2 : เรื่องชวนงงของเพื่อนรัก

2827 Words
วันนี้ฉันเลือกหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงเลือดนกขึ้นมาใส่ ผมยาวสลวยปล่อยสยายยาวถึงกลางหลัง แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางบางเบาพร้อมกับหมุนตัวไปมาหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อเช็คความเรียบร้อยก่อนจะออกจากห้อง... ฉันขับรถไปรับน้ำหวานที่คอนโดก่อนจะตรงไปที่ร้านที่นัดไว้กับเพื่อน โดยอายตาโทรมาบอกพวกเราว่าจะตามมาทีหลัง 2 ทุ่มครึ่ง ร้าน C bar ........ พวกเรามาถึงร้านตอนประมาณสองทุ่มครึ่ง ร้านนี้เป็นร้านเหล้าที่คนไม่ค่อยแน่นเท่าไรเนื่องจากเป็นร้านที่ค่อนข้างหรูไม่ใช่ฟิวผับบาร์ทั่วไปเน้นไปทางนั่งดื่มโยกตามเพลงได้เบาๆ มีดีเจคอยเปิดเพลงอยู่กลางร้าน มีแยกโซนชัดเจนตรงกลางเป็นโซนโต๊ะสูงสำหรับยืน ตรงมุมร้านเป็นโซนโซฟานั่ง และด้านบนชั้นสองเป็นโซน VIP ซึ่งโซนนั้นจะมีการ์ดยืนเฝ้าหน้าลิฟต์และบันไดทางขึ้นอยู่สองสามคน ที่นี่ฉันกับเพื่อนมากันเป็นประจำ จากนั้นพวกเราก็สั่งเครื่องดื่มแล้วนั่งคุยกันไปพลางเพื่อรอเพื่อนสาวอีกคน นั่งกันไปสักพักน้ำหวานก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำจึงเหลือฉันแค่คนเดียวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอายตาที่วันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีดำพอดีตัวเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งเล็กน้อย สัดส่วนของเพื่อนคนนี้ขนาดฉันที่เป็นผู้หญิงด้วยกันมองยังคิดว่าเธอน่าขย้ำเลย แล้วผู้ชายจะเหลือเหรอ? ระหว่างที่เพื่อนรักเดินเข้ามาฉันสังเกตุเห็นสายตาของหนุ่มๆ หลายคนจ้องมองเธอไม่วางตาเลย.... “ยัยอาย!! อายตา!! ทางนี้!!” ฉันรีบลุกขึ้นยืนแล้วโบกไม้โบกมือเพื่อเรียกเพื่อนสาวทันทีก่อนที่เธอจะโดนหนุ่มๆ รุม “เบาๆ อายเขา” พอมาถึงโต๊ะอายตามันก็รีบปรามฉันทันทีเพราะตอนนี้คนรอบๆ หันมามองโต๊ะเราหมดแล้ว “มาช้าจังวะ” ฉันย่นคิ้วถามอายตาพร้อมกับยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูเวลาด้วย “รถมันติดไง นี่มาถึงก่อนสี่ทุ่มก็บุญแค่ไหนแล้ว” อายตาว่าพลางยกแก้วน้ำเปล่าที่อยู่ตรงหน้าขึ้นดื่ม “แล้วยัยน้ำหวานหละ?” แล้วมันก็ถามหาน้ำหวานพร้อมกับมองไปรอบๆ “ไปห้องน้ำ ว่าแต่เมิงเอาไรดีเดี่ยวสั่งให้” ฉันถามเพื่อนรักออกไป “อะไรก็ได้ ได้หมดคร้าเพื่อนสาว แต่ขอเบาๆ นะ ไม่อยากเมา” อายตายิ้มแหย่ๆ มาให้พร้อมกับมองไปรอบๆ เหมือนกำลังกลัวใครจะมาเห็น ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกว่าเพื่อนรักทำตัวแปลกๆ เหมือนมันหลบใครมาอ่ะ ทำท่าเหมือนหนีแฟนเที่ยว “ยิ้มแหย่ๆ แบบนี้ ทำท่าแบบนี้... ถ้าแกมีแฟนฉันจะคิดว่าแกหนีแฟนเที่ยวนะเนี้ย” ฉันว่าติดตลกแต่เพื่อนกลับนิ่งไป ฉันพูดอะไรผิด?? “บ้าเหรอ ฟงแฟนอะไรเล่าไม่มีเว้ย!!” อายตารีบปฏิเสธทันที ฉันเองก็ยิ้มให้กับท่าทางของเพื่อนก่อนจะเดินไปสั่งเครื่องดื่มให้มันแล้วกลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสีสวยในมือ ไม่นานน้ำหวานก็เดินกลับมาจากห้องน้ำ “ไปเยี่ยมที่บ้านมาเป็นไงบ้างเมิง” เป็นน้ำหวานที่เอ่ยถามอายตาออกไป เพราะยัยอายตากลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เชียงใหม่ตั้งอาทิตย์หนึ่งแน่ะ “ก็ดี... ไม่ได้มีอะไรพิเศษ” มันตอบพร้อมกับยิ้มแห้งๆ อีกแล้ว “เออ.... ฉันเลิกกับทอยด์แล้วนะ” ฉันตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับเพื่อน แต่เพราะอยู่ๆ ที่ฉันก็พูดเรื่องของฉันกับแฟนให้เพื่อนได้รับรู้ ยัยอายตาถึงกับเบิกตากว้างทันทีเพราะเรื่องนี้มีมันคนเดียวที่ยังไม่รู้ “อะไร? ตั้งแต่เมื่อไร? เกิดอะไรขึ้น?” มันถามรัวเป็นชุดเลยพร้อมกับจ้องหน้าฉันไปด้วย “อาทิตย์หนึ่งแล้ว... หมอนั่น...... ช่างเหอะ” ตอนแรกกะจะบอกเหตุผลว่าทำไมถึงเลิกกันแต่พอนึกขึ้นมาได้ก็เลือกที่จะเงียบดีกว่าเพราะเหตุผลนั้นมันเจ็บและจุก แต่ฉันเดาได้ว่าเพื่อนของฉันทั้งสองคนมันมองออกว่าเหตุผลเพราะอะไร เพราะทั้งอายตาและน้ำหวานก็รู้จักพี่สาวของฉันดี ถึงแม้พวกเราจะเพิ่งรู้จักและสนิทกันตอนเข้ามหาวิทยาลัยแต่พวกเราก็สนิทกันมากและสองคนนี้ก็เคยเจอกับพี่มะปรางบ่อยๆ เพราะพี่มะปรางเองก็เรียนที่เดียวกันกับฉันนี่แหละ พี่มะปรางเรียนอยู่คณะนิเทศฯ เธอเป็นดาวเด่นของคณะเลยหละด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอทำให้มีหนุ่มๆ มาตามจีบเพียบ “อย่าบอกนะว่าเพราะพี่ปรางอ่ะ?” อายตาวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะก่อนจะเอ่ยถามฉันเสียงเรียบ ในบรรดาเราสามคนอายตาเป็นคนเดียวที่นิสัยคล้ายฉันสุดแม้มันจะขัดกับหน้าหวานๆ ของมันก็ตาม “อืม” ฉันตอบกลับเพื่อนไปสั้นๆ ไม่อยากจะอธิบายอะไรต่อ เพราะฉันอยากจะลืมมันเต็มทน “ดีแล้วหละผู้ชายแบบนั้นน่ะ เลิกได้ก็ดี... ถ้ามันไม่เห็นแกสำคัญแกก็ไม่ต้องไปแคร์มัน ผู้ชายเฮงซวย!!” เป็นน้ำหวานที่เอ่ยออกมาเหมือนมันโกรธใครมา หน้าตาจริงจังของมันทำเอาฉันกับอายตาหลุดขำออกมา “ช่างเหอะ สวยๆ แซ่บๆ อย่างเมิงอ่ะเดี๋ยวก็หาใหม่ได้ จริงมะ” อายตายิ้มบางให้ฉัน พอเห็นเพื่อนรักทั้งสองคนพูดแบบนี้ฉันเองก็ไม่อยากคิดอะไรมากอีกแล้วพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้พวกมันด้วย พลางสายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มหน้าตาดีที่นั่งกันอยู่บนชั้นลอยของร้านในโซนวีไอพีและดูเหมือนพวกเขาก็กำลังมองมาทางพวกเราด้วย “นี่ๆ พวกเมิงเห็นผู้ชายที่อยู่โซนวีไอพีด้านบนนู่นไหม งานดีมาก หล่อมากคร้า” ฉันที่สลัดความเศร้าเรื่องของแฟนเก่าทิ้งไปแล้วก็กลับมาสดใสอีกครั้งพร้อมกับชี้ชวนให้เพื่อนรักมองตามเรียวนิ้วที่ชี้ขึ้นไปด้านบนชั้นสองที่เป็นโซนวีไอพีซึ่งมีโต๊ะหนึ่งที่ตั้งอยู่ติดกับระเบียงกระจก ทันทีที่แหงนหน้าขึ้นไปมองสายตาของพวกเราก็สบเข้ากับสายตาของผู้ชายสี่คนที่กำลังยืนจ้องมองมายังโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่กับเพื่อนแต่ไม่รู้ทำไมเหมือนอายตามันช็อกนิ่งไปเลยจนน้ำหวานพูดขึ้นมา “เหมือนเขาจะมองเมิงเลยวะอายตา” น้ำหวานที่มองอยู่สักพักเอ่ยขึ้นมา “จะบ้าเหรอเขาจะมองฉันทำไม เอ้า! ดื่มๆ อย่าไปสนใจเลย.... มาดื่มค่ะไม่ได้มามองผู้ชาย” อายตาพาเปลี่ยนเรื่องพร้อมยกแก้วค็อกเทลของตัวเองดื่มรวดเดียวหมด ฉันที่กำลังสงสัยกับท่าทางของเพื่อนอยู่แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรจู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักพวกเรา “สวัสดีครับ” พวกเราสามคนละสายตาจากกลุ่มผู้ชายหน้าตาดีด้านบนแล้วหันมามองคนมาใหม่ “ค่ะ... ว่าไงคะ” และเป็นฉันเองที่ถามออกไป ผู้ชายตรงหน้าเขาแต่งตัวดูดีแถมหน้าตาดีอีกต่างหาก และดูเหมือนเขาจะสนใจอายตาเป็นพิเศษเพราะเอาแต่จ้องเพื่อนฉันไม่วางตาเลย แต่ยัยอายตามันกลับทำเหมือนไม่สนใจเขาเลย เขาถามคำมันก็ตอบคำและท่าทางมันก็เหมือนกำลังหลบใครบางคนอยู่ จนผู้ชายตรงหน้าขอชนแก้วแล้วอายตาทำท่าทางอึกอักจนฉันต้องเข้าไปกระซิบบอกเพื่อนสาว “เขาขอชนแก้วก็ชนไปสิ... รออะไรย๊ะ” “ค่ะ... ชนค่ะ” อายตายิ้มแบบขอไปทีให้เขาพร้อมกับยกแก้วอันใหม่ที่ฉันเพิ่งยัดใส่มือมันขึ้นชนกับเขาแต่จู่ๆ ก็มีมือหนาของใครบางคนคว้าหมับมาที่ข้อมือของอายตาพร้อมกับดึงแก้วในมือของมันไปดื่มรวมเดียวจนหมด ฉันกับน้ำหวานได้แต่มองหน้ากันงงๆ ไม่รู้ว่าผู้ชายที่มาใหม่นี่เขาเป็นใคร แต่ที่รู้ๆ คือเขาหล่อมาก ตัวสูง ผิวขาว จมูกโด่งจนเป็นสัน คิ้วตาปากรับกันไปหมด นี่มันเทพบุตรชัดๆ!!.... แต่สายตาที่ผู้ชายคนนี้ที่มองอายตามันค่อนข้างน่ากลัวเลยหละ สายตาของเขาดูดุดันและแข็งกร้าวจนฉันที่มองอยู่ห่างๆ ยังรู้สึกขนลุกเลยและไม่ต้องพูดถึงเพื่อนฉันเลยเพราะตอนนี้ยัยอายตามันเหมือนกับช็อกไปแล้ว ยัยอายตาได้แต่นั่งนิ่งอ้าปากค้างท่าทางมันตกใจสุดขีดไปเลย “พี่ธาม!!” และชื่อของเขาก็หลุดออกมาจากปากของอายตาซึ่งฉันกับน้ำหวานไม่คุ้นเลย ไม่รู้ว่าอายตาไปรู้จักกับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไร “กลับบ้าน!!” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความงงงวยของฉันและน้ำหวาน แล้วผู้ชายตรงหน้าก็ลากยัยอายตาออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว ฉันกับน้ำหวานที่ทำอะไรไม่ถูกได้แต่อ้าปากค้างมองดูเพื่อนรักโดนผู้ชายตัวโตลากออกไป..... [ อิฐ ] เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น.... ชั้นสองโซนวีไอพีของร้านเหล้า ผม อิฐ หรือ อิทธิวัฒน์ หรือเพื่อนๆ เรียกไอ้อิฐ เอาเถอะครับพวกมันจะเรียกผมว่าอะไรก็ช่างแต่ผมก็ชื่อ อิฐ ... วันนี้ผมนัดกับเพื่อนออกมานั่งร้านเหล้าของเพื่อนพี่ชายของผม กลุ่มผมมีอยู่ด้วยกันสี่คนและพวกผมก็จัดได้ว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีเลยทีเดียว ไม่ได้อวยตัวเองนะครับแต่สาวๆ มักจะบอกแบบนี้เสมอ ฮ่าๆ แต่ก็นะ....วันนี้ผมรู้สึกเซ็งๆ เลยชวนเพื่อนออกมานั่งดื่มกัน ผมกับเพื่อนพวกเรารู้จักและสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลาย และตอนนี้พวกผมก็อยู่มหาวิทยาลัยปี 3 กันแล้วครับ พวกผมเรียนคณะวิศวะด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ฯ มันเป็นเรื่องที่พวกผมสนใจและถนัดถึงแม้ว่าทางบ้านของพวกผมจะมีธุรกิจส่วนตัวกันทั้งนั้นแต่พวกผมมันพวกดื้อด้านก็เลยไม่คิดจะเรียนบริหารกัน จะมีก็แต่ไอ้ธามนี่แหละที่มันเรียนบริหารฯ ควบคู่ไปด้วย ส่วนพวกผมที่เหลืออีกสามคนก็เน้นเรียนรู้เรื่องธุรกิจจากการไปช่วยงานที่บริษัทของครอบครัวซะมากกว่า “ไงมึง... ไปเยี่ยมพ่อแม่ที่เชียงใหม่มาเป็นไงบ้าง หายหัวไปเป็นอาทิตย์เลย” ไอ้อาร์มที่กำลังนั่งดื่มอยู่ข้างๆ ผมเอ่ยถามไอ้ธามที่นั่งหน้านิ่งและวันนี้มันก็ดูหงุดหงิดเป็นพิเศษ “ก็เหมือนเดิม” มันตอบกลับมาแค่นั้นพร้อมกับยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม “มึงแน่ใจนะ? วันนี้มึงดูหงุดหงิดนะกูว่า” ไอ้คิมหันต์ ก็ถามขึ้นมาอีกคนแต่ไอ้ธามก็ยังทำหน้านิ่งพร้อมกับยักไหล่ทำท่าไม่สนใจโลกจนพวกผมต้องเลิกสนใจมัน “ไอ้อิฐ ไหนมึงว่าวันนี้มึงนัดสาวมาไง ไหนว่ะสาวๆ ของมึง” ไอ้อาร์มที่นั่งอยู่นานเอ่ยถามผมขึ้นมา เพราะวันนี้ผมบอกมันว่าผมนัดสาวๆ ออกมาเที่ยวแต่จริงๆ แล้วไม่มีหรอกครับผมแค่หลอกมันออกมาเฉยๆ ฮ่าๆ แต่ถึงจะไม่ได้พาสาวๆ มาด้วยแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกผมที่จะหาสาวมานั่งด้วยหรือพาไปต่อที่อื่น “กูพูดแบบนั้นเหรอ... ไม่เห็นจำได้” ยักไหล่พร้อมกับยกแก้วขึ้นจิบเบาๆ แต่แค่นั้นก็เรียกเสียงด่าจากไอ้อาร์มได้เป็นอย่างดี “ไอ้สัส!! มึงหลอกกูสินะ!” “เออน่า... อย่าเพิ่งด่ากูเดี๋ยวกูหาให้” ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยุดยืนริมระเบียงกระจกพร้อมกับสอดส่ายสายตาลงไปด้านล่างที่คราค่ำไปด้วยผู้คนพลันสายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับสาวสวยสามคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมร้าน พวกเธอดูโดดเด่นมากมีผู้ชายเดินเข้าไปคุยด้วยเป็นระยะแต่เหมือนพวกเธอจะค่อนข้างระวังตัว “ไอ้อาร์มกูเจอละ แม่งอย่างสวย” ผมว่าแต่ยังไม่ละสายตาจากพวกเธอ ไอ้อาร์มที่ได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นเดินมายืนข้างๆ ผมทันที “สวยแจ่มจริงด้วยวะ” ไอ้อาร์มพูดพลางกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ สายตาเจ้าเล่ห์ของมันบ่งบอกว่ามันถูกใจเข้าให้แล้ว “สาวๆ ก็สวยทุกคนเปล่าวะ อยู่ที่ว่าถูกใจหรือเปล่าแค่นั้นเอง” ไอ้คิมหันต์พูดขัดขึ้นมาก่อนที่มันจะยกแก้วในมือที่มีเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นดื่ม “เออๆ ไอ้พ่อพระแล้วแต่มึงเลย แต่กูว่าคนชุดดำนั่นแจ่มสุดวะ ดูนิ่งๆ น่าค้นหาแถมเซ็กซี่ขยี่ใจ” “เลิกพูดแล้วแดกๆ ไปเลยมึงน่ะ!!” ไอ้ธามหันมาเกรี้ยวกราดใส่ผมพร้อมกับยกแก้วเหล้าจ่อมาที่ปากของผมด้วย ท่าทางของมันดูหงุดหงิดเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมา “เหี้ยไรของมึงเนี้ย! เดี๋ยวเหล้าหกใส่กูไอ้เหี้ยธาม!!” ผมเบี่ยงหน้าหนีพร้อมกับด่ามันไปก่อนจะแย่งแก้วเหล้ามาไว้ในมือ จากนั้นไอ้ธามก็ลุกขึ้นพรวดก่อนที่มันจะเดินลงไปด้านล่างทันที พวกผมที่เห็นมันแบบนั้นก็ได้แต่มองหน้ากันไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร เพราะตั้งแต่มาถึงมันก็เอาแต่นั่งนิ่งแล้วตอนนี้ยังทำตัวน่าสงสัยอีก “เป็นเหี้ยอะไรของมันวะ?” ไอ้อาร์มย่นคิ้วเข้าหากันเป็นเชิงถาม “กูก็อยู่กับมึง กูจะรู้ไหม” ผมหันไปตอบมันก่อนจะหันไปสนใจไอ้ธามต่อที่ตอนนี้มันกำลังเดินตรงไปยังกลุ่มสามสาวที่ผมมองก่อนหน้านี้ ไอ้ธามมันเดินเข้าไปกระชากสาวสวยในชุดเดรสสีดำแล้วพาเธอเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว “มันทำอะไรของมันว่ะนั่นน่ะ??” ผมที่เห็นแบบนั้นถึงกับต้องตั้งคำถามขึ้นมาอีกคน ปกติเพื่อนผมคนนี้มันจะนิ่งๆ ไม่เคยเข้าหาผู้หญิงก่อนมีแต่ผู้หญิงที่พากันเข้าหามัน แต่มันก็ไม่เคยมั่วไปทั่วนอกจากมันจะสนใจจริงๆ แต่มันก็ไม่เคยคบกับใครจริงจังเลย ผู้หญิงทุกคนมีแค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้นสำหรับคนอย่างมัน แต่สิ่งที่มันทำเมื่อครู่สร้างความแปลกใจปนสงสัยให้กับพวกผมเป็นอย่างมาก..... “หรือคืนนี้มันอยาก??” ไอ้อาร์มหันมามองหน้าผมพร้อมกับการตั้งข้อสงสัยของมัน “แต่กูไม่เห็นมันยุ่งกับผู้หญิงคนไหนมาสักพักแล้วนะเว้ย ตั้งแต่ก่อนที่มันจะกลับเชียงใหม่” ผมยังคงตั้งข้อสงสัยกับไอ้อาร์มสองคน แต่พอหันไปขอความเห็นจากไอ้คิมหันต์ที่นั่งหน้านิ่งอยู่ก็กลับไม่ได้คำตอบมันเพียงยกไหล่แล้วส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงว่ามันก็ไม่รู้เหมือนกัน “กูกลับก่อนนะ” ไอ้คิมหันต์ว่าพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าออกไป “อ้าวไอ้เหี้ยคิม มึงจะทิ้งพวกกูไว้สองคนเหรอ” “เชิญพวกมึงแดกกันไปสองคนเลย กูง่วงแล้ว” มันพูดในขณะที่เดินลงบันไดไปด้วย “ไอ้สัส!! ทีนี้ก็เหลือมึงกับกูสองคนแล้วสินะ” ไอ้อาร์มหันมามองหน้าผมก่อนที่มันจะเดินกลับไปทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม “เออ! สองคนแล้วไง... ดีซะอีกจะได้ไม่มีใครแย่งหญิงไง ถ้าไอ้ธามอยู่ด้วยสาวๆ ก็สนใจมันมากกว่ามึงกับกูสิว่ะ ไอ้เหี้ยนั่นมันลุคนิ่งๆ สเป็คสาวๆ” “ก็จริงของมึง... ว่าแต่เหงาว่ะ ไปนั่งกับสาวๆ ข้างล่างกันไหม” มันว่าพลางยกยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ผม ผมเองก็รู้ใจเพื่อนรักดีก่อนที่พวกผมสองคนจะพยักหน้าให้กันแล้วพากันเดินลงไปยังด้านล่าง ผมกับไอ้อาร์มมันเป็นประเภทเดียวกันก็เลยเข้าขากันได้ดีเป็นพิเศษ หมายถึงหน้าตาดี คารมดี อารมณ์ดีน่ะครับ ฮ่าๆ .....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD