ตอนที่ 1 สิ้นสุดการรอคอย
ในห้องทำงานของผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัทผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง
ภานนท์ ลิ้มเกียรติสกุล ผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และเป็นลูกชายคนเดียวของประธานบริษัทแห่งนี้ เขากำลังเปิดอ่านเอกสารตรงหน้าหากแต่สายตากลับไม่ได้จับจ้องที่เอกสารนั้นแม้แต่น้อย เหมือนว่ากำลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่
“คุณภานนท์ครับ คุณอัญมณีมาถึงสนามบินแล้วครับ” เลขานุการเข้ามารายงานในประโยคที่เขากำลังรอฟังอยู่
ผู้อำนวยการหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปีปิดแฟ้มเอกสารสำคัญนั้นลงอย่างไม่ไยดี ลุกขึ้นยืดตัวตรงแล้วคว้าเสื้อสูทที่ห้อยอยู่ด้านหลังมาสวมใส่ด้วยความตื่นเต้น ห้าปีแล้วที่อัญมณีหนีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เธอกลับมาครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอได้จากเขาไปไหนอีกแล้ว
“ส่งคนไปเชิญตัวคุณเพิร์ลมา ฉันจะไปรอที่บ้าน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่คุมความตื่นเต้นเอาไว้
ห้าปีที่เขารอให้เธอกลับมา วันแรกที่ได้พบหน้าจะต้องทำให้เธอประทับใจและให้อภัยในความผิดพลาดของเขา
ที่สนามบิน อัญมณี เอกรัตนโชติ หรือ เพิร์ล หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปีที่กลับมาพร้อมกับปริญญาโทสาขาวิชาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในต่างประเทศ กำลังเข็นรถเข็นใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบออกมาจากเขตผู้โดยสารขาออก
แม้เสื้อผ้าที่สวมใส่จะเป็นเพียงชุดลำลองที่ใส่สบาย แค่เสื้อแขนยาวคอเต่า กางเกงยีนสีฟ้าอ่อนและรองเท้าผ้าใบสีขาว แต่รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวนั้นเป็นที่สะดุดตาแก่คนที่พบเห็นจนต้องมองเหลียวหลัง
เจ้าของรองเท้าผ้าใบสีขาวบริสุทธิ์ยืนที่บริเวณที่คนไม่พลุกพล่าน โทรศัพท์หามารดาเพื่อที่จะถามหาคนที่มารอรับ แต่กลับถูกตัดสายไปถึงสามครั้ง ทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ
“คุณแม่นะคุณแม่ ไม่คิดถึงลูกสาวเลยหรือไง” ริมฝีปากสีแดงอมชมพูพึมพำด้วยความงุนงง แต่ก่อนที่เธอจะกดโทรศัพท์เป็นรอบที่สี่ก็มีชายในชุดสูทสองคนเดินเข้ามาหาเธอ
“คุณเพิร์ลหรือเปล่าครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม
“ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ พลางชะเง้อหาว่าพ่อและแม่เธอตามมารับด้วยหรือไม่
“ผมมารับคุณเพิร์ลครับ เชิญทางนี้” เขาผายมือเชิญเธอพร้อมกับรอยยิ้ม ในขณะที่อีกคนเดินไปช่วยเธอเข็นรถเข็นเพื่อช่วยนำสัมภาระไปเก็บ
“คุณพ่อคุณแม่ไม่ว่างเหรอคะ” เมื่อเดินไปถึงรถที่จอดรออยู่เธอจึงถามเพื่อความแน่ใจ
“คุณเพทายและคุณศิรินุชประชุมผู้ถือหุ้นอยู่ครับ” เขาตอบอย่างสุภาพแล้วเปิดประตูรถให้
อัญมณีขึ้นไปนั่งบนรถ มองดูทั้งสองช่วยกันยกกระเป๋าของเธอเก็บที่ท้ายรถตู้ ก่อนที่ทั้งคู่จะอ้อมไปนั่งด้านหน้ารถ แล้วรถก็ออกตัวไป
“นี่มันทางออกไปนอกเมืองนี่” เธอหันซ้ายหันขวาเมื่อรถแล่นออกสู่เส้นทางนอกเมือง
“ครับ ที่ที่จะพาคุณเพิร์ลไปเป็นบ้านพักที่อยู่ชานเมืองครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อมและสุขุม ไม่ได้แสดงความประสงค์ร้าย
“บ้านพักของคุณพ่อเหรอ”
“เปล่าครับ บ้านพักของคุณภานนท์”
คำตอบนั้นทำให้อัญมณีนั่งตัวแข็งทื่อ ชื่อของอดีตคนรักที่ทำให้เธอเสียใจจนต้องหนีความเจ็บปวดไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเขาพยายามติดต่อเธอและบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่การล้อเล่นกับเพื่อน ๆ เท่านั้น แต่ยิ่งฟังเธอก็ยิ่งโกรธเขามากกว่าเดิม
“ปล่อยฉันลง ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเป็นอันตรายเมื่อรู้ว่าพวกเขาเป็นคนของใคร
“เรื่องนี้ประธานเพทายและคุณศิรินุชเองก็ทราบครับ คุณภานนท์ขออนุญาตพวกท่านแล้ว อย่าทำให้พวกผมลำบากใจเลยครับ” คนที่ทำหน้าที่ขับรถพูดด้วยน้ำเสียงที่กังวล
อัญมณีกอดอกด้วยความโมโห แต่ในเมื่อพ่อแม่เธอรู้เห็นเป็นใจก็คงทำอะไรไม่ได้
รถเอสยูวีสีขาวมุกจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งประตูรั้วอัตโนมัติค่อย ๆ เปิดออก จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวเข้าไปจอดที่ทางเดินหน้าประตูทางเข้าบ้าน
หนึ่งในสองคนมาเปิดประตูรถให้เธอ แล้วผายมือเชิญให้เข้าไป อัญมณีลงจากรถไปเดินเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกอึดอัดปนตื่นเต้น
“เอากระเป๋าคุณเพิร์ลไปส่งที่บ้าน เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณเพิร์ลเอง” เสียงของเจ้าของบ้านดังขึ้นมาทำลายความเงียบ
“ครับ” เขารับปากแล้วเดินกลับไปที่รถ
เสียงของอดีตคนรักทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว ไม่ใช่ว่าเธอหมดรักเขาไปแล้วหรือ ทำไมแค่ได้ยินเสียงก็ทำให้ใจเต้นได้ขนาดนี้
‘อย่าอ่อนไหวสิเพิร์ล เขาทำอะไรกับเธอบ้าง จำเอาไว้’ หญิงสาวเตือนสติตัวเองแล้วปรับสีหน้าของตัวเองก่อนจะหันหน้าไปเผชิญหน้ากับภานนท์
เขามองสบตาเธอ ดวงตาคมกริบมีประกายแห่งความดีใจที่แสดงออกมาอย่างเปิดเผย ในขณะที่แววตาที่เธอมองเขาไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด
“ไม่เจอกันนานเลยนะเพิร์ล”
“มีธุระอะไรจะพูดก็พูดมาค่ะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ทำให้คนฟังรู้สึกใจหาย
“พี่อยากขอโทษด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง พี่ขอโทษนะเพิร์ล เรากลับมาคืนดีกันเถอะนะ” ภานนท์ก้าวเข้าไปหาเธอแล้วสวมกอดเอาไว้
เธอรู้ว่าเขาพูดด้วยความจริงใจ แต่มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรือ
“ปล่อยค่ะ ฉันอยากกลับบ้าน” สรรพนามที่แทนตัวเองนั้นดูห่างเหิน แต่นั่นยิ่งทำให้ผู้อำนวยการหนุ่มยิ่งกอดเธอเอาไว้แน่น
“พี่ไม่ปล่อย พี่จะไม่ยอมปล่อยมือจากเพิร์ลไปไหนอีกแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นคงและมีความกังวลอยู่ที่ปลายเสียง
ผู้ชายที่เคยหยิ่งในศักดิ์ศรี วันนี้กลับเป็นฝ่ายอ้อนวอนเธอ อัญมณียิ้มที่มุมปากด้วยความสมเพช ตอนนี้เขาเหมือนเธอเมื่อห้าปีก่อนไม่มีผิด
“พี่รักเพิร์ลนะ รักมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ” เขาอ้อนวอนเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลของเขา
“กลับไปเป็นเหมือนเดิม... เป็นของตายให้คุณทำร้ายความรู้สึกฉันนะเหรอคะ” ความเย็นชาที่แผ่ออกมาพร้อมกับประโยคที่กระทบกลางใจทำให้ผู้อำนวยการหนุ่มรู้สึกผิดแล้วกังวลว่าการง้อครั้งนี้น่าจะไม่ประสบผลสำเร็จ
“ไม่ใช่ เพิร์ลอย่าพูดแบบนั้นสิ” เขาเชยคางเธอขึ้นมาให้สบตากัน หญิงสาวไม่ขัดขืน เพราะตอนนี้เธอจะใช้ความรู้ที่เรียนมาปั่นหัวเขากลับไปให้สาสม
“พี่รู้ว่าเพิร์ลยังรักพี่อยู่”
เมื่อเธอไม่ปฏิเสธอะไร ใบหน้าของเขาจึงค่อย ๆ โน้มลงไปหา อัญมณีหลับตาลงแล้วเผยอปากน้อย ๆ รับจูบจากเขา ทำให้หัวใจของภานนท์ลิงโลดเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่เธอไปอยู่ที่นั่น เขาก็ให้เพื่อนที่ไปเรียนต่อช่วยเป็นสายให้ อัญมณีไม่มีใครเลย เธอตั้งใจเรียนและไม่สุงสิงกับใคร ไม่ว่าหนุ่มไทยหรือต่างชาติที่แวะเวียนมาขายขนมจีบ แต่เธอก็ปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด เพราะเหตุนี้ภานนท์จึงมั่นใจว่าอัญมณียังคงลืมเขาไม่ได้
************************