bc

เมียโจรMpreg

book_age18+
175
FOLLOW
1K
READ
HE
arrogant
heir/heiress
bxb
lighthearted
scary
campus
small town
surrender
villain
like
intro-logo
Blurb

เมื่อความแค้นผลิดอกออกกลิ่นคาวเลือด บ่งบอกว่าถึงเวลาชำระหนี้แค้นที่สุกงอม หลังจากที่บ่มไว้นานนับยี่สิบปี

เสือแผน โจรป่าที่เลื่องชื่อบุกโจมตีทลายบ้านตำรวจยศใหญ่ พร้อมกับลักพาตัวบังอร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของตระกูลกลางพิธีหมั้น

การบุกถ้ำเสือในครานี้ไม่เพียงแต่เป็นการหยามหน้านายตำรวจคู่แค้นเบอร์ฉกาจ แต่เป้าหมายของเขาคือการย่ำยีศักดิ์ศรีของลูกชายศัตรูให้อับอาย แม้นอยากจะตาย ก็คงทำได้เพียงแค่อยู่อย่างตายทั้งเป็น...

chap-preview
Free preview
ลักพาตัว
จะหักขืนฝืนใจไม่ให้รัก ง่ายกว่าหักฝืนใจให้ต้องหมั้น แม้น... “บังอร แต่งตัวเสร็จหรือยังลูก คุณศิลาเขามารอแล้วนะ” ดวงตากลมโตกลอกขึ้นข้างบนด้วยความเบื่อหน่ายพร้อมกับถอนหายใจออกมาแรง ๆ “เสร็จแล้วแม่” มือเล็กวางปากกาที่กำลังจดลงสมุดสีน้ำตาล ก่อนจะพับมันลงแล้วยัดใส่ลิ้นชักในตู้ไม้ตามเดิม ร่างบางสวมชุดไทยสีขาวสะอาดตาเดินตรงมาที่หน้าต่าง มือเล็กค่อย ๆ แง้มเปิดผ้าม่านเพื่อสอดส่องมองดูสถานการณ์เบื้องล่าง รถหรูไม่ต่ำกว่าสิบคันกำลังทยอยขับเข้ามาในเขตรั้วบ้านขนาดใหญ่ บรรดาแขกที่มาร่วมงานต่างยิ้มแย้มพูดคุยกันสนุกสนาน โดยเฉพาะบรรดาหญิงชายวัยกลางคนที่มีฐานะและยศศักดิ์ชั้นสูง สร้อยเพชรที่แขวนมาเต็มตัวราวกับจะขนมาขายมากเสียยิ่งกว่าขนมาอวดเบ่งบารมี หากโจรบุกมาปล้นในครานี้คงได้หอบสมบัติกลับไปกินเป็นชาติ แต่โจรที่ไหนจะกล้าบุกเข้ามาได้เล่า ในเมื่อเขตแดนนี้เต็มไปด้วยนายตำรวจมากฝีมือ โจรที่โง่เง่าเผลอพลาดท่าเข้ามาคงไม่ต่างไปจากหาเรื่องตาย แม้นภายในบ้านจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน แต่ไม่ใช่กับบังอร หนุ่มวัยรุ่นที่ถูกผู้เป็นพ่อบังคับจับหมั้นหมายกับศิลา นายตำรวจหนุ่มฝีมือดีเพื่อปรองดองกันทางหน้าที่การงาน ใบหน้าเรียบนิ่งจ้องมองดูภาพเบื้องหน้า ภายในหัวเริ่มปลงตก เขาคิดหาหนทางหนีอยู่นับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ถูกผู้เป็นพ่อจับทางได้อยู่ทุกครา ชีวิตที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบของเขา มองภายนอกช่างน่าอิจฉายิ่งนัก ทั้งหน้าตา ความรู้ ฐานะ ล้วนเป็นที่หนึ่งเสมอมาไม่มีใครเทียบได้ และตอนนี้เขากำลังจะมีคู่หมั้นที่สาว ๆ ต่างก็หมายปอง ใครต่อใครต่างก็พูดว่าเขากับหนุ่มว่าที่คู่หมั้นนั้นช่างเหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก แต่ใครจะรู้ดีไปกว่าเขาล่ะ ว่าใบหยกไม่ได้หมายมั่นที่จะอยู่บนกิ่งทอง เขาเพียงอยากอยู่บนกิ่งก้านที่โอบอุ้มเขาด้วยความรักอันแท้จริง ไม่ใช่การบังคับเฉกเช่นนี้ พิธีหมั้น “ยิ้มหน่อยสิลูก” ผู้เป็นแม่โน้มหน้าเข้ามากระซิบบอกเสียงเบาพลางฉีกยิ้มจนตาหยีให้เป็นตัวอย่าง แม้นไม่อยากจะทำตามแต่เขาก็ขัดคำสั่งไม่ได้ จำต้องยิ้มเจื่อน ๆ ส่งให้คู่หมั้นอย่างไม่เต็มใจ “วันนี้น้องอรสวยมากเลยนะ” คำเอ่ยชมที่ได้ยินตลอดทั้งงานฟังแล้วก็เบื่อหูดีเหมือนกัน บรรดาผู้คนที่มาร่วมงานต่างหลั่งไหลเข้ามานั่งเรียงที่เก้าอี้นวมสุดหรูภายในโถงใหญ่กลางบ้านเพื่อรอเวลาให้ถึง 09.09 น. ฤกษ์งามยามดี ฤกษ์สวมแหวนหมั้น อีกมุมหนึ่งภายในงาน บรรดาหนุ่มชายฉกรรจ์นับห้าสิบคนรุมล้อมบ้านหลังใหญ่ที่กำลังจัดงานรื่นเริงอย่างมีความสุข ผู้คนที่กำลังยิ้มร่าหารู้ไม่ว่าคราวซวยกำลังมาเยือน “อีกแค่ 10 นาทีแล้วพี่แผน” เสียงทุ้มต่ำเงยหน้าขึ้นไปบอกลูกพี่ของมันที่กำลังยืนสูบบุหรี่จ้องเข้าไปภายในงานผ่านพุ่มไม้หนา ดวงตาคมเข้มจ้องเขม็งที่ใบหน้าศัตรูคู่แค้นราวกับจะฉีกให้แหลกละเอียด จ่าฝูงส่งสัญญาณพลางก้มหยิบผ้าสีกรมมาคาดปิดบังใบหน้าอันหล่อเหลา ดวงตาเฉี่ยวหลุบลงต่ำเพื่อรวบรวมสมาธิ สองมือพนมแนบที่หน้าอกแกร่ง ภายในใจระลึกถึงคุณบิดามารดาและครูบาอาจารย์ ก่อนที่จะหันไปกวาดสายตามองลูกน้องที่กำลังเตรียมความพร้อมอยู่ด้านหลัง “พวกมึงทั้งหลายจงฟังกูให้ดี” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยผ่านใบหน้าเรียบนิ่งที่น่าเกรงขาม “หนี้แค้นนับยี่สิบปีกำลังจะถูกชำระ อย่ากลัวหากจะต้องตาย แต่พวกมึงจงกลัวที่จะขี้ขลาด เลือดพ่อแม่ชาวเราที่เหือดแห้งพื้นดิน จงฟื้นกลับคืนมา สิงสถิตที่ปลายกระบอกปืน” ไอ้เสือบุก “ยื่นมือให้พี่เขาสิลูก” ผู้เป็นมารดาร้องบอกแกมบังคับ ก่อนที่ใบหน้าเรียบนิ่งจะค่อย ๆ ยกฝ่ามือเล็กส่งให้ผู้ชายร่างใหญ่ที่สวมชุดไทยคู่กันตรงหน้า เขาไม่ได้มีท่าทีตำหนิเมื่อเห็นท่าทีว่าที่คู่หมั้นที่ดูอิดออด แม้นรู้ดีอยู่เต็มอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้สมยอม แต่เขาก็เชื่อมั่นในตัวเองไม่แพ้กัน ว่าจะสามารถทำให้อีกฝ่ายรู้สึกชื่นชอบในตัวเองขึ้นมาบ้าง แหวนเพชรสีเงินประดับหัวแหวนด้วยเพชรน้ำงามราคาเหยียบสิบล้านถูกนำมาจ่อที่ปลายนิ้วก่อนที่จะค่อย ๆ เลื่อนเข้ามา ปัง ปัง ปัง!! กรี๊ดดดดด!! สิ้นเสียงดังสนั่นความโกลาหลก็ก่อเกิดขึ้นในบัดดล แหวนที่กำลังสวมเข้านิ้วถูกวางลงในตลับพร้อมกับฝ่ามือหนาที่คว้าปืนจากมือผู้เป็นพ่อมาถือไว้ “พาลูกไปหลบก่อน!!” เดชาหันไปบอกลูกเมียที่กำลังอุดหูร้องกรี๊ดอย่างคนเสียสติ บังอรที่ยังพอตั้งสติได้กว่าผู้เป็นมารดารีบคว้าข้อมือผู้เป็นแม่มุดลอดใต้ซุ้มดอกไม้ออกมายังหลังบ้าน ด้านหลังนี้มีห้องใต้ดินที่พอจะเป็นหลุมหลบภัยให้พวกเขาได้บ้าง เสียงกระสุนสาดใส่กันพร้อมกับเสียงกรี๊ดที่สนั่นทุกพื้นที่ เขาได้ยินเสียงเจ็บปวดร้องโหยหวนออกมาภายในตัวบ้าน แม้จะนึกเป็นห่วงผู้เป็นพ่อแต่ก็เชื่อมั่นว่าเขาจะปลอดภัย เดชาไม่เพียงเก่งกล้าในด้านการใช้อาวุธ แต่ในด้านอาคมเขาก็เก่งไม่แพ้กัน ร่างเล็กจูงแขนแม่วิ่งฝ่าความชุลมุนออกมาจนถึงสนามกว้างก่อนจะหยุดชะงักเพราะถูกขวางทางจากร่างใหญ่ ดวงตากลมโตเบิกกว้างรับรู้ได้ถึงความไม่ปลอดภัยเมื่อถูกสกัดทางจากผู้ชายสวมเสื้อสีน้ำเงินเข้ม คาดผ้าสีเดียวกันเพื่ออำพรางปิดบังใบหน้า ดวงตาดุราวกับเสือบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขากำลังพบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก “ก...แกอยากได้สร้อยเพชรใช่ไหม เอาไปเลย ๆ แต่อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลยนะ” ผู้เป็นแม่รีบถอดสร้อยเพชรที่หนักอึ้งราคาหลายสิบล้านโยนส่งให้ชายร่างสูง แต่สร้อยเพชรกลับถูกเมินราวกับไม่ใช่เป้าหมายสำคัญ แกร๊ก!! เพียงปลายกระบอกปืนจ่อเข้าในระยะประชิด หญิงวัยกลางคนก็เกิดอาการหน้ามืดด้วยความสั่นกลัวจนล้มพับลงกับพื้น “แม่!!” บังอรย่อตัวลงไปเขย่าปลุกตัวของแม่แรง ๆ หวังให้ตื่นขึ้นมา แต่ตัวเองกลับต้องตัวเซถลาเมื่อถูกจับที่ต้นแขนเล็กแล้วออกแรงกระชากจนกระดูกท่อนเล็กแทบร้าว “ปล่อยนะ แกต้องการอะไร อยากได้อะไรก็พูดมาสิ!” เสียงใสตะโกนถามในขณะที่พยายามปรับเสียงไม่ให้สั่นกลัว ใบหน้าเรียบนิ่งไม่ได้ตอบอะไรออกมาแถมยังกระชากข้อมือเล็กให้เดินตาม แต่ก็ต้องชะงักกึกเมื่อถูกลูกกระสุนแล่นผ่านอากาศมาพุ่งชนกลางอกเต็มแรง ปัง!! เสียงดังสนั่นเกิดจากกระสุนที่พุ่งออกจากปลายกระบอกปืนด้ามยาวของเดชา ทำเอาคนโดนยิงฟุบนั่งลงกับพื้น แต่ก็ยังจับข้อมือเล็กในมือไว้แน่น “หึหึ ไม่เจอกันนานเลยนะ ไอ้เดชา” เสียงแค่นหัวเราะในลำคอบ่งบอกแน่ชัดว่าผู้ถูกยิงยังไม่เป็นอะไร ปืนแรงขนาดนี้หากเป็นคนทั่วไปคงได้กลับไปเฝ้ายมบาลแล้ว ใบหน้าเคียดแค้นค่อย ๆ เงยขึ้นมาสบตาพลางปัดมือไปตรงเสื้อที่ขาดไหม้อันเกิดจากรอยยิงเมื่อสักครู่ เผยให้เห็นรอยสักรูปเสืออยู่แวบ ๆ “มึงเป็นใคร” เดชาเดือดดาลเตรียมลั่นไกซ้ำอีกรอบ แต่กลับต้องรีบคลายมือเพราะอีกฝ่ายคว้าล็อกคอลูกชายอันเป็นดวงใจของเขาไว้แน่นสนิท ด้ามปืนไม้เตรียมกดเหนี่ยวไกในขณะที่ปลายกระบอกจ่อเข้าที่ขมับคนในอ้อมแขนจนผู้ถูกกระทำต้องหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ภายในใจก็เริ่มสวดมนต์อย่างบ้าคลั่ง มาถึงตอนนี้ชีวิตเขาคงจะไม่ได้ไปต่อ “มึงเป็นใครวะ! มึงแค้นกูเหรอ แค้นกูก็มาฆ่ากู มึงจะไปทำลูกกูทำไม!!” เสียงสั่นด้วยความโกรธแค้นเจือความกลัวจนปิดไม่มิดทำให้รอยยิ้มอย่างเย้ยหยันผุดออกมาภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีมืด “หึหึ กลัวว่าลูกมึงจะตายเหรอ ไม่ต้องห่วงนะ มันยังไม่ตายเร็วขนาดนี้หรอก มันจะต้องตายทั้งเป็นอย่างที่กูเป็นมาตลอดยี่สิบปี!” พลั่ก! ด้ามปืนไม้กระทุ้งลงที่หลังคอขาวเนียนจนความเจ็บตีแล่นขึ้นมาทั่วสมอง ดวงตากลมโตค่อย ๆ หรี่หลับลงช้า ๆ ก่อนที่ภาพผู้เป็นพ่อที่อยู่เบื้องหน้าจะเลือนรางและดับไปในที่สุด... ความปวดหนึบที่ตีแล่นขึ้นมาด้านหลังต้นคอปลุกให้ร่างเล็กค่อย ๆ ยกฝ่ามือขึ้นไปทาบทับด้วยใบหน้าเหยเก ก่อนจะหรี่เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ ความมึนงงกำลังทำงานอย่างหนัก สายตาค่อย ๆ กวาดไปรอบบริเวณด้วยความประหลาดใจ “ที่ไหนเนี่ย” ผมไม่อยากพึมพำคำถามโง่ ๆ นี้ออกมาเลย แต่ภาพเบื้องหน้านี้ไม่ใช่สถานที่ที่คุ้นตาจริง ๆ ที่นี่น่าจะเป็นภายในตัวบ้านสักหลัง บ้านไม้แคบ ๆ แต่กลับโล่งจนแทบไม่มีอะไร มีเพียงเตียงไม้เก่า ๆ ด้านบนเตียงประกอบไปด้วยที่นอนยัดด้วยนุ่นธรรมดาไม่ได้หนานุ่มอย่างเตียงราคาแพงที่บ้านหลังใหญ่ หมอนสองใบที่วางคู่กันกับผ้าห่มแค่ผืนเดียว มุ้งสีฟ้าครอบที่นอนไว้อีกที ดูแล้วก็เหมือนถูกกักขัง สมองของผมเริ่มค่อย ๆ ไล่ประมวลเหตุการณ์ในอดีตช้า ๆ ก่อนจะย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่จำได้ล่าสุด ผมกำลังจะเข้าพิธีหมั้นกับพี่ศิลา แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ใช่!! ผมถูกใครก็ไม่รู้บุกเข้ามาทำลายงานหมั้น ตื่นมาอีกทีก็… แกร๊ง! พลันจะยกขาที่หนักอึ้งผมก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เมื่อข้อเท้าถูกตรึงไว้ด้วยโซ่เงินเส้นใหญ่ล็อกไว้ติดกับเสากลางบ้าน ครืดดดด “เอ้า ตื่นแล้วเหรอครับ” ผู้ชายตัวเล็กแต่หน้าติดไปทางหวาน ขนาดตัวน่าจะเทียบเท่าผมผลักประตูเข้ามาพร้อมกับวางถาดอาหารลงที่ตรงหน้า ในถาดนี้มีน้ำแกงอะไรสักอย่างมาพร้อมกับน้ำพริกและผักลวก “นี่ข้าวเหนียวร้อน ๆ ครับ” คนร่างบางยิ้มให้อย่างเป็นมิตรพลางยื่นกระติกไม้ไผ่กลม ๆ ส่งมาให้ “เอ่อ...ที่นี่มันคือที่ไหนเหรอ” ผมเอ่ยถามอย่างหวาดระแวง “ที่นี่คือภูสมิงครับ หมู่บ้านโจรน่ะ” “ฮะ!! ม...หมู่บ้านโจรงั้นเหรอ แล้วคุณถูกลักพาตัวมาเหมือนผมหรือเปล่า” คนได้ฟังลอบยิ้มบาง ๆ พลางตอบมาด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย “ไม่หรอกครับ ผมเป็นเมียโจรน่ะ” “ฮะ!!” “แล้วคุณพอจะรู้ไหม ว่าพวกโจรมันจับตัวผมมาทำไม” “เอ่อ...อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ทางที่ดีคุณบังอรอย่าขัดใจพี่แผนเลยนะครับ เขาสั่งอะไรก็ทำตาม ไม่งั้นอาจจะต้องซวย” เหอะ!! อาจจะต้องซวยงั้นเหรอ แล้วที่ถูกจับล่ามโซ่อยู่แบบนี้มันยังไม่เรียกว่าซวยอีกหรือไง “มันตื่นหรือยังชบา” เสียงร้องถามที่ด้านล่างทำให้ทั้งผมทั้งคนที่เพิ่งทราบชื่อว่าชบารีบชะเง้อคอไปดู “ตื่นแล้วครับพี่แผน” “เอามันลงมา” “เอ่อ...ให้ปลดโซ่ไหมครับ” เสียงอ้อมแอ้มเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความเกรงใจ “ลากมันมาทั้งโซ่” “ไปครับ” “ป...ไปไหน” ผมมองตามคนตัวเล็กที่เดินไปปลดโซ่ออกด้วยท่าทางตั้งใจ ตาก็จับจ้องดูกุญแจที่ไขลงรู “พี่แผนน่าจะประกาศอะไรสักอย่าง ผมก็ไม่มั่นใจ” เขาเอ่ยบอกโดยไม่ได้หันมามองหน้า ส่วนผมก็เอาแต่จ้องมองข้อมือที่กำลังปลดโซ่ให้ แกร๊ก!! ทันทีที่โซ่เส้นยาวหลุดจากการคล้องลงที่ข้อขา ผมก็รีบหันไปผลักคนที่ปลดให้ล้มหงายหลังลงไป ก่อนจะใส่เกียร์หมารีบวิ่งลากโซ่ลงบันไดบ้าน เมื่อโผล่หน้ามาที่ประตู รอบข้างกลับเต็มไปด้วยสายตาชายฉกรรจ์ไม่ต่ำกว่าห้าสิบคนกำลังแบ่งกลุ่มตั้งวงกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว แม้ภายในใจจะสั่นกลัว แต่ขอตายดาบหน้าดีกว่ามีผัวเป็นโจรละวะ ผมรีบวิ่งลงบันไดอย่างลนลาน หวังมุ่งเข้าป่าที่มืดทึบ แต่ก็ต้องหัวทิ่มเพราะถูกใครบางคนเหยียบปลายโซ่อีกด้านหนึ่งไว้ “มึงจะหนีไปไหน” เสียงเยียบเย็นเอ่ยถามจนขนแขนลุกซู่ ผมค่อย ๆ หันกลับไปมองต้นตอของเสียงแล้วก็ต้องนิ่งงัน เบื้องหน้าคือชายร่างสูงใบหน้าคมเข้ม ใบหน้าหล่อราวกับฟ้าประทานแต่สายตากลับดุดันราวกับเสือป่าพร้อมล่าเหยื่อ ผมจำดวงตาคู่นี้ได้ เขาคือคนที่เข้ามาดักทางผมตอนอยู่บ้าน แถมเขายังโดนยิงแต่ไม่เป็นอะไรด้วย ผมเลื่อนสายตาลงต่ำมองดูแผงอกแกร่งที่สวมเสื้อสีดำแต่กลับไม่ติดกระดุมด้านหน้า เผยให้เห็นรอยสักรูปเสือแต่ไม่มีหัว พรึบ! ปลายโซ่ถูกกระชากแรง ๆ จนผมเซถลาไปตามแรงดึง “ม...มึงเป็นใครวะ จับกูมาทำไม!” แม้ภายในใจจะหวาดกลัวมากเพียงใด แต่ผมก็ทำใจกล้าสู้โจร พยายามปกปิดไม่ให้รู้ว่าผมกำลังกลัวมันอยู่ “หึ กูเป็นใครน่ะเหรอ กูก็คือคนที่กำลังจะเป็นผัวมึงยังไงล่ะ” แววตาชั่วร้ายปรากฏขึ้นพลันก้าวขามาชิดตัวผม หมับ!! “ปล่อยกูนะ ไอ้สวะ ไอ้เดนนรก!!” “เออ!! ไอ้เดนนรกคนนี้แหละที่มันจะเป็นผัวมึง ไอ้อร” ผมถูกคนตัวใหญ่กว่ากระชากเข้ามาจนชิดแคร่หน้าบ้านที่ตอนนี้มีชายฉกรรจ์นั่งดื่มเหล้าจากไหอย่างมีความสุข มันคงกำลังฉลองแด่ชัยชนะในครั้งนี้ ผมไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้าง ป่านนี้ทุกคนจะปลอดภัยไหมนะ พรึบ! ร่างบางถูกผลักออกไปประจันหน้ากับสายตาที่หื่นกระหาย ภายในใจเริ่มสั่นกลัว ปากที่เคยดีตอนนี้พูดแทบไม่ออก “ตั้งแต่คืนนี้ไป ไอ้อรลูกไอ้เดชา มันจะเป็นเมียของกู” “วู้วววววว ฮ่า ๆ ๆ” เสียงปรบมือดัง ๆ และเสียงโห่หัวเราะอย่างชอบใจดังขึ้นไม่ขาดสาย ผมเริ่มตาแดงก่ำคล้ายจะร้องไห้ออกมา สายตาไล่กวาดไปยังบรรดาร่างกำยำกำลังถอดเสื้อกระดกเหล้าอย่างบ้าคลั่ง อีกมุมคือกลุ่มเด็กหนุ่มหน้าหวานนับสิบคนนั่งร่วมวงกินข้าวกันอยู่ พรึบ!! “เฮือก” ผมรีบดันตัวออกเมื่อถูกคว้าเอวไว้แน่น คนหน้าหล่อเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางกดจมูกเข้ามาสูดดมตามซอกคอขาวจนผมหดคอแล้วดิ้นพล่านท่ามกลางเสียงโห่แซวจากบรรดาลูกน้อง “ฮึก ปล่อยกูนะ!!” ความกลัวที่กดไว้ปิดไม่มิดอีกต่อไป หยดน้ำตาใส ๆ เริ่มเอ่อล้นออกมา ผมดิ้นพล่านพยายามขัดขืน แต่ยิ่งดิ้นผมก็ยิ่งถูกซุกไซ้แรงขึ้นตามไปด้วย “ฮ่า ๆ ๆ เต็มที่เลยเว้ยพวกมึง ดื่มฉลองให้แก่คืนเข้าหอของกู” คนพูดหันไปคว้าแก้วเหล้าที่คนชื่อชบารินให้กระดกเข้าปากรวดเดียวหมดจนกลิ่นเหล้าลอยคลุ้ง ฉุนจนแทบต้องย่นจมูก ยิ่งเขายื่นหน้ามาคลอเคลียที่ต้นคอ ผมก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจในการกระทำเหล่านี้ “มานี่!” ตัวของผมถูกกระชากให้เดินตามขึ้นบ้าน ถึงผมจะฮึดฮัดใส่ด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ “เผื่อสักดอกสองดอกด้วยนะลูกพี่” เสียงโห่แซวดังไล่หลังขณะขึ้นบันไดมา พรึบ!! เมื่อถูกโยนลงสุดแรง หน้าผมก็ทิ่มลงผ้าห่มทันที ตามมาติด ๆ คือคนตัวหนาที่คร่อมซ้อนทับ “ปล่อยกูนะไอ้โจรเหี้ย มึงมันไม่ใช่คน มึงมันสัตว์เดรัจฉาน มึง อุ๊บ!” “ชูววว” ฝ่ามือหนาทาบปิดปากผมไว้สนิทพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาขู่ด้วยสายตาดุ ๆ “ถ้ามึงไม่อยากตายมึงก็อยู่เฉย ๆ” “ฮึก” ผมกลืนเสียงสะอื้นไห้ผ่านลำคอ สายตาก็จ้องมองหน้าดุผ่านม่านน้ำตาหนา มือของคนตรงหน้าค่อย ๆ คลายออกช้า ๆ จากปากผม ก่อนจะลุกขึ้นยืนเปิดโอกาสให้ผมขยับขึ้นไปนั่งกอดเข่าตัวสั่นระริกที่หัวเตียง “ลงมานั่งด้านล่าง” เสียงกระซิบห้วน ๆ เอ่ยบอก “หูแตกหรือไง กูบอกให้มึงลงมา” ผมใช้หลังมือปาดน้ำตาออกลวก ๆ แล้วยอมขยับลงไปนั่งที่ข้างล่างเตียงอีกฝั่ง ตรงข้ามกับเขา ตึก ตึก ตึก คิ้วบางของผมขมวดขึ้นเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ เขาก็ใช้มือดันเตียงชนกับข้างฝาบ้าน ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำเลยสักนิด นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ “คราง” “ฮะ” “กูบอกให้มึงคราง” เสียงดุเปล่งออกมาอย่างห้วน ๆ “ฮึก คะ ครางยังไงเล่า ครางไม่เป็น” “ไอ้ห่าเอ๊ย!!” คนออกคำสั่งสบถออกมาอย่างหัวเสีย พร้อมกับเปลี่ยนไปใช้มืออีกข้างดันเตียงแทน น่าจะเริ่มปวดแขนแล้ว “ฮึก ฮือออ” “เลิกร้องไห้แล้วครางออกมาสักทีสิวะ” “ฮึก ก็กูบอกแล้วไงว่ากูครางไม่เป็น” ยิ่งเขามีท่าทางฉุนเฉียวมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นมากเท่านั้น “มึงจะแกล้งคราง หรือมึงจะครางจริง ๆ” ผมเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคำขู่ รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “เร็ว ๆ สิวะ ปวดแขนแล้วเนี่ย พวกมันแอบฟังอยู่” เสียงกระซิบแผ่วเบาที่เร่งเร้าทำให้ผมลนลาน “อะ โอ๊ย โอ๊ย โอยยยย” “ทำเหี้ยไร มึงจะคลอดลูกเหรอ!!” “ฮึก กะ ก็ครางไง” “โอ๊ยย!! กูจะบ้าตาย” เขาหันไปทุบฝ่ามือลงใส่หน้าผากหนัก ๆ บ่งบอกได้ว่าเขากำลังหงุดหงิดกับผมมากเพียงใด ผมก็อยากจะครางให้มันจบ ๆ ไปหรอกนะ แต่ทำไงได้ผมครางไม่เป็นนี่ อย่าว่าแต่ผ่านเรื่องอย่างว่าเลย ชีวิตนี้ผมยังไม่เคยมีแฟนสักคนด้วยซ้ำ “มึงลองจินตนาการตอนเอากับแฟนมึงสิวะ อย่าโง่!!” “ฮึก ก็ไม่เคยเอากับใครไง!” ผมร้องสวนกลับพลางปาดน้ำตา ก็ครางให้ฟังแล้วยังจะเอาอะไรอีก “งั้นเอางี้ กูจะครางให้มึงฟังแล้วมึงครางตาม เดินอ้อมมานั่งข้างกู” เขาว่าพลางพยักหน้าเรียก ผมจึงยอมเดินอ้อมเตียงเข้าไปนั่งพับเพียบข้าง ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แต่อีกใจก็รู้สึกโล่งที่เขาไม่ได้จับผมทำเมียจริง ๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน “ฟังนะ” ผมนั่งนิ่งจ้องมองดูคนนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้า มือก็จับขาเตียงเขย่าไปเรื่อย ๆ “อ๊ะ อ้าาาา อื้ออ ซี้ดดดด” ผมมองตามใบหน้าเรียบนิ่งที่ครางออกมาดูไม่ได้อารมณ์เลยสักนิด “อ๊ะ” “ดังกว่านี้สิวะ ดังแค่นี้ใครจะไปได้ยิน” “อ๊ะ อื้ออ” “ดี! ดังกว่านี้ นานกว่านี้” “อ๊ะ อ๊ะ อ้าาาา อื้อออ” “พ...พอก่อน” คนตรงหน้าเริ่มหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าตอนยกเหล้าในแก้วเป๊กขึ้นซด เขาลอบกลืนน้ำลายพลางเบือนหน้าหลบ มือหนาคว้าหมอนมาปิดลงที่เป้ากางเกง “มึงไปนอนได้แล้ว” เขาพเยิดหน้าบอกผมที่กำลังนั่งนิ่งด้วยความมึนงง ผมจึงรีบเดินขึ้นเตียง “ทำอะไร” “ก...ก็นอนไง” “เอาหมอนมึงลงมานอนข้างล่างเตียง กูจะนอนข้างบน” “ฮะ!” “หรือมึงอยากจะนอนกับกู” ผมรีบส่ายหน้าพัลวันแล้วคว้าหมอนลงมานอนด้านล่างเตียงอีกฝั่ง ส่วนเขาก็ลุกขึ้นมานอนแผ่หลาอยู่บนเตียง แต่ก็ไม่วายชะเง้อคอมาคุยกับผม “มึงอย่าได้คิดหนี ต่อไปนี้ฐานะของมึงคือเมียของเสือแผน อยู่กับกูแล้วมึงจะปลอดภัย แต่ถ้าออกไปมึงจะตายสถานเดียว” “แล้วมึง...” “พี่แผน เรียกกูว่าพี่ กูเป็นถึงผัวมึงอย่ามาพูดจาหมา ๆ” เอาเปรียบชะมัด ทีเขายังไม่เห็นเรียกผมว่าน้องอรเลย “แล้วพี่แผนจับผมมาทำไมเหรอ พี่ต้องการอะไร” “ต้องการแก้แค้นพ่อมึง แต่มึงไม่ได้ผิด กูไม่ใช่คนไร้เหตุผลขนาดนั้น นอนซะอย่าถามมาก” ทันทีที่พูดตัดบท เขาก็ทิ้งตัวลงที่นอนพร้อมกับหลับตาพริ้ม ทิ้งให้ผมค่อย ๆ เอนตัวลงแผ่นไม้แข็ง ๆ ทั้งน้ำตา ทำไมชะตาชีวิตผมถึงต้องเป็นแบบนี้ด้วย พ่ออยู่ไหน เขาปลอดภัยไหมนะ เขาจะมาช่วยผมไหม ไม่สิ เขาต้องกำลังตามหาผมอยู่แน่ ๆ แต่เขาจะหาผมเจอหรือเปล่า คนชื่อชบาบอกว่าที่นี่คือภูสมิง ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย มันอยู่ไกลมากแค่ไหนก็ไม่รู้ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงนำทางพาพวกเขาตามมาเจอผมด้วยเถิด

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

แน่นะ...ว่ารักฉัน

read
1K
bc

บุปผากลางใจ จอมจักรพรรดิ

read
5.3K
bc

เกิดใหม่เป็นเมียคุณปราบ

read
1K
bc

ครั้งหนึ่ง...(Yaoi, boy story)

read
2.1K
bc

Papa is my Mom พ่อครับอย่าดื้อ (Mpreg)

read
1.0K
bc

โอกาสที่สองของนที

read
1K
bc

DONE FOR ME ได้โปรดยกโทษให้ผม

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook