บทที่ 5 ให้คำตอบ

1414 Words
บรรยากาศในคฤหาสน์หลังใหญ่ผ่อนคลายลงมาหน่อยเนื่องจากผู้เป็นนายเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ญานินช่วยบัวเช็ดกระจกอย่างตั้งใจให้ตัวเองหยุดคิดเพ้อเจ้อ “ไม่มีอะไรแล้วนินไปพักเถอะ ช่วงนี้ยิ่งดูเพลีย ๆ อยู่” “จ้ะ” กระจกบานสุดท้ายเงาวาบแล้วทำให้หน้าที่ของญานินหมดลง เพราะนายท่านไม่อยู่จึงไม่ต้องจัดเตรียมอาหารทำให้สาวใช้ทั้งหมดสามารถใช้เวลาไปกับธุระของตัวเองได้ ญานินถือถังน้ำและอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเก็บที่ห้องเก็บของก่อนจะเดินกลับห้องพัก เมื่ออยู่คนเดียวความคิดที่พยายามปัดออกจากหัวก็ผุดขึ้นมาอีกครา “เฮ้อ...” ตั้งแต่วันที่ได้รับข้อเสนอไม่คาดคิดจากเจ้านายหนุ่มญานินก็ข่มตาหลับไม่ลงมาตลอดสองคืน เธอต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างยากลำบากเพราะข้อเสนอของอีกฝ่ายมันดึงดูดใจไม่น้อย เธอเกิดและโตมาอย่างยากลำบาก เมื่อมีคนยื่นสะพานนำไปสู่ความสบายมาให้แล้วญานินก็อยากลองเดินไปบนนั้นสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นความผิดชอบชั่วดีก็ยังทำให้เธอชั่งใจไม่ขาด ตอนที่ทำงานในผับในบาร์แม้จะมีคนเสนอให้ไปเป็นเมียน้อยหรือเด็กเสี่ย แต่ญานินที่ถูกยายสอนให้รักศักดิ์ศรีตัวเองก็ปฏิเสธสิ่งเหล่านั้นอย่างไม่ต้องคิด กระทั่งวันที่ยายของเธอจากไปญานินก็รู้ซึ้งแล้วว่าศักดิ์ศรีพวกนั้นช่างไร้ประโยชน์ เพราะพวกเธอยากจนจึงไม่มีเงินรักษาชีวิตของคนที่รักที่สุด ญานินคิดทบทวนหลายต่อหลายครั้งว่าถ้าหากเธอยอมตกลงไปเป็นเด็กเสี่ยของผู้มีอิทธิพลในจังหวัด ยายของเธออาจได้รับการรักษาและอยู่กับเธอได้นานกว่านี้ กริ๊ง โทรศัพท์เครื่องเก่าส่งเสียงทำให้ญานินหลุดออกจากภวังค์ หน้าจอที่มีรอยแตกร้าวปรากฏเบอร์โทรของมารดาที่นาน ๆ ทีจะโทรหาเธอ ปากอิ่มยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกดรับ “แม่” (“หมอทวงค่าผ่าตัดแล้ว ทำไมยังไม่โอนเงินมาอีก”) “คือว่าเงินเดือนยังไม่ออกเลยจ้ะ” (“เฮอะ ทำงานบ้านหลังใหญ่หลังโตเขาไม่ให้เงินล่วงหน้าหรือไง”) “คือหนู-” (“แกจะปล่อยให้ฉันตายไปเหมือนยายแกเหรอ”) “ไม่นะจ๊ะ หนูไม่อยากให้แม่ตาย” (“ถ้าอย่างนั้นก็รีบโอนเงินมา ถ้าไม่มีเงินหมอเขาก็ไม่รักษาให้หรอก”) “หนูมีอยู่สองพัน” (“สองพันมันจะไปพออะไร !”) เสียงตวาดลอดผ่านสายโทรศัพท์ทำญานินชะงัก แม้มารดาจะอารมณ์เสียใส่เธออยู่บ่อยครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนที่อีกฝ่ายจะแสดงอาการร้อนใจมากขนาดนี้ “...” ทั้งสองถือสายค้างไว้แต่ไม่มีใครพูดอะไรอยู่เกือบนาทีก่อนที่รัตนาจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน (“นิน แม่ขอโทษ แม่ใส่อารมณ์มากไปหน่อยเพราะร้อนใจน่ะ แม่ยังไม่อยากตาย แม่อยากอยู่กับลูกไปนาน ๆ”) “จ้ะ หนูจะรีบหาแล้วโอนไปให้นะจ๊ะ แม่ขอให้หมอเขารักษาก่อนนะ” (“ได้สิลูก แม่จะรอนะ”) “จ้ะ” หลังจากวางสายญานินก็มองโทรศัพท์ในมือนิ่ง ๆ มารดาโทรมาบอกตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อนแล้วว่าเข้าโรงพยาบาลและต้องรับการผ่าตัดจึงโทรมาขอหยิบยืมเงิน แต่เดือนที่แล้วญานินก็เพิ่งโอนไปให้ทำให้เธอไม่เหลือเงินเก็บอยู่เลย และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวต้องเข้าไปขโมยของในคฤหาสน์หลังใหญ่จนได้เจอกับนายท่านมาร์คัส ดวงตาคู่สวยเหม่อมองผนังสีขาว สมองคิดเรื่องต่าง ๆ มากมาย ถ้าเธอหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีแต่มารดาต้องจากโลกนี้ไปโดยที่ตัวเองไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้มันจะไปมีประโยชน์อะไร... “ยินดีต้อนรับกลับมาค่ะนายท่าน” “อื้ม” สาวใช้ทั้งหมดยืนเรียงกันเป็นแถวเมื่อเจ้าของคฤหาสน์กลับมาหลังจากไปทำงานที่ต่างประเทศกว่าสามวัน มาร์คัสเพียงตอบรับเสียงเรียบขณะที่นัยน์ตาสีอ่อนจับจ้องคนที่เอาแต่ก้มหน้าทั้งที่คนอื่นเงยหน้าขึ้นหมดแล้ว “นะ...นายท่าน” ญานินรวบรวมความกล้าเอ่ยเรียกผู้เป็นนายทำสาวใช้อีกหลายคนมองตามอย่างตกใจ เพราะพวกเธอต่างรู้ดีว่าเจ้านายถือตัวมากแค่ไหน ถ้าชายหนุ่มไม่ได้เรียกใช้นอกจากป้าแก้วแล้วก็ไม่มีใครกล้าเข้าหา เว้นเสียแต่กลุ่มคนที่ต้องการปีนขึ้นเตียงทองคำนั่น และการที่ญานินเรียกนายท่านทำให้หลายคนเข้าใจไปในทางนั้น มาร์คัสปัดมือให้คนอื่นออกไปทำให้ห้องโถงโอ่อ่าเหลือเพียงเราสองคนที่ยืนมองหน้ากัน ก่อนที่ญานินจะเป็นฝ่ายก้มหน้าหลบสายตา “มีอะไร” “คือเรื่องนั้น” “จะบอกตรงนี้ ?” “...” “ตามฉันไปด้านบน” ญานินกุมมือด้วยท่าทางประหม่าแต่สองขาก็เดินตามร่างสูงใหญ่ไปยังห้องนอนของเขา แม้จะรู้สึกผิดกับยายที่ล่วงลับ แต่ญานินไม่อยากเสียใครไปเพราะศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้อีกแล้ว และอีกอย่างที่ปฎิเสธไม่ได้เลยคือเธอเองก็อยากลองมีชีวิตที่สุขสบายสักครั้ง และที่สำคัญคือเธอไม่เคยนึกรังเกียจสัมผัสวาบหวามจากมาร์คัสเลย มิหนำซ้ำบางครั้งเธอยังถวิลหาและต้องการมันมากกว่านี้... “ถอดเสื้อให้หน่อย” “จะ...จ้ะ” ญานินสะดุ้ง หรือเธอแสดงออกชัดเจนเกินไปเขาถึงรู้คำตอบทั้งที่ไม่ทันถาม มือเล็กสั่นระริกปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด...ทีละเม็ด กระทั่งกล้ามเนื้อเป็นลอนที่เธอเคยเห็นปรากฏสู่สายตาอีกครั้ง นัยน์ตาคู่สวยหลุกหลิกเพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ร่างกายแห่งความแข็งแรงของผู้เป็นเจ้านายไปเสียหมด เสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดีถูกถอดออกแต่มาร์คัสก็ยังยืนนิ่ง “เธอคงไม่คิดจะให้ฉันอาบน้ำทั้งกางเกงหรอกใช่ไหม” “คือหนู...” ญานินกลืนความกระดากอาย มือขาวสั่นเทามากกว่าเดิมเลื่อนมาปลดเข็มขัดรูปตัว H และยิ่งรู้ว่ามีอีกสายตาคอยจับจ้องทุกการกระทำญานินก็ยิ่งเกร็งเข้าไปใหญ่ เธอใช้เวลาอยู่เกือบห้านาทีกว่าจะถอดกางเกงสแลคเนื้อดีและชั้นในสีเข้มออกให้คนตัวสูง และทันทีที่เสียงผ้าตกกระทบพื้นดวงตาคู่สวยก็หลับปี๋ มือเล็กคว้านหาผ้าเช็ดตัวที่ถือมาด้วยพันรอบเอวเขาแต่เพราะมองไม่เห็นและหญิงสาวที่ซุ่มซ่ามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วสะดุดขาตัวเองเข้าจนได้ “อะ” เปลือกตาสีสวยหลับลงเตรียมรับความเจ็บแต่ผ่านไปเกือบนาทีญานินกลับไม่รู้สึกเจ็บอย่างที่คิด และเมื่อลืมตาก็เห็นว่ามีบางอย่างพาดผ่านหน้าท้องเธอ และมันจะเป็นอะไรไปได้ถ้าไม่ใช่ท่อนเนื้อใหญ่ของคนที่เข้ามาประคองกัน !! “มีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน” มาร์คัสออกจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันอยู่รอบเอวอย่างหมิ่นเหม่ ราวกับภาพเดจาวูที่เธอเคยเห็นมาก่อน หยาดน้ำที่เกาะพราวอยู่ทั่วลำตัวยิ่งทำให้ร่างกายกำยำน่ามองมากขึ้นไปอีก และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอกำลังหน้าแดงกับภาพตรงหน้า “เรื่องที่นายท่านเสนอ นะ...หนูตกลง” “ว่าง่าย ๆ แบบนี้สิดี” มาร์คัสเอ่ยชม แม้เขาจะรู้คำตอบตั้งแต่ที่เจ้าตัวเดินตามเข้ามาในห้องแห่งนี้แล้วก็ตาม “นายท่านบอกว่าจะให้เงินรายเดือนด้วย” “อืม หรือถ้าอยากได้อะไรอีกก็บอก” “หนูไม่อยากได้ของพวกนั้น ตะ...แต่หนูขอเงินล่วงหน้าได้ไหมจ๊ะ” คิ้วคมเลิกสงสัย ทั้งที่สามวันก่อนยังดูหยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเรียกร้องจะเอาเงินแล้วหรือ น่าสนุกดีนี่... “ถ้าอยากได้เงินก็ต้องเริ่มงานเลยรู้ไหม” “วะ...วันนี้เลยเหรอจ๊ะ” “ฉันไม่ใจกว้างขนาดที่จะให้ใครมาเอาเปรียบหรอกนะ” “...” “เอาไง” “กะ...ก็ได้จ้ะ” “ดี”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD