EP1 จุดเริ่มต้น

1404 Words
เกริ่น.. “คนนั้นเหรอ ที่ชื่อเวหา พี่ชายฝาแฝดของศิลา?” “หล่อมาก! แกแน่ใจเหรอว่าจะไม่เผลอชอบเขาเข้าจริงๆ” “ไม่มีทาง! ความหล่อไม่มีผลกับฉัน แกก็รู้!” ***** ..เมื่อหลายเดือนก่อน ฉันเจอกับพี่โป้งในห้อง ICU ของโรงพยาบาล อาการเจ็บปางตายเพราะถูกรุ่นพี่ซ้อม ด้วยเหตุผลเพียงเพราะความหึงหวง ซึ่งต้นเหตุของเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอเด็กหญิงข้างบ้านที่ชอบเดินตามหลังฉันกับพี่มาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นกลับทำให้พี่ชายของฉันเกือบตายเพราะความมารยาเจ้าเล่ห์เด็กคนนั้น ไม่มีจิตสำนึกที่คิดจะมาเยี่ยมดูอาการเลยแม้แต่วันเดียว ถึงเราจะเป็นพี่น้องต่างแม่ แต่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ยังแนบแน่นไม่จางหาย บทเรียนราคาแพงที่พวกมันทิ้งไว้ให้พี่โป้ง ฉันจะเป็นคนคืนสนองย้อนกลับไปให้พวกมันทุกคนเอง “พี่โป้ง ตื่นแล้วเหรอคะ เป็นยังไงดีขึ้นไหม?” ฉันมองพี่ชายที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความสมเพช “พี่ ขอน้ำกินหน่อย” เสียงแหบแห้งในลำคอ กับใบหน้าซีดขาวไม่ต่างจากซากศพที่ยังหายใจ “คุณพ่อเพิ่งกลับไปเมื่อกี้ หลับไปตั้งหลายวัน แถมขยับไม่ได้กว่าจะหายคงได้กายภาพนานเป็นเป็นปีๆ” “พี่หลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ก็ใช่นะสิ รู้หรือเปล่าว่าคนทำมันเป็นใคร? ทำกันขนาดนี้ต้องจับเข้าคุกขังลืมซะให้เข็ด จำหน้ามันได้ไหมคะ? รู้จักหรือเปล่า?” “ รู้สิ จำได้ขึ้นใจเลยล่ะ” “อย่าบอกนะว่าเป็นมันอีกแล้ว? แป้งจะไปแจ้งความลากคอมันมาเข้าคุก” ใบหน้าจริงจังมองพี่ชายตัวผอมที่นอนอยู่บนเตียง ตั้งท่าเตรียมจะเดินออกจากห้องแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผู้เป็นพี่เอ่ยท้วง “ไม่มีประโยชน์หรอก กฎหมายใช้กับเขาไม่ได้” “มันทำพี่ปางตายขนาดนี้ พี่โป้งจะยอมง่ายๆงั้นเหรอ?” “หึ แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? เราก็แค่คนธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้เขา” “ถ้าพี่โป้งจะยอมก็ยอมไปคนเดียว แต่แป้งไม่มีวันยอม! ถ้ากฎหมายใช้ไม่ได้ งั้นแป้งก็จะใช้วิธีของแป้ง ทำอะไรไว้มันก็ควรได้รับกรรมของมัน” กรามเล็กบีบแน่น “คิดจะทำอะไร?” “มันมีฝาแฝดไม่ใช่เหรอคะ? ในเมื่อมันทำพี่ได้ งั้นแป้งก็จะทำกับคนในครอบครัวของมันเหมือนกัน” เสียงเล็กในลำคอ แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “อย่าเชียวนะ ไม่ว่าแป้งคิดจะทำอะไรหยุดความคิดนั้นซะ พวกเขาไม่ใช่คนที่พวกเราจะไปต่อรองได้” “พี่โป้งใช้ชีวิตให้ดีเถอะค่ะ ช่วงนี้เราสองคนอาจจะทำเหมือนคนไม่รู้จักกันสักพักนะคะ แต่รับรองว่าพี่จะได้เห็นพวกมันพบกับความเจ็บปวดอย่างแน่นอน แป้งสัญญา” มุมปากเล็กแสยะยิ้ม ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพัก ..กลางเมืองใหญ่ คลับหรูในเวลากลางคืนเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่เข้ามาเที่ยวหาความสุข ผ่อนคลายความเคลียดจากการทำงาน หญิงสาวร่างเล็กในชุดเดรชสีดำสั้น ผิวพรรณละเอียดขาวเปล่งประกายท่ามกลางหมู่นักเที่ยวยามราตรี ใบหน้าสดใสจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโตมีเสน่ห์ รอยยิ้มจากริมฝีปากอมชมพูเรื่อ สะกดทุกสายตาทั้งชายหญิงให้หันมองมาที่เธอ เค้าเตอร์บาร์กับเก้าอี้ตัวเล็ก เป็นที่นั่งประจำของหญิงสาว และเป็นจุดรวมตัวของหนุ่มๆที่มักแวะเวียนเข้าไปทักทาย ทำความรู้จักกับสาวสวยตรงนั้น “มาทุกวันจนจะสองเดือนแล้วนะ ตัดใจซะเถอะ” มุกเพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ กล่อมเพื่อนของเธอแบบนี้ทุกคืน “ไม่! วันนี้ไม่เจอ พรุ่งนี้ไม่เจอ มันต้องมีสักวันที่ฉันได้เจอมัน” และคำตอบของทุกครั้งก็เป็นแบบนี้เสมอ ขวดแก้วทรงเรียวยกขึ้นดื่ม หางตาเฉี่ยวเหลือบมองสำรวจไปรอบๆบริเวณร้าน ก่อนจะหยุดโฟกัสที่บันไดทางขึ้นที่มีป้ายเขียนกำกับ (ห้ามบุคคลภายนอกหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้า โดยเด็ดขาด) จากข้อความทำให้เธอมั่นใจ ว่านั่นไม่ใช่ทางไปห้องแม่บ้านหรือห้องของพนักงานธรรมดาอย่างแน่นอน “เคยเห็นหน้าเขาแล้วเหรอ? ผู้ชายที่ชื่อเวหาคนนั้น!” คำถามจากเพื่อนสาวที่นั่งข้างกายทำให้คนตัวเล็กนิ่งคิดอยู่นาน “สวัสดีครับคนสวย จะรังเกียจไหมถ้าผมจะขอเลี้ยงเหล้าพวกคุณ” เสียงหวานจากชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาแต่งตัวดูดีด้วยเสื้อผ้าแบรนด์หรูพร้อมเครื่องประดับราคาแพงบ่งบอกฐานะ ร่างใหญ่แทรกชิดแนบร่างของหญิงสาวมือใหญ่โอบเอวบางก่อนที่เธอจะทันอนุญาต “แหมเลี้ยงแค่เหล้าจะพอเหรอคะ?” สายตาหวานมองช้อนสบตากับชายหนุ่ม ปลายนิ้วเรียวกรีดลากตามใบหน้าหล่อเหล่าของชายแปลกหน้า ดวงตาหวานมีเสน่ห์ สะกดให้เขาหลงใหลอยู่ในมนต์ของเธอจนไม่อาจละสายตาจากใบหน้าของเธอได้ “ไปต่อห้องผมดีไหมครับ ที่นั่นมีไวน์ดีๆให้ชิมเยอะเลย” “หึ! จะชวนไปชิมแค่ไวน์?” “แป้ง!” มุกสะกิดแขนเพื่อนสนิท เตือนไม่ให้เธอไปกับชายแปลกหน้า แต่ทว่าแป้งฝุ่นกลับเมินเฉยไม่สนใจ “ถ้าอยากทำอย่างอื่นด้วย ผมก็ยินดี” สายตากระหายมองต่ำ สำรวจร่องอกขาวไปจนถึงต้นขาขาวเรียวเล็ก บอกถึงเจตนาแฝงในการมา “แพงนะ! เวลาของฉันมีค่า คุณจะจ่ายไหวเหรอ?” “ถึงหมดตัว ผมก็ยอม” ใบหน้าหวานยกยิ้ม ยักคิ้วให้กับเพื่อนก่อนจะเดินจูงมือพาชายตัวโตเดินออกไปจากร้าน ค่ำคืนแสนหวานที่เขาคิดว่าเป็นสวรรค์ มันกำลังจะเป็นวันที่เขาจำอย่างไม่มีวันลืม ..ในตอนเช้าวันต่อมา ภายในห้องนอนของโรงแรมหรูที่อยู่ไม่ไกลจากคลับ ร่างเปลือยครึ่งท่อนของชายหนุ่มนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ข้อความบนแผ่นหลังเขียนด้วยลิปสติกสีแดงสด (ขอบคุณสำหรับเงินบริจาค คุณคือพ่อพระของสังคม.. ไอ้หน้าหม้อ!) “คุณคะ คุณ” เสียงแหบแห้งของแม่บ้านวัยห้าสิบ ปลุกให้คนที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้น “อื้อ~ ปวดหัวชะมัด” เสียงงัวเงีย พยายามฝืนเปลือกตาหนักให้ยกขึ้น ภาพเลือนรางค่อยๆชัด พลางสำรวจไปรอบๆ “เชี้ย! ป้า! ขะ เข้ามาได้ยังไงวะ แล้ว! ผู้หญิงที่มากับผมล่ะ เธอหายไปไหน?” ดวงตาเบิกกว้าง เด้งตัวลุกขึ้นนั่งถอยหากจากร่างของหญิงวัยกลางคน พลางคว้าเสื้อขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองไว้ “ตั้งแต่เข้ามา ป้าก็เห็นแค่คุณคนเดียวนะคะ” “ฉิบหาย!” เสียงสบทในลำคอ ก่อนจะรีบหยิบกระเป๋าเงินบนหัวเตียงมาเปิดดู ความทรงจำสุดท้ายคือแก้วไวน์ในมือของหญิงสาวที่ยกป้อนเข้าปากก่อนที่ภาพทุกอย่างจะตัดไป รู้ตัวอีกทีก็ตอนตื่นขึ้นมาเจาหน้าของแม่บ้านเหี่ยวๆ กับเงินในบัญชีเหลือแค่หนึ่งสตางค์ แต่เมื่อตรวจสอบปลายทางกลับเป็นบัญชีรับบริจาคของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากับบ้านหมาจรจัด มันจึงเป็นไปไม่ที่จะได้ไปเรียกร้องขอคืน เลยได้เพียงกัดฟันข่มใจนิ่ง ยิ้มรับกับข้อความเชิดชูจากเด็กๆที่ส่งกลับมาเป็นการขอบคุณ ..อีกด้าน หลังจากหญิงสาวกลับออกมาจากห้องพักของโรงแรมที่เพิ่งเปิดไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เธอก็นั่งรถกลับมาหาเพื่อนที่นั่งรออยู่ที่เดิมไม่ไปไหน “เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนแจ้งจับข้อหายักยอกทรัพย์หรอก” ท่าทางเบื่อหน่าย ทันทีที่เห็นเพื่อนเดินเข้ามา “มันเป็นการให้ด้วยความเสน่ห์หา ฉันไม่ได้หลอกลวงสักหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้อยากโง่เองทำไมล่ะ ไอ้พวกบ้ากามมันต้องเจอแบบนี้ถึงจะเข็ด แอบทิ้งเมียทิ้งลูกออกมาเที่ยวหรือเปล่าก็ไม่รู้? หรือบางทีพวกเขาอาจจะขอบคุณฉันก็ได้นะที่เป็นสะพานบุญให้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD