สองวันต่อมา
@ห้องประชุม
“มากันครบแล้วใช่ไหม” ทรัชเป็นคนเอ่ยถามในที่ประชุม
“เอ่อ..คือ” กรรมการชมรมคนหนึ่งกำลังจะเอ่ยบอก แต่ก็ต้องเงียบไป
“เริ่มประชุมได้” กราฟฟิคเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“เรื่องออกค่าย อาจารย์ถามมาว่าปีนี้จะไปออกค่ายที่ไหน” ทรัชเอ่ย
“ซึ่งที่ที่เราจะไปนั้น เราจะต้องทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด”
ตึก ตึก แกร๊ก
ขณะที่กำลังประชุมกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงเท้าบางของใครบางคนวิ่งเปิดประตูเข้ามา ทำให้ทุกคนในห้องประชุมต่างหันไปมองเป็นทางเดียว
“เอ่อ ขอโทษที่มาช้านะคะ” ฉันรีบก้มหัวบอกทุกคนในที่ประชุม
“…” พี่กราฟฟิคหันมามองทางฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลินดานะคะ อยู่ปีสองค่ะ” ฉันก็เอ่ยแนะนำตัวขึ้นเพราเห็นว่าหลายคนในที่ประชุมกำลังทำหน้างงว่าฉันเป็นใคร
“คือน้องลินดาเป็นท็อปของสาขาน่ะ อาจารย์วิทย์เลยให้น้องลินดามาศึกษางาน ปีหน้าจะให้น้องเป็นประธานชมรม” พี่ทรัชอธิบายต่อทำให้ทุกคนต่างพยักหน้ารับรู้
“เก่งแต่ไม่มีความรับผิดชอบ” พี่กราฟฟิคเอ่ยขึ้นเสียงเรียบนิ่ง
“หนูมีธุระนิดหน่อยน่ะค่ะเลยมาสาย” ฉันเอ่ยบอกไป พอดีฉันไปทำเรื่องเกี่ยวกับทุนแล้วอาจารย์ก็คุยรายละเอียดว่าในปีนี้ฉันต้องทำอะไรบ้างเพื่อใช้ทุนจึงทำให้มาเข้าประชุมช้า
“จะเป็นประธานต้องรู้จักหน้าที่” พี่กราฟฟิคก็สบตาเอ่ยออกมาเสียงเรียบสีหน้าเย็นชาสุดๆ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
“ขอโทษค่ะ” ฉันก็ได้แต่เอ่ยขอโทษ เพราะฉันมาสายจริงๆ
“พอๆ ยังไงน้องก็มาแล้ว มึงอย่าดุนักเลย” พี่ทิคเกอร์ก็เอ่ยบอกอย่างพยายามช่วยฉัน
“น้องลินดามานั่งเถอะครับ” พี่ทรัชเอ่ยบอกฉันให้มานั่งที่นั่งข้างเขา แต่พี่กราฟฟิคก็ยังคงมองฉันไม่หยุดจนพี่ทรัชต้องสะกิดเขา
“ต่อ” แล้วพี่กราฟฟิคก็เลิกสนใจฉันเอ่ยบอกประชุมต่อ
“มีใครอยากเสนอสถานที่ไหม” พี่ทรัชก็เอ่ยถามทุกคน
“เราเน้นไปที่โรงเรียนในชนบท หรือที่ขาดแคลนไหม” หนึ่งในกรรมการชมรมเอ่ยบอกขึ้น
“ดีเหมือนกัน มึงว่าไง” พี่ทรัชก็หันไปถามพี่กราฟฟิค
“ลองหาสถานที่มา” พี่กราฟฟิคตอบกลับ เขายังเหมือนเดิมเลยพูดน้อย แต่มีความเป็นผู้นำ เวลาทำงานเขาจะจริงจังมากๆ ฉันนั่งมองหน้าเขานิ่งพยายามจะไม่นึกถึงอดีตที่เราเคยทำงานด้วยกัน
“เค งั้นเดี๋ยวเรามาดูสถานที่แล้วสรุปกัน จะได้ไปเสนออาจารย์” เป็นพี่ทรัชที่เอ่ยบอก ทุกคนก็เสริชหาสถานที่ และพูดคุยเกี่ยวกับชมรมกันไป
ผ่านไปสักพัก..
“งั้นวันนี้พอแค่นี้ ครั้งหน้าค่อยมาคุยรายละเอียด” พี่กราฟฟิคเอ่ยบอกพร้อมลุกขึ้น ทุกคนต่างก็ออกจากห้องประชุมไป รวมถึงฉันที่กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อจะเดินออกไป
“เดี๋ยว” แล้วพี่กราฟฟิคก็เอ่ยขึ้น
“คะ” ฉันที่ได้ยินพี่กราฟฟิคเรียกก็หันกลับมามองยังคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะประชุม
“ถ้าคราวหน้าเธอมาสายอีก ฉันจะบอกอาจารย์ให้เอาเธอออก” พี่กราฟฟิคบอกเสียงเรียบ
“รับทราบค่ะ ครั้งหน้าลินจะมาก่อนพี่เลยค่ะ” ฉันพูดขึ้นอย่างประชดประชัน
“ทำให้ได้แล้วกัน” พี่กราฟฟิคตอบกลับไป
“ค่ะ ลินทำได้แน่” ฉันพูดขึ้นอย่างหนักแน่น ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงเวลาทำงาน และวันนี้ที่มาสายเพราะจำเป็นจริงๆหรอกนะ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วลินขอตัวนะคะ” พูดจบ ฉันก็ทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่ก็ยังได้ยินเสียงพวกเขาคุยกัน
“มึงจะอะไรกับน้องนักวะ” ทิคเกอร์หันมาโวยวายใส่กราฟฟิค
“…” กราฟฟิคก็เงียบไม่ตอบ
“น้องพึ่งมาประชุมครั้งแรก” ทรัชก็พูดเสริม พยายามช่วยฉัน
“ครั้งแรกยังสาย” กราฟฟิคพูดขึ้น ซึ่งฉันก็ได้ยินแค่นั้นเพราะเดินออกมาห่างจากพวกเขาแล้ว ฉันเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวเมื่อเสร็จแล้วฉันจึงเดินออกมาจะไปนั่งโต๊ะม้าหินข้างตึกคณะ แต่ก็ต้องชะงักเท้าไปเมื่อเห็นว่าพี่กราฟฟิคนั่งสูบบุหรี่อยู่ ซึ่งมันก็มีโต๊ะถัดไปที่ว่างอยู่ แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่นั่งและทำท่าจะเดินออกมาทันที
“เดี๋ยว” แต่เขาก็เอ่ยขึ้นเสียก่อนทำให้ฉันหยุดเดินและหันกลับไปมองเขา
“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วไง”
“คะ” ฉันทำหน้างุนงง
“ฉันไม่ชอบคนไม่มีความรับผิดชอบ” เขาพูดขึ้นเสียงเรียบนิ่งก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมา
“วันนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาสายนะคะ พอดีฉันมีธุระเรื่องทุนต้องไปจัดกา…(การ)” ฉันพยายามอธิบายให้เขาฟัง แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยคเขาก็ลุกขึ้นทิ้งบุหรี่ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ฉัน
“ฉันไม่สนเรื่องส่วนตัวของเธอ” เขาพูดขึ้น
“แต่ว่า”
“เธอควรจะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้เป็น”
“จะให้คนอื่นมารอเธอคนเดียวไม่ได้”
“พี่กราฟฟิคคะ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันมีธุระจริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้มาสายขนาดนั้นนะคะ” ฉันพูดตอบไปอย่างเริ่มหงุดหงิดเพราะเขาไม่ฟังฉันเลย
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่สน” พูดจบพี่กราฟฟิคก็ทำท่าจะเดินออกไป
“เฮ่อ” ฉันจึงถอนหายใจออกมาก่อนจะตะโกนบอกเขาออกไป
“งั้นพี่ก็สอนฉันสิคะ” ทันทีที่เขาได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินหันมามองหน้าฉันนิ่ง ฉันจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเขาแทน
“สอนฉันสิว่าการเป็นประธานที่ดีต้องทำยังไง” ฉันพูดขึ้นเสียงปกติก่อนจะยิ้มให้เขา
“ฉันเคยสอนเธอไปแล้ว” เขาตอบกลับมา
“ฉันจำไม่ได้หรอกนะคะ มันนานมากแล้ว” ฉันแกล้งพูดกวนประสาทเขากลับไป
“หึ” เขาก็แสยะยิ้มตอบกลับมา
“เรื่องของเธอ” พูดจบเขาก็ทำท่าจะเดินออกไปแต่ฉันยังคงยืนอยู่ที่เดิม
“เย็นชาเหมือนเดิมเลยนะคะ” ฉันพูดออกมาเสียงแผ่วเบาและมองตามแผ่นหลังหนาไปแต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินไปไหนไกลก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
“กราฟฟิคคะ” เธอคนนั้นเอ่ยเรียกชื่อเขาขึ้นเสียงหวานก่อนจะเดินเข้ามาควงแขนเขาไว้ด้วยท่าทีสนิทสนม ฉันมองภาพนั้นอยู่สักพัก ก่อนจะละสายตาทำท่าจะเดินหนีออกไป
“วันนี้ไปนอนคอนโดเมเปิ้ลไหมคะ” แต่เมื่อได้ยินคำถามนั้นขาของฉันก็ก้าวไม่ออกซะอย่างนั้น
“เมเปิ้ลคิดถึงกราฟฟิคนะคะ เดี๋ยวเมเปิ้ลจัดให้ทั้งคืนเลย” เธอยังคงพูดออกมาอย่างไม่อายคนที่ได้ยินเลยจริงๆ กับเป็นฉันที่รู้สึกทนฟังแทบไม่ไหว แต่ยังไม่ทันที่พี่กราฟฟิคจะตอบอะไรกลับไป
“ไอ้กราฟฟิค” เสียงหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อเขาขึ้นทำให้ทั้งพี่กราฟฟิคและผู้หญิงคนนั้นหันไปมองทางเสียงนั้นรวมถึงฉันด้วย
“ไอ้เซน” พี่เซนก็เดินเข้ามาหาพี่กราฟฟิคทันที ทำให้ผู้หญิงคนนั้นยอมปล่อยมือที่ควงแขนพี่กราฟฟิคอยู่ออกยืนยิ้มให้พี่เซน แต่พี่เซนก็ไม่ได้สนใจอะไรหันไปคุยกับพี่กราฟฟิคแทน
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่กราฟฟิคเอ่ยถาม
“สองวันที่แล้ว” พี่เซนตอบกลับไป
“พอดีกูมาทำเรื่องที่มหาลัยก็เลยแวะหามึง ว่าจะชวนไป mixnightbar คืนนี้” พี่เซนพูดขึ้นเหมือนรู้ว่าเพื่อนเขาจะถามอะไร พี่กราฟฟิคก็พยักหน้าตอบ
“งั้นเมเปิ้ลขอตัวก่อน คืนนี้เมเปิ้ลจะรอนะคะ” ผู้หญิงคนนั้นเมื่อรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินก็หันไปเอ่ยบอกพี่กราฟฟิคก่อนจะเดินออกไป ฉันที่เห็นแบบนั้นก็ทำท่าจะเดินออกไปเช่นกัน แต่ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินผ่านเขาสองคนไปพี่เซนก็หันมาทางฉันพอดี
“อ้าว น้องลินดานี่” พี่เซนเอ่ยเรียกชื่อฉันขึ้น ฉันจึงหันไปมองเขา
“สวัสดีค่ะพี่เซน” ฉันทักทายเขากลับไปก่อนจะยิ้มให้ ฉันไม่เจอพี่เซนนานแล้วเหมือนกัน ตั้งแต่ที่เขามาสารภาพว่าชอบฉันและขอคบในคืนเดียวกับที่ฉันบอกชอบพี่กราฟฟิคนั้นแหละ ซึ่งวันนั้นฉันก็ปฏิเสธเขาไปบอกว่าให้เป็นพี่น้องกันดีกว่า แล้วหลังจากวันนั้นเขาก็เรียนจบเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ได้ยินว่าพี่เขาไปเรียนต่อเมืองนอกนะ
“น้องลินสบายดีไหมครับ” พี่เซนยังคงถามฉันด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเช่นเคย
“ลินสบายดีค่ะ แล้วพี่เซนละคะ”
“ก็ดีครับ แต่วันนี้รู้สึกดีกว่าปกติเลย” เขาบอกฉันกลับมาก่อนจะยิ้มหวานให้กับฉัน
“คะ” ฉันก็ทำหน้างง
“ได้เจอน้องลินอีกครั้ง พี่รู้สึกดีนะ” พี่เซนตอบกลับมา
“อ่อค่ะ” ฉันก็ยิ้มให้ตามมารยาท และฉันก็หลบสายตาพี่เซนไปก่อนที่ฉันจะเหลือบไปเห็นพี่กราฟฟิคยืนทำหน้าเรียบนิ่งอยู่
“ว่าแต่เลิกเรียนแล้วเหรอครับ” พี่เซนถามฉันน้ำเสียงนุ่มนวลตามปกติของเขาที่ชอบใช้คุยกับฉัน
“ลินมีเรียนต่อตอนเย็นค่ะ” ฉันตอบกลับไปตามจริง ฉันมีเรียนชดเชยตอนสามโมงเย็นจึงจะเดินมานั่งโต๊ะม้าหินรอเวลาเรียนแต่ก็เจอพี่กราฟฟิคซะก่อน
“อ่อ อย่างงี้ก็เลิกมืดเลยสิ” พี่เซนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดกังวลเล็กน้อย
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ” ฉันก็ส่ายหน้าตอบกลับไป ก่อนจะเห็นว่าพี่กราฟฟิคหยิบบุหรี่ขึ้นมาจะจุดสูบ
“งั้นลินขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ” ฉันจึงเอ่ยออกไป พี่เซนก็พยักหน้ายิ้มให้ ฉันจึงเดินออกมาจากตรงนั้นทันที…