จักรากลับมาถึงเพนต์เฮาส์ในเวลาเกือบสี่ทุ่มหลังจากไปกินข้าวกับบิดาพร้อมกับอีกครอบครัวหนึ่ง เมื่อมาถึงกลับไม่พบคนที่คิดว่าจะรออยู่ในห้อง เขาสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ร่างสูงเดินตรงไปที่โซนครัวกว้างเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำขึ้นมาเปิดดื่มเอง แทนที่หน้าที่ปรนนิบัตินี้จะเป็นของคนที่เขาเมตตาให้ที่ซุกหัวนอน
ว่าแต่ตอนนี้เธอไปไหน
ชายหนุ่มกดโทรศัพท์โทรหาก็แล้ว ส่งข้อความไปตามก็แล้ว เกือบยี่สิบนาทีก็ยังไม่มีวี่แววจะตอบกลับ เขาให้จันทร์เจ้าไปคุยงานกับนักธุรกิจชาวสิงคโปร์พร้อมกับสาโรจน์ เธอน่าจะคุยเสร็จและกลับมารอรายงานเขาที่ห้องแล้วไม่ใช่เถลไถล
“จันทร์อยู่ไหน” กระทั่งคอยไม่ไหว จึงโทรไปถามลูกน้องที่ให้ติดตามเธอไปก็ได้รับรายงานบอกว่า ตอนนี้เธอน่าจะอยู่ที่ผับดังแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ
“เที่ยวอีกแล้ว เที่ยวบ่อยจริง ๆ นี่ฉันเลี้ยงดูเธอเพื่อให้ออกไปเที่ยวดื่มกับผู้ชายคนอื่นหรือไง”
เขาพึมพำกับตัวเองหลังวางสายด้วยความหงุดหงิดปนระอากับพฤติกรรมที่กำเริบเสิบสาน ไม่เห็นหัวเขาว่าเป็นนายใหญ่ จักราโคลงศีรษะพร้อมกับระบายลมหายใจทิ้ง จะนั่งรออยู่เฉย ๆ ก็คงดึกกว่าเธอจะกลับมายิ่งไม่มีความเกรงใจคนที่รออยู่ด้วยซ้ำ
ในเวลาต่อมา ร่างสูงก้าวเข้ามาในผับหรูที่คัดเกรดลูกค้าด้วยการแต่งกายที่ต้องดูดีทั้งหญิงและชาย เสียงเพลงกระหึ่มดังก้อง แสงไฟวิบวับสลับสีสะท้อนเข้าใบหน้าคนเต้นรำที่แน่นขนัดอยู่กลางฟลอร์ ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวเล็งไปที่ร่างบอบบางของหญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังโยกสะโพกเบา ๆ ตามจังหวะเร้าของเสียงเพลง แต่ในขณะเดียวกันก็มีทั้งความเป็นธรรมชาติและเร่าร้อนเกินใคร เธอยืนถือแก้วเครื่องดื่มสีสวยอยู่ตรงโซนบาร์ สายตายังคงมองไม่เห็นคนที่กำลังย่างกรายเข้าหาอย่างเงียบ ๆ ประดุจสิงโตล่าเหยื่อ
กระทั่งเขาเข้ามาประชิดตัวหญิงสาวจึงได้สะดุ้งเมื่อหันไปมองก็เห็นใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาเคลือบด้วยแสงสีแดงจากไฟผับ
“เฮีย มาได้ไง”
“ทำไมจะมาไม่ได้ เธอยังมาได้เป็นว่าเล่น เสร็จงานแล้วแทนที่จะรีบกลับ” ไปดูแลฉัน
ประโยคหลังเขาบอกด้วยสายตาที่จับจ้องอย่างตำหนิ
จันทร์เจ้าทอดถอนลมหายใจ ชักสีหน้ามุ่ยใส่ หันไปวางแก้วเครื่องดื่มบนบาร์พร้อมกับที่ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเอง ก่อนจะเอ่ยอีกว่า
“ก็จันทร์ทำงานแล้วทั้งวัน ก็อยากมาปาร์ตี้ ชวนสาโรจน์แล้วไม่มาด้วยกัน จันทร์ก็มาคนเดียวสิคะ”
เขาหลุบสายตามองชุดที่เธอใส่เป็นเดรสสั้นเกาะอกไม่ได้เข้ารูปมากนักเน้นดูน่ารักมากกว่าเซ็กซี่ แต่พอมันอยู่บนตัวเธอมองยังไงก็ดูยั่วยวนสายตาเพศตรงข้าม นั่นทำให้เขายิ่งไม่พอใจ อาหารที่เขายังกินไม่อิ่มหมาตัวไหนก็อย่าได้หวังมากินต่อ
“แต่งตัวแบบนี้เนี่ยนะไปพบลูกค้าของฉัน”
“เปล่าซะหน่อย จันทร์เปลี่ยนชุดในรถค่ะ”
จันทร์เจ้าไปติดต่อคุยงานกับนักธุรกิจชาวจีนและยังพาลูกค้าไปดินเนอร์ก่อนจะพาตัวเองมาปาร์ตี้ที่นี่ คิดว่าดื่มหมดแก้วก็จะกลับแล้ว นิ้วเรียวยาวราวกับผู้หญิงยกแก้วปากกว้างขึ้นกระดกดื่ม ความร้อนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์บาดลำคอหากแต่ก็ฉ่ำชื่นที่ใจกระตุ้นอะดรีนาลิน
เมื่อมาแล้วก็อยู่ต่ออีกสักพักแล้วกันค่อยกลับ เขาไม่ได้ต่อว่าอะไรเธอมากนัก อย่างน้อยหญิงสาวก็ทำงานช่วยเขาได้เยอะทีเดียวตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่อีกไม่นานเขาก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เหมาะสมเพื่ออำนาจทางธุรกิจ วันนั้นก็คงต้องให้เธอไป
“กลับได้แล้ว” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ยื่นมาจับต้นแขน ทว่าร่างบางดื้อดึงเพราะยังสนุกกับเพลงที่ดีเจนำมามิกซ์กันได้มันมาก
“เดี๋ยวก่อนสิเฮีย ขออีกหน่อย นะๆ เฮียน้า ยังไม่หมดแก้วเลย”
เสียงเพลง EDM กระแทกดังสนั่นจนพื้นสั่นตามจังหวะ เธอที่อารมณ์คึกสุด ๆ กำลังเต้นยักย้ายส่ายเอว มือตวัดผมสะบัดตามจังหวะเหมือนนางพญาฟลอร์แดนซ์แถมยังไปทำท่าเลื้อยผ่านเขาอีก
แต่แล้วอะไรที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นโดยที่จันทร์เจ้าไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่เต้น คนที่รู้สึกได้ก่อนกลับเป็นคนที่เธอเอาตัวเบียดเพื่อจะบอกผู้หญิงคนอื่นเหมือนกันว่า
‘เขามากับฉันย่ะ’
แต่แล้วซิลิโคนดันทรงเจ้ากรรมที่เกาะติดอยู่กับเต้าสวยค่อย ๆ เลื่อนหลุดร่วงลงจากด้านในชุดเดรส ขณะที่ร่างกายเธอเคลื่อนไหวไปโดยไม่รู้ว่ามีสิ่งหนึ่งกำลังไหลลงสู่พื้น มันไม่ได้ตกไปไหนไกล แต่กลับไปหยุดกองอยู่บนรองเท้าหนังมันเงาสีดำของเขา
จักราผู้ไวต่อสัมผัสก้มมองสิ่งแปลกปลอมบนรองเท้าของตัวเอง พลางยกสายตาคมกริบขึ้นสบกับคนที่ยังไม่รู้ตัว แล้วมองไปยังอกอวบเต่งตึงที่สั่นไหวไปตามแรงเหวี่ยง
มือหนาคว้าข้อมือเล็กไว้ทันทีให้ร่างบางหยุดนิ่ง จ้องด้วยสายตาคมกริบ
“อะไรคะเฮีย”
“ไม่รู้ตัวจริง ๆ เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น นี่เมามากแล้วนะ”
“ยังค่ะ จันทร์ยังมีสติอยู่ยังไม่ได้เมา”
เธอตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ สีแก้มแดงเล็กน้อย แล้วเขาก็กดตาลงต่ำให้เธอมองตามลงมาที่ปลายเท้าของเขา แสงไฟดวงเล็กที่ประดับไว้ใต้บาร์ให้เห็นช่องทางเดินกลับส่องให้เห็นซิลิโคนสีเดียวกับผิวตกอยู่ที่ตรงนั้น
ดวงตากลมเบิกกว้างสองมือยกขึ้นมากุมอกอวบพลางคลำสำรวจอย่างเร็วไวก็พบว่าข้างในมันว่างเปล่า เหลือบมองสบตาชายหนุ่มที่เลิกคิ้วมองสลับไปมาระหว่างสิ่งนั้นกับใบหน้าแดงซ่านของเธอ ก่อนริมฝีปากกระตุกยิ้มยวนเย้าแฝงเสน่ห์
“ทีนี้รู้ตัวหรือยัง”
จันทร์เจ้ารีบก้มเก็บของหวงแทบจะมุดพื้นหนีลงไปด้วย เมื่อเก็บขึ้นมาได้เขาก็ดึงข้อมือเธอให้ออกจากผับโดยให้หลบหลังเขาไว้ จันทร์เจ้าไม่ปฏิเสธการจูงมือที่เดินเบียดผู้คนออกไปสู่ภายนอก ยังลานจอดรถของโรงแรม
“เดี๋ยวค่ะ ไม่มีคนแล้ว จันทร์จะไปที่รถ”
“ไม่ให้ขับ ไว้ให้สาโรจน์มาเอาให้พรุ่งนี้ กลับไปกับฉัน”
ว่าแล้วก็อดที่จะจ้องไปที่อกอวบนั้นไม่ได้ แม้จะเห็นมาจนชินตานับครั้งไม่ถ้วนแต่ในสถานการณ์นี้มันก็ไม่เหมือนกัน จันทร์เจ้าทำให้เขาเกิดอารมณ์ได้ทุกที่ทุกเวลา แม้แต่ตอนนี้ยอดอกของเธอก็ยังดันผ่านเนื้อผ้าจนเห็นชัด
“อย่ามองแบบนั้นสิคะ จันทร์อายนะเฮีย”
“แล้วถ้าไม่มีฉัน เมื่อไหร่จะรู้ตัว”
“ก็...” เธอเถียงไม่ออก ก่อนจะถูกเขาลากขึ้นไปในรถในตำแหน่งคนขับเหมือนกัน
“ว้าย เฮียจะทำอะไร นี่มันในรถนะ”
“ที่ไหนก็เคยแล้ว จะเล่นตัวทำไม”
“เฮีย...เหรอ”
“เออ!”
“ว้าย...เฮีย...อื้อ”