ตอนที่ 1 ไม่สนใจ

1661 Words
“นายครับ ได้ตัวมันมาแล้วครับ” โคมะเอ่ยบอกผู้เป็นเจ้านายที่กำลังนั่งมองเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงานด้วยท่าทางนิ่งขรึม จากนั้นก็ผลักร่างสูงที่ถูกมัดมือไว้ไปข้างหน้าอย่างแรงจนล้มคุกเข้าลงบนพื้น “นะ...นายครับ ผมผิดไปแล้วครับ พวกมันขู่จะทำร้ายครอบครัวผม ผะ...ผมไม่มีทางเลือก ผมเลยต้องทำแบบนี้ครับ” พรชัยชายวัยกลางคนคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเจ้านายของเขาเสียงสั่น สาเหตุที่เขาตกอยู่ในสภาพนี้เพราะตัวเองถูกจับได้ว่าเป็นหนอนบ่อนไส้เอาข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธของเจ้านายตัวเองไปบอกศัตรู เสียงพูดอ้อนวอนของพรชัยไม่ได้ทำให้คนที่กำลังอ่านเอกสารอยู่เงยหน้ามามองเลยแม้แต่น้อย “โคมะ” ริวจิเรียกชื่อลูกน้องคนสนิทเสียงเรียบโดยที่สายตายังสนใจเอกสารอยู่ “มันเป็นคนบอกวันนัดส่งของให้ศัตรูรู้ครับนาย โชคดีที่นายน้อยซาโตชิและนายน้อยทาเคชิเป็นคนดูแลการส่งของครั้งนี้เลยจัดการศัตรูได้ครับ” โคมะพูดขึ้นทันทีโดยไม่ต้องรอให้เจ้านายได้ถามอะไร ด้วยความที่เป็นลูกน้องคนสนิทของริวจิจึงรู้ใจเขาเป็นอย่างดี ทางด้านริวจิเมื่อได้ยินลูกน้องพูดรายงานก็เงยหน้าขึ้นมองพรชัยด้วยสายตาดุดันจนพรชัยต้องรีบก้มหน้าด้วยความกลัว “นะ...นาย ผมผิดไปแล้วครับ” พรชัยพูดขึ้นเสียงสั่นด้วยความกลัวหวังให้ริวจิไว้ชีวิตเขา ถึงโอกาสที่จะรอดจะน้อยก็ตาม “จัดการให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว” พรชัยเบิกตากว้างตกใจทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของริวจิ เพราะคำว่าอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียวนั่นแปลว่าเขาจะฆ่าล้างทั้งครอบครัวนั่นเอง “นายครับ ผมขอล่ะครับ ผมทำเองคนเดียว ฆ่าผมคนเดียวเถอะ ปล่อยลูกเมียผมไปนะครับ ผมขอร้อง ลูกชายผมยังเป็นแค่เด็กอายุสิบสามอยู่เลย ปล่อยพวกเค้าไปเถอะนะครับ นะครับนาย” พรชัยเงยหน้าขอร้องริวจิทั้งน้ำตา “มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องรู้ เอามันออกไป” ริวจิพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเย็นชาจากนั้นก็ก้มหน้ามองเอกสารต่อทันที ทางด้านโคมะเมื่อได้ยินคำสั่งผู้เป็นนายก็จับพรชัยลากออกจากห้องไปทันทีจนพรชัยได้แต่ร้องไห้พูดอ้อนวอนขอชีวิตกับริวจิเสียงดังจนเสียงหายเงียบไปเพราะโคมะจัดการพรชัยเรียบร้อยแล้วจากนั้นก็ออกไปจัดการครอบครัวของพรชัยต่อ ส่วนริวจิก็นั่งทำงานเหมือนเดิมโดยไม่ได้รู้สึกอะไรกับการสั่งลูกน้องให้ฆ่าคน เพราะจุดที่เขายืนอยู่ไม่จำเป็นต้องใจดีกับคนที่คิดทรยศเขา ริวจิ นาโอชิมะ อายุสามสิบสองปี นั่นคือชื่อเต็มของเขา เบื้องหน้าเขาคือประธานบริษัทนาโอชิมะกรุ๊ปชื่อดังในแวดวงของนักธุรกิจซึ่งนักธุรกิจส่วนมากก็ต่างอยากจะให้เขาร่วมเป็นหุ้นส่วนของบริษัทตัวเองโดยที่ไม่มีใครเคยรู้ว่าเบื้องหลังเขาคือผู้นำแก๊งเพลิงมังกรมาเฟียผู้เลือดเย็นฆ่าล้างศัตรูไม่เลือกหน้าไม่สนใจว่าจะเป็นชายหรือหญิง ในแวดวงมาเฟียริวจิมีธุรกิจผลิตอาวุธเพื่อขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีแก๊งมาเฟียพันธมิตรอีกสามแก๊งที่ร่วมทำธุรกิจนี้ด้วย นั่นก็คือแก๊งเพลิงพยัคฆ์ แก๊งเพลิงราชสีห์และแก๊งเพลิงอินทรีซึ่งทั้งสี่แก๊งถูกก่อตั้งมาตั้งแต่บรรพบุรุษและมีผู้นำสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันโดยให้คำมั่นสัญญากันไว้ว่าทั้งสี่แก๊งจะไม่มีวันทรยศหักหลังกันเด็ดขาด ริวจิและผู้นำอีกสามคนจึงถูกปลูกฝังให้รักใคร่กลมเกลียวกันมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ทั้งสี่คนก็กลายเป็นเพื่อนรักกันมาตลอดเพราะเป็นรุ่นแรกที่มีผู้นำอายุเท่ากันทั้งสี่แก๊ง ผ่านไปสักพักโคมะก็กลับมารายงานผู้เป็นนาย “จัดการเรียบร้อยแล้วครับนาย” โคมะพูดรายงานริวจิหลังจากทำงานตามคำสั่งเสร็จแล้ว “อืม” ริวจิตอบโคมะสั้นๆ เสียงเรียบขณะที่สายตากำลังสนใจเอกสารงานอยู่ จนผ่านไปสักพักริวจิก็หยุดทำงานแล้วลุกเดินออกจากห้องไปเพราะวันนี้ต้องไปตรวจอาวุธก่อนจะส่งออกไปให้ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงโกดังเก็บอาวุธแล้วริวจิก็เดินไปยังจุดเตรียมสินค้าที่จะส่งออกทันที “ไง ได้ยินข่าวว่ามีหนอนบ่อนไส้ทางฝั่งมึง จัดการแล้วหรอ” ไทเกอร์เพื่อนสนิทของริวจิที่เป็นผู้นำของแก๊งเพลิงพยัคฆ์เอ่ยถามริวจิขึ้นเมื่อเห็นเขาเดินมา เพราะไทเกอร์ก็มีหน้าที่ตรวจสินค้าก่อนส่งออกเหมือนกัน “อืม สินค้าพร้อมส่งมั้ย” ริวจิตอบไทเกอร์สั้นๆ ตามประสาคนพูดน้อยแล้วเอ่ยถามเรื่องงานทันทีเพราะเห็นไทเกอร์มาถึงก่อน “กูก็พึ่งมาถึงยังไม่เช็ค วันนี้ดื่มหน่อยมั้ย ไอ้สองคนนั่นก็มาพวกมันรออยู่บนห้องแล้ว” ไทเกอร์เอ่ยชวนริวจิขึ้นขณะที่ทั้งสองกำลังตรวจเช็คงานอยู่ “อืม” ริวจิตอบไทเกอร์สั้นๆ ซึ่งไทเกอร์เองก็ชินกับนิสัยพูดน้อยของริวจิไปแล้ว เมื่อทั้งสองเช็คงานเสร็จก็ขึ้นไปยังบนห้องที่พวกเขาเอาไว้คุยงานกันหรือนั่งดื่มสังสรรค์กันเวลาที่ได้อยู่พร้อมกันครบทั้งสี่คน “ทำไมวันนี้พวกมึงมา มีปัญหาเรื่องการส่งของหรอ” เมื่อเดินเข้ามาในห้องริวจิก็เอ่ยถามเพื่อนอีกสองคนที่นั่งดื่มอยู่ก่อนแล้วด้วยความสงสัย “นี่มึงลืมหรอไอ้ริว” วาชิผู้นำแก๊งเพลิงอินทรีถามริวจิขึ้นเสียงเรียบ จนริวจิได้แต่เดินมานั่งแล้วมองวาชิด้วยสายตาตั้งคำถาม “วันนี้เป็นวันเกิดไอ้เกอร์” เลโอผู้นำแก๊งเพลิงราชสีห์พูดขึ้นเมื่อเห็นริวจิทำหน้าสงสัย “แม่ง วันเกิดกูแท้ๆ เสือกจำไม่ได้ นี่มึงคิดจะจำวันเกิดเพื่อนไว้มั้ยเนี่ย” ไทเกอร์บ่นให้ริวจิตามประสาคนพูดเก่ง เรียกว่าในบรรดาสี่คนไทเกอร์คือคนที่พูดเก่งที่สุดแล้ว “อย่าว่าแต่วันเกิดพวกเราเลย วันเกิดมันเองมันจำได้มั้ยเถอะ” เลโอพูดขึ้นเสียงเรียบ “ไม่ใช่มันจำไม่ได้ แต่มันเลือกที่จะไม่สนใจมากกว่า เรื่องที่จะทำให้มันจำก็มีแต่เรื่องที่มันจะได้ผลประโยชน์แค่นั้นล่ะ” วาชิพูดเสริมอีกคน เพราะนิสัยของริวจินั้นทั้งดุ ทั้งนิ่ง แถมยังเลือดเย็นมากที่สุดในกลุ่มเรียกได้ว่าแทบไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรือสบตาเขาเลยสักคน ขนาดโคมะที่เป็นลูกน้องคนสนิททำงานกับริวจิมานานยังรู้สึกหวั่นกลัวสายตาของริวจิตลอดเพราะสายตาที่เขามองคนอื่นมีแต่ความดุดันไม่มีอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อยไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสนิททั้งสามหรือน้องชายแท้ๆ ของเขา ยังดีที่กับเพื่อนสนิทและครอบครัวเขายังลดความดุดันลงนิดหน่อยแต่ก็ไม่มีใครได้รับรอยยิ้มจากเขาเลยสักคน “เลิกแซะกู แล้วกรอกเหล้าเข้าปากซะ” ริวจิด่าเพื่อนๆ ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบจากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ส่วนเพื่อนๆ ทั้งสามก็ได้แต่ยิ้มเยาะออกมาอย่างชอบใจที่กวนริวจิได้ ไม่ได้รู้สึกโกรธริวจิเลยแม้แต่น้อย “ไอ้ริว มึงจะไปญี่ปุ่นวันไหน” วาชิเอ่ยถามริวจิขึ้นเพราะจำได้ว่าริวจิมีนัดคุยงานกับแก๊งยากูซ่าที่ญี่ปุ่น “พรุ่งนี้เช้า” ริวจิตอบวาชิสั้นๆ เสียงเรียบ “ให้กูไปด้วยมั้ย เผื่อพวกมันคิดจะเล่นตุกติก ไอ้พวกนั้นมันยิ่งชอบหาเรื่องคนอยู่นิ” ไทเกอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชิวๆ “คนที่ชอบหาเรื่องคือมึงมากกว่าไอ้เกอร์ ขืนมึงไปแค่พวกมันกวนตีนมึงนิดเดียว มึงก็คงหาเรื่องฆ่ามันเล่นแล้ว สู้ให้ไอ้ริวไปคนเดียวยังดีกว่า” วาชิพูดดักทางไทเกอร์ทันที เพราะนิสัยของไทเกอร์นั้นนอกจากจะปากแซ่บแล้วยังเก่งเรื่องกวนประสาทคนอีก “กูเห็นด้วยกับไอ้ชิ มึงไปเท่ากับสร้างสงครามให้ไอ้ริวแน่นอน” เลโอพูดเสริมวาชิเสียงเรียบ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรเพราะแค่อยากกวนไทเกอร์เท่านั้น “แม่ง พวกมึงนิไม่คิดจะเข้าข้างกูเลยสักคน กูไม่ใช่คนชอบหาเรื่องใครก่อนสักหน่อย แต่ก็แค่ไม่ชอบให้ใครมากวนกูก่อนแค่นั้นเอง สรุปมึงว่าไงไอ้ริว มึงจะให้กูไปด้วยมั้ย” ไทเกอร์พูดใส่วาชิและเลโออย่างกวนๆ แล้วหันไปถามริวจิด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงนิสัยเขาจะเป็นคนที่ดูกวนๆ แต่ความห่วงเพื่อนนั้นก็มีมากไม่น้อย “กูจะไปคนเดียว มึงต้องอยู่เช็คสินค้าล็อตต่อไป เพราะมันเป็นล็อตใหญ่ ไอ้เลกับไอ้ชิจะได้ไม่เหนื่อย” ริวจิตอบไทเกอร์เสียงเรียบ “อืม ตามนั้น มึงก็ระวังตัวด้วย อย่าพลาดให้มันเล่นงานแล้วกัน” ไทเกอร์พูดกับริวจิด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อืม” ริวจิขานตอบไทเกอร์สั้นๆ แล้วทั้งสี่คนก็นั่งดื่มกันไปคุยงานกันไปจนดึกถึงแยกย้ายกันกลับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD