บทที่ 1 - ขอความช่วยเหลือ (แอบรัก) (จบตอน)

1945 Words
“เฮ้อ ~ นี่ก็เข้าเดือนที่สองแล้วทำไมยังไม่เลิกรับน้องกันอีกนะ แย่จังเลย” เสียงหวานใสของหญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับพ่นลมหายใจด้วยความเบื่อหน่าย การรับน้องของทางมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่นักศึกษาใหม่ทุกคนฝันถึง แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าไม่ต้องรับต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ๆ นี่คือความคิดของหญิงสาวที่นั่งเอามือเท้าคางด้วยความเหนื่อยล้า “นั่นสิ ฉันนะแทบจะกระอักเลือดตายอยู่แล้วเนี่ย รุ่นพี่พวกนี้บ้าเลือดกันชะมัดยาด” เสียงใสอีกเสียงดังตามมาติดๆ ร่างของหญิงสาวที่มีใบหน้าเรียวเล็ก ผมเงาดำยาวสลวย เดินเข้ามาหาเพื่อนสาวที่นั่งทำหน้าประหนึ่งว่าจะร้องไห้ พอเห็นใบหน้าหวานสวยของเพื่อนสาวแล้ว ก็ทำให้ ชนิดา ถึงกับกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ไม่บ่อยนักหรอกนะที่จะได้เห็นนักเรียนแพทย์แสนอ่อนโยนอย่าง วรรณภา ทำหน้าตาเครียดขึงขังแบบนี้ เป็นเครื่องบ่งชี้เลยว่าการร่วมกิจกรรมรับน้อง ทำให้เพื่อนเธอถึงกับเหนื่อยใจ “หัวเราะอะไรยัยดา” วรรณภาทำเสียงฉุน “ก็หัวเราะหน้าแกนั่นแหละภา นี่ ถามจริงเถอะ แกเกลียดการรับน้องมากขนาดนี้เลยเหรอ” ชนิดาถาม ใบหน้าหวานเริ่มมีท่าทีแดงกํ่าเพราะความเขินอาย ถึงเจ้าตัวไม่พูดแต่ว่าเพื่อนซี้อย่างชนิดาก็พอจะเดาถูก ว่าเพื่อนคนสวยของเธอกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ “ฉันไม่ได้เกลียดการรับน้อง” คนพูดเอ่ยเสียงบางเบา หลบสายตาคนที่จ้องจับผิดหาเรื่องแซวอย่างชนิดา ยิ่งเห็นท่าทีแบบนี้ของวรรณภา ชนิดาก็ยิ่งอยากจะแกล้งเธอเล่น “แต่การรับน้องทำให้แกไม่ได้ใช้เวลาที่นอกเหนือจากการเรียนอยู่กับนายพงษ์ ใช่ไหมล่ะ” แทนคำพูดใดๆ คือสายตามองค้อนที่ถูกส่งมาจากเพื่อนรัก วรรณภารู้สึกไม่ชอบเลยที่หญิงสาวข้างกายคนนี้รู้ทันเธอไปเสียหมดทุกอย่าง แต่ก็นั่นแหละ... ที่ชนิดารู้ดีว่าเธอคิดอะไรอยู่ในแต่ละครั้ง มันก็เป็นเพราะว่าทั้งสองสนิทสนมกันมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว พูดได้เลยว่าเป็นเพื่อนรัก เพื่อนตายกันเลยทีเดียว “มันก็ใช่นะ แต่ว่าฉันน่ะ” หญิงสาวพูดไว้แค่นั้นก็เงียบลงไป ยังไม่ทันที่ชนิดาจะได้พูดหรือเอ่ยอะไรต่อ เสียงทักทายอย่างอารมณ์ดีก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง “สวัสดีครับสาวๆ” ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาเดินเข้ามาหาหญิงสาวทั้งสองที่นั่งคุยกันอยู่ ร่างสูงโปร่งนั่งลงตรงข้างกับวรรณภา หญิงสาวที่เป็นที่รักของหัวใจ หญิงสาวที่แค่ได้เห็นใบหน้าเพียงครั้งแรกก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มอย่าง ภาคิน ร้อนรุ่มอยู่ในภวังค์ เขาตกหลุมรักวรรณภาตั้งแต่วันรับน้องในวันแรก “สวัสดีค่ะพี่คิน” วรรณภายิ้มตอบส่งกลับไปให้ชายหนุ่ม “เหนื่อยไหมครับวันนี้ เดี๋ยวพอเลิกเรียนแล้วไปทานข้าวกับพี่คินนะคะ” ชายหนุ่มหาวิธีเอาใจหญิงสาวที่ตนรักโดยไม่ได้คำนึงถึงหญิงสาวอีกคน ที่ก็มีตัวตนอยู่ในบริเวณนี้เช่นกัน ชนิดามองดูคนทั้งสองด้วยรอยยิ้ม แต่ถ้าหากมีใครสักคนในที่นี้สังเกตจะรับรู้ในทันทีว่ามันคือรอยยิ้มแห่งความขมขื่น และเจ็บปวดเมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่ตัวเองรักสนใจคนอื่น ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือเพื่อนรักของเธอ แต่ชนิดาก็ไม่เคยมีความคิดอิจฉาหรือว่าริษยาวรรณภาเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าจะยังไงวรรณภาก็คือเพื่อนรักของเธอ ต่อให้เธอจะรักและรู้สึกดีกับภาคินมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่คิดที่จะทำร้ายหรือเกลียดเพื่อนของเธอ “เอ่อ คือว่า วันนี้ภามีนัดแล้วน่ะค่ะพี่คิน” คนพูดพยายามเลี่ยงแบบรักษานํ้าใจไว้มากที่สุด “เหรอครับ น่าเสียดายจัง ว่าแต่น้องภามีนัดกับใครหรือครับ?” คนชอบตื้อก็พยายามอย่างไม่เลิกรา ทำให้สีหน้าของวรรณภาแสดงถึงความกังวลใจออกมา “พี่คินคะ วันนี้ยัยภามีนัดทานข้าวกับครอบครัวที่บ้าน คุณพ่อของยัยภาเพิ่งกลับมาจากอังกฤษน่ะค่ะ” และก็เป็นหน้าที่ของชนิดาเพื่อนซี้ที่ต้องคอยแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าให้ วรรณภาแอบโล่งใจเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่ข้างกายเธอพยักหน้าด้วยความเข้าใจ “อืม งั้นเอาไว้วันหลังไปทานข้าวกับพี่คินนะคะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม วรรณภายิ้มให้พอเป็นมารยาท “ไหนๆ พี่ก็มาแล้ว น้องดาว่างหรือเปล่าครับ” ภาคินถามหญิงสาวอีกคน “คะ? เออ วะ ว่างค่ะ ดาว่าง” ชนิดาตอบเสียงสั่น หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเสมือนมีใครไปจุดระเบิดไว้ วรรณภาแค่มองตาก็รู้แล้วว่าเพื่อนรักของเธอคนนี้นั้นคิดยังไงกับรุ่นพี่หนุ่มสุดหล่ออย่างภาคิน สาวหวานแอบยิ้มในใจไปกับท่าทีเขินอายของเพื่อน “ถ้าน้องดาว่าง ไปทานข้าวกับพี่ได้ไหมครับ คือพี่ไม่มีเพื่อนทานข้าวด้วยน่ะ” ชายหนุ่มทำเสียงเศร้าออกแนวอ้อน ชนิดายิ้มกว้างด้วยความดีใจ ตอบรับกลับไปอย่างรวดเร็ว “ค่ะ ดายินดีค่ะพี่คิน” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวาน แล้วทั้งชนิดาและภาคินก็พากันออกจากที่ตรงนี้ เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่เจ้ามืออย่างชายหนุ่มตั้งใจไว้ วรรณภายิ้มให้กับตัวเอง ยัยดา... ฉันรู้นะว่าแกรักพี่คิน ภาคินพาชนิดามาทานข้าวที่ร้านอาหารชื่อดังแถวย่านสุขุมวิท… ชายหนุ่มดูแลและเทคแคร์ชนิดาเป็นอย่างดี การกระทำเพียงแค่นี้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของหญิงสาว เบิกบานยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง “อร่อยมั้ยครับน้องดา ร้านนี้นะพี่ชอบที่สุดแล้ว” ชายหนุ่มบอกด้วยรอยยิ้ม “อร่อยค่ะพี่คิน” หญิงสาวตอบกลับ ภาคินลอบมองหญิงสาวเบื้องหน้า ที่เขาพาชนิดามาทานข้าวกันสองต่อสองไม่ใช่แค่ว่าวรรณภาไม่ว่างมาด้วย แต่เป็นเพราะว่าเขาเองก็มีเรื่องบางอย่างที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากหญิงสาว “เอ่อ... พี่คินมีอะไรจะพูดกับดาหรือเปล่าคะ” ชนิดาเห็นชายหนุ่มส่งสายตาแอบมองตัวเองอยู่เรื่อยๆ เลยตัดสินใจถามออกไป “อืม ถ้างั้นพี่ไม่อ้อมค้อมแล้วนะ” ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะเริ่มเรียบเรียงคำพูด “คือว่า ดาเองก็รู้ใช่ไหมว่าพี่น่ะชอบน้องภา แต่เท่าที่ดูน้องภาเขาเหมือนไม่ค่อยสนใจพี่ซักเท่าไหร่ พี่เห็นดาเองก็สนิทกับน้องภามาก พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” ชายหนุ่มพูดโดยที่ไม่รู้เลยว่าคำพูดของตนนั้น กำลังทำให้หัวใจของหญิงสาวเจ็บปวด ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าชายหนุ่มแอบชอบเพื่อนของตัวเอง แต่ว่าส่วนลึกก็ไม่อยากได้ยิน หรือว่ารับรู้อะไรเพิ่มเติมให้มันทรมานมากไปกว่านี้ “ได้สิค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบา “น้องภาเขา... มีคนที่ชอบแล้วหรือยัง” ชนิดาอึ้งไปในทันทีที่ได้ยินคำถามจากรุ่นพี่หนุ่ม แต่หญิงสาวก็ต้องแสร้งทำสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุด เพราะว่าไม่อยากให้พี่คินสงสัยอะไรทั้งสิ้น มีสิ... ยัยภามีคนที่รักอยู่แล้ว หญิงสาวคิดเพียงในใจ นัยน์ตากลมโตมองชายหนุ่มที่รอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ เธอไม่อยากโกหกพี่คินของเธอเลย เธอไม่อยากให้พี่คินต้องเสียใจ แต่บางเรื่องก็ควรจะต้องโกหกเพื่อให้อีกฝ่ายมีกำลังใจ “เท่าที่ดารู้ ก็ไม่มีนะคะ” หญิงสาวตอบ จริงเหรอครับ เฮ้อ รู้อย่างนี้พี่ค่อยโล่งอกหน่อย” ชายหนุ่มยิ้มเมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่ตนปรารถนายังไม่มีใคร ชนิดารวบช้อนกับซ้อมเข้าด้วยกัน “น้องดาอิ่มแล้วหรือครับ?” “ค่ะ” หญิงสาวตอบพลางมองใบหน้าชายหนุ่ม “พี่คินคะ พี่คินชอบยัยภามากแค่ไหนคะ” “มากที่สุดเลยครับ มากจนพี่เองมั่นใจแล้วว่ามันคือความรักแน่นอน รักครั้งแรกน่ะ” รักครั้งแรก... ใช่ เพราะว่าเธอเองก็มีรักครั้งแรกเช่นกัน เธอรักเขา รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน รักทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องชํ้าใจ แต่ก็ไม่เสียดายที่ยังได้รัก ชนิดายิ้มเศร้าให้กับตัวเอง “น้องดา เป็นอะไรหรือเปล่า” ภาคินถามเมื่อเห็นสีหน้าของชนิดา “เปล่าค่ะพี่คิน ดาแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ” ชนิดาตอบพร้อมรอยยิ้มเจือนๆ “น้องดาครับ” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวตรงหน้า “พี่ขอความช่วยเหลือจากน้องดาได้ไหมครับ” “ค่ะ พี่คิน จะให้ดาช่วยอะไรคะ” ภาคินนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เกรงใจสาวน้อยคนนี้หรอกนะ แต่ถ้าให้เทียบกับการที่จะต้องเดินหน้าสู้เองเพียงลำพังในเรื่องของวรรณภาแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าชนิดาถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับศึกครั้งนี้ เพราะว่าเธอคือเพื่อนรักของวรรณภาไงล่ะ “พี่อยากให้ดาช่วยเป็นแม่สื่อระหว่างพี่กับน้องภาจะได้หรือเปล่าครับ” เสียงเข้มเอ่ย ชนิดาเผลอกัดริมฝีปากของตัวเองเมื่อได้ยินคำขอของคนที่ตนแอบรัก แม่สื่องั้นเหรอ? ทุกวันนี้เธอยังเจ็บไม่พออีกหรือไง ทำไมฟ้าต้องกลั่นแกล้งเธอมากขนาดนี้ด้วย “อืม... แต่ถ้าน้องดาลำบากใจก็ไม่เป็นไรนะครับ พี่เข้าใจ” ภาคินรีบพูดแทรกเมื่อเห็นความเงียบจากหญิงสาว เขาเองก็ไม่อยากจะทำให้คนตรงหน้าลำบากใจเท่าไหร่หรอก “เฮ้อ พี่นี่ขออะไรมากไปใช่ไหมครับ เรื่องที่เราคุยกันในวันนี้น้องดาอย่าใส่ใจกับคำพูดของ” “ตกลงค่ะพี่คิน” ภาคินยังพูดไม่ทันจบประโยค ชนิดาก็เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นํ้าเสียงหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว เธอไม่ได้อยากโชว์ความแข็งแกร่งทางจิตใจอะไรเลย แต่หญิงสาวตระหนักเสมอว่า การที่เราได้รักใครสักคนนั้น เราก็ควรจะทำให้คนที่เรารักมีความสุขที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ “น้องดาว่าไงนะครับ” ชายหนุ่มถามยํ้าเพื่อความแน่ใจ “ดาจะช่วยพี่คิน เรื่องของยัยภาค่ะ” ชนิดาตอบด้วยความชัดเจน ภาคินถึงกับยิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินคำตอบที่ตนพึงพอใจ แค่ได้เห็นรอยยิ้มของรุ่นพี่หนุ่มตรงหน้า ก็มากพอแล้วที่หัวใจดวงน้อยของชนิดาจะพลอยมีความสุขไปด้วย “น้องดาพูดจริงหรือครับ” “ค่ะ ดาพูดจริงค่ะ ดาจะช่วยพี่คินให้ถึงที่สุดค่ะ” ไม่จำเป็นหรอกว่าใจเธอจะเจ็บปวดสักแค่ไหน ไม่จำเป็นหรอกว่าใจเธอจะร้าวรานสักเพียงใด ขอแค่ให้พี่คินมีความสุขและสมหวัง ต่อให้จะต้องแลกมาด้วยนํ้าตาหรือว่าอะไรก็ตาม เธอก็พร้อมที่จะทำ... เพื่อคนที่เธอรัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD