พวกเขานั่งคุยกันไปสักพักใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ แต่ก่อนจะกลับแตงกวาก็ได้รับข้อความจากอิฐที่ส่งมาหาเธอ เขาบอกให้เธอไปรอเขาที่ข้างมหา’ลัยเพราะเขาจะเป็นคนไปส่งเธอเอง แตงกวาที่ตอนแรกจะกลับกับน้ำหวานเลยต้องจำใจโกหกเพื่อนว่าแม่ของเธอจะมารับและเดินไปรออิฐตามที่เขาบอกไว้ เพราะถ้าไม่ทำตามเขาก็ขู่ว่าจะเอาเรื่องของเธอกับเขาไปบอกกับทุกคนให้รู้ และคนอย่างเขาก็ทำจริงอย่างที่พูดแน่นอน......
“ยิ้มหน่อยไม่ได้หรือไง?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่นั่งหน้างออยู่ข้างๆ
“ไม่มีอารมณ์!” เสียงใสของแตงกวาตอบกลับคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไร เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นรถมากับเขาเขาก็เอาแต่อัมเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทางซึ่งต่างจากเธอมากที่โดนบังคับให้มาด้วยกัน
“งั้นเดี๋ยวปลุกอารมณ์ให้เอาไหม หึหึ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมุมปากหยักของเขา แตงกวาหันขวับไปมองหน้าของเขาทันทีเพราะเธอรู้ดีว่าที่เขาพูดมันหมายถึงอะไร
“หุบปากไปเลยไอ้พี่อิฐ!!”
“แค่กลับด้วยกันทำไมต้องหงุดหงิดด้วย?”
“ก็หนูไม่อยากกลับกับพี่ไง!!”
“แต่ก็ขึ้นรถมาแล้วนี่” อิฐยกยิ้มแล้วหันไปสนใจกับท้องถนนต่อ เขาไม่ได้คิดจะใส่ใจกับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของคนข้างๆ เลย....
Rrrrr… รถแล่นออกมาได้สักระยะเสียงโทรศัพท์ของแตงกวาก็ดังขึ้นขัดบรรยากาศอันน่าอึดอันนี้ มือเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋าก่อนจะทำหน้าเหมือนไม่อยากรับสายสักเท่าไร แต่ก็ต้องจำใจรับเพราะปลายสายนั้นคือแม่ของเธอ
“สวัสดีค่ะแม่”
“(อื้ม... พรุ่งนี้แกต้องมากินข้าวเย็นกับแม่แล้วก็พี่กันต์เขา จำได้ใช่ไหม?)”
“ค่ะ... หนูจำได้ พี่กันต์เขาโทรหาหนูแล้วหละค่ะ... เดี๋ยวเขาจะมารับที่มหา’ลัยค่ะ”
แตงกวาตอบกลับแม่ก่อนจะปรายสายตาไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วย อิฐเองพอได้ยินเธอพูดถึงใครอีกคนจากที่เขาฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีอยู่นั้นก็หยุดการกระทำทันทีพร้อมกับหันขวับไปมองเธอ แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของเขาซะหน่อย ทำไมเขาจะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนด้วย? คิดได้ดังนั้นก็หันกลับไปสนใจกับท้องถนนต่อ แต่อารมณ์ที่เคยดีนั่นกลับเริ่มขุ่นมัวขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“(อื้อ... ก็อย่าให้พี่เขารอนานหละ... เออ... แล้วก็วันศุกร์นี้เรามีนัดทานข้าวกับอาของเราใช่ไหม?)”
“ใช่ค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“(เปล่า... เพราะแม่ก็จะไปด้วยเหมือนกัน)”
“อ้อ... ค่ะ” แตงกวารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่แม่ของเธอรู้ว่าเธอกับคุณอาของเธอนัดกันทานข้าวเย็น แต่เรื่องนั้นเธอก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจมากกว่านั้นคือที่แม่ของเธอบอกว่าท่านจะไปร่วมทานข้าวเย็นกับคุณอาของเธอด้วย เพราะตั้งแต่ที่พ่อของเธอจากไปนั้นแม่ของเธอกับคุณอาของเธอก็แทบจะไม่ได้คุยกันเลย
“(แค่นี้แหละ เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้ละกัน)”
“ค่ะ....” สายถูกตัดไป แตงกวาจ้องมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนจะยัดมันเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างเดิม แล้วค่อยๆ หันไปมองคนขับรถที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่ที่เธอคุยโทรศัพท์กับแม่ของเธอแล้ว
“เป็นอะไรไปคะ?” คิ้วเรียวเลิกสูงถามคนที่นั่งหน้านิ่งซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขายังดูอารมณ์ดีอยู่เลย
“เปล่า”
“ค่ะ” เธอตอบรับสั้นๆ เพราะไม่ได้อยากรู้ว่าทำไมอยู่ๆ เขาถึงได้มีอาการเปลี่ยนไปแบบนี้ อิฐที่เห็นว่าเธอไม่สนใจตัวเองเลย เขาจึงตัดสินใจถามเธอออกไป
“จะไปกินข้าวกับไอ้นั่นเหรอ”
“ไอ้นั่น? ใครคะ?” แตงกวารู้ดีว่าเขาหมายถึงใครแต่เธอแค่อยากกวนอารมณ์ของเขาเล่น เพราะตอนนี้อิฐมีท่าทีที่แปลกไปมาก
“ก็ไอ้เหี้ยนั่นไง ที่เจอกันที่หัวหินน่ะ!” สรรพนามเรียกบุคคลที่สามของอิฐเปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่เริ่มขุ่นขึ้นของเขา
“อ้อออ... หมายถึงพี่กันต์เหรอคะ? ใช่ค่ะ หนูจะไปกินข้าวกับเขา... พี่มีปัญหาอะไรหรือเปล่า... ดูหงุดหงิดแปลกๆ นะ?” แตงกวาเอียงคอมองหน้าอิฐพร้อมกับอมยิ้มไปด้วย เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร แต่การได้แกล้งแหย่เขาตอนเขาอารมณ์ไม่ดีนั้นมันเป็นเรื่องสนุกสำหรับเธอ
“ใครหงุดหงิด? ไม่ได้หงุดหงิดโว้ย!! อยากไปไหนกับใครก็เรื่องของเธอ… แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะ... ว่าผู้ชายมันน่ากลัวมากกว่าที่เธอคิด”
“รวมถึงพี่ด้วยใช่ไหม” แตงกวาว่าพลางส่งยิ้มกวนไปให้เขา อิฐเองที่เห็นท่าทีทะเล้นของเธอเขาก็ดีดเข้าให้ที่หน้าผากของเธอทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้
“โอ้ยยยย!! ทำอะไรของพี่เนี้ย มันเจ็บนะ!!”
“ถึงฉันจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ฉันก็ไว้ใจได้ก็แล้วกัน”
“กล้าพูดเนอะว่าตัวเองไว้ใจได้!.... คนไว้ใจได้ที่แอบเข้าห้องของคนอื่นเมื่อคืนน่ะนะ หึ!” แตงกวาย่นจมูกใส่อิฐพร้อมกับมองค้อนเขาวงใหญ่ จากนั้นก็หันหน้าหนีเขาทันที
“ก็ไว้ใจได้มากกว่าไอ้หมอนั่นแล้วกันน่ะ... วันนั้นเห็นทำท่าไม่อยากอยู่กับมันไม่ใช่เหรอ แล้วทำถึงจะไปกินข้าวกับมันหละ” อิฐนึกขึ้นมาได้ว่าวันนั้นที่หัวหินแตงกวามีท่าทีที่ไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้กับกันต์มากนักแต่วันนี้เธอกลับบอกว่าจะไปกินข้าวกับหมอนั่นซะได้
“หนูมีเหตุผลของหนู... แต่หนูว่าพี่กับเขาก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไรหรอก.... เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ กระล่อน โรคจิต หื่น ห่วย!!”
“โหหห... ด่าเหมือนฉันไปเผาบ้านเธอเลยนะแตงกวา!”
“ก็มันจริงนี่!”
“ลงรถไปเลยยัยเด็กบ้า!” อิฐเบรกรถอย่างแรงเมื่อถึงหน้าคอนโดของแตงกวาก่อนที่จะเอ่ยปากไล่เธอให้ลงจากรถ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาคิดที่จะขึ้นไปห้องของเธอด้วย แต่พอโดนด่าเขาก็เปลี่ยนใจทันที ...นับวันยิ่งด่าเจ็บขึ้นทุกทีเลยนะยัยเด็กบ้านี่!...
................................
ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง....
อิฐที่กลับถึงห้องของตัวเองแล้วก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปร้านเหล้าเพราะเพื่อนรักดันโทรมานัดรวมตัวด่วน
อิฐจอดรถที่ลานจอดรถของร้านก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้นและเบอร์ที่โชว์อยู่ก็เป็นเบอร์ที่เขาคุ้นเคยดี และถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะรับสายนี้อย่างไม่มีข้อแม้อะไร แต่ตอนนี้เขากลับไม่อยากจะรับมันซะอย่างนั้น และสุดท้ายก็ตัดสินใจรับเพราะคนโทรมาไม่ได้มีท่าทีที่จะย่อท้อเลย
“ครับ” เสียงทุ้มต่ำกรอกลงไปตามสาย ก่อนที่เสียงหวานแหลมของหญิงสาวหนึ่งในคู่ขาของเขาจะตอบกลับมา
“(รับสายช้าจังเลยนะคะพี่อิฐ ปล่อยให้เบลรอตั้งนาน)” เสียงปลายสายออกอาการงอนเขานิดหน่อย
“โทษทีครับ พี่ขับรถอยู่น่ะครับ ว่าแต่เบลมีอะไรหรือเปล่า”
“(นี่พี่อิฐลืมนัดของเราเหรอคะ ไหนว่าจะไปกินข้าวเย็นกับเบลไงคะ!)” สิ้นเสียงของเบลอิฐก็คิดขึ้นมาได้ว่าเมื่อเช้าเบลโทรหาเขาและนัดกันว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน แต่เขากลับลืมไปซะสนิทเพราะมัวแต่สนใจแตงกวาอยู่
“พี่ไม่ได้ลืมครับ แต่พอดีเพื่อนพี่มีปัญหานิดหน่อยน่ะครับ ก็เลยออกมาหาเพื่อน นี่พี่ก็ว่าจะโทรไปบอกเบลอยู่เลย” แถ.... คืออย่างเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้
“(อ้าว... เหรอคะ แต่ว่าเบลอุตส่าห์รอพี่แล้วนะ... เอาอย่างนี้ไหมคะ ถ้าพี่เสร็จธุระกับเพื่อนแล้ว พี่อิฐมาหาเบลที่ห้องนะคะ)”
“ได้ครับ” เขาตอบกลับเธอไปเสียงหวาน เพราะคืนนี้เขาเองก็ไม่ได้อยากกลับไปนอนคนเดียวที่ห้องเหมือนกัน และอีกอย่างคือ...เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขายังสามารถทำอะไรๆ กับผู้หญิงคนอื่นได้อยู่หรือเปล่า เพราะหลังจากที่มีอะไรกับแตงกวาไปครั้งแรกก็ดูเหมือนเขาจะไม่ได้มีอารมณ์กับใครอีกเลย ฉะนั้นคืนนี้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่ายังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า....
อิฐเดินเข้ามาในร้านและตรงไปยังโซนวีไอพีของร้านที่อยู่ด้านบน และทันทีที่มาถึงก็เห็นเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างอาร์มและคิมหันต์นั่งรออยู่แล้ว
“ไอ้ธามยังไม่มาเหรอวะ?” อิฐเดินเข้าไปนั่งลงข้างอาร์มก่อนจะถามหาตัวต้นเรื่องที่ไลน์ไปชวนพวกเขาให้มารวมตัวกันวันนี้
“ยัง.... แต่เดี๋ยวคงมา” อาร์มตอบกับเขาไปพร้อมกับยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นจิบเบาๆ
“มึงว่ามันเป็นไรเปล่าวะ ปกติมันไม่ค่อยชวนพวกเราออกมากินเหล้านี่หวา” คิมหันต์เอ่ยออกมาเสียงเรียบ อิฐกับอาร์มก็ไหวไหล่เบาๆ เป็นเชิงว่าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าธามธาวินมีปัญหาอะไร
และไม่นานนักธามธาวินก็เดินเข้ามาหาพวกเขา แต่สีหน้าของเขาแค่ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ไหน
“เป็นไรวะจู่ๆ เรียกพวกกูออกมา?” คิมหันต์เอ่ยถามทันทีที่เห็นธามธาวินเดินเข้ามา พร้อมกับยื่นแก้วเหล้าไปให้เขาด้วย
“เปล่า... แค่อยากกินเหล้า” ธามธาวินเองก็ตอบกลับไปเสียงเรียบ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวหมด
“มึงไปหงุดหงิดมาจากไหน มาถึงก็กระดกหมดแก้ว” อิฐมองหน้าเพื่อนรักพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะดูธามธาวินจะอารมณ์เสียเป็นพิเศษเลยวันนี้
“กูได้ข่าวว่าอิงฟ้ากลับมาแล้วนะ.... มึงรู้แล้วใช่ไหม?”
อาร์มที่นั่งมองดูอาการของเพื่อนรักมาสักพักก็เอ่ยถามออกไป และคำถามของเขาก็เหมือนจะเป็นผลเพราะธามธาวินมีท่าทีหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิม ทำให้เพื่อนๆ รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังอารมณ์เสียในเรื่องที่อาร์มพูดถึง แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้ตอบอะไรทำเพียงยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเงียบๆ
“มึงจะเอาไงต่อ?”
อิฐมองหน้าเพื่อนก่อนจะถามออกไปเพราะเขารู้ดีว่าใครบางคนที่อาร์มพูดถึงก่อนหน้านี้เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาอารมณ์เสียอยู่ตอนนี้อย่างแน่นอน
“เอาไงต่อหมายความว่าไง? จบไปนานแล้ว... กูไม่ได้สนใจแล้ว ก่อนจะไปกูถามแล้วแต่เธอยืนยันเองที่จะไป... แล้วตอนนี้จะมาอะไรกับกูอีก”
“แล้วน้องอายตาหละ... เขารู้เรื่องนี้หรือเปล่า”
อาร์มถามถึงอายตาขึ้นมาบ้าง แต่ธามธาวินไม่ได้ตอบอะไรก่อนที่เจ้าตัวจะก้มมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่ดูเหมือนจะมีใครบางคนส่งข้อความมา ก่อนที่ธามธาวินจะปิดโทรศัพท์มือถือของตัวเองโดยไม่ได้ตอบกลับข้อความนั่น
“ฟ้าโทรมาหามึงแล้วใช่ไหม?”
และก็เป็นคิมหันต์ที่ถามขึ้นมาอีกครั้ง แต่ธามธาวินทำเพียงตอบสั้นๆ ในลำคออย่างไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“อืม”
“เอาไงหละมึงทีนี้... เมียก็มีแล้วแถมเมียเก่าก็ดันกลับมาอีก”
อิฐที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดขึ้นมา พลางจ้องมองหน้าของธามธาวินนิ่ง เพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนรักของเขากำลังคิดจะทำอะไร
“เรื่องมันผ่านไปนานแล้วกูไม่อยากคิดอะไรอีก”
“ดีๆ ละกันเพราะผู้หญิงอีกคนเขาไม่รู้เรื่องด้วย... อย่าทำให้เขาต้องมาเสียใจกับอดีตของมึง” คิมหันต์พูดออกมาเสียงราบเรียบเพื่อเตือนสติของธามธาวิน และอิฐก็รู้ดีว่าที่คิมหันต์พูดคงไม่อยากให้เรื่องนี้มันไปกระทบกับผู้หญิงอีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างอายตา....
อิฐและเพื่อนๆ นั่งพูดคุยกันไปเรื่อยก่อนที่ใครบางคนจะเดินเข้ามาหาพวกเขา และเธอคนนั้นก็คือคนที่ทำให้ธามธาวินหัวเสียอยู่ตอนนี้ ธามธาวินเหมือนจะมีปากเสียงกับอิงฟ้าแต่ทุกคนก็ช่วยกันเคลียร์ ก่อนที่ธามธาวินจะขอตัวกลับก่อนโดยประกาศชัดเจนว่าเขาจะกลับไปหาเมีย อิฐที่ได้ยินแบบนั้นก็หลุดยิ้มออกมา เพราะเขาแน่ใจแล้วว่าธามธาวินตัดขาดเยื่อใยกับอิงฟ้าแล้วจริงๆ และตอนนี้ก็เหมือนเพื่อนรักของเขาจะรักเมียป้ายแดงเข้าให้แล้วด้วย...
..........................
อิฐที่เคลียร์ปัญหาของเพื่อนเสร็จก็ออกมาจากร้านและมุ่งหน้าไปหาเบลสาวสวยคู่ขาของตัวเองทันที
“เข้ามาก่อนสิคะพี่อิฐ”
เขาเคาะประตูอยู่เพียงครู่คนด้านในก็เปิดประตูให้เข้าได้เข้าไปในห้อง และภายในห้องก็เหมือนจะถูกเตรียมพร้อมไว้สำหรับกิจกรรมบางอย่างเรียบร้อยแล้ว ทั้งไฟในห้องที่ถูกเปิดสลัวๆ พร้อมเทียนหอมที่ถูกจุดเพื่อกระตุ้นฟีโรโมนและสร้างบรรยากาศ รวมถึงชุดที่เจ้าของห้องสวมใส่อยู่ด้วย เบลใส่ชุดนอนซีทรูสีขาวที่บางจนเห็นทะลุไปถึงด้านใน
“เบลคิดถึงพี่อิฐจังเลยค่ะ” เสียงหวานของเบลเอ่ยออกมาพร้อมกับแขนเล็กที่ยกขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่งของอิฐไว้ เธอเขย่งปรายเท้าขึ้นเพื่อที่จะประกบริมฝีปากอวบอิ่มของตัวเองลงบนปากหนาหยักได้รูปของอิฐ แต่อิฐกลับยืนนิ่งโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยซึ่งต่างออกไปจากทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่เขามาห้องนี้มันมักจะเริ่มต้นตั้งแต่หน้าประตูและพากันไปจบที่เตียงนอน
อิฐก้มมองใบหน้าสวยของเบลที่กำลังยิ้มยั่วยวนเขาอยู่ถ้าเป็นปกติเขาคงจะใจเต้นไปกับเธอ แต่วันนี้กลับแปลกไปเพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
“ให้เบลช่วยนะคะ” มือเล็กเลื่อนลงไปปลดกระดุมเสื้อเชิตสีขาวที่เขาสวมใส่อยู่ออกทีละเม็ดจนเผยให้เห็นแผงอกแกร่งของเขา ก่อนที่เบลจะใช้ปลายลิ้นร้อนแตะลงไปบนหัวนมอมชมพูของเขาพร้อมกับเลียวนอย่างที่เธอชอบทำเพื่อปลุกอารมณ์ของเขา มือเล็กเลื่อนต่ำลงไปปลดเข็มขัดของเขาออกก่อนจะค่อยๆ รูดซิปกางเกงยีนส์เนื้อหยาบออก แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นอิฐก็คว้าหมับเข้าให้ที่ข้อมือของเธอ
“อะไรคะ?” เบลขมวดคิ้วเข้าหากันทันที เพราะวันนี้อิฐมีท่าทีแปลกไปมาก
“เปล่าครับ” เขาตอบกลับเธอแล้วปล่อยให้เธอทำต่อในแบบที่เธอต้องการ เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้
“งั้นเบลทำต่อนะคะ” เบลช้อนสายตามองเขาก่อนจะย่อตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาของอิฐ จากนั้นมือเล็กก็ค่อยๆ รั้งกางเกงยีนส์ของเขาให้หลุดลงมาจนถึงสะโพกเผยให้เห็นเครื่องเพศของเขาที่เธอหลงใหล มือเล็กจับรวบเข้าให้ที่แกนกายชายที่ยังไม่ตื่นตัว คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันเล็กน้อยเพราะปกติอิฐจะผงาดพร้อมที่จะทำกิจกรรมกับเธอ แต่วันนี้เขาแปลกไปมาก ก่อนที่เบลจะส่ายหน้าเบาๆ เพราะเธอมั่นใจว่าเธอสามารถปลุกให้มังกรของเขาตื่นขึ้นได้อย่างง่ายดายแน่นอน
“ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะรู้สึกดีที่ได้มีอะไรกับผู้ชายที่มั่วกับผู้หญิงไปทั่วอย่างพี่หรอกนะ”
แต่ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเบลจะสัมผัสเข้ากับแกนกายชายของอิฐ อยู่ๆ คำพูดบางอย่างของแตงกวาก็แล่นเข้ามาในโสตประสาทของอิฐ ทำเอาเขาสะดุดกึกพร้อมกับดันหน้าของเบลออกห่างจากน้องชายของตัวเองทันที
“โทษทีนะเบล พี่ไม่มีอารมณ์” ไม่ว่าเปล่าเขายังถอยหลังออกห่างจากเธอแล้วจัดการแต่งตัวของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เดินออกจากห้องเธอไปปล่อยให้เบลนั่งงงกับท่าทางของเขาอยู่ที่กลางห้อง
อิฐขับรถออกมาบนท้องถนนพลางในใจของเขาตอนนี้ก็ว้าวุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และตอนนี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าเขาไม่สามารถมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนได้อีกถ้าไม่ใช่.... แตงกวา....
..............
ห้าทุ่ม.....
อิฐพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียงนอนกว้างภายในห้องนอนของผู้หญิงที่ทำให้เขาว้าวุ่นใจอยู่ตอนนี้
“เธอต้องรับผิดชอบฉัน... แตงกวา....” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาแผ่วเบาก่อนจะแทรกตัวขึ้นไปนอนข้างๆ คนที่หลับสนิท พลางสายตาคมของเขาก็จ้องมองหน้าเธอไปด้วยก่อนที่แขนแกร่งจะค่อยๆ ดึงร่างบอบบางของเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง
“เธอกำลังทำให้ฉันสับสนนะรู้ไหม....” อิฐพึมพำออกมาก่อนที่เขาจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ และปล่อยให้ความเงียบยามค่ำคืนเข้ามาครอบงำ...........