6 หมอขา เบาๆ

1572 Words
“ครั้งหน้า...ไม่ต้องรีบถอดเองก็ได้นะครับ ผมชอบทำให้เองมากกว่า” คำพูดทิ้งท้ายที่ทั้งกำกวมและร้ายกาจของหมอรามยังคงดังก้องอยู่ในหัวของข้าวปั้นราวกับแผ่นเสียงตกร่อง มันตามเธอไปทุกที่...ตั้งแต่ก้าวขาออกจากโรงพยาบาล ขึ้นรถไฟฟ้ากลับคอนโด หรือแม้กระทั่งตอนอาบน้ำ เธอก็ยังเผลอเอามือแตะสะโพกตัวเองเบาๆ แล้วใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อๆ “บ้าจริง! นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย!” เธอสาดน้ำใส่หน้าตัวเองแรงๆ ในห้องน้ำ หวังจะให้ความเย็นช่วยเรียกสติกลับคืนมา “เขาเป็นหมอ! หมอก็ต้องตรวจคนไข้เป็นธรรมดา! แกจะมาคิดอะไรอกุศลไม่ได้นะยัยปั้น!” แต่ไม่ว่าจะพยายามบอกตัวเองแค่ไหน สัมผัสจากฝ่ามือที่โอบรอบเอว และปลายนิ้วที่ลากไล้ไปตามส่วนโค้งของสะโพก ก็ยังคงชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน เหตุการณ์ประหลาดๆ ไม่ได้จบลงแค่นั้น... สองวันถัดมา ขณะที่ข้าวปั้นกำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น จู่ๆ โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของเธอก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย แต่ขึ้นต้นด้วยรหัสโทรศัพท์ของโรงพยาบาล หัวใจของเธอกระตุกวูบ ‘หรือว่า...ผลตรวจเลือดมีปัญหา!’ ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาทำให้เธอใจหายวาบ รีบกดรับสายทันที “สวัสดีค่ะ อัญชัญพูดค่ะ” “คุณอัญชัญ อิงครัต ใช่ไหมครับ” ปลายสายเป็นเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยจนน่าตกใจ...เสียงของหมอราม! “คะ...คุณหมอ!” ข้าวปั้นเผลออุทานออกมาเสียงดังจนเพื่อนร่วมงานที่นั่งโต๊ะข้างๆ หันมามองเป็นตาเดียว เธอรีบยกมือปิดปากแล้วลดเสียงลง “มี...มีอะไรรึเปล่าคะ ผลเลือดหนู...เป็นอะไรมากไหมคะ!” เธอได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ จากปลายสาย “ผลเลือดคุณปกติดีทุกอย่างครับ” “อ้าว...แล้ว...” ข้าวปั้นงุนงง “แล้วคุณหมอโทรมาทำไมเหรอคะ?” “ผมโทรมา...ติดตามอาการ” เขาตอบเสียงเรียบ “ยังปวดแผลที่ฉีดยาอยู่รึเปล่า” หา? โทรมาติดตามอาการ? ตั้งแต่มาตรวจสุขภาพที่นี่เป็นปีๆ ไม่เคยมีหมอคนไหนโทรมาติดตามอาการเธอเลยสักครั้ง! “มะ...ไม่ปวดแล้วค่ะ” เธอตอบตามความจริง “ปกติ...ปกติดีทุกอย่างค่ะ” “เหรอครับ” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดในสิ่งที่ทำให้เธอแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง “แต่เมื่อวานผมเห็นคุณที่ร้านกาแฟใต้ตึก...คุณทำหน้าเหมือนปวดท้องมาก” ข้าวปั้นเบิกตากว้าง...เมื่อวานเธอไปร้านกาแฟใต้ตึกจริงๆ! แล้วก็เจ็บท้องจริงๆ ด้วย...แต่เป็นอาการปวดท้องประจำเดือน! แล้วเขาเห็นได้ยังไง! “คุณ...คุณหมอเห็นหนูเหรอคะ” “ครับ ผมไปซื้อกาแฟพอดี เห็นคุณนั่งกุมท้องอยู่ เลยไม่กล้าเข้าไปทัก กลัวจะรบกวน” น้ำเสียงของเขายังคงราบเรียบ แต่ข้าวปั้นกลับรู้สึกเหมือนโดนจับผิด “สรุปว่าเป็นอะไรกันแน่ ปวดแผล หรือปวดอย่างอื่น” ใบหน้าของข้าวปั้นร้อนเห่อขึ้นมาทันที นี่เขากำลังคาดคั้นอาการส่วนตัวของผู้หญิงจากเธออยู่เหรอ! “ปะ...ปวดเรื่องของผู้หญิงค่ะ!” เธอตอบเสียงห้วนเพื่อกลบเกลื่อนความอาย “อ้อ...อย่างนี้นี่เอง” เขาตอบรับรู้ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะมีความห่วงใยเจืออยู่จางๆ “ถ้าปวดมาก ทานยาแก้ปวดได้นะครับ หรือจะใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบก็ได้” คำแนะนำเรียบง่ายที่ใครๆ ก็รู้ แต่พอหลุดออกมาจากปากของเขา มันกลับทำให้หัวใจของข้าวปั้นเต้นผิดจังหวะไปอย่างน่าประหลาด “ขะ...ขอบคุณค่ะ” “ไม่เป็นไรครับ มีอะไรก็โทรมาที่แผนกได้...ผมสั่งพยาบาลไว้แล้วว่าถ้าเป็นเบอร์คุณ ให้ต่อสายตรงถึงผมได้เลย” ประโยคนั้นเหมือนระเบิดลูกเล็กๆ ที่ถูกหย่อนลงมากลางใจของเธอ...สิทธิพิเศษ? ทำไมต้องมีสิทธิพิเศษให้เธอด้วย? “แค่...ดูแลคนไข้ให้ดีที่สุดน่ะครับ” เขาพูดเหมือนอ่านใจเธอออก “งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมมีตรวจต่อ” แล้วเขาก็วางสายไป ทิ้งให้ข้าวปั้นนั่งตัวแข็งทื่ออยู่กับโทรศัพท์ที่ยังแนบหู หัวสมองอื้ออึงไปหมด การกระทำของเขามันคืออะไรกันแน่? เป็นความใส่ใจในฐานะหมอกับคนไข้...หรือเป็นอะไรที่มากกว่านั้น? ความสับสนในใจยังไม่ทันจางหาย เหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกอย่างก็เกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันถัดมา วันนั้นข้าวปั้นต้องกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เพื่อไปหาหมอราม เธอพาน้องสาวไปทำแผลที่คลินิกศัลยกรรมซึ่งอยู่คนละตึกกัน หลังจากทำแผลเสร็จ ระหว่างที่กำลังเดินผ่านโถงทางเดินยาวเพื่อจะไปรับยา เธอก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่งอย่างจัง ปึ้ก! “โอ๊ย!” ข้าวปั้นร้องออกมาเบาๆ ด้วยความเจ็บที่หัวไหล่ เอกสารในมือของคนที่เธอชนหล่นกระจายเกลื่อนพื้น “ขอโทษค่ะ! ขอโทษจริงๆ ค่ะ!” เธอรีบก้มลงช่วยเก็บเอกสารให้อย่างร้อนรน “ไม่เป็นไรครับ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยทำให้เธอชะงักมือแล้วเงยหน้าขึ้นมอง...หมอราม! เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ในมือยังคงถือแฟ้มเอกสารบางส่วนไว้ ใบหน้าคมคายภายใต้กรอบแว่นยังคงเรียบนิ่งเช่นเคย “คุณหมอ!” “คุณอีกแล้วเหรอครับ...คุณอัญชัญ” เขาเอ่ยชื่อเธอช้าๆ “ดูเหมือนเราจะเจอกันบ่อยกว่าวันนัดนะครับช่วงนี้” แก้มของเธอร้อนขึ้นมาทันที “พอดีหนูพาน้องมาทำแผลค่ะ” เธอรีบแก้ตัวพลางยื่นเอกสารที่เก็บได้คืนให้เขา เขาไม่ได้รีบรับมันไปในทันที แต่สายตาคมกริบคู่นั้นกลับมองสำรวจไปที่แขนของเธอที่เริ่มมีรอยแดงจางๆ จากการชนเมื่อครู่ “เจ็บรึเปล่า” เขาถาม “นิดหน่อยค่ะ ไม่เป็นไร” แต่เขาไม่ฟังสักนิด เขาคว้าข้อมือของเธอไว้เบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้เธอเดินตามเขาไป ข้าวปั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เดินตามแรงจูงของเขาไปอย่างงงๆ เขาพาเธอมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักแพทย์ห้องหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูแล้วดันตัวเธอเข้าไปข้างในเบาๆ “คุณหมอ! จะทำอะไรคะ!” เธอโวยวายขึ้นมาเมื่อเข้ามาอยู่ในที่ลับตาสองต่อสอง เขาไม่ตอบ แต่กลับเดินไปที่ตู้ยาเล็กๆ ที่ติดอยู่บนผนัง หยิบขวดแอลกอฮอล์กับสำลีออกมา “มาทำแผล” เขาตอบสั้นๆ “เดี๋ยวติดเชื้อ” “แค่รอยแดงเองนะคะ ไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้” “ผมเป็นหมอ ผมรู้ดีกว่าคุณ” เขาพูดตัดบท ก่อนจะเดินกลับมาหาเธอ ดันให้เธอนั่งลงบนโซฟาตัวเล็กในห้อง แล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าเธอ ภาพนั้นทำให้ข้าวปั้นหัวใจเต้นรัว...คุณหมอหนุ่มรูปหล่อกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ! เขาวางขวดแอลกอฮอล์ลงบนโต๊ะ เปิดฝาออกแล้วเทลงบนก้อนสำลีจนชุ่ม กลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งไปทั่วห้อง “ยื่นแขนมาครับ” เธอค่อยๆ ยื่นแขนที่สั่นเทาออกไปให้เขาอย่างว่าง่าย เขารับแขนของเธอไปวางบนตักของเขาอย่างนุ่มนวล ก่อนจะใช้สำลีที่ชุ่มแอลกอฮอล์ค่อยๆ เช็ดลงบนรอยแดงนั้นเบาๆ ความเย็นวาบจากแอลกอฮอล์ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ความรู้สึกนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความอุ่นร้อนจากมือของเขาที่ประคองแขนเธอไว้ เขาทำแผลอย่างตั้งอกตั้งใจ มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคนที่ดังคลอเบาๆ ในห้อง ข้าวปั้นเผลอจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขา...สันจมูกโด่ง...แพขนตาที่ยาวเป็นแผง...ริมฝีปากหยักได้รูปที่เม้มเข้าหากันเล็กน้อย... เธอยอมรับกับตัวเองในใจ...ว่าเขาหล่อ...หล่อมากจริงๆ หลังจากเช็ดแผลเสร็จ เขาก็ไม่ได้ปล่อยมือไปในทันที เขายังคงประคองแขนเธอไว้ แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไล้ผิวเนื้อบริเวณนั้นเบาๆ “ทำไมถึงกลัวเข็มขนาดนั้น” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา ทำลายความเงียบ ข้าวปั้นชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะถามเรื่องนี้ “ก็...มันเจ็บนี่คะ” “เด็กๆ ยังทนได้เลย” “หนูไม่ใช่เด็กนี่คะ!” เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอตรงๆ แววตาของเขาลุ่มลึกจนเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะจมลงไปในนั้น “กลัวเข็ม...หรือกลัวอย่างอื่นกันแน่” เขาถามย้ำคำถามเดิมที่เคยถามเธอในห้องตรวจ หัวใจของเธอเต้นโครมครามจนแทบจะทะลุออกมานอกอก “บางที...ยาที่ใช้เช็ดแผลอยู่นี่ อาจจะไม่ใช่แค่ยาฆ่าเชื้อโรคธรรมดา” เขากระซิบเสียงพร่า ขณะที่สายตายังคงจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ “แต่มันอาจจะเป็นยาที่ใช้ทดสอบ...ปฏิกิริยาของหัวใจก็ได้” พูดจบ เขาก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้...ใกล้จนปลายจมูกของพวกเขาสัมผัสกันเบาๆ ข้าวปั้นหลับตาปี๋โดยอัตโนมัติ รอรับสัมผัสที่เธอก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการมันหรือไม่...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD