เช้าวันใหม่ แสงแดดอุ่นส่องลอดม่านสีครีมเข้ามาในห้องกว้าง ลินลืมตาตื่นขึ้นในบ้านหลังใหม่—คฤหาสน์อัครเดชที่หรูหราเกินกว่าที่เธอเคยชิน เธอมองเพดานสูงโปร่งก่อนจะถอนหายใจยาว
นี่คือความจริงที่เธอปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป… เธอกำลังถูกบังคับให้ใช้ชีวิตในฐานะคู่หมั้นของธาม
⸻
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นจากหน้าประตู ลินหันไปเห็นธามยืนยิ้มบาง ๆ อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตลำลองสีขาว เขาถือถาดอาหารเช้ามาด้วย
“ฉันทำเองนะ ถึงจะไม่เก่งเท่าแม่ครัว แต่ก็อยากให้คุณลองชิม”
กลิ่นหอมของข้าวต้มกุ้งลอยมาแตะจมูก ลินชะงักไป เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง ภาพนั้นทำให้เธอรู้สึกผิดแปลก—ทั้งอุ่นใจและอึดอัดในเวลาเดียวกัน
“ขอบคุณค่ะ…” เธอตอบเสียงเบา ก่อนรับถาดมาไว้บนตัก
ธามยิ้มพลางนั่งลงเก้าอี้ข้างเตียง “คุณไม่ต้องเกรงใจหรอก ลิน ผมรู้ว่ามันยากสำหรับคุณ แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้…ผมจะไม่บังคับอะไรที่คุณไม่อยากทำ”
คำพูดนั้นอ่อนโยนเหลือเกิน จนลินเผลอก้มหน้าหลบสายตา น้ำตาคลอขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ เธอรีบเช็ดออกอย่างรวดเร็ว แต่ธามก็เห็นอยู่ดี
“คุณร้องไห้…” เสียงของเขาแผ่วลง
“เปล่าค่ะ…แค่ข้าวต้มมันร้อนไปหน่อย” เธอแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน แต่ในใจกลับสั่นไหว
⸻
วันต่อมา ธามอาสาพาลินออกไปเดินเล่นในสวนดอกไม้หลังบ้าน เขาเล่าเรื่องต้นไม้แต่ละชนิดให้ฟังด้วยน้ำเสียงร่าเริงเหมือนอยากทำให้เธอผ่อนคลาย
“นี่ดอกกุหลาบขาว ผมชอบมันนะ มันดูเรียบง่ายแต่สง่างาม เหมือนคุณเลย”
ลินสะดุ้งกับคำเปรียบเทียบ เธอพยายามยิ้มตอบ แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของอีกคนหนึ่ง
เสียงภีมที่มักจะแกล้งเปรียบเธอกับสิ่งเพี้ยน ๆ อย่าง “เธอเหมือนช็อกโกแลตที่กินแล้วติดฟัน แต่ก็เลิกกินไม่ได้”
ความแตกต่างนั้นทำให้หัวใจเธอปวดหนึบ
⸻
เย็นวันเดียวกัน ลินกลับเข้าห้องตัวเอง เธอนั่งลงบนเตียง หยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กที่เคยใช้จดข้อความสำคัญกับภีม เธอเปิดไปที่หน้าซึ่งเขาเคยขีดเขียนเล่นตอนนั่งรอเธอในห้องสมุด
“ถ้าหายไป ฉันจะตามหาเสมอ – ภีม”
ตัวอักษรนั้นพร่าเลือนเพราะน้ำตาที่หยดลงซ้ำ ๆ จนหมึกซึมกระจาย
เธอปิดสมุดแน่น กอดมันไว้กับอก แล้วพร่ำกระซิบในความเงียบ
“ภีม…เธอจะไม่ตามหาฉันจริง ๆ สินะ…”