2อนภัทร กิจจา

1670 Words
:อนภัทร กิจจา ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังติดกันสามนัดซ้อนตามมาด้วยร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ทรุดลงไปกองกับพื้น เธอจุกที่อกเหมือนกำลังจะหายใจไม่ออกสิ่งที่ทำได้คือพยายามกอบโกยอากาศให้ได้มากที่สุด เธอยังไม่อยากตาย… "อย่าโทษฉันเลยนะอัปสรมันช่วยไม่ได้ที่คุณพ่อเริ่มบ่นหาเธอ” ชายผู้ลั่นไกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา "...." อัปสรพูดไม่ออกทำได้แต่พยายามกดแผลห้ามเลือดไม่ให้ไหลและเงยหน้าขึ้นไปมองสุธีพี่ชายนอกสายเลือดที่แสร้งทำเป็นห่วงใยหวังดีกับเธอมาตลอด สุดท้ายก็คือหลอกกันสินะ หลอกให้เชื่อใจแล้วสุดท้ายก็พาเธอมาพบจุดจบน่าเวทนาแบบนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีความผิดอะไรมันถึงขั้นต้องฆ่าต้องแกงกันเลยรึไง เขาน่าจะรู้ว่าถึงอย่างไรเธอก็ไม่มีวันกลับไป ต่อให้พ่อบ่นหาหรือว่าคิดถึงเธอแค่ไหนก็ไม่กลับไปเด็ดขาดใครจะอยากกลับเข้าไปอยู่ในขุมนรกอีกล่ะ “เจ็บมากใช่มั้ย?แต่ฉันน่ะเจ็บใจกว่าแม้เธอจะออกจากบ้านไปนานแต่คุณพ่อก็ยังพยายามตามหาตัวเธอ หึหึ…ตลกชะมัดไหนท่านบอกว่าตัดขาดจากลูกไม่รักดีอย่างเธอแล้วไงแต่ทำไมการกระทำมันสวนทาง” "..." "เลือดเธอออกเยอะมากเลยนะสรแถมท่าเรือร้างนี่ก็ห่างไกลไร้ผู้คนฉันล่ะกังวลจริงๆว่าเธออาจต้องตายที่นี่ หึหึ…ขอโทษนะที่ฉันเป็นพี่ชายที่แสนดีให้เธอไม่ได้ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อหนูแก้วทั้งนั้นหวังว่าเธอจะเข้าใจ” สุธีหัวเราะสะใจก่อนจะทิ้งอัปสรไว้ตรงนั้น โล่งใจที่สุดท้ายก็กำจัดก้างชิ้นใหญ่ได้สำเร็จที่เหลือก็จัดการกับคนแก่ใกล้ตายแล้วสมบัติทั้งหมดของบูรพัฒน์ก็กลายมาเป็นของแสงสุริยา เด็กน้อยวัยยังไม่ถึงแปดขวบดีได้ยินทุกอย่างที่ผู้ใหญ่คุยกันรีบวิ่งออกมาจากที่หลบซ่อนตรงไปหาแม่ที่นั่งหายใจรวยริน "แม่ครับ...แม่!" เด็กชายร้องไห้หนักตกใจที่เห็นเลือดไหลซึมออกมาจากหน้าอกแม่มากมายแม้แม่จะเอามือกดไว้แต่ก็ห้ามไม่อยู่ยิ่งได้กลิ่นคาวเลือดเด็กชายก็หน้าซีดตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก พึ่งได้ลิ้มรสความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก “แม่เจ็บตรงไหนครับแม่บอกต้นสิครับแม่ ฮือ…แม่ครับ” "โทรหาพ่อ...ต้นโทรหาพ่อที" อัปสรพยายามหยิบโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้ส่งให้ลูกชายแต่เด็กน้อยยังคงตกใจเอาแต่ร้องไห้และมองเลือดที่ยังไหลออกมาจากตัวเธออย่างไม่ละสายตา “ทะ…โทรหาพ่อ!” อัปสรกดเสียงต่ำพร้อมกับจับมือลูกชายเขย่าให้เขาได้สติ หวังว่าพี่ก้องจะพกโทรศัพท์ติดตัวนะถ้าเธอต้องตายก็ขอให้ลูกที่เปรียบดั่งแก้วตาดวงใจปลอดภัยด้วยเถิด “คะ…ครับ” เด็กชายก้มมองโทรศัพท์กดโทรหาพ่อตามที่แม่บอกขณะรอสายน้ำตามันก็ยังไหลไม่หยุด เด็กน้อยวนปาดน้ำตาทิ้งจนสังเกตเห็นว่ามือตัวเองเลาะเลือด ความกังวลเข้ามาแทนที่สมาธิที่จดจ่ออยู่กับปลายสายเปลี่ยนไปสนใจผู้เป็นแม่แทน ทำไงดี… ตอนนี้หน้าแม่ซีดมากแถมเลือดยังไหลออกมาไม่หยุดเด็กน้อยตัดสินใจเอามือไปช่วยกดแผลแม่ไว้ “พ่อไม่รับเลยครับ” “โทรไปอีก…โทร…ย้ำๆ…” “ครับ” รับคำพร้อมกับกลืนเสียงสะอึกสะอื้นลงคอ “พะ…พ่อครับพ่อ…ฮืออออ…” เด็กน้อยปล่อยโฮเมื่อพ่อรับสาย “ให้แม่คุยกับพ่อหน่อย…” อัปสรรับโทรศัพท์มาแนบหู “พี่คะ…” ‘เกิดอะไรขึ้นลูกร้องไห้ทำไม’ แค่ได้ยินเสียงสามีอัปสรก็น้ำตาไหลรู้ดีว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ยินเสียงคนรัก “สร…ถูกยิงค่ะตอนนี้อยู่ที่ท่าเรือประมงเก่า” ‘ว่าไงนะ! ใครยิง!แล้วสรเป็นไรมากรึเปล่าโดนตรงไหนพี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้’ “ค่ะ…พี่ก้องรีบมานะคะสร…รู้สึกเหนื่อยๆ…” ‘อย่าหลับนะสรหนูต้องไม่เป็นไร…โทรเรียกกู้ชีพไปท่าเรือประมงเก่าเดี๋ยวนี้เลยพุฒิ’ อัปสรได้ยินเสียงสามีตะโกนสั่งเลขา เหนื่อยมาก… ไม่มีแรงพูดแล้วล่ะ “พี่คะ…” ‘อย่าวางนะสรอย่าพึ่งวาง’ “ค่ะ…สร…ยังไหวพี่คุยกับลูกนะ” อัปสรส่งโทรศัพท์ให้ลูกชายเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลาพักหายใจอีกนิด “พ่อคร๊าบบบ…ฮึก…ฮือออ…” ‘อย่าร้องนะต้น บอกพ่อสิว่าแม่เป็นไงบ้าง’ “มะ…แม่เลือดไหลไม่หยุดเลยยย…ฮึก…ลุงธีใจร้าย! ลุงทีทำแม่” ‘ลุงธีเหรอ’ “คะ…ครับฮึก…” ‘ไม่ต้องร้องนะลูกพ่อกำลังไปแต่เดี๋ยวรถพยาบาลจะไปถึงก่อน ต้นไม่ต้องกลัวคอยอยู่เป็นเพื่อนแม่นะ’ “ฮะ” เด็กน้อยปาดน้ำตาบอกตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้วางสายจากพ่อหันไปจับมือแม่ไว้ “แม่อดทนนะพ่อบอกว่าหมอกำลังมา” “…” อัปสรพยักหน้ายื่นมือไปลูบหัวลูกพร้อมรอยยิ้มเธอไม่อยากเห็นน้ำตาของลูกเป็นภาพสุดท้าย เธออยากเห็นรอยยิ้ม เห็นความสุข อยากจะมีชีวิตอยู่จนได้เห็นลูกเติบโตแต่ก็รู้ตัวเองดีว่าคงทำไม่ได้อย่างน้อยก็โล่งใจที่ลูกไม่เป็นอะไรไปอีกคนขอบคุณที่ตาต้นยังเชื่อฟังไม่ออกมาจากที่ซ่อนจนกว่าพี่สุธีจะกลับไป “ต้น…ต้องเข้มเข็งนะลูก ต้องอดทน…ต้องเป็นเด็กดีเชื่อ…ฟังผู้ใหญ่เข้า…เข้าใจรึเปล่า” “ครับ” “รอพอมานะ…รอพ่อ…” “แม่! แม่ฮะ!...แม่ครับ แม่!...” “แม่!!!” อนภัทรสะดุ้งตื่นพร้อมคราบน้ำตา เหตุการณ์ในอดีตมันสมจริงมากราวกับว่าเขาไม่ได้ฝันชายหนุ่มหยัดตัวลุกขึ้นมานั่งรับสภาพความจริงว่าเป็นอีกคืนที่เขาฝันถึงตอนที่แม่จากไป ความทรงจำมันแจ่มชัดแม้จะผ่านไปยี่สิบปีกลิ่นเลือดเหมือนยังคลุ้งอยู่ในจมูกเสียงแหบแห้งไร้เรี่ยวแรงของแม่ที่ฝืนพูดกับเขามันก็ยังแจ่มชัด โทษตัวเองว่าถ้าวันนั้นเขาโตกว่านี้บางทีแม่คงไม่ตาย โทษพ่อที่ช่วยแม่ไว้ไม่ได้ และ… โทษคนใจร้ายที่ฆ่าแม่ได้ลงคอ ‘นายสุธี แสงสุริยา’ เขาเลิกเรียกผู้ชายคนนั้นว่าลุงธีตั้งแต่วันนั้นไม่เข้าใจหรอกว่าคนที่ทำร้ายแม่ต้องรับโทษอะไรบ้างพอโตขึ้นก็เริ่มรู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไรยิ่งสืบค้นก็ยิ่งค้นพบความจริงที่ทำให้ปล่อยวางไม่ได้และพาลรังเกียจทุกคนในตระกูลแสงสุริยา ทำไมล่ะ?... ทำไมคนเลวๆแบบนั้นไม่ได้รับโทษแถมยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมใช้ชีวิตหรูหรามีความสุขกับทรัพย์สมบัติที่ตัวเองไม่สิทธิ์แต่ไปคดโกงเขามา ถามพ่อนะว่าทำไมไม่ลากนายสุธีเข้าคุกพ่อบอกว่าตอนนั้นไม่อยากให้เขาต้องตกอยู่ในอันตรายเขายังเด็กและเป็นพยานคนเดียวในเหตุการณ์ ก็เข้าใจแต่ก็ยังแอบเชื่อว่าไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดพ่อเขาเป็นนักการเมือง มันคงดูไม่ดีถ้าเรื่องที่พ่อมีบ้านเล็กบ้านน้อยกลายเป็นข่าว สุดท้ายอาจเป็นแม่ที่น่าสงสารที่สุดโดนพี่ชายบุณธรรมทรยศและมีสามีที่ไม่อาจปกป้องแม่ได้ “เฮ้อ…” อนภัทรเอามือลูบหน้าเรียกสติ พยายามควบคุมจังหวะหัวใจให้กลับมาเต้นในจังหวะปกติตราบใดที่ยังแก้แค้นให้แม่ไม่ได้เขาก็ยังต้องฝันร้ายแบบนี้ต่อไปสินะ…ราวกับว่าวิญญาณของแม่ยังไม่ไปไหนยังเรียกร้องความเป็นธรรมหรือกำลังเฝ้ารอดูความย่อยยับของคนพวกนั้นอยู่ เขาสัญญากับแม่ว่าครอบครัวแสงสุริยาต้องพังทลายด้วยมือเขาไม่ฟังคำเตือนของพ่อที่พยายามกล่อมให้ปล่อยวางไหนๆทุกอย่างมันก็ผ่านมาแล้ว แต่เขาไม่ได้แสนดีขนาดนั้นไง คนชั่วมันก็ต้องเจอกับคนชั่วถึงจะสาสมกันอะไรที่มันรักอะไรที่มีค่าสำหรับมันเขาจะพรากมาให้หมด ‘แก้วกันยา แสงสุริยา’ สืบจนรู้ว่ามันรักลูกสาวมากผู้หญิงคนนี้ล่ะคือเป้าหมายของการล้างแค้นอยากรู้จริงๆว่าถ้าโดนพรากแก้วตาดวงใจไอ้แก่นั่นมันจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหนกัน อยากเร่งคืนเร่งวันอยากให้แผนการณ์มันสำเร็จซะที เขาเสียเวลาหลายปีไปกับการตามหาผู้หญิงคนเดียวมามากพอแล้ว เกือบเจ็ดโมงเช้า อนภัทรกลับมาจากวิ่งออกกำลังกายแถวๆบ้านเผลอหยุดยืนมองบ้านใหญ่อยู่นานการที่พ่อแยกบ้านให้อยู่แบบของใครของมันทำให้ลดปัญหากระทบกระทั่งไปเยอะมีแต่เขาเท่านั้นที่สนุกกับการล้ำเส้นทำให้แม่เลี้ยงปวดประสาทเล่นๆ แต่วันนี้ไม่มีอารมณ์เขาควรเตรียมตัวไปเกาะสีครามมากกว่า ตระกูลกิจจานับเป็นตระกูลเก่าแก่ของจังหวัดเป็นครอบครัวสายนักการเมืองและทำธุรกิจเกี่ยวฟาร์มมุขครบวงจรพึ่งจะมาเพิ่มสัมปทานรังนกในช่วงหลัง เขาสนใจเป็นนายหัวเฝ้าเกาะมากกว่านั่งใส่สูทบริหารบริษัทหวังลึกๆว่าธรรมชาติมันจะช่วยบำบัดจิตใจในเมื่อพ่อไม่ว่าเขาก็จะไปอยู่ที่เกาะ "เรื่องที่ให้ตามไปถึงไหนเล้วชัย" เอ่ยทักลูกน้องพ่อที่เขาใช้ให้ไปตามหาตัวแก้วกันยาซึ่งมายืนรออยู่หน้าเรือนขาว "ยังไม่ได้อะไรเลยครับคุณต้น” “ไปให้พ้นหน้าฉัน ไป!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD