เช้าวันนี้ชนิดากับวรรณภามีเรียนแค่สองชั่วโมงเท่านั้น… หญิงสาวทั้งสองคนก็เลยพากันมาดูหนังหลังจากเลิกเรียนในคลาสสุดท้ายของวัน โดยที่ชนิดาเองก็แอบนัดแนะให้ภาคินตามมาที่โรงหนังด้วย
“ยัยดาวันนี้จะดูหนังเรื่องอะไรดีล่ะ อืม... แต่ละเรื่องนี่น่าดูทั้งนั้นเลยนะฉันว่า”
วรรณภาพูดนั่นนี่ไปเรื่อย ดวงตาหวานกวาดมองตารางหนังที่จะฉาย จึงไม่ทันได้สังเกตว่าเพื่อนรักกำลังมองหาใครบางคนอยู่
เอ... ป่านนี้แล้วทำไมพี่คินยังไม่มาอีกนะ
ชนิดากระวนกระวายใจ ด้วยกลัวว่ารุ่นพี่หนุ่มอย่างภาคินจะมาไม่ทันการเอาเสียได้ เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที วรรณภาก็รบเร้าให้เธอเดินไปซื้อตั๋วหนัง
“ยัยดาแกไปซื้อตั๋วนะ เดี๋ยวฉันจะซื้อขนมเอง”
“ฉันว่าอย่าเพิ่งรีบไปเลยแก หนังเข้าตั้งเที่ยงสิบนาที นี่เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงครึ่งเองนะ รอก่อนก็ได้” ชนิดาพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงเพื่อน
“เอ้า แล้วแกจะรอทำไมล่ะยัยดาก็ซื้อตั๋วไว้ก่อนไงขืนเอาแต่รอคนเยอะขึ้นมาก็หาที่นั่งลำบากน่ะสิ นี่มันหนังผีนะยะ ฉันไม่อยากนั่งติดหน้าจอแล้วหัวใจวายตายตอนผีโผล่ขึ้นมาหรอกนะ”
วรรณภาเอ่ยด้วยอารมณ์ค่อนข้างหงุดหงิด ชนิดาเป็นอะไรอยู่ๆ ก็จะมาอิดออดรอเวลานั่นนี่ ทั้งๆ ที่ตามปกตินิสัยแล้วเธอจะเป็นคนที่ค่อนข้างว่องไวเสมอ
“อย่ามาทำเป็นกลัวเว่อร์ไปหน่อยเลย แกเรียนหมอนะ” ชนิดาค้อนเพื่อนสาว
“เหรอจ้ะ” วรรณภาเอ่ยเสียงสูง ก่อนจะพูดต่อ
“แต่ได้ข่าวว่าแกน่ะเป็นโรคกลัวผีขึ้นสมองเลยนะ ยิ่งกว่าฉันอีกแล้วมาทำเป็นพูดดี” วรรณภาตอบโต้กลับ ชนิดาไม่ได้เถียงอะไรต่อเพราะว่าที่วรรณภาพูดมามันจริงทั้งหมด ถึงแม้ว่าเธอจะเรียนหมอ เข้าออกห้องดับจิตและศึกษาหาความรู้กับศพอยู่บ่อยครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้บั่นทอนความกลัวในจิตใจเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่สมัยเด็กมาแล้วที่เธอหวาดกลัวกับเรื่องลี้ลับ
“นี่ยัยดา ถ้าแกไม่ซื้อตั๋วนะ เดี๋ยวฉันซื้อเองก็ได้” วรรณภาพูดขึ้นอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อนสิยัยภา” ชนิดาตั้งท่าจะเรียกเพื่อนสาวที่กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังคนขายตั๋ว หมายว่าจะถ่วงเวลาเพื่อรอให้ภาคินมาถึง วรรณภาไม่สนใจเสียงร้องทักของเพื่อน เธออยากจะได้ที่นั่งดีๆ สำหรับทริปดูหนังในวันนี้
“สวัสดีครับน้องภา”
“อุ้ย! พี่คิน”
วรรณภาที่กำลังจะหยิบเงินออกจากกระเป๋าเพื่อจ่ายให้กับค่าตั๋วหนัง ก็เป็นอันต้องชะงักมือลงในทันที เพราะว่าข้างกายของเธอนั้นกลับมีรุ่นพี่หนุ่มสุดหล่ออย่างภาคินมาปรากฏตัวอยู่ข้างๆ
“พี่คินมาได้ยังไงคะ?” วรรณภาถามออกไป
“พี่ก็มาดูหนังน่ะครับ เอาเป็นว่า พี่ขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงหนังน้องภากับน้องดาเองนะครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วจัดการจ่ายเงินเสร็จสรรพ
“น้องภาชอบดูหนังผีเหรอครับ”
ภาคินถามหญิงสาวข้างกาย ทั้งสองพากันเดินมาหาชนิดาที่ยืนรออยู่ วรรณภายิ้มพลางกับพยักหน้าเล็กน้อยให้ชายหนุ่ม ในหัวใจกำลังตะโกนต่อว่าเพื่อนสาวอย่างชนิดาเต็มไปหมด
ยัยดานะยัยดา เจ้าเล่ห์นักนะ
“สวัสดีค่ะพี่คิน บังเอิญจังเลยนะคะที่เจอพี่คินที่นี่”
ชนิดาแสร้งทำเป็นทักทาย ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังวรรณภาที่ยืนเข่นเขี้ยวฟันอยู่ข้างๆ ภาคิน แต่สาวเจ้าก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจกับอาการของเพื่อนซี้
“ครับ บังเอิญจัง”
ภาคินมองสบตากับวรรณภา “พี่เลยขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงหนังนะครับ น้องดา” ภาคินหันกลับมาพูดกับหญิงสาวอีกคน
“แต่ดาคงอยู่ดูหนังด้วยไม่ได้หรอกนะคะพี่คิน”
“หมายความว่าไงกันยัยดา นี่พี่คินซื้อตั๋วมาแล้วนะเปลืองเงินพี่เขาแย่เลย”
“ฉันมีธุระน่ะ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องไปทานข้าวกับคุณแม่ นี่ท่านก็โทร. มาตามแล้ว”
ภาคินลอบส่งยิ้มขอบใจให้กับหญิงสาว รู้ในทันทีเลยว่าชนิดาจงใจที่จะเปิดทางให้เขาได้มีโอกาสอยู่กับวรรณภาสองต่อสอง ในขณะเดียวกันวรรณภาเองก็รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังโกหก
นี่ยัยดา... คิดจะเป็นแม่สื่อให้กับพี่คินเหรอเนี่ย!
วรรณภาคิดในใจ สายตามองเพื่อนด้วยอารมณ์ค่อนข้างโกรธแบบไม่ให้ชายหนุ่มจับกระแสได้
“เหรอครับ แย่จัง” ภาคินแกล้งทำเสียงเศร้า
“ขอโทษด้วยนะยัยภา ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ ดูหนังให้สนุกนะ” ชนิดาจับมือเพื่อนสาว ก่อนจะหันมาพูดกับชายหนุ่ม “ฝากยัยภาด้วยนะคะพี่คิน ดาไปก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงนะครับน้องดา พี่จะดูแลน้องภาให้ดีที่สุดครับ”
ภาคินบอก ชนิดาพยักหน้ารับคำก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเลี่ยงออกมา ภายใต้ใบหน้าอันร่าเริงเมื่อครู่นี้ ต้องซ่อนความรู้สึกขมขื่นเอาไว้มากมายเหลือเกิน
เธอเลือกเองนะชนิดา เธอเลือกเอง…
‘ฮึ่ม! กลับจากดูหนังเมื่อไหร่ล่ะก็ แม่จะเล่นงานให้หนักเลยคอยดู’
ในขณะที่นั่งดูหนังวรรณภาก็เอาแต่กล่าวโทษเพื่อนสาวคนสนิทอยู่ในใจตลอดเวลา ปกติเธอจะเป็นคนที่กรี๊ดกร๊าดเมื่อเวลาดูหนังผี แต่พอมาวันนี้เธอกลับเอาแต่นั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาหรือว่าแสดงอาการอะไรเลย
“น้องภากลัวไหมครับ?”
ภาคินเอียงคอลงมากระซิบถามที่ข้างหูของหญิงสาว วรรณภารีบเอี้ยวตัวหลบใบหน้าหล่อเหลา เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้คิดยังไงกับเธอ และเธอก็รู้ว่าชนิดาคิดยังไงกับผู้ชายคนนี้
“ก็... นิดหน่อยค่ะ” เสียงหวานตอบแผ่วเบา
“เดี๋ยวพอเราดูหนังจบแล้ว ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันนะครับ”
ภาคินพูด วรรณภาไม่ได้ปฎิเสธแต่อย่างไร ไหนๆ เธอก็ตกกระไดพลอยโจรมานั่งดูหนังกับเขาแล้ว หากจะต่อด้วยการรับประทานอาหารปิดท้ายคงไม่เป็นไร ยัยดาอยากให้พี่คินได้มีโอกาสทำคะแนนกับเธอนี่น่า เพราะฉะนั้นเธอก็จะไม่ขอขัดศรัทธาของเพื่อนรัก
วรรณภาดูหนังไม่รู้เรื่องเลยตั้งแต่ต้นจนจบ เธอทำตัวไม่ค่อยถูกกับรุ่นพี่หนุ่มสุดฮอตอย่างภาคิน รู้เพียงว่าระหว่างที่นั่งข้างกันนั้น เธอเกร็งไปหมดทั้งตัว ขนาดแค่ว่าจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เธอยังไม่กล้าที่จะทำมันต่อหน้าของเขา ความรู้สึกมันต่างไม่เหมือนกับตอนที่เธออยู่กับ วีระพงษ์ เลยสักนิดเดียว
“น้องภาอยากจะทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ”
วรรณภาส่ายหน้าแทนคำพูด ภาคินพาหญิงสาวเดินเข้าไปทานอาหารในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง แค่เท้าของชายหนุ่มย่างกรายเข้ามาภายในร้าน บรรดาสายตาจากสาวๆ ทุกคนก็พุ่งเป้ามายังเขาในทันที
ชายหนุ่มรูปงาม... อย่างคุณภาคิน วีระไพศาลกุล ลูกชายคนโตของคุณณรงค์ศักดิ์มีหรือที่ใครจะไม่เหลียวมอง โดยเฉพาะบรรดาสาวสวยไฮโซทั้งหลาย
“น้องภาอยากทานอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะครับ มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง” ชายหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี โดยหารู้ไม่เลยว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังรู้สึกลำบากใจเป็นที่สุด
วรรณภาไม่ชินกับการที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาใครต่อใครมากนัก เธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะยืนอยู่เคียงข้างชายหนุ่มผู้ที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างอย่างภาคิน เธอไม่เหมาะกับชายหนุ่มเลยแม้แต่นิดเดียวในความคิดของหญิงสาว
ชนิดา... เพื่อนรักของตน ยังเหมาะสมกับพี่คินมากกว่าเธอเสียอีก
“พี่คินคะ ภาเกรงใจจังเลยค่ะ”
“เกรงใจอะไรกันครับ พี่น่ะเต็มใจนะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้ม การที่ได้มาดูหนังทานข้าวกับหญิงสาวผู้เป็นที่รัก ทำให้หัวใจเขามีความสุขเหลือเกิน งานนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากชนิดา หญิงสาวอีกคน
“น้องภาก็รู้นี่ครับว่าพี่น่ะ... รู้สึกยังไงกับน้องภา”
เสียงเข้มพูดขึ้น ทำเอาสันหลังของวรรณภาเย็นวาบขึ้นมาในทันที ใบหน้าของหญิงสาวแดงกํ่าด้วยความเขินอาย ถึงแม้จะไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับชายหนุ่ม แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าแอบรู้สึกดีเมื่อมีผู้ชายที่พร้อมไปทุกอย่างอย่างเขามาชอบ
“เอ่อ อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยนะคะ งั้น... ภาไม่เกรงใจแล้วนะคะพี่คิน สั่งเลยนะ”
วรรณภารีบเปลี่ยนประเด็นวกเข้าเรื่องอาหารแทน ภาคินยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่งกับท่าทีของหญิงสาว เขาทั้งสองสั่งอาหารกันตามที่ตนเองต้องการทาน ไม่นานนักอาหารประมาณสามสี่อย่างก็ถูกยกออกมาเสิร์ฟตรงหน้าคนทั้งสอง ระหว่างที่ทานนั้นภาคินก็แอบมองใบหน้าของวรรณภาอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นเหตุที่ทำให้สาวเจ้าไม่กล้าที่แม้แต่จะสบตาเขา
ยัยดา หาเรื่องให้ฉันทาไมยะ!