ตอนที่ 2 ฤทธิ์สุรา

1160 Words
กลิ่นบุปผากำจายทั่วแห่งหน ผลาญใจคนจนลืมทุกข์สลบไสล… เพียงระยะเวลาหนึ่งก้านธูป* เหล่านักกล้าผู้ใคร่กระหายในบุปฝางามแรกแย้มก็ต่างพากันนอนหลับใหลหมดสติไปเป็นที่เรียบร้อย บุปผาทิวาช่างเป็นสุราปราบเซียนเหล่าบุรุษคอทองแดงเสียอยู่หมัด เหล่าผู้กล้าหวังพิชิตหญิงงามล้วนหน้าตาแดงก่ำสลบไสลไม่ได้สติ จะมีก็แต่บุรุษรูปงามแห่งเมืองหลิวหยางเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่ยังคงนั่งหลังตรงกระดกสุราปราบเซียนอย่างสบายใจเฉิบ ฤทธิ์ของมันหาได้ทำให้คุณชายเจ้าสำราญสกุลฝูนามจิ้นหงผู้นี้ระแคะระคายผิวไม่ แม่เล้าจางเดินนวยนาดยิ้มกริ่มมาหยุดยืนข้างๆ คุณชายเจ้าสำราญพลางทอดถอนใจกับความสามารถของคุณชายฝูผู้นี้ ที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งคนผู้นี้ล้วนเป็นผู้ได้เด็ดบุปผางามในราตรีแรกแย้มเสียทุกครั้งไป “คุณชายฝู ข้าควรจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดีเจ้าคะ ทุกครั้งที่หอพิณสวรรค์ของเรามีการประมูลราตรีแรกของหญิงงาม จะต้องเป็นท่านเสมอที่ได้ครอบครองเหล่าโฉมสะคราญเหล่านั้น ข้าน้อยขอนับถือในความมานะของท่านจริงๆ” จางลี่พูดกึ่งประชด ทว่าคนฟังกลับใบหน้าเปื้อนยิ้มกับคำชมที่แสนจริงใจเช่นนี้ “ในฐานะที่ข้ากับเจ้าเคยเป็นสหายรู้ใจกัน จางลี่เจ้ายังไม่รู้จักนิสัยของข้าอีกรึ?” ดวงตาเรียวคมเริ่มหวานเยิ้มเพราะฤทธิ์ของสุรา ทว่าคนอย่างฝูจิ้นหงก็คือฝูจิ้นหงในวันยังค่ำ ไม่ว่าเขาอยากจะได้อะไร ไม่ว่ามันจะยากเย็นสักแค่ไหน ชายหนุ่มก็จะต้องไขว่คว้ามันมาให้ได้! “เอาล่ะๆ ข้าจะไม่เสียเวลาพูดให้เปลืองน้ำลาย หญิงงามที่เจ้าต้องการรออยู่ที่ห้องพิเศษด้านบนเรียบร้อยแล้ว ข้าหวังว่าครั้งนี้เจ้าจะไม่รุนแรงจนคนของข้าช้ำมือเหมือนดั่งคราก่อน แม้ว่าข้าจะไม่ใช่แม่ค้าหน้าเลือด แต่สินค้าของหอพิณสวรรค์ของเราล้วนต้องงดงามสดใหม่เสมอ เข้าใจหรือไม่?” จางลี่พูดด้วยน้ำเสียงแกมหยอกเย้า เพราะทุกครั้งที่เหล่าบุปผางามได้มีโอกาสปรนนิบัติรับใช้ฝูจิ้นหง สตรีพวกนั้นต่างก็พากันพร่ำเพ้อหลงใหลในลีลาสวาทของอีกฝ่ายจนไม่ยอมรับแขกคนอื่นๆ เดือดร้อนนางที่จะต้องจัดหาวิธีการหลอกล่อเหล่าสตรีพวกนั้น “หึๆ จางลี่ เจ้ากับข้าต่างก็รู้ใจกันดีอยู่แล้วไม่ใช่รึ…ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งใด” “เชอะ! เด็กๆ เชิญคุณชายฝูขึ้นไปด้านบน” เมื่อจนต่อคำพูดที่จะต่อกร จางลี่ก็รีบเรียกเหล่าบุปผางามเชิญชายหนุ่มขึ้นด้านบนทันที “หลี่จวิน เจ้าว่าหญิงงามจากแดนเหนือผู้นั้นจะลีลาเป็นเช่นไร อ่าห์…ข้าชักรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแล้วสิ” น้ำเสียงทุ้มต่ำน่าฟังเริ่มกลายเป็นแหบพร่าเพราะฤทธิ์ของสุราแดนเหนือ หลังจากดื่มบุปผาทิวาจนหมดไห ร่างสูงก็ค่อยๆ ลุกจากเก้าอี้ไม้โดยมีองครักษ์คู่กายคอยพยุงเดิน “หลี่จวิน ข้าหาได้เมาไม่ ไม่ต้องมาพยุงข้า!” คนท่ามากเริ่มปฎิเสธความหวังดีขององครักษ์คู่กาย หลี่จวินกรอกตาไปมาพลางส่ายหน้าเบาๆ “ขอรับๆ คุณชายของข้าหาได้เมามายเลยสักนิด เพียงแต่ไม่เหมือนเดิมแค่นั้นเอง” “ไม่ผิด! ข้าแค่ไม่เหมือนเดิม ฮ่าๆๆๆ” สองนายบ่าวปะทะคารมกันพอหอมปากหอมคอ ดวงตาสองคู่เริ่มพราวระยิบระยับขณะเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยใจที่จดจ่อและหื่นกระหาย บนห้องพิเศษที่ประดับตกแต่งงดงามหรูหรา… “กลิ่นบุปผางามหอมดั่งอยู่บนสรวงสวรรค์ สุราเลิศรสหาได้ทำให้ใจข้าหวั่นไหวไม่ หากแต่เป็นกลิ่นบุปผางามเช่นเจ้า ช่างหอมเย้ายั่ว…” ยังไม่ทันที่ฝูจิ้นหงจะร่ายกลอนจบ ชายหนุ่มก็ถึงกับร่างแข็งค้างนัยน์ตาเบิกกว้างตกตะลึงงัน ยามเมื่อแหวกม่านไหมสีแดงที่ปิดอยู่หน้าประตูเปิดออก สตรีในอาภรณ์สีแดงสดเบื้องหน้าก็เล่นเอาคุณชายเจ้าสำราญเช่นฝูจิ้นหงแทบจะหยุดหายใจ “งาม…เจ้าช่างงดงามเหลือเกิน…” “ท่านคือ…คุณชายฝูจิ้นหงใช่หรือไม่?” เสียงหวานใสเอ่ยถามดั่งเหนียมอาย ดวงตาคู่งามประสานจ้องมองฝูจิ้นหงราวกับว่านางเฝ้ารอเขามาแสนเนิ่นนาน “ชะ…ใช่…ขะ…ข้าเอง” ฝูจิ้นหงถึงกับพูดติดอ่างหมดท่าคุณชายมากรัก ส่วนหลีจวินก็ค่อยๆ พยุงผู้เป็นนายนั่งลงตรงข้ามเหม่ยลี่เสียแทบไม่ทัน “คุณชายฝู…น้ำลายท่านไหลแล้ว…” เหม่ยลี่แอบเอาผ้าเช็ดหน้าปิดปากขำกับท่าทางเปิ่นๆ ที่ไม่เข้ากับท่าทางของคุณชายชื่อดังแห่งเมืองหลิวหยางเลยสักนิด “อะแฮ่มๆ โทษที” ฝูจิ้นหงก็รีบลนลานหาผ้ามาเช็ดปากตัวเองอย่างรวดเร็ว ด้านหลี่จวินก็แอบอดขำผู้เป็นนายเสียไม่ได้ “ดูท่าคุณชายของข้าคงจะเมาแล้วล่ะแม่นางลี่” องครักษ์หนุ่มรู้สึกสะใจลึกๆ ที่เพิ่งเห็นคุณชายฝูหมดท่าเช่นนี้ “หลี่จวิน หมดเวลาของเจ้าแล้ว ออกไปได้!” เมื่อถูกลูกน้องคนสนิทพูดจาไม่ไว้หน้าต่อหน้าหญิงงาม ฝูจิ้นหงจึงไม่คิดจะใจดีให้องครักษ์ข้างกายได้เด็ดบุปผางามร่วมกับตนเฉกเช่นที่ผ่านมา “ขอรับ” เมื่อถูกไล่ออกจากห้อง หลี่จวินก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ เพราะท่าทางของคุณชายของเขาในราตรีนี้ ดูท่าคงจะหลับก่อนจะได้เด็ดดอกไม้งามเป็นแน่ “เจียวลู่ เจ้าก็ออกไปด้วย” ดวงตาคู่งามจ้องมองสาวใช้ข้างกายให้รีบออกไป “แต่ว่า…คุณหนู…” ทว่าหญิงสาวดูท่าทางเป็นห่วงผู้เป็นนาย “ออกไป” เหม่ยลี่พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “เจ้าค่ะ” หลังจากที่ทุกคนต่างพากันแยกย้ายออกจากห้องไปหมดแล้ว หนึ่งบุรุษกับหนึ่งหญิงงามต่างประสานสายตาหวานล้ำแทนคำพูดใดๆ ราวหนึ่งเค่อ* ที่บรรยากาศภายในห้องตลบอบอวลด้วยกลิ่นอายที่แสนหอมหวาน ฝูจิ้นหงเริ่มใช้สายตาโลมเลียโฉมงามอย่างหื่นกระหายและออกนอกหน้าไม่เกรงใจ ในระหวางที่มโนภาพของชายหนุ่มกำลังจะเริ่มเกี้ยวคนงาม ฝูจิ้นหงก็ไม่อาจที่จะทานทนไฟราคะที่เริ่มปลุกเร้าเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มเริ่มจู่โจมโฉมงามทันที “เหม่ยลี่…ตกเป็นของถ้าเถอะนะ อ๊อก!” ยังไม่ทันที่คุณชายฝูจิ้นหงจะฉกฉวยนิ้วมืองามมาดอมดม เหม่ยลี่ก็จัดการฟาดฝ่ามือลงที่ต้นคอของอีกฝ่ายฉับพลัน! ใบหน้างามเผยรอยยิ้มเย้ยหยัย แววตาฉายแววรังเกียจชิงชังบุรุษชีกอเช่นนี้นัก * ‘หนึ่งก้านธูป’ จึงเทียบได้ประมาณครึ่งชั่วยามหรือก็คือ 1 ชั่วโมง * หนึ่งเค่อ = 15 นาที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD