บทนำ

914 Words
Happy Birthday to you, Happy Birthday to you, Happy Birthday to you, Happy Birthday to you, Happy Birthday to you เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับที่นางสาว ศิวะชาดา วัย 15 ปีบริบูรณ์ก้มลงเป่าเค้กวันเกิดด้วยท่าทางไม่ค่อยสดใสนัก ซึ่งคนในครอบครัวต่างก็รู้ดีว่าสาเหตุมาจากอะไร แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเป็นที่สะเทือนใจแก่บุคคลที่พวกเขารัก “อธิฐานก่อนเป่าสิคะลูกหนูดา” ชาดาบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ศิวชาดาพนมมือไหว้แล้วหลับตาอธิษฐานก่อนที่จะเป่าเทียนจนดับหมดทุกเล่ม แล้วโผเข้ากอดมารดาแน่น “หนูรักคุณแม่ค่ะ” ศิวะชาดากล่าวประจบมารดาด้วยรอยยิ้ม แล้วหันไปกอดบิดาที่ยืนอ้าแขนรับร่างบอบบางของลูกสาวสุดที่รัก “ หนูดาก็รักคุณพ่อค่ะ” หลังจากนั้นก็เป็นคิวของคุณปู่ คุณย่า และคุณยายกัลยา “พี่หนูดาไม่รักอิทธเหรอ ไม่กอดอิทธเลย” อิศณะ หรือน้องอิทกล่าวออกมาเสียงตัดพ้อผู้เป็นพี่สาว ศิวชาดายิ้มแล้วเข้าไปกอดน้องชายที่อายุห่างกับเธอเพียงปีกว่าๆเอาไว้แน่น “อิทก็รักพี่หนูดา และจะคอยดูแลปกป้องพี่หนูดา ถึงแม้ว่าอิทจะไม่แข็งแรงเหมือนอย่างพี่พีท หรือคุณพ่อ คุณปู่ อิทก็จะดูแลพี่หนูดาครับ” อิศณะกอดปลอบพี่สาวพร้อมกับเอ่ยคำมั่นสัญญากับพี่สาวสุดที่รักด้วยใบหน้าจริงจัง ศิวชาดายิ้มรับด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ปูกับย่า ก็ขอให้หนูดาของพวกเรามีแต่ความสุขนะลูก เรียนหนังสือเก่งๆ เป็นเด็กดีอย่างนี้ตลอดไปนะลูกนะ” คุณเวช และคุณชมดาว เอ่ยอวยพรหลานสาวอย่างรักใคร่ “ยายก็ขอให้หนูดามีชีวิตที่สดใส มีร่างกายที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยใดๆ ทั้งหมดทั้งปวงนะลูกนะ” คุณกัลยาอวยพรให้หลานสาวคนโตบ้าง “หนูดาลูก” ชาดาเรียกลูกสาวเบาๆ ศิวชาดาค่อยๆลุกขึ้นเดินมาหามารดา “คะแม่” ชาดายื่นของขวัญกล่องเล็กๆให้กับลูกสาวของเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “แกะซิลูก” อิศวะกล่าวสมทบขึ้น ศิวชาดาหันไปมองทุกคนที่อยู่บนโต๊ะอาหารและทุกคนก็พยักหน้าให้กับเธอ เด็กสาวเปิดกล่องของขวัญกล่องเล็กๆ ของมารดาด้วยท่าทีที่ระมัดระวัง และเมื่อเธอได้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน ทำให้เธอเงยหน้ามองมารดา “คุณแม่คะ” ชาดาส่งยิ้มอบอุ่นให้ลูกสาว แล้วหยิบของสิ่งนั้นมาแล้วสวมให้กับลูกสาว “ตอนนี้หนูดายังเด็ก เอาแขวนไว้ที่คอก่อนนะคะลูก พอหนูดาโตพอที่จะใส่นิ้วคุณแม่จะแกะออกมาแล้วจะให้เจ้าของที่แท้จริงมาใส่ให้กับลูก” ชาดาบอกกับบุตรสาว “พ่อเชื่อว่าพี่พีทจะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับหนูดา และก็พ่อ” คุณอิศวะพูดออกมาอย่างมั่นใจเขาเชื่อว่าคนอย่างแพททริกเป็นคนที่รักษาสัญญาเสมอเขาเชื่อมั่นในดวงตาที่หนักแน่นของเด็กคนนั้น “แต่นี่ก็ห้าปีแล้วนะคะพ่อที่พี่พีทไม่ติดต่อมาเลย ลุงจอร์ทก็มาหายไปอีกคน ขนาดลุงวิทย์เป็นเพื่อนสนิทกับลุงจอร์ทยังไม่ได้ข่าวเลย ไม่รู้ว่าพี่พีทจะเป็นยังไงบ้าง” ศิวชาดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อิศวะดึงลูกสาวมากอดไว้แนบอก “ไม่เอาค่ะหนูดา วันนี้เป็นวันเกิดของหนูนะคะลูก อย่าร้องมาเดี๋ยวพ่อป้อนเค้กให้นะครับ” คุณอิศวะดึงตัวลูกสาวนั่งลงข้างๆ แล้วป้อนเค้กวันเกิดให้กับลูกสาว ทุกคนในครอบครัวมองภาพแห่งความรักนั้นอย่างตื้นตันใจ ห้าปีที่แล้ว ไร่เวชชมดาวได้รับข่าวร้ายจากครอบครัวมอนโกมอรี่ ว่าเกิดอุบัติเหตุทำให้ครอบครัวมอนโกมอรี่ต้องสูญเสียท่านประธานของเกรช กรุ๊ป และภรรยาแล้วก็บุตรชายเพียงคนเดียวโดยอุบัติเหตุ เครื่องบินส่วนตัวเกิดเหตุขัดข้อง กับตันไม่สามารถควบคุมเครื่องใด้ จึงทำให้เครื่องบินชนกับภูเขาระเบิด เป็นเหตุให้ท่านประธานและภรรยา เสียชีวิต แต่บุตรชายวันสิบเอ็ดปีสูญหาย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้จอร์ทต้องเดินทางกลับอเมริกาทันที แต่แล้วจอร์ทก็หายเข้ากลีบเมฆไปอีกคน ข่าววงในของเกรซ กรุ๊ฟ ได้บอกว่า บิดาของท่านประธานได้เข้ามาบริหารงานแทน โดยได้แต่งตั้งมือขวาของท่านประธานคนก่อนขึ้นมาเป็นผู้รักษาการแทน ระยะเวลาห้าปีแล้วที่ทางไร่เวชชมดาวไม่ได้ข่าวคราวของจอร์ท และทายาทที่หายตัวไปของ มอนโกมอรี่เลยรู้เพียงแต่ว่ายังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ส่วนวิทยาก็ได้แต่เฝ้าคอยว่า เมื่อไหร่จอร์ทจะกลับมา เขาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เป็นลุงวิทของเด็กๆ ในบ้านไร่เวชชมดาว วิทยาได้รับมอบหมายให้ดูแลเรือนกล้วยไม้ทั้งหมด โดยมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการไร่เวชชมดาวในส่วนกล้วยไม้ ส่วนงานของจอร์ท ก็ได้สามีของอารยา มาทำหน้าที่แทนโดยกำพลเป็นมือขวาของจอร์ท จึงรู้งานทุกอย่างในการทำงานของเครื่องจักรในส่วนโรงงานผลิตกาแฟ และมีอิศวะคอยควบคุมทั้งหมดอีกที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD