถานการณ์ครอบครัวเราตอนนี้เป็นยังไง เพราะที่ผ่านมาเวลามีอะไรเราไม่เคยปิดบังกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากจะให้พลอยช่วยหาเงินใช้หนี้”
“ให้พลอยลองช่วยเถอะค่ะ ถ้าสุดท้ายพลอยหาเงินมาไม่ได้ อย่างน้อยพลอยก็ยังดีใจที่ได้พยายามหาทางช่วยครอบครัวแล้ว พลอยคงรู้สึกไม่ดีที่เห็นพวกพี่ๆหาเงินหัวหมุน โดยที่ตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
พิมพาพรและพรรณนรีหันไปมองหน้ากันอย่างขอความเห็น ก่อนจะขอตัวออกไปคุยข้างนอกสองคน และกลับมาในอีกห้านาทีต่อมา พลอยพิชญารออย่างลุ้นระทึก
“พี่พิมเป็นคนบอกแล้วกัน” พรรณนรีพยักพเยิดไปทางพี่สาวคนโต
พิมพาพรพยักหน้าเบาๆ และเดินไปนั่งลงบนโซฟายาว พรรณนรีเดินลงมานั่งข้างกัน ทั้งสองมองน้องสาวคนเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟายาวตัวตรงข้ามอย่างห่วงใย
“ว่าไงคะพี่พิม ยอมให้พลอยช่วยหาเงินใช้หนี้ใช่ไหมคะ”
หัวใจของสาวน้อยเต้นตุบๆด้วยความลุ้น แล้วพลอยพิชญาก็ได้เฮเมื่อพี่สาวคนโตเอ่ยว่า
“พวกเรายอมให้พลอยช่วยก็ได้”
“เย้ ขอบคุณพี่พิมกับพี่พรรณที่ให้โอกาสพลอยค่ะ พลอยสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด”
“แต่ถ้าพลอยหาเงินสิบล้านไม่ได้จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ เพราะพลอยยังเด็ก” พรรณนรีเสริม “พวกพี่ให้โอกาส เพื่อให้พลอยได้ลองเจอกับโลกแห่งความจริง อะไรๆมันไม่ง่ายเหมือนที่เราคิดหรอก”
“แค่พลอยได้มีโอกาสช่วย พลอยก็ดีใจแล้วค่ะ เพราะถ้าพวกพี่ห้าม ก็เหมือนตัดสินพลอยตั้งแต่พลอยยังไม่ได้ลงมือเลย”
พิมพาพรพยักหน้าเบาๆ “ลองดู พวกพี่ก็จะหาเงินให้ได้ภายในหนึ่งเดือนเหมือนกัน”
“ค่ะ พลอยจะทำให้ได้!” พลอยพิชญาเอ่ยด้วยสีหน้าและแววตามุ่งมั่นเหลือล้น