ความลำบากในชีวิต

1446 Words
ผ่านมาสามเดือนแล้วที่ภริตาอุ้มท้องมา ตอนนี้เด็กน้อยในครรภ์โตขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เธอก็ได้ยินเสียงหัวใจอีกดวงเต้นตึกตักอยู่ในตัวเธอ แม้จะเป็นสัมพันธ์แค่ชั่วคืน แต่เมื่อหัวใจดวงน้อยอุบัติขึ้น ภริตาก็พร้อมมอบให้ทารกน้อยจนเต็มหัวใจ วาธินทร์ดูแลเธอกับลูกดีมาก แต่ลึกๆ แล้วหญิงสาวรู้ว่าที่วาธินทร์ทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากครอบครองเธอต่างหาก และแล้วสิ่งที่ภริตาคิดมาตลอดก็มีส่วนถูกเมื่อวาธินทร์พยายามมาเล้าโลมเธอในคืนนี้ “วาด” ชายหนุ่มเรียกภริตาซึ่งยืนทำอะไรก็อกแก็กอยู่หน้าเตา “คะ” พอเห็นว่าหญิงสาวผินหน้ามา คนที่ตอนแรกแค่ตั้งใจเรียกชื่อเธอเฉยๆ ตอนนี้เขยิบเข้ามานั่งใกล้อีกนิด สายตาที่ภริตาเคยเห็นความหวังดีมาตลอดเปลี่ยนเป็นกะลิ้มกะเหลี่ยจนพาลรู้สึกขยะแขยง “เรียกแต่ไม่พูด ธินทร์มีอะไรกับวาดหรือเปล่า” เสี้ยวหนึ่ง เห็นความลังเลในแววตาของชายหนุ่ม แต่ก็แค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น เพราะไม่กี่วินาทีถัดจากนั้น วาธินทร์ก็ตัดสินใจเปรยสิ่งที่อยู่ในความคิดออกมาให้ภริตารับรู้ “วาดไม่อยากบ้างเหรอ” ครั้งแรกที่ได้ฟัง ภริตาก็ชะงัก หากทว่าพยายามคิดในแค่ดีไว้ว่าเธอคงได้ยินผิดไป จึงแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงสิ่งใดอยู่ “ธินทร์หมายถึงอะไรเหรอ” พอเธอถามออกไป วาธินทร์ก็ชักสีหน้าใส่ทันที “ทำเหมือนไม่รู้ วาดไม่ได้เด็กไร้เดียงสานะถึงจะไม่รู้ว่าเราหมายถึงอะไร” “วาดรู้ แต่แค่คิดไม่ถึงว่าธินทร์จะคิดแบบนี้ เราสองคนเป็นเพื่อนกันนะธินทร์” เธอย้อนด้วยสุ้มเสียงโทนเดียวไม่ต่างจากเขา รวนมารวนกลับ ไม่โกง “ผิดตรงไหนล่ะวาด เราดีกับวาดและลูกทุกอย่าง วาดควรจะเห็นใจเราบ้างสิ” “วาดรู้ว่าธินทร์ดีกับวาดและลูกมาก แต่วาดไม่เคยคิดกับธินทร์มากกว่าคำว่าเพื่อนเลย” “แล้วเมื่อไหร่ล่ะวาด เมื่อไหรจะให้โอกาสเราเสียที” สุ้มเสียงติดน้อยใจถูกสะบัดใส่ภริตา เธอรู้ว่าการที่อยู่ในฐานะคนที่อยากครอบครองนั้นรู้สึกอย่างไร แต่วาธินทร์คงไม่รู้ว่าการต้องฝืนทนกล้ำกลืนนั้นลำบากแค่ไหน แต่เอาเถอะในเมื่อเขายืนกรานอยากจะสานสัมพันธ์ในฐานะอื่น เธอก็จะลองเปิดใจดูสักครั้ง “ธินทร์อยากได้โอกาสนั้นเหรอ” “ใช่! วาดก็เห็นว่าเราชอบวาดมาตั้งนานแล้ว ให้โอกาสเราเถอะ ให้เราได้ดูแลวาดกับลูกแบบครอบครัวคนอื่นๆ บ้าง” สีหน้าของวาธินทร์ตอนนี้เหมือนคนที่รอความหวังจนล้นปรี่ ภริตาแอบถอนหายใจเฮือก เธอไม่อยากจะลอง หรือสานสัมพันธ์นี้ตั้งแต่แรก ทว่าพอเห็นสีหน้าของวาธินทร์แล้วก็พานใจอ่อน “ก็ได้ วาดจะลองเปิดใจดูนะ” แค่เพียงหญิงสาวที่เขาแอบรักมาเนิ่นนานให้โอกาส วาธินทร์ก็ดีใจ รีบกระเถิบตัวเองมาใกล้ภริตา เริ่มไต่มือปลาหมึกไปตามเนื้อตัวของเธอ แต่แค่เริ่มภริตาก็กัดฟันขมเม้มริมกลีบปากอิ่มเข้าหากันแน่น โดยเฉพาะตอนที่ฝ่ามือรุกล้ำเข้าไปในใต้กระโปรง เธอส่ายสะโพกหนีแต่วาธินทร์ก็ตามเล้าโลมต่อ “วาดหอมมาก” วาธินทร์เพ้อออกมา ดอมดมและจูบซุกไซ้ตามซอกคอหอมกรุ่น แต่ภริตาพยายามปัดป้องไม่ให้อีกฝ่ายล่วงเกินเธอ แต่เขาไม่สนใจการกระทำเหล่านั้น “ธินทร์” “หื้อ” “เราว่าหยุดเถอะเรายังไม่พร้อม” “ไม่พร้อมอะไรล่ะวาด ทำเหมือนไม่เคย วาดโดนเอาจนท้องมาแล้วนะ ยังจะมาทำเป็นหวงตัวเป็นเด็กไปได้” ภริตาชะงัก เจ็บแปล๊บ มองวาธินทร์อย่างเคืองๆ ขอขยับสถานะไม่ถึงสิบนาที วาธินทร์ก็เริ่มเอาแต่ใจแล้ว โดยเฉพาะคำพูดจากที่พะเน้าพะนอเอาใจ กลายเป็นชวนตบบ้องหูแทน “ธินทร์หยุดเถอะ ขอร้อง” ภริตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นครั้งแรก อีกยังแสดงสีหน้าผิดหวัง ธาวินทร์ถึงเริมแสดงธาตุแท้ออกมา “รำคาญน่า จูบนิดจูบหน่อยทำเป็นสะบัด ทีปล่อยให้ใครไม่รู้เอาจนป่องขนาดนี้ ยังทนได้” เมื่อลุกล้ำข้างล่างไม่ได้ เขาก็เคลื่อนมือมากอบกุมดอกบัวคู่งามข้างหนึ่งผ่านเสื้อบาง ซุกไซ้ดอมดมจนหญิงสาวตัวสั่นสะท้าน “ปล่อยนะ ปล่อยวาด” น้ำเสียงเล็กกระท่อนกระแท่นขาดพลัง แต่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่กลับรุกเร้ามากขึ้น “อย่าเล่นตัวนักเลย อยู่นิ่งๆเถอะน่า” ภริตาพยายามจะโอนอ่อนตามธาวินทร์แต่จนแล้วจนรอดความรู้สึกของเธอกลับไม่ได้ถูกเติมเต็มเหมือนครั้งที่เธอมีอะไรกับมาเฟียที่ชื่อเอเมอร์คนนั้น ข้อมือเล็กถูกตรึงเหมือนโดนตะปูตอกทั้งสองข้าง “ร้องสิ ผมอยากดูว่าแรงคุณจะแค่ไหน” ปลายนิ้วแกร่งบดบี้ติ่งเนื้อสาว ปลุกเร้าให้เธอรู้สึกต้องการเขาเหมือนที่เขาต้องการเธอเจียนคลั่ง เมื่อเห็นเธอตอบโต้กลับด้วยการนิ่งเป็นท่อนไม้ วาธินทร์จัดการประกบริมฝีปากลงอย่างแนบแน่น ก่อนจะดุลลิ้นอุ่นให้เข้าไปในโพรงปากนุ่มที่ปิดแน่น หึ คนที่เจนเวทีอย่างเขามีเหรอที่ภริตาจะต้านทานไหว วาธินทร์เริ่มเปลี่ยนตำแหน่งเลื่อนศีรษะลงมาอยู่ระหว่างกึ่งกลางกายของหญิงสาว ภริตาใจเต้นระส่ำรีบพลิกตัวหนี แต่อีกฝ่ายก็วาดท่อนขาแข็งแรงตรึงไว้ ก่อนจะดึงแพนตี้ตัวน้อยขาดวิ่น “ธินทร์!” ภริตาร้องสุดเสียงด้วยความตกใจ “แยกขาออกสิวาด” “ไม่!! เราไม่ทำ เราทำไม่ได้ ขอร้องหยุดเถอะ” นอกจากตะเกียกกายจะลุกขึ้นแล้ว ภริตายังแข็งขืนตัวเองสุดชีวิต แต่เธอก็ยอมรับว่าธาวินทร์นั้นแข็งแรงมาก ขาของเธอถูกเข่าของเขาแยกออก อาวุธลับกำลังจะจ้วงเข้ากลางกายเธอ “หยุดดิ้นนะวาด ไม่งั้นอย่าหาว่าเราใช้กำลังนะ” ทันทีที่ได้ยินเสียงขู่ ดวงตาสวยที่ตื่นกลัวเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเจิดจ้า ตอบโต้กลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ “แล้วไอ้ที่ธินทร์ทำอยู่ เราสมยอมตรงไหน นี่เหรอเพื่อน” ภริตาแค่นเสียง ดวงตามองชายตรงหน้าที่ใช้กำลังบังคับเธอ “ปากดีนะแต่เอาเถอะ เราชอบ ด่าต่อเลยเพราะเธอยิ่งด่า เราก็ยิ่งมีอารมณ์” พูดจบธาวินทร์ก็ซุกไซ้จมูกลงตรงซอกคอขาว ภริตาย่นคอหนี สมองน้อยๆ ครุ่นคิดหาทางรอด “ทำไมหยุดล่ะวาด เรายังได้อารมณ์อยู่เลยนะ ดิ้นต่อสิ” เสียงนั้นยังคงเยาะเย้ย ภริตากัดฟันแน่น แต่คิดว่าหากเธอแข็งข้อคงไม่แคล้วต้องมีสูญเสีย จึงเลือกที่จะโอนอ่อนตาม พอธาวินทร์เห็นท่าทีของหญิงสาวเปลี่ยนไป จากที่แสดงอาการรุนแรงก็อ่อนโยนขึ้น ภริตาพยายามอย่างเต็มที่จะผ่อนคลายอารมณ์แต่เพราะใจมันไม่ได้ เลยโกหกวาธินทร์ไปว่าหมอห้ามมีเพศสัมพันธ์ตอนไตรมาสแรก เมื่อได้ฟังดังนั้นวาธินทร์ถึงกับหัวเสียทันทีลุกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ นับตั้งแต่นั้นมา วาธินทร์ก็ไม่เคยขอมีอะไรกับเธออีก แต่เขามักจะหายออกจากบ้านบ่อยๆ หากกระนั้นภริตาก็แอบโล่งใจที่อีกฝ่ายไม่ค่อยกลับบ้าน ส่วนเธอก้มหน้าก้มตาทำงานไปตามเรื่องตามราว ได้เงินมาก็เก็บหอมรอมริบโดยที่ไม่ได้แจ้งให้วาธินทร์รู้ ภริตายอมรับว่าต่อให้วาธินทร์เลวร้ายหากทว่าก็ยังมีส่วนดีอยู่บ้าง เพราะตอนที่เธอเจ็บท้องคลอดก็ได้วาธินทร์นี่แหละที่พาไปยังโรงพยาบาล อีกทั้งเขายังใส่ชื่อเป็นผู้รับรองบุตร ดูแลเธอกับลูกอย่างดีจวบจนกระทั่งอินดี้อายุได้หนึ่งขวบ สันดานเดิมของวาธินทร์ก็เริ่มออกลาย “ธินทร์” ภริตาเรียกคนที่นั่งกดมือถือเล่นอย่างเมามันอยู่บนโซฟา ท่าทีเหมือนคนติดเกมส์ไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่น เธอเรียกก็ไม่คิดขานตอบจนต้องเอ่ยเรียกอีกครั้ง “ธินทร์” “อะไร!” ถึงจะตอบเสียงห้วนจัด ทำเอาคนเรียกถึงกับส่ายหน้า “วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ วาดเห็นธินทร์นั่งเล่นเกมทั้งวันเลย” “แล้วไง” คนตอบตอบกลับมาเคืองๆ ก่อนย้ายสะโพกไปยังห้องอื่นคงกลัวว่าเธอจะใช้งานอีกละมั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD