ท่านประธาน เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ

1767 Words
บทที่ 1 เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ เสียงแฟลช เสียงกดชัดเตอร์รัวเร็วพร้อมกับไมค์โครโฟนหลากหลายรูปแบบ ต่างก็พยายามยื่นเข้ามาหาเป้าหมายเพื่อขอสัมภาษณ์ แต่พวกเขาได้รับเพียงใบหน้าที่เฉยชา และการกีดกันของเหล่าบอดีการ์ด “ท่านประธาน จะพูดในห้องแถลงข่าวเท่านั้น หากมีคำถามอะไรพวกคุณเข้าไปถามในห้องแถลงข่าวเอาเอง ขอทางด้วยครับ” ณ ห้องแถลงข่าวของบริษัท เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ สาขาประเทศไทย “สวัสดีครับ สื่อมวลชลทุกท่าน ของคุณสำหรับการโปรโมช ขอบคุณที่ให้เกียรติแก่ เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ ที่ได้เข้ามาเปิดตัวในฐานะผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี ซอฟแวร์ ของเรา การที่เราได้ตัดสินใจมาเปิดตลาดในประเทศไทยนั้น เพราะเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของบุคลากร และประชาชนชาวไทยที่มีความต้องการที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ฯลฯ ดังนั้น ผม แพททริก เกรซ มอนโมมอรี่ ในนามประธานบริษัท เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ จำกัด จึงต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้ และขอเรียนเชิญพี่ ๆ น้อง ๆ สื่อมวลชนทุกท่านเข้าร่วมชมความยิ่งใหญ่ ในการเปิดตัว ไอพอท รุ่นใหม่ ของบริษัท ในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าด้วยนะครับ” เมื่อท่านประธานประธาน เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ กล่าวจบ สื่อมวลชนทุกแขนงก็พากันงงงวย เพราะท่านประธาน เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ พูดภาษาไทยได้ชัด ราวอย่างกับเป็นเจ้าของภาษาทั้ง ๆ ที่หน้าตาเป็นอเมริกันจ๋า แต่ว่ามองๆไปแล้วหน้าตาของท่านประธานยังดูมีเค้าของเอเชียอยู่บ้างแต่ก็ส่วนน้อย “เชิญถามคำถามได้ครับ” เพื่อพิธีกรบนเวทีกล่าวขึ้น ท่านประธานแห่ง เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ ก็ต้องคอยตอบคำถามต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องประวัติความเป็นมา เรื่องธุรกิจ เรื่องการวางตัวในวงการธุรกิจ เรื่องหัวใจ และนางในฝัน ซึ่งท่านประธานก็ตอบคำถามไปเพียงบางส่วนเท่านั้น กว่าที่งานแถลงข่าวจะจบลงก็กินเวลาไป เกือบสามชั่วโมง “ท่านประธานจะไปไหนต่อไหมครับ” พอล เลขาคนสนิทเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขานั่งพิงพนักพิงแล้วหลับตาลง “กลับโรงแรมเลยแล้วกัน” เขาตอบทั้งๆ ที่ยังหลับตา แพททริก เกรซ มอนโกมอร์ ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปาสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ เป็นที่หมายปองของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ และเป็นชายในฝันของสาวๆในอเมริกา เขาเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด เฉียบแหลม มีเล่ห์เลี่ยมแพรวพราว เด็ดขาด และเป็นคนจริงจังกับการทำงาน เขาประสปความสำเร็จ และมีชื่อสเยงจากากรเขียนโปรแกรมกันขโมยให้กับองค์ดรของรัฐ ในอเมริกา ด้วยวัยเพียง 18 ปี และเขายังเป็นทายาทเพียงคนเดียวของ เกรซ มอนโก กรุ๊ป และเขาสามารถพา เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ ให้เป็นบริษัท ซอร์ฟแวร์ที่คนทั่วโลกรู้จักในระเวลาเพียง 7 ปี เขาสามารถทำรายได้จากการเขียนโปรแกรมได้ในแต่ละครั้ง เป็นจำนวนหลายสิบล้านปอนส์ และน้อยครั้งที่เขาจะลงมือเขียนด้วยตนเอง โปรแกรมทุกโปรแกรมที่เขาเขียนขึ้นจึงเป็นที่ต้องการขององค์กรรัฐและเอกชน แต่เขาก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยว จึงเบนหน้ามาทำธุรกิจของครอบครัวอย่างจริงจังซึ่ง ธุรกิจของเขาก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียว ภายในห้าปีเขาสามารถขยายเครือข่ายของ เกรซ มอนโก กรุ๊ฟไปทั่วโลก มากกว่า 30 ประเทศ และในโซนเอเชีย เขาสามารถเข้ามาเปิดตลาดได้แล้ว สามประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงห์โปร์ และประเทศไทย เป็นประเทศล่าสุดที่เขาเข้ามาเปิดสาขา และลงมาดูแลงานด้วยตัวเอง 17 ปีแล้วซินะที่เขาไม่กลับมาประเทศไทย สิบเจ็ดปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขามีทั้งความสูญเสีย มีทั้งเรื่องน่ายินดี และมีอีกหลายๆ เรื่องที่เขาต้องเผชิญหน้ากับมันตลอดระยะเวลา 17 ปี ที่ผ่านมา เขายังจำเหตุการณ์วันนั้น วันที่ตัวเขาต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของเขาพร้อมๆกันถึง สองคน วันนั้นเป็นวันที่เขาและครอบครัวเกินทางไปท่องเที่ยวโดยเครื่องบินส่วนตัว แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมาก่อนขึ้น เครื่องบินเกิดขัดข้องไม่สามารถบังคับได้ บิดามารดาของเขาจึงตัดสินใจ ผูกเขาติดกับร่มชูชีพ แล้วผลักเขาออกจากเครื่องบินส่วนตัว ภาพเครื่องบินลำเล็กๆ พุ่งเข้าชนกับภูเขา ยังเป็นภาพที่ติดตาเขามาจนถึงปัจจุบันนี้ ประโยคสุดท้ายของบิดาและมารดาที่ยังดังก้องอยู่ในหูของเขานั้นคือ “ลูกต้องเข้มแข็งนะลูก พ่อกับแม่จะคอยดูแลลูกเสมอ” กรี๊ง ๆ ๆ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เขาตื่นจากพวังห้วงความคิด เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกรอกเสียงลงไปอย่างนุ่มนวล “สวัสดีครับ ปู่ ไม่ต้องเป็นห่วงผมดูแลงานทุกอย่างเรียบร้อย ก็รอเปิดตัวอีกสองอาทิตย์ครับ ได้รับปู่ เมื่อไหร่ครับ ครับ ครับ ผมรักปู่ครับ แล้วเจอกันครับ” สเตฟาน เกรซ มอนโกมอรี่ เป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่เขายังเหลืออยู่ เอ.. ไม่ใช่สิ ยังมีอีกคนต่างหาก นั้นคือ คุณอาของเขา จอร์ท นั้นเอง เมื่อคิดถึงผู้เป็นอาเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้ จอร์ทถูกสเตฟานบังคับให้แต่งงานกับลีล่า เพื่อมีมายาททั้งๆที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่า จอร์ทไม่ใช่ผู้ชายจริงๆ แต่จอร์ทก็ไม่ทำให้สเตฟานผิดหวัง เขามีทายาทให้กับสเตฟานถึงสองคนซึ่งเป็นฝาแฝดกัน และทั้งกาย และ แซม มีอายุห่วงจากเขา 11 ปีเต็ม แต่ชีวิตคู่ของจอร์ทก็ต้องล้มเหลว เมื่อลีล่า ภรรยาของจอร์ททนไม่ได้ที่ต้องอยู่กันอย่างสามีภรรยาทั่วไป จอร์ทไม่เคยนอนกับเธอ ส่วนเด็กๆ ก็เกิดมาจากการผสมเทียม เมื่อเห็นความทุกขืใจของบุตรชายคนเล็กมานานถึง 10 ปี ในที่สุดสเตฟานจึงยอมให้ทั้งสองเลิกกันโดยได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับลีล่า แต่ท่านก็ขอสัญญาจากจอร์ทว่าจะเป็นบิดาที่ดีของเด็กๆ จนกว่า ทั่งกาย และแซมจะอายุครบ 18 ปี ซึ่งจอร์ทก็ยอมตกลง ทั้งกาย แซม และแพทริก ต่างก็สนิทสนมกันเป็นอย่างดี พวกเขายกให้แพทริกเป็นฮีโร่ของพวกเขาเลยทีเดียวทายยาทอีกทั้งสองคนของเกรซ มอนโก กรุ๊ฟ เป็นอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็กในอณาคตทั้งสอง จะต้องทำให้ เกรซ มอนโก กรุ๊ฟ ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีกเป็นแน่แท้ “พอล คุณปู่จะมาเมืองไทยนะ คงถึงประมาณ พรุ่งนี้เช้าเตรียมที่พักให้เรียบร้อยล่ะ” ชายหนุ่มเดินออกมาสั่งงานเลขาคนสนิท ซึ่งพอลก็พยักหน้ารับแล้วปฏิบัติตามทันที “อ้อ เดี๋ยว พอล ผมขอชื่อและแฟ้มประวัตินางแบบและรายชื่อของพีจีที่จะมา นำเสนองานให้เราทุกคนด้วย แล้วเรียกประชุมทำการฝึกซ้อมก่อนเปิดงานให้ด้วย พีจีและนางแบบทุกคนจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ ไอพอท ที่ตัวเองนำเสนออย่างละเอียด” “ครับท่านประธาน เอ่อ ท่านครับ เมื่อสักครู่ คุณชลิตาโทรมาบอกว่าจะเลี้ยงต้อนรับให้ท่านประธานนะครับ” แพทริกพยักหน้ารับ คุณชลิตา หรือคุณหญิงชลิตา ไพรัตนสกุล ภรรยาท่านรัฐมนตรี เอกรัฐ ไพรัตนสกุล ผู้เป็นญาติห่างๆ ของมารดาของเขาที่จะเข้ามาตีสนิทกับเขาพร้อมกับยัดเยียด เพชรรัตน์ บุตรสาวตนโตของนางให้กับเขา ซึ่งเขาก็ได้ปฏิเสธและแสดงท่าทางว่าไม่ชอบใจตรงๆ แต่ทั้งคุณหญิงและเพชรรัตน์ ต่างไม่สนใจ โดยเฉพาะเพชรรัตน์ เธอพยายามตามติด และแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขามาตลอด จนเขารู้สึกรำคาญ “ตอบปฏิเสธไปพอล ผมไม่อยากไป บอกตรง ๆ ว่าเบื่อ” แพทริกทำหน้าเบื่อๆ ส่งให้พอล พอลหัวเราะหึๆ ออกมา นี่ถ้าเขาไม่ได้รู้จัก สนิทสนมกับท่านประธานมาก่อนเขาต้องคิดแน่ๆ ว่าท่านประธานเป็นเกย์ เพราะท่านประธานไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนเลย นอกจาก เจสซิก้า และแองเจลล่า เพื่อนสาวคนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งทั้งสองยังเอ่ยเปรยๆ กับเขาเลยในบางครั้งว่าเพื่อนชายของพวกเธอเป็นเกย์ คิดแล้วพอลก็อดขำไม่ได้ “พอล นายขำอะไร” “เปล่าครับท่านประธาน ผมไปนะครับ..ฮ่าๆ ” พอลหัวเราะออกมาดังๆ “ไอ้บ้าพอล...” แพทริกว่าตามหลัง ทำไมเขาจะไม่รู้ความคิดของเลขาคนสนิท แต่เขาก็ไม่เคยสนใจ ใครจะคิดยังไงเขาก็ไม่สนใจหรอก เขารู้ก็แล้วกันว่า เขาเป็นยังไง แพทริกเดินเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่ลืมหยิบแฟ้มรายละเอียดเกี่ยวกับนางแบบไปด้วย เขาเปิดแฟ้มออกดูและอ่านประวัติของนางแบบแต่ละคน แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับชื่อ และใบหน้าของนางแบบคนหนึ่ง “อืม... ไม่นึกเลยว่าโตขึ้นจะเป็นนางแบบกับเขา ดูสิ หุ้นนี้เพรียวเชียว ใบหน้าก็สวยหวานอย่างนี้ ลบคำสบประมาทนายอิทได้แล้วสินะ บูริน เอ้ ไม่ใช่สิ หนูริน ..หึๆ” แพททริกกวาดสายตาอ่านคุณสมบัติของน้องน้อยตุ้ยนุ้ยในวัยเด็กแล้วถึงกับทึ่ง นางสาวรินลภัทร เดชาเวชกสุลเกียรติ ชื่อเล่น หนูริน อายุ 22 ปี สูง 172 CMS. การศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัย...........ปริญญาโท หาวิทยาลัย............ ความสามารถพิเศษ กีฬาทุกชนิด ปัจจุบันเป็นผู้บริหาร ฯลฯ “อือ..อึ..ได้เป็นผู้บริหารแล้วด้วย เก่งจริงยายบูริน หึๆ อีกสามวันจะได้เจอกันแล้วนะ เอ๊ ไม่ใช่สิ ต้องสองอาทิตย์สิ” แพทริกพูดออกมาพลางคิดถึงรินลภัทรในวัยเด็ก แล้วเขาก็ต้องยิ้มออกมา เมื่อคิดถึงใครอีกคนหนึ่งที่อยู่ในใจของเขามาตลอดระยะเวลา 17 ปี “หนูดา รอพี่อีกนิดนะคะคนดี พอพี่ทำงานเสร็จแล้วพี่จะไปหาหนูดาแน่นอน คอยพี่นะครับ ภรรยาที่รัก” เขาพูดพร้อมกับจับตรงล๊อคเก็ตรูปหัวใจที่เขาแขวนคล้องคอติดตัวเขามาตลอดระยะเวลา 17 ปี..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD