บทนำ

1694 Words
บทนำ ปลายดาว ปานเทพ เดินทางมาพร้อมกระเป๋าสัมภาระไม่ต่ำกว่าห้าใบ เจ้าของใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาเวลานี้กำลังชมนกชมไม้ด้วยความสบายใจเป็นอย่างยิ่ง  แรกเริ่มเดิมทีนั้นเต็มไปด้วยความขุ่นข้องหมองใจที่ต้องทำตามคำสั่งเด็ดขาดจากบิดา แต่เมื่อสืบทราบว่าว่าที่สามีของหล่อนไม่ได้เต็มใจเช่นกันก็ราวกับยกภูเขาออกจากอก จึงยอมเดินทางมาเข้าพิธีวิวาห์กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของนายฐิติ ฉันทวัฒน์ นายใหญ่แห่งปางไม้บุญ ทายาทของนายบุญธรรมอดีตผู้มีอิทธิพลและเป็นคนรุ่นสุดท้ายที่ได้สัมปทานป่าไม้ก่อนจะถูกยกเลิกและกันเป็นเขตหวงห้าม แต่อิทธิพลนั้นยังส่งผลมาถึงลูกและหลานจนถึงปัจจุบัน ส่วนคนที่ปลายดาวต้องเดินทางมาเข้าพิธีวิวาห์ด้วยนั้นคือ  ธาดา ฉันทวัฒน์ ผู้ชายที่หล่อนจะต้องหาเวลาตกลงกับเขาเกี่ยวกับการแต่งงานในครั้งนี้ และเชื่อว่าอีกฝ่ายจะต้องเห็นด้วยกับหล่อน เพราะเขาเองก็ไม่เต็มใจกับการถูกจับคลุมถุงชน สำคัญที่สุดคือเขามีคนรักอยู่แล้ว  หญิงสาวกดริมฝีปากชิดกันด้วยความหวัง ดวงตาวาววามยามมองสองข้างทาง พอใจกับความคิดและการวางแผนของตนเอง เขาจะต้องเห็นด้วยแน่ๆ รถตู้สีดำตีวงเข้ามาจอดที่บริเวณลานหน้าบ้านฉันทวัฒน์ ทั้งแม่บ้านและสาวใช้ต่างยืนเรียงรายรอต้อนรับว่าที่นายหญิงน้อย ด้านหน้าสุดคือนายฐิติผู้เป็นประมุขของบ้านหรือนายใหญ่แห่งปางไม้บุญ “สวัสดีค่ะคุณลุง” เมื่อร่างระหงกลมกลึงก้าวลงมาสิ่งแรกคือการทำความเคารพชายวัยกลางคนตรงหน้า  “ปางไม้บุญยินดีต้อนรับหนูปลาย เดินทางเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหม” นายฐิติกล่าวต้อนรับและเอ่ยถามถึงการเดินทางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน สีหน้าแววตาที่มองมายังว่าที่สะใภ้นั้นเต็มไปด้วยความพอใจยิ่ง ทั้งแม่บ้านและสาวใช้ต่างเอาแต่จ้องมองหญิงสาวผู้มาใหม่ตาไม่กะพริบ ทั้งหมดลงความเห็นตรงกันว่าปลายดาวช่างเป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบชนิดหาตัวจับยาก ใบหน้างดงามปานเทพธิดาเดินดิน รูปร่างกลมกลึงได้ส่วนราวกับปั้น ผิวพรรณนวลลออผุดผาดดั่งทองทา ทุกอย่างลงตัวปานภาพวาดไร้ที่ติ “ไม่เหนื่อยเลยค่ะคุณลุง ระหว่างทางขึ้นปางสวยมากๆ พอเข้าเขตของปางไม้บุญก็ยิ่งสวย หากไม่รู้ปลายก็คิดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเสียด้วยซ้ำไป” น้ำเสียงหวานใสกล่าวกับประมุขของปาง ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับแม่บ้านและสาวใช้ที่ออกมารอต้อนรับ “สวัสดีจ้ะทุกคน ปลายขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ทั้งหมดยิ้มตอบกลับมาอย่างเต็มใจและรู้สึกถูกชะตาหญิงสาวผู้มาใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเป็นนายหญิงน้อยของปางไม้บุญกันอย่างพร้อมเพรียง “เอาละ ไปช่วยกันยกกระเป๋าคุณปลายขึ้นไปเก็บเอาไว้บนห้องได้แล้ว” นายฐิติออกคำสั่ง ก่อนจะหันกลับมายังปลายดาวอีกครั้ง “เข้าไปพักผ่อนก่อนดีไหม หรืออยากจะเดินดูรอบๆ ก่อนก็ได้ ลุงจะให้กำไลไปเป็นเพื่อน” กำไลที่ยืนรอเยื้องด้านหลังนายฐิติส่งยิ้มแจ่มใสให้ปลายดาวทันที คาดคะเนอายุแล้วกำไลคนนี้น่าจะแก่กว่าหล่อน “ถ้าอย่างนั้นปลายขอเดินเล่นดูรอบๆ ก่อนดีกว่านะคะ ตอนเข้ามาเห็นว่าที่นี่กว้างขวางแล้วก็สวยมาก มีหลายจุดที่ปลายสนใจอยากจะเดินชมรอบๆ ค่ะ” ตอบพลางกวาดตามองไปยังตัวบ้านขนาดใหญ่ซึ่งหล่อนเดาว่าทำจากไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง คาดว่าเป็นไม้สักทอง สีน้ำตาลของเนื้อไม้ดูเหมาะเจาะลงตัวเมื่ออยู่ท่ามกลางผืนป่าสีเขียวที่รายล้อม ด้านหน้าคือบึงขนาดใหญ่ที่คะเนด้วยสายตาแล้วคงกินพื้นที่หลายสิบไร่เลยทีเดียว นายฐิติพยักหน้ายิ้มแล้วหันไปกำชับกับกำไล “คอยดูแลคุณปลายให้ดี” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มงวดยามบอกกับสาวใช้ แล้วหันกลับมายิ้มให้ว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ตามสบายนะหนูปลาย ลุงจะต้องออกไปทำธุระสักพัก จะกลับมาอีกครั้งตอนค่ำๆ” “ขอบคุณค่ะคุณลุง” หญิงสาวยิ้มให้คนตรงหน้า รอจนเขาหันหลังและตรงไปยังรถเอสยูวีสีดำซึ่งมีคนขับรถตัวโตหน้าดุยืนรอ เมื่อรถคันนั้นเคลื่อนตัวออกไปหญิงสาวจึงหันมาส่งยิ้มให้กำไล “เราไปเดินเล่นกันดีกว่านะคะ” บอกพลางเดินนำไปยังทิศทางที่หมายตาเอาไว้ทันที  กำไลเดินตามร่างของว่าที่นายหญิงน้อยด้วยสายตาชื่นชมจากใจจริง ปลายดาวอยู่ในชุดผ้าฝ้ายยาวเสมอเข่าอวดท่อนแขนนวลเนียนและปลีน่องกลมกลึงขาวลออ เดรสผ้าฝ้ายตัวนี้ฝั่งหนึ่งเป็นสีธรรมชาติอีกฝั่งหนึ่งเป็นฟ้าคราม   สายตาของกำไลลากเลยขึ้นไปยังเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาวเลยบ่าลงมาเล็กน้อยและถูกปล่อยเป็นอิสระ ยามลมพัด เส้นผมมีน้ำหนักก็พลิ้วไหวไปตามทิศทางลม กลิ่นกายหอมละมุนละไมราวกับกลิ่นของดอกไม้ป่าโชยผ่านจมูกของสาวใช้จนเผลอสูดดม  ผิวพรรณของปลายดาวยิ่งงามล้ำเสียจนผู้หญิงด้วยกันยังไม่สามารถละสายตาได้โดยง่าย ครั้งแรกที่หญิงสาวก้าวลงมาจากรถยนต์ กำไลยอมรับว่าถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด เพราะนับตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเจอใครที่งดงามปานเทพธิดาเช่นปลายดาวมาก่อน ผิวผ่องลออนั้นเนียนละเอียด ราวกับมีแสงสีทองเปล่งประกายระยิบระยับออกมาจากร่างระหง ผุดผาดเสียจนใจสั่น ยิ่งดวงหน้าเรียวรูปไข่นั้นไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะงามงดหมดจดเสียจนต้องถอนหายใจยาว ทั้งดวงตากลมโตราวนัยน์ตากวางก็เปล่งประกายมีชีวิตชีวา คิ้วโก่งงามราววงพระจันทร์ จมูกนั้นหรือก็โด่งสวยรับเหมาะเจาะกับริมฝีปากจิ้มลิ้มรูปกระจับเป็นสีกุหลาบหวานเสียจนน่าจูบ กำไลสะดุ้งในใจ นี่ขนาดหล่อนเป็นผู้หญิงด้วยกัน ก็ยังเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ หลงใหลคนตรงหน้าจนลืมเพศ แบบนี้หากนายน้อยมาเห็นเข้าจากที่โวยวายจนบ้านแทบพังมีหวังอาจเปลี่ยนใจก็ได้ใครจะไปรู้ ไม่รู้นายใหญ่ไปหามาจากที่ไหน รู้เพียงว่าสาวงามคนนี้เปรียบเสมือนช้างเผือกก็ไม่ปาน แต่ก็อีกนั่นแหละ นายน้อยใช่เดาใจได้ง่าย หากลงหลุดคำว่าไม่แล้วยากที่จะเปลี่ยนใจเช่นกัน “ตรงนั้นเขาทำอะไรหรือจ๊ะกำไล” ร่างบางก้าวไปหยุดที่ริมบึงน้ำลึก ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากภูเขาสูงด้านข้างและสิ้นสุดลงตรงที่หล่อนยืนอยู่ ไกลออกไปอีกฟากมีสิ่งปลูกสร้างคล้ายกับการล้อมคอก กำไลมองตามสายตาของสาวงามข้างกายแล้วหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม “ตรงนั้นคอกช้างชั่วคราวค่ะ เมื่อสองอาทิตย์ก่อนมีลูกช้างหลงเข้ามาในเขตของเรา นายน้อยกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายก็เลยสั่งให้คนล้อมคอกเอาไว้กันหาย ระหว่างนี้ก็รอให้แม่มันมารับกลับไปค่ะ” หญิงสาวทำเสียงรับรู้ในลำคอ พลางคิดถึงผู้ชายที่กำไลเรียกเขาว่า ‘นายน้อย’ ขึ้นมา “แล้วตอนนี้นายน้อยของกำไลไปอยู่เสียที่ไหนล่ะ”  เจ้าของร่างกลมกลึงถามไปอย่างนั้นขณะก้าวเดินเลาะไปริมบึง มือเรียวเล็กเอื้อมดึงดอกหญ้าขึ้นมาถือแล้วกวัดไกวไปมาเล่นยามสาวเท้า  “เข้าป่าค่ะ นายน้อยเข้าป่าไปกับพวกพี่เกรียงแล้วก็เจ้าหน้าที่ เห็นว่าจะเข้าไปตามรอยของแม่ช้างด้วย”  คำตอบที่ได้รับทำให้หญิงสาวอดที่จะฟังอย่างสนใจเสียไม่ได้ ใบหน้างดงามจึงผุดยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะหันไปมองคนข้างกายแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “ปกติแล้วนายน้อยของกำไลเขาทำอะไรบ้างจ๊ะ”  กำไลยิ้มกว้างเมื่อว่าที่นายหญิงน้อยของปางไม้บุญทำท่าสนใจนายน้อยของตนขึ้นมา จึงเต็มใจอย่างยิ่งที่จะบอกเล่าด้วยสีหน้าเบิกบาน “เยอะแยะไปหมดค่ะ วันๆ แทบอยู่ไม่ติดบ้าน จะว่าไปแล้วพวกเราไม่ค่อยได้เจอหน้านายน้อยกันสักเท่าไหร่หรอกค่ะ หากไม่อยู่ในไร่ก็เกณฑ์พรรคพวกเข้าป่า นายน่ะเป็นพวกหัวอนุรักษ์ พอมีเวลาว่างบ้างก็ชวนกันสร้างฝายปลูกป่า ช่วยสัตว์ กำไลยังเคยตามนายกับเพื่อนๆ เข้าไปทำโป่งเทียมกันเลยนะคะ นายน่ะเป็นสายลุยตัวจริง ไม่ใช่พวกเหยาะแหยะไม่เอาถ่านหรอกค่ะ” น้ำเสียงชื่นชมเทิดทูนของกำไลทำให้ปลายดาวอดที่จะหันกลับมามองอีกฝ่ายเสียไม่ได้ จึงได้เห็นสีหน้าและแววตาของความภาคภูมิใจในตัว ‘นายน้อย’ คนนี้เต็มเปี่ยมจากสาวใช้นามว่ากำไล แล้วที่เคยได้ยินมาว่าอีกฝ่ายทั้งเอาแต่ใจและเจ้าอารมณ์นั้นล่ะ จะจริงหรือไม่ คนที่เคยเห็นแย้งจึงเริ่มลังเล  อีกฟากหนึ่งของบึง เจ้าของร่างสูงใหญ่กำยำในชุดเสื้อยีนพับแขนและกางเกงยีนสีซีดที่ยืนอยู่หลังแนวต้นไม้ใหญ่หนาทึบลดกล้องส่องทางไกลลงจากใบหน้าคมคายที่เวลานี้เข้มครึ้มไปด้วยหนวดเครา ดวงตาสีสนิมหรี่แคบ ริมฝีปากได้รูปที่มักปิดสนิทยกยิ้ม  ว่าที่เมียของเขาสวยหยาดเยิ้มเสียปานเทพธิดาใครจะกล้าปฏิเสธ แต่อย่าคิดว่าทุกอย่างจะง่ายดาย สวยใสไฉไลน่าทะนุถนอมขนาดนี้กิจกรรมรับน้องคงต้องมาแล้วละ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD